วันที่ 5 มีนาคม 2562 - 15:47 น.
ครม.ไฟเขียว ให้ บ.ปูนซิเมนต์ไทย ทำเหมืองในป่าสงวนทับกวาง-ป่ามวกเหล็ก 3 พันไร่ ไปถึงปี 2579 หลังชะงักมาตั้งแต่ปี’54
วันที่ 5 มีนาคม ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน มีมติอนุมัติผ่อนผันให้บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าทับกวางและป่ามวกเหล็ก จ.สระบุรี เพื่อทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เสนอขอผ่อนผันให้บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าทับกวางและป่ามวกเหล็ก แปลงที่ 1 จำนวน 15 แปลง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ ในท้องที่ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก และตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี รวมเนื้อที่ 3,223 ไร่ 2 งาน 25 ตารางวา (พื้นที่ประทานบัตร 15 แปลง มีเนื้อที่รวม 3,311 ไร่ 2 งาน 67 ตารางวา) เพื่อทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน เพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ เนื่องจากหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติสิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2554 แต่อายุประทานบัตรเหมืองแร่ยังคงเหลืออยู่ถึงวันที่ 27 เมษายน 2579
กรมทรัพยากรธรณีได้พิจารณาข้อมูลแหล่งแร่ในพื้นที่ดังกล่าวแล้วพบว่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพและปริมาณสำรองที่สามารถทำเหมืองได้ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเห็นว่า ในช่วงการอนุญาตที่ผ่านมาผู้รับอนุญาตได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการอนุญาตถูกต้องครบถ้วน และได้จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมภายหลังการทำเหมืองแร่ (Post Evaluation) ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว (และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติให้บริษัทเฝ้าระวังด้านสุขภาพอนามัยของประชาชนและคนงาน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม มาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมภายหลังการทำเหมืองแร่อย่างเคร่งครัดด้วย) ดังนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความเห็นให้บริษัทได้รับการพิจารณาผ่อนผันให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เป็นการเฉพาะรายต่อไปได้จนสิ้นอายุประทานบัตร วันที่ 27 เมษายน 2579
https://www.matichon.co.th/politics/news_1392149
ครม.ไฟเขียว บ.ปูนซิเมนต์ไทย ทำเหมืองในป่าสงวนทับกวาง-ป่ามวกเหล็ก 3 พันไร่ ถึงปี’79
วันที่ 5 มีนาคม 2562 - 15:47 น.
ครม.ไฟเขียว ให้ บ.ปูนซิเมนต์ไทย ทำเหมืองในป่าสงวนทับกวาง-ป่ามวกเหล็ก 3 พันไร่ ไปถึงปี 2579 หลังชะงักมาตั้งแต่ปี’54
วันที่ 5 มีนาคม ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน มีมติอนุมัติผ่อนผันให้บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าทับกวางและป่ามวกเหล็ก จ.สระบุรี เพื่อทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้เสนอขอผ่อนผันให้บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าทับกวางและป่ามวกเหล็ก แปลงที่ 1 จำนวน 15 แปลง ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ ในท้องที่ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก และตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี รวมเนื้อที่ 3,223 ไร่ 2 งาน 25 ตารางวา (พื้นที่ประทานบัตร 15 แปลง มีเนื้อที่รวม 3,311 ไร่ 2 งาน 67 ตารางวา) เพื่อทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน เพื่ออุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ เนื่องจากหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติสิ้นสุดลงแล้วตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2554 แต่อายุประทานบัตรเหมืองแร่ยังคงเหลืออยู่ถึงวันที่ 27 เมษายน 2579
กรมทรัพยากรธรณีได้พิจารณาข้อมูลแหล่งแร่ในพื้นที่ดังกล่าวแล้วพบว่า บริเวณพื้นที่ดังกล่าวมีศักยภาพและปริมาณสำรองที่สามารถทำเหมืองได้ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเห็นว่า ในช่วงการอนุญาตที่ผ่านมาผู้รับอนุญาตได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการอนุญาตถูกต้องครบถ้วน และได้จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมภายหลังการทำเหมืองแร่ (Post Evaluation) ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้ว (และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีมติให้บริษัทเฝ้าระวังด้านสุขภาพอนามัยของประชาชนและคนงาน และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม มาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมภายหลังการทำเหมืองแร่อย่างเคร่งครัดด้วย) ดังนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความเห็นให้บริษัทได้รับการพิจารณาผ่อนผันให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 เอ เป็นการเฉพาะรายต่อไปได้จนสิ้นอายุประทานบัตร วันที่ 27 เมษายน 2579
https://www.matichon.co.th/politics/news_1392149