ภาวะซึมเศร้า พึ่งจิตแพทย์หรือพึ่งตัวเองก่อนดี??

สวัสดีค่ะ ขออนุญาตแท็กห้องสวนลุมพินีและห้องไกลบ้านนะคะ เพราะคนอยู่ต่างประเทศหลายคนต้องเจอเรื่องเครียดๆเยอะ และเราก็เป็นคนหนึ่งที่มาอยู่ต่างประเทศและประสบกับภาวะเครียดและกดดันจนทำให้มีภาวะนอนไม่หลับหลายวัน จนต้องพึ่งยานอนหลับอยู่หลายปี..... จริงๆยานอนหลับก็คือยาคลายเครียดที่มีผลต่อจิตประสาทนะคะ เราก็เพิ่งมารู้ตอนเราเลิกยานี่เอง จริงๆเราก็หาข้อมูลยานอนหลับอยู่เหมือนกัน เราพิมพ์หาคำว่ายานอนหลับอันตรายไหม กินหรือไม่กินดี อะไรประมาณนี้ และจากข้อมูลที่เราได้มา เราได้ข้อสรุปว่าไม่เป็นอันตราย ไม่ติด ควรกินเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนจากการนอนไม่หลับติดต่อกัน เราจึงไปพบแพทย์และขอยามากิน แรกๆเราก็กินบ้างไม่กินบ้างค่ะ หาข้อมูลอีกทีคนก็แนะนำว่าควรกินต่อเนื่องจะได้รักษาอาการนอนไม่หลับได้ดีขึ้น 2-3 ปีหลังมั้งที่เราเริ่มกินทุกคืน เราคิดว่าเราจะกินไปจนกว่าเราจะเริ่มนอนหลับได้ติดต่อกันซักเดือนสองเดือนแล้วก็จะเริ่มลดยา แต่วันนั้นก็ไม่เคยมาถึงเลยค่ะ เราเลยกินมาตลอดหลายปี หมอครอบครัวก็แสนจะใจดี เขียนใบสั่งยาให้เราทุกครั้งที่เราขอไปเป็นเวลาหลายปี

หลายปีก่อนเรานึกว่าเราหาข้อมูลดีแล้ว แต่ตอนที่หาข้อมูลนั้นเราพลาดข้อมูลสำคัญไปอย่างนึงคือ เราไม่ได้ค้นหาว่าเมื่อต้องการเลิกยานอนหลับจะเป็นยังไง เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันสาหัสสากรรจ์มาก จากที่อ่านมาคนที่เลิกยาทีละนิดตามที่หมอแนะนำ หรือคนที่เลิกแบบหักดิบจะเจอภาวะนอนไม่หลับอย่างรุนแรงแทบทั้งนั้น จนต้องกลับมาพึ่งยานอนหลับใหม่เพราะมันมีผลกระทบต่อการเรียนและการงาน สำหรับเรานั้นเราเจอภาวะซึมเศร้าช่วงเทคยาและนอนไม่หลับอย่างรุนแรงเกือบ 3 เดือนตอนเลิกยา แต่ตอนนี้การนอนหลับก็กำลังดีขึ้นทีนิดๆแล้ว

เราเห็นว่าบางทีเวลาใครพูดถึงว่ามีภาวะซึมเศร้า จะมีคนแนะนำให้ไปพบจิตแพทย์ เราเองก็เห็นดีด้วยกับคำแนะนำที่หวังดี แต่เราอยากให้คนที่มีภาวะซึมเศร้าได้อ่านข้อมูลเยอะๆประกอบการตัดสินใจ ก่อนที่จะไปพบแพทย์และได้รับยามากิน ว่าเมื่อคุณเริ่มกินยาแล้วคุณจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
เช่นกระทู้นี้ จขกท. หายจากโรคซึมเศร้าแล้วแต่ยังเลิกยานอนหลับไม่ได้ 
https://ppantip.com/topic/37239492

คุณอาจจะหาข้อมูลในเน็ตเพิ่มได้นะคะว่าการเลิกยานอนหลับนั้นยากแสนยากเพียงใด มีคนลงประสบการณ์ไว้เยอะเลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่