วันนี้เราได้รับการรับเชิญจาก PR ของโรงแรมโนโวเทล สุขุมวิท 4 ให้เข้ามารีวิวห้องอาหาร Food Exchange เป็นบุฟเฟ่ต์มื้อกลางวันอาหารไทยและอาหารนานาชาติ จัดเฉพาะวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 12.00 - 15.00 น. จ่ายแค่เพียงคนละ 699 บาท หากจ่ายด้วยบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ (CitiBank , SCB , KBank) ลดเพิ่มทันที 50% เหลือเพียงคนละ 350 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่น Pay Day Special ลดทันที 60% เหลือแค่คนละ 280 บาท (เฉพาะวันที่ 29 พฤศจิกายนและ 2 ธันวาคมนี้เท่านั้น) แค่ได้ยินก็รู้สึกแล้วว่าคุณค่าคุ้มราคาอย่างแน่นอนแต่ว่าไลน์อาหารจะมีให้เลือกเยอะและรสชาติจะดีสักแค่ไหน? เดี๋ยวเราเดินเข้าไปดูด้านในห้องอาหารพร้อมกันเลยครับผม

บรรยากาศภายในห้องอาหารของที่นี่ไม่เหมือนกับโรงแรมโนโวเทลที่อื่น เพราะเฟอร์นิเจอร์ที่นี่ค่อนข้างใหม่และมีความเป็นโมเดิร์นมากกว่า(เห็นว่าที่นี่เพิ่งเปิดใหม่) มีให้เลือกนั่งหลายโซนทั้งโต๊ะขนาดเล็ก/โต๊ะขนาดใหญ่/โซฟา จะมากันแค่สองคนหรือมากับเพื่อนเป็นกลุ่มใหญ่ ที่ห้องอาหารก็มีโต๊ะหลากหลายแบบให้เลือกใช้กันได้อย่างเต็มที่ครับ

เริ่มสำรวจไลน์อาหารกันครับ ที่นี่มีให้เลือกทานค่อนข้างหลากหลายเมนู โซนแรกเป็นเหมือนอาหารทานเล่นทั้งไทยและฝรั่ง "กุ้งผัดหน่อไม้ฝรั่งซอสมาโย" กุ้งตัวขนาดกลางเนื้อเด้งผัดกับหน่อไม้ฝรั่งกรุบกรอบเพิ่มความหอมมันด้วยมายองเนสปรุงรสเปรี้ยว เผ็ดนิดๆ ทานได้เรื่อยๆ เมนูถัดมาเป็น"เป็ดอบซอสส้ม" อกเป็ดเนื้อแน่นติดหนัง ย่างจนสุกสีชมพูกำลังดี ราดด้วยซอสส้มรสเปรี้ยวหวานหอมกลิ่นส้ม ช่วยตัดความคาวของเป็ดได้เป็นอย่างดีเลยครับ

"ขนมปังหน้าหมู" ขนมปังเนื้อหนานุ่มตัดเป็นสี่เหลี่ยม วางด้านบนด้วยหมูสับปรุงรสใส่เครื่องสามเกลอ (รากผักชี/กระเทียม/พริกไทย) ทอดจนเนื้อหมูสุกแต่ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน ทานกับอาจาดรสหวานเปรี้ยว ใส่พริกชี้ฟ้าหอมแดงและแตงกวาเคี่ยวกรุ๊บกรอบ ช่วยตัดความเลี่ยนของขนมปังหน้าหมูได้เป็นอย่างดี เมนูถัดมาคือ"เนื้อย่าง" เนื้อส่วนสันนอกไขมันน้อยย่างมาสุกกำลังดีเนื้ออมชมพู หอมกลิ่นถ่านที่ใช้ย่าง ก่อนเสิร์ฟพนักงานจะทำการลนไฟให้มีความไหม้เกรียมขึ้นอีกเล็กน้อย ทานคู่กับผักย่างและน้ำจิ้มอีก 6 ชนิด (ซอสบาร์บีคิว /มัสตาร์ด /ซอสเกรวี่ /ซอสมะเขือเทศ /มัสตาร์ดแบบเมล็ด /วูสเตอร์ซอส)ตักไปทานคู่กับเนื้อย่างได้ตามใจ แต่ตัวเนื้อค่อนข้างเหนียวไปนิดครับ

โซนถัดมาเป็นพิซซ่าสไตล์อิตาเลียน แป้งบางกรอบมีให้เลือกถึง 4 หน้าได้แก่ Diavora Pizza พิซซ่าหน้าซาลามี่รสเปรี้ยว โรยหน้าด้วยชีสแน่นๆ และมะกอกดำ Prosciutto Pizza พิซซ่าหน้าชีส พาม่าแฮมและผักร๊อกเก็ต Italian Sausage Pizza พิซซ่าหน้าไส้กรอกอิตาเลี่ยน โรยหน้าด้วยชีสพริกหยวกหลากสี หอมใหญ่ และไส้กรอกรมควัน 4 Cheese Pizza พิซซ่ารวมชีสสี่ชนิด ใครที่ชอบทานชีสแบบเน้นๆต้องรีบตักไปทานครับ สุดท้ายคือเมนู Salmon Quiche แป้งด้านนอกกรอบ เนื้อคีชด้านในนุ่มหอมกลิ่นเนย/ชีส/เนื้อแซลมอน ทานได้อร่อยเพลินๆดีครับ

โซนต่อมาเป็นอาหารจานหลัก เริ่มจากอาหารไทยอย่าง"ข้าวผัดต้มยำซีฟู้ด" รสชาติเข้มข้น หอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรไทย ใส่ซีฟู้ดมาให้ทั้งกุ้งและปลาหมึกแบบจุใจ เสิร์ฟมาพร้อมกับผักสดและพริกน้ำปลา แต่ขอแนะนำว่าก่อนทานให้บีบมะนาวสดลงไป ช่วยเพิ่มความเปรี้ยว/หอมและทำให้ครบรสตำรับต้มยำมากขึ้น เมนูถัดมาเป็น"ปลาผัดเปรี้ยวหวาน" ปลาดอรี่ชุบแป้งทอด นำไปผัดกับซอสเปรี้ยวหวานและผักต่าง รสชาติเข้มข้น ตัวซอสเปรี้ยวหวานซึมเข้าไปในแป้งชุบทอด อร่อยดีครับ เมนูถัดมาเป็น"คะน้าผัดน้ำมันหอยและเห็ดหอม" ทางห้องอาหารเลือกเฉพาะเอาส่วนยอดคะน้า ที่มีความกรอบหวาน ผัดกับซอสหอยนางรมรสชาติกลมกล่อม เพิ่มความหอมด้วยเห็ดหอมและกระเทียมเจียว ทานเปล่าๆ หรือทานกับข้าวสวยก็อร่อยครับ (แต่ไลน์อาหารไม่มีข้าวสวยนะครับ มีแต่ข้าวผัดต้มยำ)

เมนูสำหรับทานกับข้าวสวยยังไม่หมดแค่นี้ยังมี"ไก่ย่างซอสเห็ด" ไก่ส่วนสะโพกนำไปย่างจนสุกกำลังดีราดด้วยซอสเห็ดรสชาติเค็มเล็กน้อย จะทานคู่กับข้าวหรือว่าผักย่างรสชาติก็ถือว่าพอใช้ครับ "ไก่เทอริยากิ" ไก่ส่วนสะโพกย่างหอมกลิ่นเตาถ่าน ราดด้วยซอสเทริยากิรสหวานเค็มหอมกลิ่นน้ำมันงา รสชาติค่อนข้างหนักเค็มไปนิดนึงแนะนำว่าให้ทานกับข้าวจะดีที่สุด ต่อกันด้วย"บล๊อกโคลี่อบชีส" ความกรอบของผักเข้ากันได้ดีกับความเค็มและมันของชีส สุดท้ายเป็น"ต้มข่าไก่"เข้มข้นด้วยกะทิและเครื่องสมุนไพรไทยแบบเต็มๆ จะซดเฉยๆหรือทานกับข้าวสวยก็ดีงามครับ

นอกจากจะมีซุปต้มข่าไก่ให้ซดแล้ว ใครที่อยากได้เมนูซุปพร้อมเส้นร้อนๆ ที่ห้องอาหารมีเย็นตาโฟที่สามารถสั่งกับน้องพนักงานได้เช่นเดียวกัน เลือกได้ว่าจะทานแบบเกาเหลา หรือใส่เส้นอะไร(เส้นใหญ่/เส้นเล็ก/เส้นบะหมี่) ก็สั่งได้เลยครับ มาพร้อมกับเครื่องปรุงแบบครบสำรับ อยากทานรสชาติไหนก็ปรุงได้เลย ยังมีอาหารญี่ปุ่นอย่างซูชิหน้าต่างๆให้เลือกทาน (ถึงจะมีอยู่ไม่กี่เมนูก็เถอะ) ที่ชอบที่สุดคือจ่ายราคานี้ได้กิน Cold Cut ถึง 3 รายการ มาพร้อมกับผักดองทานคู่กัน ถ้าเทียบกับหลายโรงแรมที่ขายบุฟเฟ่ต์ราคานี้ ไม่เคยเห็นนำ Cold Cut มาเสิร์ฟให้ทานนะครับ 

ความคุ้มยังไม่หมดแค่นี้ เพราะยังมีสลัดบาร์ที่เราสามารถเลือกผักต่างๆ ทานกับน้ำสลัดได้ถึง 3 แบบ สลัดปรุงรสพร้อมทาน 5 ชนิด (แต่ละอย่างใส่วัตถุดิบชั้นดีมาค่อนข้างจัดเต็ม) ใครที่เป็นสาวกชีส ที่นี่มีให้ทานถึง 4 ชนิด มาพร้อมกับผลไม้สด/แห้ง แบบเดียวกับบุฟเฟ่ต์มื้อเย็นโรงแรมอื่น เป็นไลน์บุฟเฟ่ต์มื้อเที่ยงที่ค่อนข้างจัดเต็มเลยครับ

ขนมหวานของที่ห้องอาหารนี้ก็ถือว่าจัดเต็มสุดๆ ทั้งผลไม้สดต่างๆ(แบบเป็นลูกและตัดแต่งพร้อมทาน) คาราเมลคัสตาร์ด คัพเค้กหน้าต่างๆ(แต่รสชาติคล้ายๆกัน) เค้กช็อกโกแลต แพนนาคอตต้าทับทิม ทาร์ตฟักทอง ช็อกโกแลตมูสและกาแฟสดแบบกดตู้อัตโนมัติ โดยขนมหวานทั้งหมดถูกแช่เอาไว้ในตู้เย็นแบบเปิด รักษาอุณหภูมิก่อนรับประทานได้เป็นอย่างดี ไม่ได้วางเอาไว้โดยไม่รักษาอุณหภูมิแบบหลายๆโรงแรม ดูเอาใจใส่คนทานดี ขอชื่นชมครับ

นอกจากนี้ยังมีฟองดูช็อกโกแลต ให้เราเลือกเอาผลไม้สดต่างๆมาเสียบไม้ พร้อมกับจุ่มลงในช็อกโกแลตแบบเข้มข้น ขนมปังแบบต่างๆในตะกร้าที่เราสามารถตัดไปทานได้ตามใจ ตู้ข้างๆกันเป็นไอศครีมพร้อมกับท็อปปิ้งหลากหลาย (ที่นี่ใช้ไอศกรีมของ ETE) โดยวันนี้มีให้เลือกทานทั้งหมด 3 รสได้แก่รสสตอเบอรี่/รสชาเขียวและช็อกโกแลต

นึกว่าจะหมดแล้วแต่ทางโรงแรมบอกว่ายังไม่หมดแค่นี้ครับ ยังมีโซนอาหารไทยซึ่งเป็นเมนูยำอยู่อีก บริเวณขวามือสุด วันนี้มีให้เลือกทาน 2 เมนูได้แก่ลาบไก่และยำคอหมูย่าง รสชาติเปรี้ยว/หวาน/เค็มกำลังดี แต่ถ้าใครรู้สึกว่ายังเผ็ดไม่สาแก่ใจ ก็ยังมีพริกทอดให้ทานคู่กันได้อีกด้วย ส่วนเครื่องดื่มในบุฟเฟ่ต์นั้นมีให้เลือกทั้งน้ำเปล่าและ Soft Drinks ผิดกับหลายโรงแรมที่มันจะเสิร์ฟแค่น้ำเปล่า หรือบางที่ไม่เสิร์ฟน้ำให้เลย ทำให้ที่นี่ผมรู้สึกว่าคุ้มค่ามากครับ