เราตั้งพันทัพมาหลายวันแล้วแต่ไม่มีจังหวะได้พิมจริงๆจังๆสักที วันนี้เป็นวันที่ 24 เดือนธันวาคม 2562 .ยังไงรบกวนเพื่อนๆชาวพันทิพช่วยแนะนำด้วยว่าเราต้องทำยังไง
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่า เรียบเรียงความไม่ค่อยเก่ง และพึ่งเคยตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้แรก และเหตุการณ์นี้ก็พึ่งเคยเจอครั้งแรกเช่นกัน!!!
อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนที่ฝากเงินไว้กับธนาคาร ซึ่งคิดว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่เกิดขึ้นกับใครเลย เพราะเราก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเราเองเหมือนกัน
เรื่องนี้เกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2562 ค่ะ ขอเล่าเรื่องเลยนะคะ เพราะตอนนี้ก็ยังร้อนใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่และ ไม่ได้รับความช่วยเหลือที่เป็นธรรมจากทางธนาคารสาขาเลย เพราะหลังจากคุยกับทางผู้จักการไปผู้จัดการก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้เองได้ เลยให้เรารอนัดคุยกับทางผู้จัดการเขตของธนาคาร
2 ธันวาคม 2562 เวลา 10 โมงกว่าเราได้นำเงิน สินสอดก้อนสุดท้ายของเรา เข้ามาฝากกับ
ธนาคารทห....ไทยสาขานึงในสมุทรสาคร (ซึ่งถ้าพูดถึงเงินสินสอดนั้นหมายถึงเงินก้อนนี้ได้ถูกนับเป็นจำนวนหลายครั้งก่อนใส่หีบส่งตัวเจ้าสาว และหีบถูกตั้งด้วยรหัสซึ่งฝ่ายเจ้าสาว(เรา)นั้นรู้รหัสคนเดียว หีบนี้ได้ถูกจัดเก็บไว้ในเซฟของคุณแม่ นั้นหมายความว่าเวลาจะนำออกมาฝากในทุกครั้งจะต้องเป็นคุณแม่ที่จะต้องเปิดเซฟนั้นให้ และก่อนที่จะนำมาฝากเราและสามีได้ทำการนับเงินก้อนนี้แล้ว) เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 325,000 บาท ขณะที่เราไปถึงเคาร์เตอร์เราได้นำเงินของเราออกจากกระเป๋าซองที่เราได้นำเงินใส่ไว้ ออกมาให้พนักงานเคาร์เตอร์ที่ 1 นับ เป็น แบ่งเป็นแบงค์พัน 3 ปึก ปึกละ 1 แสน (แบงค์ทั้งหมดที่ฝากเป็นใหม่นะคะ ปลอกกระดาษสีชมพู มีตัวหนังสือคาดปลอกว่า “โรงพิมพ์ธนบัตร ธนาคารแห่งประเทศไทย” แบงค์ที่ฝากทั้งหมดเป็นแบงค์ใหม่เรียงเบอร์) และเงินเศษย่อยอีก 24,000 ( ซึ่งเป็นแบงค์ใหม่เช่นกัน) เราก็แจ้งกับทางเคาร์เตอร์1 ว่า ให้นับก้อนย่อยนี้ให้หน่อย เพราะเราได้นับมาแล้วว่ามันมี 24,000 แต่อยากจะเติมเงินเพิ่มอีก 1 พันให้เศษย่อยมันเป็น 25,000 ทางพนักงานเคารเตอร์ก็ใช้เรื่องนับได้มา 24000 เราก็หยิบเงินจากซองเงินที่เราเตรียมมายื่นเงินให้เขาอีก 1 ใบเพื่อเติมเงินให้ครบ 325,000 พนังงานยื่นกระดาษให้เราเขียนยอดฝากและเบอร์โทร พอเราเงยหน้าขึ้นมาพนักงานก็ถอดเงินออกจากปลอกทั้ง 3 ปึกแล้ว และกองรวมกันทั้งหมดวางลงบนเครื่องโปรยเงิน พร้อมกับนำเงินจำนวน 25000 วางนับในเงินก้อน 3 แสนนี้ด้วย (ขอย้ำว่าทั้งหมด 325000 นั้นเลยนะคะ) ขณะที่เครื่องโปรยเงินลงมาเครื่อง แบงค์ได้ติดกับเครื่องนับ เคาร์เตอร์ที่ 2 ก็หันมาพูดกับทางเคาร์เตอร์ที่ 1 ว่า เครื่องนับแบงค์นี้เก่านับแบงค์ใหม่ไม่ได้ เลยหยิบเงินของเราที่ถูกกองบนเครื่องและเงินที่ถูกโปรยลงมาก่อนแบงค์ติด ไปวางบนเคาร์เตอร์ตัวเอง คิดภาพออกไหมคะ คือตอนนี้เงินเราได้ถูกย้ายไปอยู่บนเครื่องโปยเงินเคาร์เตอร์ที่ 2 แล้ว (เงินไม่เรียงกันแล้วนะคะ เพราะมันถูกสลับตำแหน่งและวางทับกับใหม่ในเครื่องโปรยใหม่เรียบร้อยแล้ว) หลังจากนั้นพนักงานเคาร์เตอร์ที่ 2 ได้ แยกเงินของเราออกเป็นปึกๆ ปึกละ 1 แสน 3 ก้อน ปรากฏว่าเงินเศษที่เหลือ หลังจากนับแล้วเศษของเราเหลือเงินแค่ 17 ใบ จาก 25 ใบ ทางเราก็ยืนยันกับทางธนาคารไปว่า เราฝากยอด 325000 นะไม่ใช่ 317000 ทางพนักงานเคาร์เตอร์ที่ 2 จึงนำเงินที่เขาได้นับไว้ 3 ปึก แบ่งให้เคาร์เตอร์ ที่ 1 (1 ปึก) เคาร์เตอร์ที่ 2 (1 ปึก) และเคาร์เตอร์ที่ 3 อีก (1ปึก) และนับเงินด้วยมือเป็นเวลาพร้อมกัน นับเงินในจำนวนแค่จำนวน 3 แสน กับพนักงาน 3 คนในเวลาเดียวกัน หลังจากที่นับมือและปั่นเครื่องแล้ว โปรยแล้ว ก็มีคนเข้ามาอีก 2 คนหนึ่งในนั้นมีรองผู้จัดการ(ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่รุ้หรอกว่าเขาคือใคร) รองผู้จัดการได้หยิบเงิน 1 ปึกขึ้นมาแล้วกรีดแบงค์ดู แล้วพูดกับเราว่า
รองผู้จัดการ... “นี่ไม่ใช่แบงค์ใหม่นี่ค่ะ เลขไม่เห็นเรียงกัน แล้ว ละก็ชี้เงินแบงค์เก่า 1 ใบที่เราหยิบเพิ่มเข้าไป 1000 ให้เป็น 25000 แล้วบอกเราว่า นี่ไงยังมีแบงค์เก่า..”
เรา... “ เราเลยอธิบายกับเขาไปว่า 1000 นี้เราเป็นคนเติมเพิ่มเข้าไปเพื่อให้เป็น 25000 เอง.”
หลังจากนั้นรองผู้จัดการก็เอาเงินจำนวน 1 ปึก ไปปั่น แล้วก็พูดขึ้นว่าเดี๋ยวไปดูกล้องวงจรปิด แล้วก็หายออกไปในห้อง ทิ้งเรากับพนักงานเคาร์เตอร์ 1 จัดการกันต่อ พนักงานเคาร์เตอร์หนึ่งไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรเลยนะคะ แต่กลับถามเราที่กำลังตกใจกับเงิน 8000 ที่หายไปว่า
พนักงานเคารเตอร์ 1.. “ จะฝากเงินก้อนนี้หรือจะรับกลับไปก่อนคะ”
เรา.. “โอ้โห..นับกันขนาดนี้แล้วอะพี่ ก็ต้องฝากแล้วไหมอะ.”
ทางพนักงานเลยทำยอดฝากให้เราเป็นจำนวนเงิน 317,000.- โดยไม่มีแนะนำเราหรือจะพูดว่าจะตรวจสอบให้เลยนะ เนื่องจากเราเองก็ต้องรีบไปเบิกเงินที่อื่นเพื่อนำกลับเข้ามาที่โรงงาน เราก็เป็นคนพูดกับทางเคารเตอร์ 1 เองว่า
เรา.. “ยังไงรบกวนตรวจสอบให้หน่อยนะคะ แล้วก็ช่วยเช็คกล้องวงจรปิดให้นิดนึง”
เคารเตอร์ 1 “ค่ะ เดี๋ยวยังไงจะช่วยตรวจสอบให้นะคะ”
หลังจากเหตุการณ์ที่เราเล่าไปในข้างต้นนั้นจนถึงเวลา 1 ทุ่ม เราไม่ได้รับโทรศัพท์จากทางธนาคารเลยว่า ที่เขาตรวจสอบนั้นเป็นยังไงบ้าง จนเราได้เดินทางไปถึงธนาคาร
ขณะที่เราไปถึงธนาคาร เราได้ถามถึงผู้จัดการ พนักงานธนาคารได้แจ้งกับเราว่าผู้จัดการไม่อยู่ได้ออกไปภาคสนาม เขาเลยให้เราพบกับรองผู้จัดการ ซึ่งทางรองผู้จัดการก็ปล่อยให้เรารอเป็นเวลานานมากถึงจะออกมาพร้อมกับภาพวงจรปิดในมือถือส่วนนึง แล้วแจ้งกับเราว่า
รองผู้จัดการ.. “ ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้ว ไม่พบว่าพนักงานเอา เงินใส่ลิ้นชักเลย”
เรา.. “แต่ตอนเรานำเงินมาเราได้ตรวจสอบเงินของเราแล้ว คุณมั่นใจได้ยังไงว่าแบงค์ใหม่จะไม่ติดกัน ” .ในขณะนับเงิน
รองผู้จัดการ.. “ดิฉันได้ทำการตรวจสอบแล้ว ทางเราก็ยืนยันในการปฏิบัติหน้าที่ของเราค่ะ.”
เรา.. “ถ้ายังงั้นรบกวนนำเงินก้อนนี้ที่มีปัญหาเนี่ย มาเรียงเบอร์กันได้ไหมคะ จะได้รู้ว่าเงินที่หายไป มาจากปึกเดียวกันไหมหรือ ปึกไหนที่หาย” (เพราะเราก็ไม่มั่นใจในการตรวจสอบของพวกคุณเลย)
รองผู้จัดการ.. “ทางเราต้องขอแจ้งว่าเงินก้อนนี้ได้ถูกหมุนเวียนให้กับลูกค้าท่านอื่นแล้ว”
เรา.. “คุณนำเงินก้อนนี้ไปหมุนเวียนได้ยังไงในเมื่อเงินก้อนนี้มันมีปัญหากับลูกค้าอยู่ ทำไมถึงไม่กันเงินก้อนนี้ไว้ตรวจสอบก่อน” (เพื่อความสบายใจของลูกค้า)
รองผู้จัดการ..อ้างว่า “พอดีวันนี้มีลูกค้ามาเบิกเงินเยอะ เลยจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้ในการหมุนเวียน”
เรา..โกรธมากเลยแจ้งว่า “งั้นดิฉันขอไม่คุยกับคุณแล้ว จะคุยกับทางผู้จัดการธนาคารสาขาของคุณเท่านั้น เราทิ้งเบอร์ไว้ และก็เดินออกจากธนาคารเลย”
หลังจากนั้น ประมาณ 3-4 ทุ่ม ทางธนาคารเลยติดต่อเราว่าขอนัดเวลากับผู้จัดการสาขา ในเช้าวันที่ 3 ธันวาคมเวลา 11 โมงตรง
(ซึ่งเป็นทางเรายืนยันที่จะกับทางผู้จัดการ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราเป็นคนนัดเองนะไม่ใช่ทางผู้จัดการนัดเอง เพราะเรายืนยันเองว่าเราจะไม่คุยกะใครแล้วนอกจากตัวผู้จัดการสาขาเท่านั้น)
เราขอเรียงเป็นข้อๆจากการที่เราได้คุยกับทางผู้จัดการสาขาแล้วว่าเป็นอย่างไร และในการคุยกับทางผู้จัดการ ทางพนักงานธนาคารก็ได้เข้ามาเล่าเรื่องต่างๆ ซึ่งบางข้อความเหมือนทางผู้จัดการไม่ได้รับรู้ด้วยซ้ำ เราได้บันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐาน เพราะแน่นอนค่ะ เราคนเดียว ทางธนาคาร 5 คนที่จับเงินของเราในเหตุการณ์ ผู้จัดการก็เป็นคนของธนาคาร เพราะฉะนั้น เราไม่มีหลักฐานอะไรในการที่จะเจรจาต่อรองกับพวกเขา เราขอไฟล์กล้องวงจรปิดเพื่อนที่เราจะได้ดูด้วยบ้าง เขาก็แจ้งว่าให้ไปแจ้งความแล้วให้ตำรวจทำหนังสือเพื่อขอดู เราได้ลงบันทึกประจำวันไว้ และได้คุยกับทางร้อยเวรแล้ว แจ้งกับเราว่า มันจะเขียนหนังสือขอได้ยังไงมันไม่ได้เป็นคดี เพราะฉะนั้นตอนนี้เราก็ไม่มีสิทธิที่จะขอไฟล์ดูจากธนาคารได้เลย เข้าใจว่าทางธนาคารเขาก็มีกฏของเขา เดี๋ยวเราจะไล่เหตุผลที่เราตัดสินใจโพสและสร้างกระทู้ในวันนี้ เป็นข้อๆ ว่าทำไมเราถึงยังไม่มั่นใจในการตรวจสอบเงินของเรา
1.. ทำไมถึงไม่นับเงินเราเป็นปึก เนื่องจากเงินมันก็เป็นปึกก้อน ก้อนละ 1 แสน อยู่แล้ว ถ้าเงินมันไม่ครบปึกจริงมันจะได้ตรวจสอบได้ ถ้ามันเป็นแบบนั้นเราจะไม่มีปัญหากับเงินของเราเลย
2.. แบงค์ที่นำไปฝากเป็นปลอกกระดาษสีชมพูนะคะ ทั้งหมดเป็นแบงค์ใหม่ เรียงเบอร์ ไม่ใช่ปลอกสีฟ้าพลาสติก แกะออกจากปึกเงินล้านที่เป็นซีลพลาสติดแบบในภาพ
3.. ในกรณีที่เขาใช้เครื่องโปรยหรือเครื่องปั่น ในหลายๆธนาคารหรือส่วนใหญ่ที่ฝากเงิน ถ้าเงินมาเป็นปึกแบบนี้แล้ว ทำไมไม่โปรยเงินทีละปึกเพื่อความชัดเจน
4.. จริงๆการนับเงินต้องรับผิดชอบเป็นเคาร์เตอร์ๆไปหรือป่าว ทำไมต้องกระจายเงินของเรา ในการนับมือเป็น 3 เคาร์เตอร์ด้วย กับเงินจำนวน 3 แสน
5..เงินก้อนนี้มีปัญหากับลูกค้าอยู่ ทำไมถึงไม่กันเงินก้อนนี้ไว้ตรวจสอบก่อน ทำไมถึงนำเงินก้อนที่มีปัญหาอยู่นี้ไปหมุ่นเวียนใช้เลย
6.. ในเมื่อลูกค้ามั่นใจให้ทางธนาคารตรวจสอบเงินก้อนนี้โดยไม่นำเงินก่อนนี้กลับมา ทำไมลูกค้าถึงไม่ได้รับความคืบหน้าจากทางธนาคารผ่านทางโทรศัพท์เลย
7..ปกติทางธนาคารไม่มีเงินสำรองในกรณีมีลูกค้ามาเบิกเงินจำนวนมากหรอคะ
8..ถ้าเงินหายไปจากปึกแสน ถ้าปลอกเงินหลวม ทำไมทาง จนท.ถึงกล้าถอดเงินปึกนั้นนับรวมกับเงินก้อนอื่นได้
9.ถ้าเราไม่มั่นใจในส่วนของเรา เราจะมามีปัญหากับเรื่องนี้ทำไม
10.เงินหาย 8000 ถือว่าเรื่องใหญ่ ทำไมผู้จัดการถึงไม่ทราบเรื่องเลย เหตุเกิดตั้วแต่ 11 โมง แต่ผู้จัดการมาทราบเรื่องตอน 1 ทุ่ม
11.ตอนเราไปที่ ธนาคาร ในเวลา 1 ทุ่ม เพื่อสอบถามความคืบหน้าของเรา ทำไมถึงปล่อยให้เรารอ นานมาก ถึงออกมายืนยัน ทำไมถึงไม่มีคำตอบให้เราเลย ทำไมถึงให้เรารอ คุณคอนข้างนาน ถึงออกมาพร้อมภาพถ่ายจากกล้อง
12. เงิน 3 แสนไม่ใช่จำนวนเงินที่เยอะมาก จำเป็นไหมที่ต้องนับเวลาเดียวกัน 3 เคาร์เตอร์
13.ในวันที่เกิดเหตุการณ์ลูกค้าไม่ได้เยอะ ทำไมถึงต้องใช้ความรวจเร็วขนาดนั้นคะ
14.ทาง รองแจ้งว่าหลังจากลูกค้าออกไปได้มีการเซอรไพร้ลิ้นชัก พนง. ถามว่าทำไมตอนลูกค้าอยู่ไม่เช็คให้ลูกค้าเห็นไปเลย
15. ทำไมไม่มีการแนะนำจากธนาคาร ทำไมถึงไม่แนะนำให้ลูกค้าทวนเงินเองก่อนฝาก
ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอพูดตรงๆนะคะ ตอนนั้นให้เอาเงินกลับก็ไม่กล้าเอากลับแล้ว เพราะเรายังพูดกับทางเคารเตอร์เลยว่า จะเอากลับทำไมอะพี่ นับกันซะขนาดนี้แล้ว เราต้องการให้แบงค์ตรวจสอบ แต่เรื่องไม่มีถึงเรา เราได้รับแต่คำตอบว่าทางเราตรวจสอบแล้วไม่พบพฤติกรรมพนักงานมีพิรุจ คือแล้วเงินเราที่หายไป หายไปไหนอะ
จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีสรุปให้เรา ทางธนาคารละเลยกับเงินของลูกค้ามาก ทุกวันนี้เราต้องตามเรื่องเอง เราได้รับการติดต่อจากธนาคารครั้งล่าสุดที่แจ้งกับทางผู้จัดการสาขาว่าเราต้องการจะคุยกับทางผู้จัดการเขต เนื่องจากทางผู้จัดการไม่สามารถสรุปหรือแก้ปัญหาให้ลูกค้าพอใจได้ คือวันที่ 6 ธันวาคม 2562 ทางผู้จัดการแจ้งว่าทางผู้จัดการเขตจะว่างวันที่ 17-21 จะติดต่อเราอีกครั้งยังไงก็จะตามเรื่องให้ จนวันนี้วันที่ 24 ธันวาคม 2562 แล้วยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากธนาคารเลย คือธนาคารมีความรับผิดชอบมาก เงินลูกค้าหาย เอาเงินลูกค้าไปหมุนเวียนใช้ แทนที่จะกันไว้ตรวจสอบ สิ้นเดือนนี้คงเอาเงินออกหมดแล้ว ไม่เอาแล้ว ไม่เคยเจอธนาคารไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้เลย
เราก็ไม่รู้หรอกนะว่าเราจะต้องทำยังไงต่อ แต่เราอยากให้เคสนี้เป็นเคสศึกษาเลย เราก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ถามว่าถ้ามันเกิดกับตัวพวกคุณ จะทำอย่างไรกับมัน กับเงินจำนวน 8,000 ไม่ใช่จำนวนเงินที่น้อยเลย ทุกวันนี้ถามหาและขอดูกล้องวงจรปิด หลาย 10 วันผ่านไปยังไม่ได้รับการติดต่อกลับเลย โคตรรู้สึกแย่
ทำตามขั้นตอนหรือมักง่ายในการตรวจสอบเงินของลูกค้า
เราตั้งพันทัพมาหลายวันแล้วแต่ไม่มีจังหวะได้พิมจริงๆจังๆสักที วันนี้เป็นวันที่ 24 เดือนธันวาคม 2562 .ยังไงรบกวนเพื่อนๆชาวพันทิพช่วยแนะนำด้วยว่าเราต้องทำยังไง
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่า เรียบเรียงความไม่ค่อยเก่ง และพึ่งเคยตั้งกระทู้นี้เป็นกระทู้แรก และเหตุการณ์นี้ก็พึ่งเคยเจอครั้งแรกเช่นกัน!!!
อยากให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนที่ฝากเงินไว้กับธนาคาร ซึ่งคิดว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่เกิดขึ้นกับใครเลย เพราะเราก็ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเราเองเหมือนกัน
เรื่องนี้เกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2562 ค่ะ ขอเล่าเรื่องเลยนะคะ เพราะตอนนี้ก็ยังร้อนใจกับเหตุการณ์ครั้งนี้อยู่และ ไม่ได้รับความช่วยเหลือที่เป็นธรรมจากทางธนาคารสาขาเลย เพราะหลังจากคุยกับทางผู้จักการไปผู้จัดการก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องนี้เองได้ เลยให้เรารอนัดคุยกับทางผู้จัดการเขตของธนาคาร
2 ธันวาคม 2562 เวลา 10 โมงกว่าเราได้นำเงิน สินสอดก้อนสุดท้ายของเรา เข้ามาฝากกับ ธนาคารทห....ไทยสาขานึงในสมุทรสาคร (ซึ่งถ้าพูดถึงเงินสินสอดนั้นหมายถึงเงินก้อนนี้ได้ถูกนับเป็นจำนวนหลายครั้งก่อนใส่หีบส่งตัวเจ้าสาว และหีบถูกตั้งด้วยรหัสซึ่งฝ่ายเจ้าสาว(เรา)นั้นรู้รหัสคนเดียว หีบนี้ได้ถูกจัดเก็บไว้ในเซฟของคุณแม่ นั้นหมายความว่าเวลาจะนำออกมาฝากในทุกครั้งจะต้องเป็นคุณแม่ที่จะต้องเปิดเซฟนั้นให้ และก่อนที่จะนำมาฝากเราและสามีได้ทำการนับเงินก้อนนี้แล้ว) เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 325,000 บาท ขณะที่เราไปถึงเคาร์เตอร์เราได้นำเงินของเราออกจากกระเป๋าซองที่เราได้นำเงินใส่ไว้ ออกมาให้พนักงานเคาร์เตอร์ที่ 1 นับ เป็น แบ่งเป็นแบงค์พัน 3 ปึก ปึกละ 1 แสน (แบงค์ทั้งหมดที่ฝากเป็นใหม่นะคะ ปลอกกระดาษสีชมพู มีตัวหนังสือคาดปลอกว่า “โรงพิมพ์ธนบัตร ธนาคารแห่งประเทศไทย” แบงค์ที่ฝากทั้งหมดเป็นแบงค์ใหม่เรียงเบอร์) และเงินเศษย่อยอีก 24,000 ( ซึ่งเป็นแบงค์ใหม่เช่นกัน) เราก็แจ้งกับทางเคาร์เตอร์1 ว่า ให้นับก้อนย่อยนี้ให้หน่อย เพราะเราได้นับมาแล้วว่ามันมี 24,000 แต่อยากจะเติมเงินเพิ่มอีก 1 พันให้เศษย่อยมันเป็น 25,000 ทางพนักงานเคารเตอร์ก็ใช้เรื่องนับได้มา 24000 เราก็หยิบเงินจากซองเงินที่เราเตรียมมายื่นเงินให้เขาอีก 1 ใบเพื่อเติมเงินให้ครบ 325,000 พนังงานยื่นกระดาษให้เราเขียนยอดฝากและเบอร์โทร พอเราเงยหน้าขึ้นมาพนักงานก็ถอดเงินออกจากปลอกทั้ง 3 ปึกแล้ว และกองรวมกันทั้งหมดวางลงบนเครื่องโปรยเงิน พร้อมกับนำเงินจำนวน 25000 วางนับในเงินก้อน 3 แสนนี้ด้วย (ขอย้ำว่าทั้งหมด 325000 นั้นเลยนะคะ) ขณะที่เครื่องโปรยเงินลงมาเครื่อง แบงค์ได้ติดกับเครื่องนับ เคาร์เตอร์ที่ 2 ก็หันมาพูดกับทางเคาร์เตอร์ที่ 1 ว่า เครื่องนับแบงค์นี้เก่านับแบงค์ใหม่ไม่ได้ เลยหยิบเงินของเราที่ถูกกองบนเครื่องและเงินที่ถูกโปรยลงมาก่อนแบงค์ติด ไปวางบนเคาร์เตอร์ตัวเอง คิดภาพออกไหมคะ คือตอนนี้เงินเราได้ถูกย้ายไปอยู่บนเครื่องโปยเงินเคาร์เตอร์ที่ 2 แล้ว (เงินไม่เรียงกันแล้วนะคะ เพราะมันถูกสลับตำแหน่งและวางทับกับใหม่ในเครื่องโปรยใหม่เรียบร้อยแล้ว) หลังจากนั้นพนักงานเคาร์เตอร์ที่ 2 ได้ แยกเงินของเราออกเป็นปึกๆ ปึกละ 1 แสน 3 ก้อน ปรากฏว่าเงินเศษที่เหลือ หลังจากนับแล้วเศษของเราเหลือเงินแค่ 17 ใบ จาก 25 ใบ ทางเราก็ยืนยันกับทางธนาคารไปว่า เราฝากยอด 325000 นะไม่ใช่ 317000 ทางพนักงานเคาร์เตอร์ที่ 2 จึงนำเงินที่เขาได้นับไว้ 3 ปึก แบ่งให้เคาร์เตอร์ ที่ 1 (1 ปึก) เคาร์เตอร์ที่ 2 (1 ปึก) และเคาร์เตอร์ที่ 3 อีก (1ปึก) และนับเงินด้วยมือเป็นเวลาพร้อมกัน นับเงินในจำนวนแค่จำนวน 3 แสน กับพนักงาน 3 คนในเวลาเดียวกัน หลังจากที่นับมือและปั่นเครื่องแล้ว โปรยแล้ว ก็มีคนเข้ามาอีก 2 คนหนึ่งในนั้นมีรองผู้จัดการ(ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่รุ้หรอกว่าเขาคือใคร) รองผู้จัดการได้หยิบเงิน 1 ปึกขึ้นมาแล้วกรีดแบงค์ดู แล้วพูดกับเราว่า
รองผู้จัดการ... “นี่ไม่ใช่แบงค์ใหม่นี่ค่ะ เลขไม่เห็นเรียงกัน แล้ว ละก็ชี้เงินแบงค์เก่า 1 ใบที่เราหยิบเพิ่มเข้าไป 1000 ให้เป็น 25000 แล้วบอกเราว่า นี่ไงยังมีแบงค์เก่า..”
เรา... “ เราเลยอธิบายกับเขาไปว่า 1000 นี้เราเป็นคนเติมเพิ่มเข้าไปเพื่อให้เป็น 25000 เอง.”
หลังจากนั้นรองผู้จัดการก็เอาเงินจำนวน 1 ปึก ไปปั่น แล้วก็พูดขึ้นว่าเดี๋ยวไปดูกล้องวงจรปิด แล้วก็หายออกไปในห้อง ทิ้งเรากับพนักงานเคาร์เตอร์ 1 จัดการกันต่อ พนักงานเคาร์เตอร์หนึ่งไม่ได้ให้คำแนะนำอะไรเลยนะคะ แต่กลับถามเราที่กำลังตกใจกับเงิน 8000 ที่หายไปว่า
พนักงานเคารเตอร์ 1.. “ จะฝากเงินก้อนนี้หรือจะรับกลับไปก่อนคะ”
เรา.. “โอ้โห..นับกันขนาดนี้แล้วอะพี่ ก็ต้องฝากแล้วไหมอะ.”
ทางพนักงานเลยทำยอดฝากให้เราเป็นจำนวนเงิน 317,000.- โดยไม่มีแนะนำเราหรือจะพูดว่าจะตรวจสอบให้เลยนะ เนื่องจากเราเองก็ต้องรีบไปเบิกเงินที่อื่นเพื่อนำกลับเข้ามาที่โรงงาน เราก็เป็นคนพูดกับทางเคารเตอร์ 1 เองว่า
เรา.. “ยังไงรบกวนตรวจสอบให้หน่อยนะคะ แล้วก็ช่วยเช็คกล้องวงจรปิดให้นิดนึง”
เคารเตอร์ 1 “ค่ะ เดี๋ยวยังไงจะช่วยตรวจสอบให้นะคะ”
หลังจากเหตุการณ์ที่เราเล่าไปในข้างต้นนั้นจนถึงเวลา 1 ทุ่ม เราไม่ได้รับโทรศัพท์จากทางธนาคารเลยว่า ที่เขาตรวจสอบนั้นเป็นยังไงบ้าง จนเราได้เดินทางไปถึงธนาคาร
ขณะที่เราไปถึงธนาคาร เราได้ถามถึงผู้จัดการ พนักงานธนาคารได้แจ้งกับเราว่าผู้จัดการไม่อยู่ได้ออกไปภาคสนาม เขาเลยให้เราพบกับรองผู้จัดการ ซึ่งทางรองผู้จัดการก็ปล่อยให้เรารอเป็นเวลานานมากถึงจะออกมาพร้อมกับภาพวงจรปิดในมือถือส่วนนึง แล้วแจ้งกับเราว่า
รองผู้จัดการ.. “ ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้ว ไม่พบว่าพนักงานเอา เงินใส่ลิ้นชักเลย”
เรา.. “แต่ตอนเรานำเงินมาเราได้ตรวจสอบเงินของเราแล้ว คุณมั่นใจได้ยังไงว่าแบงค์ใหม่จะไม่ติดกัน ” .ในขณะนับเงิน
รองผู้จัดการ.. “ดิฉันได้ทำการตรวจสอบแล้ว ทางเราก็ยืนยันในการปฏิบัติหน้าที่ของเราค่ะ.”
เรา.. “ถ้ายังงั้นรบกวนนำเงินก้อนนี้ที่มีปัญหาเนี่ย มาเรียงเบอร์กันได้ไหมคะ จะได้รู้ว่าเงินที่หายไป มาจากปึกเดียวกันไหมหรือ ปึกไหนที่หาย” (เพราะเราก็ไม่มั่นใจในการตรวจสอบของพวกคุณเลย)
รองผู้จัดการ.. “ทางเราต้องขอแจ้งว่าเงินก้อนนี้ได้ถูกหมุนเวียนให้กับลูกค้าท่านอื่นแล้ว”
เรา.. “คุณนำเงินก้อนนี้ไปหมุนเวียนได้ยังไงในเมื่อเงินก้อนนี้มันมีปัญหากับลูกค้าอยู่ ทำไมถึงไม่กันเงินก้อนนี้ไว้ตรวจสอบก่อน” (เพื่อความสบายใจของลูกค้า)
รองผู้จัดการ..อ้างว่า “พอดีวันนี้มีลูกค้ามาเบิกเงินเยอะ เลยจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้ในการหมุนเวียน”
เรา..โกรธมากเลยแจ้งว่า “งั้นดิฉันขอไม่คุยกับคุณแล้ว จะคุยกับทางผู้จัดการธนาคารสาขาของคุณเท่านั้น เราทิ้งเบอร์ไว้ และก็เดินออกจากธนาคารเลย”
หลังจากนั้น ประมาณ 3-4 ทุ่ม ทางธนาคารเลยติดต่อเราว่าขอนัดเวลากับผู้จัดการสาขา ในเช้าวันที่ 3 ธันวาคมเวลา 11 โมงตรง
(ซึ่งเป็นทางเรายืนยันที่จะกับทางผู้จัดการ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราเป็นคนนัดเองนะไม่ใช่ทางผู้จัดการนัดเอง เพราะเรายืนยันเองว่าเราจะไม่คุยกะใครแล้วนอกจากตัวผู้จัดการสาขาเท่านั้น)
เราขอเรียงเป็นข้อๆจากการที่เราได้คุยกับทางผู้จัดการสาขาแล้วว่าเป็นอย่างไร และในการคุยกับทางผู้จัดการ ทางพนักงานธนาคารก็ได้เข้ามาเล่าเรื่องต่างๆ ซึ่งบางข้อความเหมือนทางผู้จัดการไม่ได้รับรู้ด้วยซ้ำ เราได้บันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐาน เพราะแน่นอนค่ะ เราคนเดียว ทางธนาคาร 5 คนที่จับเงินของเราในเหตุการณ์ ผู้จัดการก็เป็นคนของธนาคาร เพราะฉะนั้น เราไม่มีหลักฐานอะไรในการที่จะเจรจาต่อรองกับพวกเขา เราขอไฟล์กล้องวงจรปิดเพื่อนที่เราจะได้ดูด้วยบ้าง เขาก็แจ้งว่าให้ไปแจ้งความแล้วให้ตำรวจทำหนังสือเพื่อขอดู เราได้ลงบันทึกประจำวันไว้ และได้คุยกับทางร้อยเวรแล้ว แจ้งกับเราว่า มันจะเขียนหนังสือขอได้ยังไงมันไม่ได้เป็นคดี เพราะฉะนั้นตอนนี้เราก็ไม่มีสิทธิที่จะขอไฟล์ดูจากธนาคารได้เลย เข้าใจว่าทางธนาคารเขาก็มีกฏของเขา เดี๋ยวเราจะไล่เหตุผลที่เราตัดสินใจโพสและสร้างกระทู้ในวันนี้ เป็นข้อๆ ว่าทำไมเราถึงยังไม่มั่นใจในการตรวจสอบเงินของเรา
1.. ทำไมถึงไม่นับเงินเราเป็นปึก เนื่องจากเงินมันก็เป็นปึกก้อน ก้อนละ 1 แสน อยู่แล้ว ถ้าเงินมันไม่ครบปึกจริงมันจะได้ตรวจสอบได้ ถ้ามันเป็นแบบนั้นเราจะไม่มีปัญหากับเงินของเราเลย
2.. แบงค์ที่นำไปฝากเป็นปลอกกระดาษสีชมพูนะคะ ทั้งหมดเป็นแบงค์ใหม่ เรียงเบอร์ ไม่ใช่ปลอกสีฟ้าพลาสติก แกะออกจากปึกเงินล้านที่เป็นซีลพลาสติดแบบในภาพ
3.. ในกรณีที่เขาใช้เครื่องโปรยหรือเครื่องปั่น ในหลายๆธนาคารหรือส่วนใหญ่ที่ฝากเงิน ถ้าเงินมาเป็นปึกแบบนี้แล้ว ทำไมไม่โปรยเงินทีละปึกเพื่อความชัดเจน
4.. จริงๆการนับเงินต้องรับผิดชอบเป็นเคาร์เตอร์ๆไปหรือป่าว ทำไมต้องกระจายเงินของเรา ในการนับมือเป็น 3 เคาร์เตอร์ด้วย กับเงินจำนวน 3 แสน
5..เงินก้อนนี้มีปัญหากับลูกค้าอยู่ ทำไมถึงไม่กันเงินก้อนนี้ไว้ตรวจสอบก่อน ทำไมถึงนำเงินก้อนที่มีปัญหาอยู่นี้ไปหมุ่นเวียนใช้เลย
6.. ในเมื่อลูกค้ามั่นใจให้ทางธนาคารตรวจสอบเงินก้อนนี้โดยไม่นำเงินก่อนนี้กลับมา ทำไมลูกค้าถึงไม่ได้รับความคืบหน้าจากทางธนาคารผ่านทางโทรศัพท์เลย
7..ปกติทางธนาคารไม่มีเงินสำรองในกรณีมีลูกค้ามาเบิกเงินจำนวนมากหรอคะ
8..ถ้าเงินหายไปจากปึกแสน ถ้าปลอกเงินหลวม ทำไมทาง จนท.ถึงกล้าถอดเงินปึกนั้นนับรวมกับเงินก้อนอื่นได้
9.ถ้าเราไม่มั่นใจในส่วนของเรา เราจะมามีปัญหากับเรื่องนี้ทำไม
10.เงินหาย 8000 ถือว่าเรื่องใหญ่ ทำไมผู้จัดการถึงไม่ทราบเรื่องเลย เหตุเกิดตั้วแต่ 11 โมง แต่ผู้จัดการมาทราบเรื่องตอน 1 ทุ่ม
11.ตอนเราไปที่ ธนาคาร ในเวลา 1 ทุ่ม เพื่อสอบถามความคืบหน้าของเรา ทำไมถึงปล่อยให้เรารอ นานมาก ถึงออกมายืนยัน ทำไมถึงไม่มีคำตอบให้เราเลย ทำไมถึงให้เรารอ คุณคอนข้างนาน ถึงออกมาพร้อมภาพถ่ายจากกล้อง
12. เงิน 3 แสนไม่ใช่จำนวนเงินที่เยอะมาก จำเป็นไหมที่ต้องนับเวลาเดียวกัน 3 เคาร์เตอร์
13.ในวันที่เกิดเหตุการณ์ลูกค้าไม่ได้เยอะ ทำไมถึงต้องใช้ความรวจเร็วขนาดนั้นคะ
14.ทาง รองแจ้งว่าหลังจากลูกค้าออกไปได้มีการเซอรไพร้ลิ้นชัก พนง. ถามว่าทำไมตอนลูกค้าอยู่ไม่เช็คให้ลูกค้าเห็นไปเลย
15. ทำไมไม่มีการแนะนำจากธนาคาร ทำไมถึงไม่แนะนำให้ลูกค้าทวนเงินเองก่อนฝาก
ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอพูดตรงๆนะคะ ตอนนั้นให้เอาเงินกลับก็ไม่กล้าเอากลับแล้ว เพราะเรายังพูดกับทางเคารเตอร์เลยว่า จะเอากลับทำไมอะพี่ นับกันซะขนาดนี้แล้ว เราต้องการให้แบงค์ตรวจสอบ แต่เรื่องไม่มีถึงเรา เราได้รับแต่คำตอบว่าทางเราตรวจสอบแล้วไม่พบพฤติกรรมพนักงานมีพิรุจ คือแล้วเงินเราที่หายไป หายไปไหนอะ
จนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีสรุปให้เรา ทางธนาคารละเลยกับเงินของลูกค้ามาก ทุกวันนี้เราต้องตามเรื่องเอง เราได้รับการติดต่อจากธนาคารครั้งล่าสุดที่แจ้งกับทางผู้จัดการสาขาว่าเราต้องการจะคุยกับทางผู้จัดการเขต เนื่องจากทางผู้จัดการไม่สามารถสรุปหรือแก้ปัญหาให้ลูกค้าพอใจได้ คือวันที่ 6 ธันวาคม 2562 ทางผู้จัดการแจ้งว่าทางผู้จัดการเขตจะว่างวันที่ 17-21 จะติดต่อเราอีกครั้งยังไงก็จะตามเรื่องให้ จนวันนี้วันที่ 24 ธันวาคม 2562 แล้วยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากธนาคารเลย คือธนาคารมีความรับผิดชอบมาก เงินลูกค้าหาย เอาเงินลูกค้าไปหมุนเวียนใช้ แทนที่จะกันไว้ตรวจสอบ สิ้นเดือนนี้คงเอาเงินออกหมดแล้ว ไม่เอาแล้ว ไม่เคยเจอธนาคารไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้เลย
เราก็ไม่รู้หรอกนะว่าเราจะต้องทำยังไงต่อ แต่เราอยากให้เคสนี้เป็นเคสศึกษาเลย เราก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ถามว่าถ้ามันเกิดกับตัวพวกคุณ จะทำอย่างไรกับมัน กับเงินจำนวน 8,000 ไม่ใช่จำนวนเงินที่น้อยเลย ทุกวันนี้ถามหาและขอดูกล้องวงจรปิด หลาย 10 วันผ่านไปยังไม่ได้รับการติดต่อกลับเลย โคตรรู้สึกแย่