วันนี้อยากจะมาระบายค่ะ
ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ เราเป็นโรคซึมเศร้าแต่เราไม่กล้าบอกแม่อีกรอบ ใช่ค่ะอีกรอบ เพราะช่วงประมาณกลางปีที่แล้วเราได้ทำการพบแพทย์เพื่อที่อยากจะรู้ว่าตัวเองเป็นซึมเศร้ามั้ย สรุปไม่เป็นแต่เสี่ยงมาก หลังจากนั้นอาทิตย์นึงเราเลือกที่จะบอกแม่ไปว่าเราเสี่ยงที่จะเป็นซึมเศร้านะ แต่ผลที่ได้คือ เราโดนแม่ด่าว่าไร้สาระอยู่ดีกินดีขนาดนี้จะมาเป็นโรคซึมเศร้าอะไร ด่าเราด้วยถ้อยคำรุนแรงมากมายแล้วตบท้ายด้วยการบอกว่าเราปัญญาอ่อน สาเหตุการเกิดโรคซึมเศร้าของเราคือเกิดจากแม่จากครอบครัว จากญาติตัวเอง ที่บอกแม่ไปก็เพราะว่าอยากให้แม่รักษาจิตใจเราบ้างในการพูดแต่ละครั้ง เค้ามักจะแสดงอาการกับคำพูดที่แสดงออกชัดเจนมากว่าไม่ได้ต้องการเรา จริงๆแล้วเรารู้ตัวครั้งแรกว่าแม่รักลูกไม่เท่ากันตอนเราอยู่ม.1 เรามีพี่ชายหนึ่งคนเค้าเก่งเค้าอดทนมากๆ ซึ่งตรงข้ามกับเราทุกอย่าง อะไรที่เป็นของเราถ้าพี่อยากได้เราก็ต้องให้เราขัดแม่ไม่ได้ วันนึงแม่ทำเมนูที่เราไม่สามารถกินได้ แต่มีต้มยำกุ้งชามใหญ่อยู่ในตู้เย็น เราเลยขอแม่ว่ากินอันนี้แทนได้มั้ย เราโดนแม่ตะคอกกลับมาว่ามากินอันนี้มันจะตายรึไง แล้วก็ด่าเราต่อเยอะมาก แล้วก็บอกว่าอันนั้นมันของพี่ไม่มีสิทธิ์กิน เรายอมรับว่าอึ้งมากๆ แล้วที่พูดมาทั้งหมดเราไม่ได้แต่งเรื่องหรือปรุงสีเพิ่ม แต่เราเจอมาแบบนี้จริงๆเวลาเรากลับมาอยู่บ้านช่วงวันหยุดมหาลัยเราทำงานทุกอย่างแทนแม่ทั้งเฝ้าร้านที่เป็นธุรกิจของแม่ทั้งทำงานบ้านเล็กๆน้อยๆแต่แม่เรากลับพูดว่า "ไม่รู้ว่าจะกลับมาบ้านทำไมเนาะ ไร้ประโยชน์ ทำตัวเกะกะ" ยอมรับเลยว่ากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จริงๆ ด้วยการที่แม่เรารักลูกไม่เท่ากันแบบนี้มันเลยทำให้เราไม่กล้าบอกแม่ เรื่องสภาพจิตใจที่เราเป็นอยู่ ช่วงต้นปีที่เป็นวันปีใหม่ซึ่งเป็นวันรวมญาติตรงกะช่วงที่เรากำลังจะสอบเข้ามหาลัย ตั้งโต๊ะกินข้าวคนเกือบ20คน แต่กลับกลายว่าเราเป้นคนที่โดนเพ่งเล็งมากที่สุด โดนกดดัน เปรียบเทียบ พูดถากถางทุกอย่างเลยค่ะ จนเราทนไม่ไหว เลยขอตัวออกจากวงสังสรรค์ ไปแอบร้องไห้คนเดียวในห้อง ซักพักแม่มาเคาะประตู เรียกว่าทุบก็ได้ค่ะแล้วพูดว่าออกมานี้ซิ เราก็ยอมออกไปพบหน้าแม่ในสภาพยังไม่หยุดร้อง แม่ก็พูดว่าเป็นอะไร ให้คนอื่นเค้าบอกเค้าสอนบ้างไม่ได้รึไง ไม่มีมารยาทพูดอะไรก็ไม่ได้สำออย ต่อว่าเรานานมากๆจนพี่มาตามแกค่อยปล่อยให้เราปิดประตูห้อง แล้วเราได้ยินแม่พูดกะพี่แว่วๆว่าปล่อยมันร้องไห้เถอะลูก ทำตัวน่าเบื่อเสียบรรยากาศหมด เฮ้อ เป็นเรานี่มันก็แย่ดีเน้อะต้องมาโดนอะไรก็ไม่รู้และก็ยังโดนมาอย่างต่อเนื่อง😂 จนเมื่อตอนเดือนที่แล้วเราเลยเข้าพบจิตแพทย์อีกครั้ง ผลสรุปออกมา เราเป็นโรคซึมเศร้า แต่สุดท้ายเราก็ไม่กล้าจะบอกแม่ เราไม่เคยไม่รักแม่เลยเพราะแกเป็นคนเดียวที่เลี้ยงดูเราหลังจากที่หย่ากับพ่อ แต่แกก็มีแฟนใหม่แล้วนะคะเรายังรู้สึกว่าแม่รักพ่อใหม่มากกว่าเราเลย😂 แม่คือคนที่เรารักมากๆ แต่ก็เป็นคนเดียวกันที่ทำให้เราเสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนบางครั้งก็คิดสั้นจนเกือบจะไม่ได้กลับมาหายใจแล้วด้วยซ้ำ เรารักแม่มากๆอยากอยู่ดูแลแกในวันที่เรามีงานทำ แต่แม่กลับทำเหมือนกับว่าไม่ได้ต้องการเราเลยเราทรมานมากๆ จนบางครั้งก็ร้องไห้ออกมาโดยที่ตัวเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าร้องไห้กับเรื่องอะไร เราไม่ได้อยากอยู่ในจุดๆนี้เลย😓
เป็นโรคซึมเศร้าแต่ไม่กล้าบอกแม่
ตามหัวข้อกระทู้เลยค่ะ เราเป็นโรคซึมเศร้าแต่เราไม่กล้าบอกแม่อีกรอบ ใช่ค่ะอีกรอบ เพราะช่วงประมาณกลางปีที่แล้วเราได้ทำการพบแพทย์เพื่อที่อยากจะรู้ว่าตัวเองเป็นซึมเศร้ามั้ย สรุปไม่เป็นแต่เสี่ยงมาก หลังจากนั้นอาทิตย์นึงเราเลือกที่จะบอกแม่ไปว่าเราเสี่ยงที่จะเป็นซึมเศร้านะ แต่ผลที่ได้คือ เราโดนแม่ด่าว่าไร้สาระอยู่ดีกินดีขนาดนี้จะมาเป็นโรคซึมเศร้าอะไร ด่าเราด้วยถ้อยคำรุนแรงมากมายแล้วตบท้ายด้วยการบอกว่าเราปัญญาอ่อน สาเหตุการเกิดโรคซึมเศร้าของเราคือเกิดจากแม่จากครอบครัว จากญาติตัวเอง ที่บอกแม่ไปก็เพราะว่าอยากให้แม่รักษาจิตใจเราบ้างในการพูดแต่ละครั้ง เค้ามักจะแสดงอาการกับคำพูดที่แสดงออกชัดเจนมากว่าไม่ได้ต้องการเรา จริงๆแล้วเรารู้ตัวครั้งแรกว่าแม่รักลูกไม่เท่ากันตอนเราอยู่ม.1 เรามีพี่ชายหนึ่งคนเค้าเก่งเค้าอดทนมากๆ ซึ่งตรงข้ามกับเราทุกอย่าง อะไรที่เป็นของเราถ้าพี่อยากได้เราก็ต้องให้เราขัดแม่ไม่ได้ วันนึงแม่ทำเมนูที่เราไม่สามารถกินได้ แต่มีต้มยำกุ้งชามใหญ่อยู่ในตู้เย็น เราเลยขอแม่ว่ากินอันนี้แทนได้มั้ย เราโดนแม่ตะคอกกลับมาว่ามากินอันนี้มันจะตายรึไง แล้วก็ด่าเราต่อเยอะมาก แล้วก็บอกว่าอันนั้นมันของพี่ไม่มีสิทธิ์กิน เรายอมรับว่าอึ้งมากๆ แล้วที่พูดมาทั้งหมดเราไม่ได้แต่งเรื่องหรือปรุงสีเพิ่ม แต่เราเจอมาแบบนี้จริงๆเวลาเรากลับมาอยู่บ้านช่วงวันหยุดมหาลัยเราทำงานทุกอย่างแทนแม่ทั้งเฝ้าร้านที่เป็นธุรกิจของแม่ทั้งทำงานบ้านเล็กๆน้อยๆแต่แม่เรากลับพูดว่า "ไม่รู้ว่าจะกลับมาบ้านทำไมเนาะ ไร้ประโยชน์ ทำตัวเกะกะ" ยอมรับเลยว่ากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่จริงๆ ด้วยการที่แม่เรารักลูกไม่เท่ากันแบบนี้มันเลยทำให้เราไม่กล้าบอกแม่ เรื่องสภาพจิตใจที่เราเป็นอยู่ ช่วงต้นปีที่เป็นวันปีใหม่ซึ่งเป็นวันรวมญาติตรงกะช่วงที่เรากำลังจะสอบเข้ามหาลัย ตั้งโต๊ะกินข้าวคนเกือบ20คน แต่กลับกลายว่าเราเป้นคนที่โดนเพ่งเล็งมากที่สุด โดนกดดัน เปรียบเทียบ พูดถากถางทุกอย่างเลยค่ะ จนเราทนไม่ไหว เลยขอตัวออกจากวงสังสรรค์ ไปแอบร้องไห้คนเดียวในห้อง ซักพักแม่มาเคาะประตู เรียกว่าทุบก็ได้ค่ะแล้วพูดว่าออกมานี้ซิ เราก็ยอมออกไปพบหน้าแม่ในสภาพยังไม่หยุดร้อง แม่ก็พูดว่าเป็นอะไร ให้คนอื่นเค้าบอกเค้าสอนบ้างไม่ได้รึไง ไม่มีมารยาทพูดอะไรก็ไม่ได้สำออย ต่อว่าเรานานมากๆจนพี่มาตามแกค่อยปล่อยให้เราปิดประตูห้อง แล้วเราได้ยินแม่พูดกะพี่แว่วๆว่าปล่อยมันร้องไห้เถอะลูก ทำตัวน่าเบื่อเสียบรรยากาศหมด เฮ้อ เป็นเรานี่มันก็แย่ดีเน้อะต้องมาโดนอะไรก็ไม่รู้และก็ยังโดนมาอย่างต่อเนื่อง😂 จนเมื่อตอนเดือนที่แล้วเราเลยเข้าพบจิตแพทย์อีกครั้ง ผลสรุปออกมา เราเป็นโรคซึมเศร้า แต่สุดท้ายเราก็ไม่กล้าจะบอกแม่ เราไม่เคยไม่รักแม่เลยเพราะแกเป็นคนเดียวที่เลี้ยงดูเราหลังจากที่หย่ากับพ่อ แต่แกก็มีแฟนใหม่แล้วนะคะเรายังรู้สึกว่าแม่รักพ่อใหม่มากกว่าเราเลย😂 แม่คือคนที่เรารักมากๆ แต่ก็เป็นคนเดียวกันที่ทำให้เราเสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนบางครั้งก็คิดสั้นจนเกือบจะไม่ได้กลับมาหายใจแล้วด้วยซ้ำ เรารักแม่มากๆอยากอยู่ดูแลแกในวันที่เรามีงานทำ แต่แม่กลับทำเหมือนกับว่าไม่ได้ต้องการเราเลยเราทรมานมากๆ จนบางครั้งก็ร้องไห้ออกมาโดยที่ตัวเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าร้องไห้กับเรื่องอะไร เราไม่ได้อยากอยู่ในจุดๆนี้เลย😓