คลิปวิธีการทำโดยละเอียด
-----------------------------------------
มาการองสูตรนี้ใช้การตีแบบ Swiss meringue วิธีทำไม่ยุ่งยาก แถมใช้น้ำตาลน้อยกว่า ไม่หวานบาดคอ เมื่อใส่ไส้เบอร์รี่รสเปรียวอร่อยลงตัวทีเดียว
------------------------------------------
ส่วนผสมของฝามาการอง
ผงอัลมอนด์ 38 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 38 กรัม
ไข่ขาว 33 กรัม
น้ำตาลทราย 30 กรัม
ส่วนผสมไส้มาการอง
เนยจืด 40 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 1 ชต.
แยมเบอรี่ปริมาณตามชอบ
------------------------------------------
วิธีทำ
- ร่อนผงอัลมอนด์กับน้ำตาลไอซิ่งเข้าด้วยกัน แนะนำให้ร่อนประมาณ 2 รอบเพื่อความเบาของแป้ง
- นำไข่ขาวและน้ำตาลทรายใส่ชามผสม แล้วเอาไปอังบนหม้อน้ำร้อน ใช้ตะกร้อมือคนให้น้ำตาลละลายให้หมด
- ใช้เทอโมมิเตอร์วัดอุณหภูมิให้ได้ที่ประมาณ 50 องศา
พออุณหภูมิได้ที่ ยกลงจากเตาแล้วตีด้วยความเร็วปานกลางประมาณ 3 นาที
หลังจากนั้นปรับเป็นความเร็วต่ำ ตีต่อไปอีกประมาณ 2 นาที
การตีความเร็วต่ำจะช่วยตัดฟองอากาศให้เล็กลง จะได้เมอแรงที่แน่น เนียน และเงา
ตีจนเมอแรงตั้งยอดปานกลางไม่ต้องแข็งมาก มีจะงอยเหมือนปากนกแก้วเป็นอันใช้ได้
- จากนั้นก็เทของแห้งลงไปผสมในเมอแรง แนะนำให้แบ่งใส่ 2 รอบใช้ไม้พายตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นก็เทของแห้งที่เหลือลงไป และตะล่อมจนเข้ากันดี ไม่มีเสร็จแป้งเหลืออยู่
หลังจากนั้นหากต้องการใส่สี ก็ให้ใส่ตอนนี้ได้เลย แนะนำเป็นสีเจล
- ขั้นตอนต่อไปเรียกว่า "macaronage" คือการปาดส่วนผสมไปรอบๆ อ่างให้ทั่วอย่างช้าๆ แล้วตะล่อมกลับมาที่ตรงกลางอ่าง ทำแบบนี้ซ้ำๆ ประมาณ 4-5 รอบ
วิธีนี้จะช่วยทำให้เมอแรงกับผงอัลมอนด์เข้ากันได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เวลาอบอัลมอนด์จะเกาะตัวกับเมอแรงฟูขึ้นเต็มฝา ลดโอกาศที่จะเกิดโพรงนั่นเอง ถ้าเราใส่ใจขั้นตอนนี้ปํญหาเรื่องมาการองเป็นโพรงจะน้อยมาก
ระหว่างทำก็เช็คการไหลของส่วนผสม ถ้ามีลักษณะการไหลเป็นสายก็เป็นอันใช้ได้ เทใส่ถุงบีบได้เลย
- ทำการบีบมาการองลงบนพิมพ์ที่รองด้วยกระดาษไข
หลังจากบีบจนหมดแล้ว ให้ทำการกระแทกพิมพ์ 2-3 ครั้งเพื่อไล่ฟองอากาศ
ใช้ฝ่ามือตบที่ก้นถาดเพื่อให้ผิวมาการองเนียนขึ้น
ใช้ไม้จิ้มฟันเก็บรายละเอียดตรงที่มีฟองอากาศขนาดใหญ่
ต่อจากนั้นให้พักผิวมาการอง สูตรนี้ใช้เวลาพักผิวไม่นาน ประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น
วิธีเช็คเอานิ้วแตะๆ ดู ถ้าไม่มีเศษแป้งติดมาแสดงว่าใช้ได้แล้ว
- เอาเข้าอบที่ 140 องศาประมาณ 15-18 นาที
วิธีเช็คสุก ให้เอานิ้วไปแตะที่ฝามาการองแล้วลองโยกซ้ายขวาดู ถ้าฝามันไม่ขยับตามแสดงว่าสุกแล้ว
พอสุกก็ยกออกจากเตาแล้วพักไว้ให้เย็นสนิท ห้ามแกะตอนที่มันยังร้อนๆ อยู่ เพราะก้นอาจจะติดกับกระดาษรองได้
พอแห้งสนิทแล้ว มันจะหลุดออกมาเอง
- ในส่วนของไส้มาการอง แบบง่ายๆ คือบัตเตอร์ครีมนั่นเอง
ขั้นตอนแรกตีเนยให้ขึ้นฟู
จากนั้นก็เติมน้ำตาลไอซิ่งลงไป ตีผสมให้เข้ากัน
ใส่แยมเบอรี่ หรือแยมผลไม้ที่ชอบลงไป ตีผสมจนเข้ากัน
ใส่ถุงบีบ แล้วเอาไปบีบเป็นไส้ได้เลย
- หลังทำเสร็จอย่าพึ่งทานทันที ให้เอาเข้าตู้เย็นทิ้งไว้สัก 1 คืนให้ไส้มันซึมเข้าไปในผิวของมาการอง จะได้ทั้งความนุ่ม ชุ่มฉ่ำ หวานอมเปรี้ยวกำลังดี
ชวนทำเบอร์รี่ มาการอง สูตรไม่หวานบาดคอ (Swiss meringue)
คลิปวิธีการทำโดยละเอียด
-----------------------------------------
มาการองสูตรนี้ใช้การตีแบบ Swiss meringue วิธีทำไม่ยุ่งยาก แถมใช้น้ำตาลน้อยกว่า ไม่หวานบาดคอ เมื่อใส่ไส้เบอร์รี่รสเปรียวอร่อยลงตัวทีเดียว
------------------------------------------
ส่วนผสมของฝามาการอง
ผงอัลมอนด์ 38 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 38 กรัม
ไข่ขาว 33 กรัม
น้ำตาลทราย 30 กรัม
ส่วนผสมไส้มาการอง
เนยจืด 40 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 1 ชต.
แยมเบอรี่ปริมาณตามชอบ
------------------------------------------
วิธีทำ
- ร่อนผงอัลมอนด์กับน้ำตาลไอซิ่งเข้าด้วยกัน แนะนำให้ร่อนประมาณ 2 รอบเพื่อความเบาของแป้ง
- นำไข่ขาวและน้ำตาลทรายใส่ชามผสม แล้วเอาไปอังบนหม้อน้ำร้อน ใช้ตะกร้อมือคนให้น้ำตาลละลายให้หมด
- ใช้เทอโมมิเตอร์วัดอุณหภูมิให้ได้ที่ประมาณ 50 องศา
พออุณหภูมิได้ที่ ยกลงจากเตาแล้วตีด้วยความเร็วปานกลางประมาณ 3 นาที
หลังจากนั้นปรับเป็นความเร็วต่ำ ตีต่อไปอีกประมาณ 2 นาที
การตีความเร็วต่ำจะช่วยตัดฟองอากาศให้เล็กลง จะได้เมอแรงที่แน่น เนียน และเงา
ตีจนเมอแรงตั้งยอดปานกลางไม่ต้องแข็งมาก มีจะงอยเหมือนปากนกแก้วเป็นอันใช้ได้
- จากนั้นก็เทของแห้งลงไปผสมในเมอแรง แนะนำให้แบ่งใส่ 2 รอบใช้ไม้พายตะล่อมส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นก็เทของแห้งที่เหลือลงไป และตะล่อมจนเข้ากันดี ไม่มีเสร็จแป้งเหลืออยู่
หลังจากนั้นหากต้องการใส่สี ก็ให้ใส่ตอนนี้ได้เลย แนะนำเป็นสีเจล
- ขั้นตอนต่อไปเรียกว่า "macaronage" คือการปาดส่วนผสมไปรอบๆ อ่างให้ทั่วอย่างช้าๆ แล้วตะล่อมกลับมาที่ตรงกลางอ่าง ทำแบบนี้ซ้ำๆ ประมาณ 4-5 รอบ
วิธีนี้จะช่วยทำให้เมอแรงกับผงอัลมอนด์เข้ากันได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เวลาอบอัลมอนด์จะเกาะตัวกับเมอแรงฟูขึ้นเต็มฝา ลดโอกาศที่จะเกิดโพรงนั่นเอง ถ้าเราใส่ใจขั้นตอนนี้ปํญหาเรื่องมาการองเป็นโพรงจะน้อยมาก
ระหว่างทำก็เช็คการไหลของส่วนผสม ถ้ามีลักษณะการไหลเป็นสายก็เป็นอันใช้ได้ เทใส่ถุงบีบได้เลย
- ทำการบีบมาการองลงบนพิมพ์ที่รองด้วยกระดาษไข
หลังจากบีบจนหมดแล้ว ให้ทำการกระแทกพิมพ์ 2-3 ครั้งเพื่อไล่ฟองอากาศ
ใช้ฝ่ามือตบที่ก้นถาดเพื่อให้ผิวมาการองเนียนขึ้น
ใช้ไม้จิ้มฟันเก็บรายละเอียดตรงที่มีฟองอากาศขนาดใหญ่
ต่อจากนั้นให้พักผิวมาการอง สูตรนี้ใช้เวลาพักผิวไม่นาน ประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น
วิธีเช็คเอานิ้วแตะๆ ดู ถ้าไม่มีเศษแป้งติดมาแสดงว่าใช้ได้แล้ว
- เอาเข้าอบที่ 140 องศาประมาณ 15-18 นาที
วิธีเช็คสุก ให้เอานิ้วไปแตะที่ฝามาการองแล้วลองโยกซ้ายขวาดู ถ้าฝามันไม่ขยับตามแสดงว่าสุกแล้ว
พอสุกก็ยกออกจากเตาแล้วพักไว้ให้เย็นสนิท ห้ามแกะตอนที่มันยังร้อนๆ อยู่ เพราะก้นอาจจะติดกับกระดาษรองได้
พอแห้งสนิทแล้ว มันจะหลุดออกมาเอง
- ในส่วนของไส้มาการอง แบบง่ายๆ คือบัตเตอร์ครีมนั่นเอง
ขั้นตอนแรกตีเนยให้ขึ้นฟู
จากนั้นก็เติมน้ำตาลไอซิ่งลงไป ตีผสมให้เข้ากัน
ใส่แยมเบอรี่ หรือแยมผลไม้ที่ชอบลงไป ตีผสมจนเข้ากัน
ใส่ถุงบีบ แล้วเอาไปบีบเป็นไส้ได้เลย
- หลังทำเสร็จอย่าพึ่งทานทันที ให้เอาเข้าตู้เย็นทิ้งไว้สัก 1 คืนให้ไส้มันซึมเข้าไปในผิวของมาการอง จะได้ทั้งความนุ่ม ชุ่มฉ่ำ หวานอมเปรี้ยวกำลังดี