ภาคีเพื่อรธน.ประชาธิปไตย แถลงการณ์ เสนอหลักเยียวยาอดีต-เปิดพื้นที่ปัจจุบัน-สู่อนาคตร่วมกัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_1775021
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ เรื่อง เยียวยาอดีต เปิดพื้นที่ในปัจจุบัน ก้าวสู่อนาคตร่วมกัน : ข้อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา ระบุว่า
เนื่องด้วยมีญัตติที่ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และการใช้อำนาจของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติตามมาตรา 44 ซึ่งรวมไปถึงการศึกษาผลกระทบและหาแนวทางแก้ไขผลจากประกาศและคำสั่งคณะปฏิวัติคณะต่าง ๆ และศึกษาผลกระทบและความเหมาะสมของกฎหมายที่บัญญัติโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อหาแนวทางปรับแก้ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองในปัจจุบัน ขณะที่ยังมีญัตติสำคัญที่ต้องพิจารณาในลำดับถัดไปคือ การขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ซึ่งรวมไปถึงการศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน นั้น
ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยเห็นว่าทั้งสองเรื่องนี้มีความเกี่ยวเนื่องกันอย่างสำคัญ โดยสะท้อนไว้ซึ่งเจตนารมณ์ที่ว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย และยังเป็นหนทางสู่การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ในสังคมไทย
ภาคีฯ จึงขอเสนอหลักการต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา ดังนี้
1. เยียวยาอดีต ความขัดแย้งทางการเมืองของไทยที่ผ่านมามีผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนไม่น้อย กระบวนการที่ผ่านมาไม่สามารถสร้างความปรองดองได้ ซ้ำร้ายยังกลายเป็นเงื่อนไขที่ทำให้การปรองดองไม่เกิดขึ้น ทั้งนี้ บาดแผลจากความรุนแรงดังกล่าวฉุดรั้งศักยภาพของผู้คนในสังคมให้จมอยู่กับความเจ็บปวดและไม่สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้ ยิ่งไปกว่านั้นศักยภาพในการก้าวต่อไปข้างหน้าคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดการปรองดอง คืนดี และให้อภัย ดังนั้น คณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวจึงเป็นหนึ่งในกระบวนการที่สำคัญของการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ
2. เปิดพื้นที่ในปัจจุบัน การเปิดพื้นที่ในปัจจุบันนั้น ภาคีฯ เสนอให้สภาผู้แทนราษฎรจัดตั้ง “เวทีถกแถลงแห่งชาติเพื่อรัฐธรรมนูญของทุกคน” เพื่ออำนวยให้เกิดการแสดงออกอย่างเสรี เป็นธรรม และปลอดภัย โดยเวทีนี้จะมีหน้าที่สำคัญคือ จัดการถกแถลงรัฐธรรมนูญอย่างกว้างขวางทุกจังหวัด และประมวลความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งรวมไปถึงความกังวล ความต้องการ และความคาดหวัง เพื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและสาธารณชน
3. ก้าวสู่อนาคตร่วมกัน การก้าวสู่อนาคตร่วมกันก็หมายถึง การที่ทุกภาคส่วนเห็นพ้องต้องกันแล้วว่าจะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยจะได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งขึ้นมาพิจารณาเรื่องนี้ในลำดับถัดไป แต่ทั้งนี้ การจะก้าวสู่อนาคตร่วมกันได้ก็ต่อเมื่อ เราได้เยียวยาอดีต และมีพื้นที่ทางสังคมที่เปิดกว้างให้กับทุกความเห็นต่างทางการเมืองในปัจจุบัน
'อนค.' ปัดพรรคพลีชีพส.ส. เปิดทางเลือกซ่อมกทม. ดัน 'ธนาธร' เข้าสภาฯ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1775147
‘อนค.’ปัดพรรคพลีชีพส.ส. เปิดทางเลือกซ่อมกทม. ดัน’ธนาธร’เข้าสภาฯ ย้ำอยู่ข้างนอกก็ทำงานให้ปชช.ได้
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน น.ส.
พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวถึงกรณีมีกระสข่าวว่า นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนค. ที่ลาออกจากคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 และเตรียมลงเลือกตั้งในเขตสวนหลวง-ประเวศ กทม. ว่า
ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่นาย
ธนาธร จะลงเลือกตั้งในเขตนี้ เพราะเจ้าของพื้นที่ คือ นาย
มณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม. พรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้ทำผิดอะไร และไม่มีเหตุอะไรที่จะทำให้เกิดการเลือกตั้งซ่อม ถ้าจะให้นาย
มณฑล ลาออกแล้วให้ นายธนาธร ลงเลือกตั้งซ่อมแทน เราจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร พรรคอนาคตใหม่ไม่มีนโยบายการพลีชีพส.ส. ยืนยันชัดๆ ว่า ไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน
ตอนที่นาย
ธนาธรแถลงลาออกจากกมธ.งบประมาณ ได้บอกแล้วว่า จะเป็นส.ส.หรือไม่ สามารถทำงานการเมืองช่วยเหลือประชาชนได้ ได้วางแผนงานกันเอาไว้ว่างานในสภาฯ ให้ส.ส.ของพรรคดำเนินการ และมีนาย
ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค เป็นแกนนำหลัก ส่วนนาย
ธนาธร จะเดินสายพบประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อรณรงค์แคมเปญเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.ที่สำคัญๆ เช่น ร่างพ.ร.บ.เกณฑ์ทหาร และการทำความเข้าใจเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ต้องถามผู้ที่ปล่อยข่าวว่า ต้องการอะไรจากเรื่องนี้กันแน่
JJNY : 4in1 ภาคีเพื่อรธน.ปชต.แถลงการณ์/อนค.ปัดพลีชีพสส.ดันธนาธร/เรืองไกรบี้ปารีณา/ยางไข่สุกรข้าวกุ้ง ราคาร่วงส่งท้ายปี
https://www.matichon.co.th/politics/news_1775021
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2562 ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ เรื่อง เยียวยาอดีต เปิดพื้นที่ในปัจจุบัน ก้าวสู่อนาคตร่วมกัน : ข้อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา ระบุว่า
เนื่องด้วยมีญัตติที่ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจากการกระทำ ประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และการใช้อำนาจของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติตามมาตรา 44 ซึ่งรวมไปถึงการศึกษาผลกระทบและหาแนวทางแก้ไขผลจากประกาศและคำสั่งคณะปฏิวัติคณะต่าง ๆ และศึกษาผลกระทบและความเหมาะสมของกฎหมายที่บัญญัติโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อหาแนวทางปรับแก้ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองในปัจจุบัน ขณะที่ยังมีญัตติสำคัญที่ต้องพิจารณาในลำดับถัดไปคือ การขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ซึ่งรวมไปถึงการศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน นั้น
ภาคีเพื่อรัฐธรรมนูญประชาธิปไตยเห็นว่าทั้งสองเรื่องนี้มีความเกี่ยวเนื่องกันอย่างสำคัญ โดยสะท้อนไว้ซึ่งเจตนารมณ์ที่ว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย และยังเป็นหนทางสู่การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ในสังคมไทย
ภาคีฯ จึงขอเสนอหลักการต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณา ดังนี้
1. เยียวยาอดีต ความขัดแย้งทางการเมืองของไทยที่ผ่านมามีผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนไม่น้อย กระบวนการที่ผ่านมาไม่สามารถสร้างความปรองดองได้ ซ้ำร้ายยังกลายเป็นเงื่อนไขที่ทำให้การปรองดองไม่เกิดขึ้น ทั้งนี้ บาดแผลจากความรุนแรงดังกล่าวฉุดรั้งศักยภาพของผู้คนในสังคมให้จมอยู่กับความเจ็บปวดและไม่สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้ ยิ่งไปกว่านั้นศักยภาพในการก้าวต่อไปข้างหน้าคือสิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดการปรองดอง คืนดี และให้อภัย ดังนั้น คณะกรรมาธิการชุดดังกล่าวจึงเป็นหนึ่งในกระบวนการที่สำคัญของการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ
2. เปิดพื้นที่ในปัจจุบัน การเปิดพื้นที่ในปัจจุบันนั้น ภาคีฯ เสนอให้สภาผู้แทนราษฎรจัดตั้ง “เวทีถกแถลงแห่งชาติเพื่อรัฐธรรมนูญของทุกคน” เพื่ออำนวยให้เกิดการแสดงออกอย่างเสรี เป็นธรรม และปลอดภัย โดยเวทีนี้จะมีหน้าที่สำคัญคือ จัดการถกแถลงรัฐธรรมนูญอย่างกว้างขวางทุกจังหวัด และประมวลความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งรวมไปถึงความกังวล ความต้องการ และความคาดหวัง เพื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและสาธารณชน
3. ก้าวสู่อนาคตร่วมกัน การก้าวสู่อนาคตร่วมกันก็หมายถึง การที่ทุกภาคส่วนเห็นพ้องต้องกันแล้วว่าจะแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยจะได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งขึ้นมาพิจารณาเรื่องนี้ในลำดับถัดไป แต่ทั้งนี้ การจะก้าวสู่อนาคตร่วมกันได้ก็ต่อเมื่อ เราได้เยียวยาอดีต และมีพื้นที่ทางสังคมที่เปิดกว้างให้กับทุกความเห็นต่างทางการเมืองในปัจจุบัน
'อนค.' ปัดพรรคพลีชีพส.ส. เปิดทางเลือกซ่อมกทม. ดัน 'ธนาธร' เข้าสภาฯ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1775147
‘อนค.’ปัดพรรคพลีชีพส.ส. เปิดทางเลือกซ่อมกทม. ดัน’ธนาธร’เข้าสภาฯ ย้ำอยู่ข้างนอกก็ทำงานให้ปชช.ได้
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) กล่าวถึงกรณีมีกระสข่าวว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนค. ที่ลาออกจากคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 และเตรียมลงเลือกตั้งในเขตสวนหลวง-ประเวศ กทม. ว่า
ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่นายธนาธร จะลงเลือกตั้งในเขตนี้ เพราะเจ้าของพื้นที่ คือ นายมณฑล โพธิ์คาย ส.ส.กทม. พรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้ทำผิดอะไร และไม่มีเหตุอะไรที่จะทำให้เกิดการเลือกตั้งซ่อม ถ้าจะให้นายมณฑล ลาออกแล้วให้ นายธนาธร ลงเลือกตั้งซ่อมแทน เราจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร พรรคอนาคตใหม่ไม่มีนโยบายการพลีชีพส.ส. ยืนยันชัดๆ ว่า ไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน
ตอนที่นายธนาธรแถลงลาออกจากกมธ.งบประมาณ ได้บอกแล้วว่า จะเป็นส.ส.หรือไม่ สามารถทำงานการเมืองช่วยเหลือประชาชนได้ ได้วางแผนงานกันเอาไว้ว่างานในสภาฯ ให้ส.ส.ของพรรคดำเนินการ และมีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค เป็นแกนนำหลัก ส่วนนายธนาธร จะเดินสายพบประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อรณรงค์แคมเปญเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ.ที่สำคัญๆ เช่น ร่างพ.ร.บ.เกณฑ์ทหาร และการทำความเข้าใจเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ต้องถามผู้ที่ปล่อยข่าวว่า ต้องการอะไรจากเรื่องนี้กันแน่