💙🖤❤️💘 น้ำหยดที่ 4 อะกิโกะนัดศักดิ์ไปท่องเที่ยวที่อินเดีย (จีบฝรั่งที่ปักษ์ใต้)

                  ช่วงระยะเวลาปีกว่าศักดิ์ได้เขียนจดหมายไปหาอะกิโกะบ่อยๆ เกือบทุกวันก็ว่าได้ บางครั้งก็โทรไปหา อะกิโกะได้สำเร็จการศึกษาที่มหาวิทยาลัยแล้ว จึงอยากจะท่องเที่ยวก่อนที่เข้าทำงานที่บริษัท จึงเขียนจดหมายถึงศักดิ์ชวนศักดิ์ท่องเที่ยวด้วยกันที่อินเดียและเนปาลรวมประมาณ 1 เดือน จึงนัดกันพบที่ถนนข้าวสาร (กรุงเทพฯ)ซื้อตั๋วเครื่องบินที่นั่น อะกิโกะต้องการกางเกงขายาว ศักดิ์จึงพาไปซื้อที่จ.ชลบุรี คนต่างจังหวัดไม่ค่อยได้เห็นสาวญี่ปุ่น หนุ่มเพื่อนรุ่นน้องของศักดิ์บอกศักดิ์ว่าแนะนำสาวญี่ปุ่นแบบนี้ให้ 1 คน(อะไรจะง่ายดายขนาดนั้น)

                 วันเดินทางมาถึง ทั้งสองไปที่สนามบิน ศักดิ์ได้พบชาวอินเดียและชาวญี่ปุ่นที่ห้องผู้โดยสารขาไปประเทศอินเดีย ชาวญี่ปุ่นเป็นนักศึกษาปี 1-4 ช่วงปิดเทอมและชาวญี่ปุ่นที่ชอบท่องเที่ยว ทำงานได้เงินแล้วหยุดท่องเที่ยว เงินหมดแล้วหาเงินใหม่ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะพกหนังสือที่คนญี่ปุ่นเป็นคนเขียน "chikyu no a rukikata" หน้าปกหนังสือสีเหลือง ส่วนสันหนังสือสีฟ้าเขียนโดยคนญี่ปุ่น เป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ อะกิโกะก็เช่นกัน ศักดิ์นักศึกษาชายชาวญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่งประมาณ 4-5 คน ขณะนั้นอะกิโกะเข้าห้องน้ำอยู่ มีชายญี่ปุ่นหนึ่งถามศักดิ์ว่าพบอะกิโกะที่ไหน?ศักดิ์ทำงานอะไร ทำไมสาวคนนี้น่ารักจังเลย พวกเขาเป็นผู้ชายญี่ปุ่นแท้ๆยังไม่สามารถมีแฟนเป็นสาวๆญี่ปุ่นน่ารักแบบนี้ได้เลย เมื่อเครื่องบินถึงอินเดียแล้ว ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่พบบนเครื่องบินลำเดียวกันจะพบกันอีกที่ห้องพักเดียวกัน เพราะจะพักตามที่หนังสือแนะนำไว้ ระหว่างทางที่เดินทางทั้งทางรถบัสและทางรถไฟ อะกิโกะและศักดิ์จะผลัดกันซื้ออาหารและน้ำตามสถานีอีกคนหนึ่งจะเฝ้าเป้อยู่บนรถ ส่วนห้องพัก ร้านอาหาร อะกิโกะจะเป็นคนเลือกเอง ศักดิ์ได้แต่ติดตามอย่างเดียว



      มีอยู่ค่ำหนึ่งรถบัสมาถึงปลายทางค่อนข้างดึก ข้างทางมืดและเปลี่ยวมากๆ ร้านค้าบ้านของชาวอินเดียปิดกันหมดแล้วมีแท๊กซี่ ตุ๊กๆ หลายคันเข้ามาถามว่าจะไปไหน?อะกิโกะและศักดิ์ไม่ได้บอกเพราะเคยบอกจะพักที่แห่งหนึ่งที่อยากจะไปแต่แท๊กซี่กลับพาไปอีกหนึ่ง(แท๊กซี่และตุ๊กๆ จะได้ค่าเปอร์เซนต์ จากการพาแขกเข้าห้องพักที่ตัวเองพาไป)ทั้งศักดิ์และอะกิโกะเริ่มเดินออกจากสถานีรถบัสแต่สถานที่อะกิโกะอยากพักนั้นอยู่ไกล ยิ่งกลางคืนยิ่งมองหาลำบาก เพราะมืดและร้านค้าปิดแล้ว ศักดิ์เดินผ่านโรงแรมเล็กๆแห่งหนึ่งจึงบอกอะกิโกะหยุดและเดินเข้าไปถามพนักงานโรงแรมว่ามีห้องว่างราคา 500 - 600 รูปี 

        ศักดิ์จึงวิ่งมาบอกอะกิโกะว่า “เราควรพักที่ห้องข้างถนนนี้สถานที่เธออยากจะไปอยู่ไกลและอาจจะหลงทาง ดึกมากแล้วและอันตรายมาก” แต่อะกิโกะไม่ฟังดื้อดึงอยากจะเดินไปอีก ทั้งเหนื่อยทั้งร้อนศักดิ์รำคาญจึงบอกว่า "อย่างนั้นเธอเดินไปคนเดียวนะอะกิโกะ ฉันไม่ไปนะ ฉันกลัวถูกปล้น"อะกิโกะโกรธหน้าแดงส่งเสียงดัง "ไม่ได้ศักด์ต้องไปด้วยกัน ฉันอยากจะพักที่โน่น ฉันดูในรูปภาพแล้วที่นั่นสวยมากๆ”ทะเลาอยู่ได้พัก ศักดิ์เบื่อระอาจึงเดินไปกับเธอ ที่ๆอะกิโกะอยากจะพัก กว่าจะถึงที่พักนั่นใช้เวลามากๆทั้งกลัวทั้งเหนื่อยร้อนและเครียด....

         ศักดิ์เคยได้ยินวัยรุ่นญี่ปุ่น ถูกหลอกโก่งราคาสินค้าบ้าง  ถูกฆ่าบ้าง ถูกข่มขืนบ้าง เลยคิดในใจ 'มิน่าหล่ะ บางแห่งคนญี่ปุ่น ถูกปล้นถูกฆ่า ถูกข่มขืน เพราะมองแต่แง่ดีๆ คงจะดื้อด้านแบบอะกิโกะมั๊ง ไม่มีจิตใต้สำนึกเลย’ คืนนั้นเขาหลับสนิทเพราะความเหนื่อย 2 คนท่องเที่ยวไปหลายๆแห่ง ศักดิ์อยากจะไปตัดผมจึงถามชาวบ้านชาวอินเดียว่าค่าตัดผมเท่าไร?เพราะที่นี่จะบอกราคาสูงเกินความเป็นจริงสำหรับนักท่องเที่ยว ชาวบ้านบอกว่า 40 รูปีพอศักดิ์เข้าไปร้านตัดผมช่างบอกว่า " 120 รูปี "ศักดิ์จึงต่อเหลือ 50 รูปี ช่างตอบตกลง ตัดผมเสร็จเดินกลับไปที่ห้อง “ตัดผมมาเท่าไร?”ศักดิ์จึงเล่าเรื่องราคาให้ฟัง อะกิโกะตอบว่าที่เมืองไทยตัดเท่าไร?” "120 รูปี"อะกิโกะทำท่าตกใจ "อ้าวแล้วเธอไปต่อช่างตัดผม 50 รูปีทำไมทั้งๆที่เมืองไทย 120 รูปี" ศักดิ์ย้อน "แล้วเวลาเธอกินข้าวที่ญี่ปุ่น 500 - 700 เยนเธอกินข้าวที่อินเดียเธอทำไมไม่จ่ายเท่าญี่ปุ่นหล่ะ?และผลไม้ที่ญี่ปุ่นแพง เธอทำไมไม่จ่ายเท่าญี่ปุ่นหล่ะ”อะกิโกะ หน้าบึ้งตึงเงียบไม่ตอบอะไร....บางครั้งมีคำถามแปลกๆจากฝ่ายหญิง เช่น ศักดิ์ทำไมเธอไม่โกนขนหน้าแข้ง และขนที่แขนหล่ะ...ฯลฯ

      ศักดิ์ดูแผนที่เพื่อนชายชาวญี่ปุ่นที่พักข้างห้องที่พักเดียวกัน ใกล้ๆจะถึงพุธคยาแล้วจึงบอกอะกิโกะว่าจะไปพุธคยาด้วยกันไหม?อะกิโกะมองหน้าศักดิ์ “ฉันไม่ไปฉันไม่ใช่ชาวพุทธ ศักดิ์จึงไปคนเดียว พักที่นั่น 2 วันเขารู้สึกโล่งที่พักคนเดียว ไม่ต้องมีใครมาชวนทะเลาะด้วยหรือถามอะไรแปลๆ ช่วงที่อยู่อินเดียอะกิโกะท้องร่วง ศักดิ์ต้องดูแล พาเธอไปหาหมอ ซื้ออาหาร ซักผ้า 2-3 วัน หลังจากนั้นไปเนปาล ศักดิ์เป็นไข้หวัด หายามากินและนอนอยู่ในห้องคนเดียวส่วนอะกิโกะไปเที่ยวข้างนอกไม่ดูแลศักดิ์เลย

            วันต่อมาช่วงเช้าศักดิ์รู้นิสัยอะกิโกะและเบื่อคำถามและความคิดแปลกๆความดื้อดึง พูดจาเอาแต่ชนะอย่างไร้เหตุผลจึงคุยกับอะกิโกะตรงๆ “เราแยกกันเดินทางดีกว่าเพราะความคิดเราต่างกันมาก” “ไม่ได้ศักดิ์เธอสัญญาจะไปท่องเที่ยวกับฉันแล้ว”อะกิโกะคัดค้าน“เธอไปคนเดียวซิเพราะเธอดื้อดึง รู้ไปทุกอย่าง ความคิดเราต่างกันมากนะอิกิโกะ”ศักดิ์ขึงขังพูดต่อ “เธอป่วยฉันดูแลเธอ แต่เวลาฉันป่วยเธออกไปเที่ยว” อะกิโกะเสียงอ่อนลง “ถ้าเธอไม่ไปกับฉัน ฉันจะไปได้อย่างไร ฉันกลัวนะในประเทศอินเดียคนค่อนข้างน่ากลัว” ทำท่าจะร้องไห้ “เอาอย่างนั้นก็ได้ฉันจะไปกับเธอ” ศักดิ์ดูตั๋วเครื่องบินวันกลับเมืองไทย ต้องอดทนจนกว่าจะถึงวันกลับเมืองไทย ที่เนปาลศักดิ์เดินไปดูตามเสาไฟ บ้านที่ปิดร้าง พบใบแจ้งคนหายพิมพ์บนกระดาษเอ 4 มีรูปภาพชื่อนามสกุล เบอร์สถานฑูตญี่ปุ่นสำหรับผู้ติดต่อกลับ รางวัลในการแจ้ง เบาะแส ผู้ใดพบหรือรู้เกี่ยวกับนักศึกษาชายชาวญี่ปุ่น ซึ่งใบแจ้งคนหายนี้ศักดิ์พบตั้งแต่อยู่อินเดียแต่ไม่ได้สนใจ ปิดมาถึงประเทศเนปาลเลย คนหายไปประมาณเดือนกว่าแล้ว

                หลังจากท่องเที่ยวเนปาลเข้าอินเดีย อินเดียนั่งเครื่องมาลงที่ไทย ศักดิ์พาอะกิโกะเข้าพักที่บ้านที่กรุงเทพฯ ศักดิ์รู้สึกโล่งอกโล่งใจ อะกิโกะรอเครื่องบินกลับโตเกียวอีก 3 วันเลยอยากจะพาเธอเที่ยวเป็นครั้งสุดท้าย เขามองหน้าอะกิโกะ “อยากจะไปท่องเที่ยวที่ไหนไหม?ในระหว่าง 3 วันนี้” อะกิโกะเปิดดูหนังสือท่องเที่ยวของเธออีก “สวนสน หัวหิน”เธอชี้รูปภาพในหนังสือท่องเที่ยวให้ศักดิ์ดู “โอเค หัวหิน เราไปกันกี่วันดี?” “2 วันแล้วกัน” “ได้ๆ”ไปถึงหัวหิน สวนสนศักดิ์เดินออกจากห้องมาพร้อมอะกิโกะคุยกันภาษาญี่ปุ่น มอร์เตอร์ไซด์รับจ้างได้ยินชวนไปเที่ยว “จะไปไหนกันไปส่งไหมครับ” “ไม่ไปครับ เดินแถวนี้ครับพี่” ศักดิ์ตอบยิ้มๆ วันขึ้นเครื่องมาถึงแล้วศักดิ์พาอะกิโกะขึ้นรถเมลล์ไปส่งที่สนามบิน ในใจคิดคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ศักดิ์กลับไปที่เกาะทำงานต่อ ไม่ได้เขียนจดหมายและไม่โทรหาอะกิโกะอีกเลย..

                   จู่ๆก็มีจดหมายมาจากอะกิโกะขอบคุณที่ดูแลขณะเธอป่วยที่อินเดียและขอโทษขณะที่ศักดิ์ป่วยแล้วไม่ได้ดูแล ศักดิ์ไม่ตอบจดหมายใดๆเพราะเบื่อ หลังจากนั้นก็มีจดหมายมาอีกฉบับจากอะกิโกะ เรื่อง มาชวนศักดิ์ไปเที่ยว ที่พม่าด้วยกัน 1 อาทิตย์ศักดิ์ปฏิเสธ “ผมไม่มีเงินพอ” แต่จดหมายตอบจากอะกิโกะมาอีก 1 ฉบับ “ถ้าศักดิ์ไม่มีเงินไม่เป็นไรฉันจะออกให้”ศักดิ์จึงเขียนจดหมายไปใหม่ข้อความสั้นๆ “ไม่ว่างไป” หลังจากนั้นไม่นานมีคู่รัก 1 คู่มาจากโตเกียว ผู้ชายเป็นฝรั่ง เขาทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นส่วนผู้หญิงเป็นสาวญี่ปุ่นอายุทั้งสองคน คร่าวๆ 30 กว่าปี ทั้งคู่ได้แวะมาคุยกับศักดิ์บ่อยๆ ศักดิ์อยากรู้ความคิดเห็นของคู่รักคู่นี้ว่า ระหว่างเขากับอะกิโกะเป็นอย่างไร ศักดิ์เล่าเรื่องตั้งแต่เขาเริ่มคบกับอะกิโกะและไปท่องเที่ยวที่อินเดีย คู่รักถามศักดิ์อย่างละเอียดแต่คู่รักนี้ ยังไม่ออกความคิดเห็นใดๆทั้งสิ้น ก่อนคู่รักจะกลับญี่ปุ่นพวกเขาขอที่อยู่ขอศักดิ์และที่อยู่ของอะกิโกะและเบอร์มือถือของเธอ พวกเขาบอกว่าจะไปคุยกับอะกิโกะ หลังจากนั้นประมาณไม่นานมีจดหมายจากคู่รักคู่นี้ ส่งมาถึงศักดิ์แจ้งว่าพวกเขาไปพบอะกิโกะแล้วคุยและดูพฤติกรรมต่างๆแล้ว บอกศักดิ์ว่าไม่สมควรคบกันต่อไปอีก ควรถอยออกมา และรอหาคนใหม่.....

  มีสาวญี่ปุ่นมาแวะที่ร้านศักดิ์คราวนี้เป็นคนผิวคล้ำอายุประมาณเกือบ 30 ปีค่อนข้างสูงเหมือนฝรั่งดูเผินไม่ใช่คนญี่ปุ่น เธอชอบท่องเที่ยวไม่ชอบอยู่ในญี่ปุ่น เธอท่องเที่ยวมาหลายที่ ไปทำงานที่ต่างประเทศคือ เก็บผลไม้ แอปเปิ้ล แพร์ ฯลฯเธอไม่ยึดเงินเป็นหลัก ทำงานมีเงินก็ท่องเที่ยวไปพอกลับญี่ปุ่นเธอจะซื้อหนังสือที่รับหางานทประเภททำงานชั่วคราวเช่น ทำงาน 3-6 เดือน มีเงินอีกก็ท่องเที่ยวต่อ เธอเล่าให้ศักดิ์ฟังว่า พ่อแม่ของเธอชอบด่าว่าทำไมไม่ทำงานประจำ จะได้มีโบนัส ใส่เสื้อผ้าสวยๆ มีรถ มีเงินเยอะๆชีวิตจะได้สบายยามแก่ ต้องรีบมีครอบครัวมีลูกไวๆ งานของเธอ คือ ไปทำงานที่สนามสกี ช่วงที่หิมะตกฤดูหนาวของญี่ปุ่น หรือไปเสริฟอาหารชั่วคราวตามร้านอาหาร เธอไม่สะสมสินค้าแบรมด์เนม เช่น นาฬิกา กระเป๋าถือ หรือสิ่งของอื่นๆ ฯลฯศักดิ์นัดเธอไปว่ายน้ำ และเธอนัดศักดิ์ไปเที่ยวบ้านของเธอที่ญี่ปุ่น คุระชิกิ สะพานแขวน “เซโตะโอฮะชิ” เธอบอกศักดิ์ว่าอยากจะอยู่ต่างประเทศเพราะเธอคิดไม่เหมือนคนญี่ปุ่นทั่วๆไป เช่นพ่อแม่ของเธอและความคิดของคนญี่ปุ่น หลังจากนั้นอีกหลายปีศักดิ์ได้ข่าวจากเพื่อนของเธอว่าเธอไปแต่งงานกันคนอินโดนิเซียทำงาน พอยังชีพได้และอยู่ที่นั่นเลย นานๆกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ครั้งนึง

               ส่วนอีกคนเป็นสาวญี่ปุ่น รูปร่าง อวบๆไม่ค่อยสูงมากันสองคน ก็แวะมาคุยที่ร้านของศักดิ์ชวนศักดิ์ไปว่ายน้ำ ไปเต้นกินดื่มที่บาร์ หลังจากนั้นเธอก็มาหาศักดิ์อีก....ศักดิ์สังเกตุดูคนญี่ปุ่นที่มาท่องเที่ยวจะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ พอพบคนพูดภาษาญี่ปุ่นได้คุยกันยาว เลย สาวอวบๆคนนี้ปีถัดมา มาหาศักดิ์ที่เกาะอีกคราวนี้มาคนเดียว เอารูปภาพมาให้แต่ศักดิ์ก็เฉยๆไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ศักดิ์นั่งคิดอยู่ในใจ ‘แฟนเราถ้าเป็นคนญี่ปุ่นคงผิวคล้ำๆหรือคนอวบๆไม่สวยเหมือนดาราสาวหนังโป๊แน่เลย คนสวยเอาแต่ใจตัวเอง ชอบอยู่สบาย’



    สาวฝรั่งก็มีมานั่งคุยมากกว่าสาวญี่ปุ่น เพราะฝรั่งมีหลายชาติ บางคนมานั่งคุยเวลาศักดิ์ขายเครื่องเงิน บางคนซื้อโรตีมานั่งกินข้างๆที่ศักดิ์เปิดร้าน (ร้านค้าข้างถนนแบกะดิน)เปิดประมาณ 10 น.เอาเครื่องเงินมาวางจัดขายถึงบ่าย 1 โมงเก็บเครื่องเงิน เช่น แหวน ต่างหู จี้ สร้อยเงิน เก็บใส่กล่องเหล็กแล้วเอาฝากที่ร้านค้าที่เขาเช่า พักผ่อน ช่วงบ่าย 1- 3.50 โมง หลังจากนั้นเปิดร้านประมาณ 4 โมงเย็นถึง 4 ทุ่มศักดิ์ไม่เน้นรายได้เป็นหลัก เน้นความสนุกสนานและพักผ่อน ผู้หญิงฝรั่งก็มานั่งคุยอยู่เรื่อยๆหลากหลายอายุ มาถามว่าขาย ตั้งแต่กี่โมง เลิกกี่โมง พักผ่อนกี่โมง เธอจะได้มาถูกเวลา บางคนก็จะมาก่อนเวลาเพื่อช่วยศักดิ์เก็บเครื่องเงินลงกล่องเหล็ก บางคนมานั่งรอก่อนเปิดมาช่วยจัดเครื่องเงินให้สวยงาย มีหลายชาติหลายภาษา หลายอายุ ตั้งแต่ 20 ปีขึ้นถึง 30 ปลายๆทุกคนพูดภาษาอังกฤษได้ดี ศักดิ์ยังงงว่า ทำไมสาวฝรั่งมานั่งรอหรือนั่งคุยหรือชวนเขาไปเล่นน้ำ ไปเดินเล่น  บางคนมาทุกวัน ผู้ชายฝรั่งก็มาบ้างมาถามหรือไม่ก็มาซื้อเครื่องเงินแล้วก็ไปไม่กลับมาอีก เขาสังเกตุสาวฝรั่งจะมาคนเดียวไม่มีเพื่อนผู้หญิงและไม่มีเพื่อนผู้ชายตามมาด้วย
กรุณา อย่าคิดและเหมารวมว่าสิ่งที่ศักดิ์พบหรือเห็นจะเป็นแบบนี้ทั้งหมด ในแหล่งท่องเที่ยวของเมืองไทย
ตอนต่อไป..........
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่