“อนุสรณ์” จัดหนัก พปชร.-พรรคเล็ก อย่าตบจูบบ่อย ชาวบ้านรำคาญ เย้ย เริ่มต้นเป็น "งูเห่า" สุดท้ายแค่ "ลิงงอแง" ให้กล้วยก็อิ่ม ชี้ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร
วันที่ 8 ก.ย. นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่ากรณีพรรคประชาธรรมไทย ยืนยันยังไม่ได้ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพียงขอแยกห้องทำงานนั้น พรรคพลังประชารัฐ และพรรคการเมืองขนาดเล็กจะเจรจาต่อรอง ข่มขู่ กดดัน เรียกรับผลประโยชน์ เมื่อไม่ได้ก็โวยวาย แต่เคลียร์กันเสร็จ ก็พลิกลิ้นกลืนน้ำลายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งไม่ควรทำให้เกิดข่าวลักษณะแบบนี้บ่อยครั้ง เพราะทำให้ประชาชนสิ้นหวังและรำคาญ
"ในขณะที่ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจรัฐบาลยังแก้ไม่ได้ ปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมกลับมาซ้ำเติม พวกท่านจะแยกห้อง รวมห้องขอให้เป็นเรื่องภายใน อย่าใช้พื้นที่สาธารณะเพื่อการเจรจาต่อรอง จะตบจูบกันอย่างไร ไปทำกันหลังม่าน ไม่ต้องมาโชว์ ประชาชนเบื่อหน่าย และไม่ได้ประโยชน์ ที่ผ่านมา ข่าวลักษณะ พรรคร่วม พรรคเล็ก ข่มขู่กรรโชกทรัพย์ ตบทรัพย์กันทางการเมือง มีให้เห็นตลอด ขอให้ยึดผลประโยชน์ของพรรคตัวเองให้น้อย คิดถึงประโยชน์ของประชาชนให้มาก" โฆษกเพื่อไทย กล่าว...
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า มุมมองการร่วมกันสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ของพรรคพลังประชารัฐ กับพรรคการเมืองขนาดเล็กนั้นแตกต่างกัน พล.อ.ประยุทธ์ คิดว่าการที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ เพราะมี ส.ว.250 คน ช่วยโหวต ในขณะที่พรรคเล็กคิดว่า ตัวเองมีความสำคัญ ถ้าไม่มีสูตรคำนวณ ส.ส.พิสดาร จนเกิดพรรคเล็ก และไม่โหวตให้ไม่มีทางได้เป็น ด้วยความเข้าใจในบริบทที่แตกต่างกัน เวลาเกิดความขัดแย้ง ต่างฝ่ายจึงต่างตีความในมุมมองของตัวเอง ข่าวลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายครั้งในรัฐบาลนี้ ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์ เริ่มต้นเป็น "งูเห่า"ลงท้ายเป็นแค่ "ลิงงอแง" อยากได้กล้วย พอให้กล้วยกินอิ่มก็เงียบ รัฐธรรมนูญที่ทำให้ระบบพรรคการเมืองอ่อนแอ เกิดการเจรจาต่อรอง เป็นใบเสร็จยืนยันว่า การปฏิรูปการเมืองไม่มีอยู่จริง ปฏิรูปต้องนำพาการเมืองของประเทศก้าวไปข้างหน้า ไม่ใช่ทำให้การเมืองไทย ย้อนยุคไป 40 ปี
อนุสรณ์ อัด พปชร.-พรรคเล็ก อย่าตบจูบบ่อย เริ่มเป็นงูเห่า จบแค่ลิงงอแง
"ในขณะที่ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจรัฐบาลยังแก้ไม่ได้ ปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมกลับมาซ้ำเติม พวกท่านจะแยกห้อง รวมห้องขอให้เป็นเรื่องภายใน อย่าใช้พื้นที่สาธารณะเพื่อการเจรจาต่อรอง จะตบจูบกันอย่างไร ไปทำกันหลังม่าน ไม่ต้องมาโชว์ ประชาชนเบื่อหน่าย และไม่ได้ประโยชน์ ที่ผ่านมา ข่าวลักษณะ พรรคร่วม พรรคเล็ก ข่มขู่กรรโชกทรัพย์ ตบทรัพย์กันทางการเมือง มีให้เห็นตลอด ขอให้ยึดผลประโยชน์ของพรรคตัวเองให้น้อย คิดถึงประโยชน์ของประชาชนให้มาก" โฆษกเพื่อไทย กล่าว...
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า มุมมองการร่วมกันสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ของพรรคพลังประชารัฐ กับพรรคการเมืองขนาดเล็กนั้นแตกต่างกัน พล.อ.ประยุทธ์ คิดว่าการที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกรอบ เพราะมี ส.ว.250 คน ช่วยโหวต ในขณะที่พรรคเล็กคิดว่า ตัวเองมีความสำคัญ ถ้าไม่มีสูตรคำนวณ ส.ส.พิสดาร จนเกิดพรรคเล็ก และไม่โหวตให้ไม่มีทางได้เป็น ด้วยความเข้าใจในบริบทที่แตกต่างกัน เวลาเกิดความขัดแย้ง ต่างฝ่ายจึงต่างตีความในมุมมองของตัวเอง ข่าวลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายครั้งในรัฐบาลนี้ ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์ เริ่มต้นเป็น "งูเห่า"ลงท้ายเป็นแค่ "ลิงงอแง" อยากได้กล้วย พอให้กล้วยกินอิ่มก็เงียบ รัฐธรรมนูญที่ทำให้ระบบพรรคการเมืองอ่อนแอ เกิดการเจรจาต่อรอง เป็นใบเสร็จยืนยันว่า การปฏิรูปการเมืองไม่มีอยู่จริง ปฏิรูปต้องนำพาการเมืองของประเทศก้าวไปข้างหน้า ไม่ใช่ทำให้การเมืองไทย ย้อนยุคไป 40 ปี