เพื่อไทย ชี้ ปชช.รู้ดี รัฐบาลล้มตั้งกมธ.ศึกษาม.44สำเร็จ ใครได้ประโยชน์
https://www.matichon.co.th/politics/news_1789530
“อนุสรณ์” ชี้ ตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบจากม.44 ไม่ได้ ใครคือผู้ได้ประโยชน์สูงสุด ปชช.ตัดสินใจได้ เตือน พปชร. อย่าย่ามใจ
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม นาย
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ระบุ รัฐบาลไม่ได้เสนอผลประโยชน์ให้ ส.ส.เพื่อแลกเสียงโหวตเป็นองค์ประชุม ว่า ประชาชนที่เห็นข่าวนี้ คงเหมือนหลับแล้วตื่นผิดยุค ย้อนยุคกลับไปเป็นร้อยปี ยุคนี้เป็นยุคสังคมข่าวสาร ยุคแห่งการตรวจสอบ ฉะนั้น อย่าไปพูดอะไรที่จะทำให้ประชาชนเขาโห่เอา อ้าปากก็เห็นถึงไส้ติ่ง คนรู้ คนเห็น ได้ยินข่าวเสนอผลประโยชน์ให้ส.ส.กันทั้งประเทศ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงขั้นประกาศกร้าว พร้อมทำทุกวิถีทาง จะไม่ยอมให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการใช้มาตรา 44 เด็ดขาด ถึงขั้นพูดว่า “
ผมอยู่ไม่ได้ พวกคุณก็อยู่ไม่ได้” ถ้าสภาฯล่มเป็นรอบที่ 3 “
อย่างเบาก็ปรับ ครม. อย่างหนักคือยุบสภาฯ” ถ้าพล.อ.
ประยุทธ์ไม่ได้พูด สื่อจะไปเอาจากที่ไหนมานำเสนอ อาชญากร ย่อมได้ประโยชน์จากอาชญากรรมที่ตัวเองก่อขึ้น เมื่อตั้งกมธ.มาตรา 44 ไม่ได้ ใครคือผู้ได้ประโยชน์สูงสุด ประชาชนตัดสินใจได้ ต่อไปถ้าพรรคพปชร. ย่ามใจหนัก หรือถูกกระแสสังคมกดดันรุมประณามเรื่องทารุณกรรมสัตว์ อาจถึงขั้นกล้าโกหกประชาชน เรื่องหูฉลาม ว่า ในงานเลี้ยงเคลียร์ใจพรรคร่วมไม่ได้เสิร์ฟหูฉลาม อีกหรือไม่
“
คนทุกคน ล้วนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีของตัวเอง ไม่เฉพาะส.ส. การที่จะตัดสินใจเป็นงูเห่าหรือไม่ ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง เพราะนอกจากต้องมีคำตอบให้พรรคการเมืองที่สังกัด สิ่งสำคัญที่สุดต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้” นาย
อนุสรณ์ กล่าว
เล็งจัดหนัก “2งูเห่า” อนาคตใหม่ ไม่ส่งเลือกตั้งนามพรรค
https://www.matichon.co.th/politics/news_1789073
“ช่อ” เล็งจัดหนัก “2งูเห่า” อนาคตใหม่ ไม่ส่งเลือกตั้งนามพรรค ซัดกลับ “สนธิรัตน์” รับได้หรือไม่ หากส.ส.พปชร.โหวตสวน เพราะผลประโยชน์ชาติ
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม น.ส.
พรรณิการ์ วานิช โฆษกและกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีส.ส.พรรคอนค.ที่ไม่ได้วอล์คเอาต์ และไปแสดงตนร่วมเป็นองค์ประชุมในญัตติด่วนให้สภาผู้แทนราษฏรตั้ง คณะกรรมการวิสามัญ (กมธ.) วิสามัญศึกษาผลกระทบจากการกระทำประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44 ทำให้สภาฯ ดำเนินการนับคะแนนใหม่ในญัตติดังกล่าว และล้มตั้งกมธ.ได้นั้น ว่า สำหรับส.ส.ที่ไม่ได้ทำตามมติพรรค ก็เป็นคนหน้าเดิม ซึ่งที่ผ่านมาทางพรรคได้มีมาตรการดำเนินการกับบุคคลที่มีพฤติกรรมที่ทางคณะกรรมการวินัยพรรคเห็นว่าขัดต่อวินัยพรรค อาทิ ให้ข่าวในเชิงเสียหาย เปิดผลประชุมพรรคในที่ประชุมลับ ฯลฯ ซึ่งแต่ละคนได้รับบทลงโทษต่างกรรมต่างวาระกันไป โดยรวมคือ การคว่ำบาตร แช่แข็งไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ของพรรค เป็นระยะเวลาแตกต่างกันไป แต่เมื่อมีพฤติกรรมเกิดขึ้นซ้ำต่อเนื่อง ต้องคุยกันอีกครั้งในคณะกรรมการวินัย กรรมการบริหารพรรค และส.ส.พรรรค เพื่อหามาตรการลงโทษเพิ่มเติม เพราะครั้งนี้ถือเป็นความผิดครั้งใหม่
น.ส.
พรรณิการ์ กล่าวว่า ส่วนมาตรการใหม่จะต้องร่วมกันตัดสินใจ เบื้องต้นจะเป็นมาตรการจากเบาไปหาหนัก ที่ผ่านมาก็มีการภาคทัณฑ์ แบนไม่ให้ร่วมกิจกรรมพรรคแล้ว ต่อไปจะต้องหารือกันว่าอาจจะไม่ส่งส.ส.ลงรับสมัครเลือกตั้งอีกครั้งในนามพรรค แน่นอนหากเป็นบุคคลเดิมและทำผิดซ้ำ ต้องใช้มาตรการหนักขึ้น ซึ่งกรรมการวินัยจะพิจารณาและส่งเรื่องให้กรรมการบริหารพรรคดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ส.ส.ทั้ง 2 คนที่ไม่ทำตามมติพรรค ขณะนี้ยังไม่ได้เข้ามาชี้แจงต่อผู้บริหารพรรคอย่างเป็นทางการ แต่ได้ไปพูดกับเพื่อนส.ส. และตอบความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งทางกรรมการวินัยจะเรียกให้ส.ส.ทั้ง 2 คนเข้ามาชี้แจงต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนาย
สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่าไม่อยากให้โฟกัสเรื่องงูเห่า เพราะส.ส.แต่ละคนมีความคิดเป็นของตัวเอง และได้คำนึงถึงสถานการณ์และทิศทางทางการเมือง โดยต้องเคารพ ส.ส.แต่ละท่านนั้น น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของกฎหมาย โดยส.ส.ทุกคนมีเอกสิทธิ์ในการโหวตก็จริง แต่หากจะบอกว่าทุกคนมีสิทธิ์ในการโหวต และทุกคนพูดแบบนั้น ถามว่าเราจะมีพรรคการเมืองทำไม ทำไมไม่ให้ทุกคนสมัครเลือกตั้งตามอิสระ แต่เพราะพรรคการเมืองเป็นที่รวมของกลุ่มคนที่มีความคิดความเชื่อตรงกัน ผลักดันนโนบายของตนเองให้สำเร็จ ดำเนินการสิ่งต่างๆ ไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้เป้าหมายทางการเมืองสำเร็จ จึงเป็นเหตุผลที่ส.ส.ต้องทำตามมติพรรค
“
ถามกลับพรรคพปชร. หากมีส.ส.บอกว่ามีเอกสิทธิ์ในการโหวต เพราะอยากเห็นบ้านเมือง ประเทศชาติเดินหน้าและประชาชนดีกว่า แล้วส.ส.โหวตสวนมติพรรคพปชร. นายสนธิรัตน์ และแกนนำพรรคพพปชร. ยอมรับได้ใช่หรือไม่ ว่าจะอยู่ในบรรทัดฐานเช่นนั้น และครั้งต่อไปต้องยอมรับให้ได้ หากมีส.ส.พปชร.โหวตให้กับพรรคอนค.ได้ เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ชาติ ก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ภายในพรรคพปชร.” น.ส.
พรรณิการ์ กล่าว
JJNY : 5in1 พท.ชี้ปชช.รู้ดีล้มกมธ./เล็งจัดหนัก2งูเห่าอนค./ป่าไม้ปักป้ายยึดที่/พ่อปารีณาโดนอีก/ดัชนีเชื่อมั่นใต้พ.ย.วูบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1789530
“อนุสรณ์” ชี้ ตั้ง กมธ.ศึกษาผลกระทบจากม.44 ไม่ได้ ใครคือผู้ได้ประโยชน์สูงสุด ปชช.ตัดสินใจได้ เตือน พปชร. อย่าย่ามใจ
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ระบุ รัฐบาลไม่ได้เสนอผลประโยชน์ให้ ส.ส.เพื่อแลกเสียงโหวตเป็นองค์ประชุม ว่า ประชาชนที่เห็นข่าวนี้ คงเหมือนหลับแล้วตื่นผิดยุค ย้อนยุคกลับไปเป็นร้อยปี ยุคนี้เป็นยุคสังคมข่าวสาร ยุคแห่งการตรวจสอบ ฉะนั้น อย่าไปพูดอะไรที่จะทำให้ประชาชนเขาโห่เอา อ้าปากก็เห็นถึงไส้ติ่ง คนรู้ คนเห็น ได้ยินข่าวเสนอผลประโยชน์ให้ส.ส.กันทั้งประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงขั้นประกาศกร้าว พร้อมทำทุกวิถีทาง จะไม่ยอมให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการใช้มาตรา 44 เด็ดขาด ถึงขั้นพูดว่า “ผมอยู่ไม่ได้ พวกคุณก็อยู่ไม่ได้” ถ้าสภาฯล่มเป็นรอบที่ 3 “อย่างเบาก็ปรับ ครม. อย่างหนักคือยุบสภาฯ” ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้พูด สื่อจะไปเอาจากที่ไหนมานำเสนอ อาชญากร ย่อมได้ประโยชน์จากอาชญากรรมที่ตัวเองก่อขึ้น เมื่อตั้งกมธ.มาตรา 44 ไม่ได้ ใครคือผู้ได้ประโยชน์สูงสุด ประชาชนตัดสินใจได้ ต่อไปถ้าพรรคพปชร. ย่ามใจหนัก หรือถูกกระแสสังคมกดดันรุมประณามเรื่องทารุณกรรมสัตว์ อาจถึงขั้นกล้าโกหกประชาชน เรื่องหูฉลาม ว่า ในงานเลี้ยงเคลียร์ใจพรรคร่วมไม่ได้เสิร์ฟหูฉลาม อีกหรือไม่
“คนทุกคน ล้วนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีของตัวเอง ไม่เฉพาะส.ส. การที่จะตัดสินใจเป็นงูเห่าหรือไม่ ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง เพราะนอกจากต้องมีคำตอบให้พรรคการเมืองที่สังกัด สิ่งสำคัญที่สุดต้องตอบคำถามประชาชนให้ได้” นายอนุสรณ์ กล่าว
เล็งจัดหนัก “2งูเห่า” อนาคตใหม่ ไม่ส่งเลือกตั้งนามพรรค
https://www.matichon.co.th/politics/news_1789073
“ช่อ” เล็งจัดหนัก “2งูเห่า” อนาคตใหม่ ไม่ส่งเลือกตั้งนามพรรค ซัดกลับ “สนธิรัตน์” รับได้หรือไม่ หากส.ส.พปชร.โหวตสวน เพราะผลประโยชน์ชาติ
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกและกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีส.ส.พรรคอนค.ที่ไม่ได้วอล์คเอาต์ และไปแสดงตนร่วมเป็นองค์ประชุมในญัตติด่วนให้สภาผู้แทนราษฏรตั้ง คณะกรรมการวิสามัญ (กมธ.) วิสามัญศึกษาผลกระทบจากการกระทำประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44 ทำให้สภาฯ ดำเนินการนับคะแนนใหม่ในญัตติดังกล่าว และล้มตั้งกมธ.ได้นั้น ว่า สำหรับส.ส.ที่ไม่ได้ทำตามมติพรรค ก็เป็นคนหน้าเดิม ซึ่งที่ผ่านมาทางพรรคได้มีมาตรการดำเนินการกับบุคคลที่มีพฤติกรรมที่ทางคณะกรรมการวินัยพรรคเห็นว่าขัดต่อวินัยพรรค อาทิ ให้ข่าวในเชิงเสียหาย เปิดผลประชุมพรรคในที่ประชุมลับ ฯลฯ ซึ่งแต่ละคนได้รับบทลงโทษต่างกรรมต่างวาระกันไป โดยรวมคือ การคว่ำบาตร แช่แข็งไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมใดๆ ของพรรค เป็นระยะเวลาแตกต่างกันไป แต่เมื่อมีพฤติกรรมเกิดขึ้นซ้ำต่อเนื่อง ต้องคุยกันอีกครั้งในคณะกรรมการวินัย กรรมการบริหารพรรค และส.ส.พรรรค เพื่อหามาตรการลงโทษเพิ่มเติม เพราะครั้งนี้ถือเป็นความผิดครั้งใหม่
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ส่วนมาตรการใหม่จะต้องร่วมกันตัดสินใจ เบื้องต้นจะเป็นมาตรการจากเบาไปหาหนัก ที่ผ่านมาก็มีการภาคทัณฑ์ แบนไม่ให้ร่วมกิจกรรมพรรคแล้ว ต่อไปจะต้องหารือกันว่าอาจจะไม่ส่งส.ส.ลงรับสมัครเลือกตั้งอีกครั้งในนามพรรค แน่นอนหากเป็นบุคคลเดิมและทำผิดซ้ำ ต้องใช้มาตรการหนักขึ้น ซึ่งกรรมการวินัยจะพิจารณาและส่งเรื่องให้กรรมการบริหารพรรคดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ส.ส.ทั้ง 2 คนที่ไม่ทำตามมติพรรค ขณะนี้ยังไม่ได้เข้ามาชี้แจงต่อผู้บริหารพรรคอย่างเป็นทางการ แต่ได้ไปพูดกับเพื่อนส.ส. และตอบความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งทางกรรมการวินัยจะเรียกให้ส.ส.ทั้ง 2 คนเข้ามาชี้แจงต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่าไม่อยากให้โฟกัสเรื่องงูเห่า เพราะส.ส.แต่ละคนมีความคิดเป็นของตัวเอง และได้คำนึงถึงสถานการณ์และทิศทางทางการเมือง โดยต้องเคารพ ส.ส.แต่ละท่านนั้น น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของกฎหมาย โดยส.ส.ทุกคนมีเอกสิทธิ์ในการโหวตก็จริง แต่หากจะบอกว่าทุกคนมีสิทธิ์ในการโหวต และทุกคนพูดแบบนั้น ถามว่าเราจะมีพรรคการเมืองทำไม ทำไมไม่ให้ทุกคนสมัครเลือกตั้งตามอิสระ แต่เพราะพรรคการเมืองเป็นที่รวมของกลุ่มคนที่มีความคิดความเชื่อตรงกัน ผลักดันนโนบายของตนเองให้สำเร็จ ดำเนินการสิ่งต่างๆ ไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อให้เป้าหมายทางการเมืองสำเร็จ จึงเป็นเหตุผลที่ส.ส.ต้องทำตามมติพรรค
“ถามกลับพรรคพปชร. หากมีส.ส.บอกว่ามีเอกสิทธิ์ในการโหวต เพราะอยากเห็นบ้านเมือง ประเทศชาติเดินหน้าและประชาชนดีกว่า แล้วส.ส.โหวตสวนมติพรรคพปชร. นายสนธิรัตน์ และแกนนำพรรคพพปชร. ยอมรับได้ใช่หรือไม่ ว่าจะอยู่ในบรรทัดฐานเช่นนั้น และครั้งต่อไปต้องยอมรับให้ได้ หากมีส.ส.พปชร.โหวตให้กับพรรคอนค.ได้ เพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ชาติ ก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ภายในพรรคพปชร.” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว