พท.จี้นายกฯอย่าสับสนอย่ามุ่งเสริมเข้มแข็งกองทัพ
https://www.innnews.co.th/politics/news_522337/

พท.จี้นายกฯอย่าสับสน สั่งเหล่าเตรียมชี้แจงงบประมาณ ชี้ ทุกประเทศเตรียมการรับมือผลกระทบจากสงครามการค้า แต่ไทยมุ่งสร้างความเข้มแข็งกองทัพ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอให้ผบ.เหล่าทัพเตรียมพร้อมชี้แจงงบฯของแต่ละเหล่าทัพ เพราะอาจจะโดนหนักหน่อย เพราะนายกฯมาจากทหาร ว่า ไม่แน่ใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ เข้าใจผิด หรือสื่อสารไม่ครบ การตรวจสอบปรับลดงบประมาณ สาระสำคัญของการพิจารณางบประมาณ คือ การตรวจสอบการจัดสรรงบประมาณให้กับหน่วยงานต่างๆ อย่างเหมาะสมและเอื้อต่อการเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศ งบกระทรวงกลาโหมหรืองบของกองทัพติดอยู่ในอันดับที่ได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณสูงมาโดยตลอด จะให้แข่งกันทำลายสถิติพิจารณาเร็วขึ้นทุกปีเหมือน 5 ปีที่ผ่านมาคงไม่ได้

ตัวเลขการจัดสรรงบประมาณปี 2563 พบว่า ยังขาดเป้าหมายหรือยุทธศาสตร์เชิงรุกในการรับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและผลกระทบจากสงครามการค้า ขาดการรับมือความท้าทายของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ไม่ได้มุ่งแก้ปัญหาสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ การลดการผูกขาด เพิ่มการแข่งขัน ปัญหาความถดถอยของความสามารถในการแข่งขัน ตลอดจนความยากลำบากทางเศรษฐกิจและหนี้สินของประชาชนระดับฐานราก

ทั้งนี้ แทบทุกประเทศ ต่างเตรียมการรับมือผลกระทบจากสงครามการค้า แต่การจัดทำงบประมาณของกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ยังคงวนเวียนอยู่กับการสร้างความเข้มแข็งของกองทัพ มากกว่าการเอาตัวรอดทางเศรษฐกิจของประเทศ

---

ฝ่ายค้าน ฮึ่ม ไม่ยอมให้มั่วใช้ภาษี ตั้งเป้ารีดงบประมาณส่วนเกินของรัฐบาล
https://www.matichon.co.th/politics/news_1734519

“สมคิด” เผยฝ่ายค้าน ตั้งเป้ารีดงบประมาณส่วนเกินของ รบ. ลั่นจะมามั่วเอาภาษี ปชช.ไปใช้จ่ายตามใจผู้มีอำนาจเหมือนที่ผ่านมาคงไม่ได้

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานสานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า การทำงานในรัฐสภาเป็นการทำงานที่ยาก เพราะพรรคร่วมรัฐบาลใช้วิธีการพวกมากลากไป การนำเสนอกฎหมายหรือการเสนอญัตติอะไรไม่ให้ความสำคัญกับการทักท้วงของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ส่งผลให้การทำงานในสภาลำบาก รัฐบาลใช้อำนาจจนติดเป็นนิสัย ไม่ฟังเสียงใคร ทั้งๆ ที่รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำทำงานยาก จากเดิมสมัยที่พรรค พท. เป็นรัฐบาล บรรดาพรรคร่วมฝ่ายค้านสร้างวาทกรรม [เผล่ะจัง] รัฐสภา ทำลายล้างกันทุกรูปแบบ พรรคฝ่ายค้านอยากให้รัฐบาลหันมามองประชาชน เร่งแก้ปัญหาประชาชนที่ประสบปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ เดือดร้อนทั้งประเทศต้องอาศัยความร่วมมือกันเพื่อแก้ปัญหาประเทศ

นายสมคิดกล่าวอีกว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล หรือการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลเป็นไปตามกติกาการเมือง เป็นหน้าที่ของพรรคฝ่ายค้าน ที่ต้องการเตือนรัฐบาลถึงการทำงานว่ามีปัญหาตรงไหน มีข้อบกพร่องตรงไหน มีปัญหาคอร์รัปชั่นหรือไม่ หากรัฐบาลมั่นใจว่าทำดีจริง โปร่งใสจริงต้องมาตอบในสภาต่อหน้าประชาชน หากรัฐบาลจะล้มก็เป็นเพราะการกระทำของรัฐบาลเองที่ทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจ รัฐบาลต้องไม่มองว่าฝ่ายค้านจ้องจะล้มรัฐบาล นอกจากนี้ การใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลหลายโครงการซ้ำซ้อน เปลืองเงินภาษีของประชาชนโดยใช่เหตุ งบประมาณที่เป็นไขมันส่วนเกิน กรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณซีกฝ่ายค้านก็มีการตรวจสอบและปรับลดลง เพื่อนำงบประมาณส่วนเกินเหล่านั้นเอาไปให้ส่วนที่จำเป็น จากเดิมที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้จ่ายงบประมาณอย่างไรก็ได้ อยากซื้ออาวุธก็ซื้อ ทั้งรถถัง ทั้งเครื่องบิน เรือดำน้ำ ซื้อหมด แต่ในสมัยนี้มี ส.ส.คงทำตามใจตัวเองไม่ได้ จะมามั่วเอาภาษีประชาชนไปใช้จ่ายตามใจผู้มีอำนาจเหมือนที่ผ่านมาคงไม่ได้