หลายคนอาจมองว่านอนกรนเป็นเรื่องปกติที่พบได้ทั่วไปทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย แต่รู้หรือไม่ว่าเสียงกรนที่ดังจนรบกวนคนข้างๆ หรืออาการสะดุ้งตื่นกลางดึก อาจเป็นสัญญาณของ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea: OSA) ซึ่งหากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่โรคร้ายแรง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคอ้วน และอาจเพิ่มความเสี่ยงถึงชีวิต
การสังเกตตัวเองและเข้ารับการตรวจ Sleep Test จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยวินิจฉัยและป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที มาดูกันว่า 6 สัญญาณนอนกรน แบบไหนที่บอกว่าคุณควรไปพบแพทย์โดยด่วน
1. กรนเสียงดังจนรบกวนการนอนของคนข้างเคียง
เสียงกรนที่ดังมากและต่อเนื่องอาจเป็นสัญญาณของภาวะทางเดินหายใจถูกอุดกั้น (OSA) ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อในช่องคอหย่อนคล้อยจนไปปิดกั้นทางเดินหายใจ ยิ่งอุดกั้นมาก เสียงกรนก็ยิ่งดังขึ้น การกรนลักษณะนี้มักมีปัจจัยเสริม เช่น น้ำหนักตัวเพิ่ม อายุที่มากขึ้น หรือการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน
2. กรนแล้วสะดุ้งตื่น หรือสำลักขณะหลับ
หากคุณมีอาการสะดุ้งตื่นกลางดึก สำลัก หรือต้องหายใจทางปาก นั่นอาจเป็นเพราะร่างกายหยุดหายใจชั่วขณะ ทำให้สมองต้องกระตุ้นการหายใจเพื่อป้องกันการขาดออกซิเจน ส่งผลให้นอนหลับไม่สนิทและตื่นมาไม่สดชื่น
3. นอนไม่หลับ หรือหลับๆ ตื่นๆ พร้อมกรนเสียงดัง
การนอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิทที่ต้องตื่นบ่อยๆ ในตอนกลางคืน อาจเกี่ยวข้องกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ จากการศึกษาพบว่า 38% ของผู้มีภาวะนี้มักนอนไม่หลับ และ 42% มีอาการหลับไม่ต่อเนื่อง ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
4. ง่วงกลางวันตลอดเวลา แม้จะนอนเต็มอิ่ม
การนอนกรนหรือหยุดหายใจขณะหลับส่งผลให้ร่างกายไม่ได้เข้าสู่ช่วงหลับลึก ส่งผลให้ตื่นมาอ่อนเพลีย ง่วงตลอดวัน และอาจต้องงีบบ่อยๆ สัญญาณนี้บ่งบอกว่าการนอนของคุณไม่มีคุณภาพ
5. กรนและมีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย
การนอนกรนที่รบกวนคุณภาพการนอนหลับ อาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ จากการวิจัยพบว่าผู้มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับเกือบ 50% มักแสดงอาการซึมเศร้าร่วมด้วย หากไม่ได้รับการรักษา อาการเหล่านี้อาจทวีความรุนแรงขึ้น
6. กรนตอนกลางคืน ไม่มีสมาธิหรือหลงลืมในตอนกลางวัน
การนอนกรนที่เกี่ยวข้องกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับส่งผลต่อสมองโดยตรง เนื้อเยื่อสมองอาจฝ่อจากการขาดออกซิเจน ส่งผลให้สมาธิสั้น หลงลืม หรือประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง
การตรวจ Sleep Test คืออะไร?
หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีสัญญาณเหล่านี้ แม้เพียงข้อเดียว การตรวจ Sleep Test คือกุญแจสำคัญในการวินิจฉัย โดยการตรวจจะใช้เวลา 1 คืนในโรงพยาบาล เพื่อติดตามค่าต่างๆ ขณะหลับ เช่น อัตราการหายใจ การเต้นของหัวใจ ระดับออกซิเจน และรูปแบบการนอนหลับ ซึ่งไม่เจ็บตัวหรือยุ่งยาก
อย่าปล่อยให้เสียงกรนเป็นเรื่องปกติที่มองข้าม การตรวจ Sleep Test ไม่เพียงช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต แต่ยังช่วยป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม ที่
HDmall Blog
6 สัญญาณนอนกรน ที่ควรไปตรวจ Sleep Test
เสียงกรนที่ดังมากและต่อเนื่องอาจเป็นสัญญาณของภาวะทางเดินหายใจถูกอุดกั้น (OSA) ซึ่งเกิดจากกล้ามเนื้อในช่องคอหย่อนคล้อยจนไปปิดกั้นทางเดินหายใจ ยิ่งอุดกั้นมาก เสียงกรนก็ยิ่งดังขึ้น การกรนลักษณะนี้มักมีปัจจัยเสริม เช่น น้ำหนักตัวเพิ่ม อายุที่มากขึ้น หรือการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน
2. กรนแล้วสะดุ้งตื่น หรือสำลักขณะหลับ
หากคุณมีอาการสะดุ้งตื่นกลางดึก สำลัก หรือต้องหายใจทางปาก นั่นอาจเป็นเพราะร่างกายหยุดหายใจชั่วขณะ ทำให้สมองต้องกระตุ้นการหายใจเพื่อป้องกันการขาดออกซิเจน ส่งผลให้นอนหลับไม่สนิทและตื่นมาไม่สดชื่น
3. นอนไม่หลับ หรือหลับๆ ตื่นๆ พร้อมกรนเสียงดัง
การนอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิทที่ต้องตื่นบ่อยๆ ในตอนกลางคืน อาจเกี่ยวข้องกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ จากการศึกษาพบว่า 38% ของผู้มีภาวะนี้มักนอนไม่หลับ และ 42% มีอาการหลับไม่ต่อเนื่อง ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
4. ง่วงกลางวันตลอดเวลา แม้จะนอนเต็มอิ่ม
การนอนกรนหรือหยุดหายใจขณะหลับส่งผลให้ร่างกายไม่ได้เข้าสู่ช่วงหลับลึก ส่งผลให้ตื่นมาอ่อนเพลีย ง่วงตลอดวัน และอาจต้องงีบบ่อยๆ สัญญาณนี้บ่งบอกว่าการนอนของคุณไม่มีคุณภาพ
5. กรนและมีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย
การนอนกรนที่รบกวนคุณภาพการนอนหลับ อาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ จากการวิจัยพบว่าผู้มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับเกือบ 50% มักแสดงอาการซึมเศร้าร่วมด้วย หากไม่ได้รับการรักษา อาการเหล่านี้อาจทวีความรุนแรงขึ้น
6. กรนตอนกลางคืน ไม่มีสมาธิหรือหลงลืมในตอนกลางวัน
การนอนกรนที่เกี่ยวข้องกับภาวะหยุดหายใจขณะหลับส่งผลต่อสมองโดยตรง เนื้อเยื่อสมองอาจฝ่อจากการขาดออกซิเจน ส่งผลให้สมาธิสั้น หลงลืม หรือประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง
การตรวจ Sleep Test คืออะไร?
หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีสัญญาณเหล่านี้ แม้เพียงข้อเดียว การตรวจ Sleep Test คือกุญแจสำคัญในการวินิจฉัย โดยการตรวจจะใช้เวลา 1 คืนในโรงพยาบาล เพื่อติดตามค่าต่างๆ ขณะหลับ เช่น อัตราการหายใจ การเต้นของหัวใจ ระดับออกซิเจน และรูปแบบการนอนหลับ ซึ่งไม่เจ็บตัวหรือยุ่งยาก
อย่าปล่อยให้เสียงกรนเป็นเรื่องปกติที่มองข้าม การตรวจ Sleep Test ไม่เพียงช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต แต่ยังช่วยป้องกันโรคร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม ที่ HDmall Blog