[CR] 🇭🇰 Bo Innovation - โบ อินโนเวชั่น ร้านอาหารสุดแปลก ไม่เหมือนใครของเชฟเซเลบชาวฮ่องกง การันตีด้วย 3 ดาวมิชลิน

มาต่อกันอีกหนึ่งร้านอาหารสุดแปลก ไม่เหมือนใครของเชฟเซเลบชาวฮ่องกง ...

เช่นเคยค่ะ ฝากกดไลค์ กดแชร เป็นกำลังใจให้ด้วยนะค้าา
>>>FB: ตามล่า Fine Dining 
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ

🇭🇰 Bo Innovation - โบ อินโนเวชั่น

⭐️⭐️⭐️ 3 Michelin Star - 3 ดาวมิชลิน

🇨🇳 โบ อินโนเวชั่น ร้านอาหารเรือธงแนว Innovative ของเซเลบริตี้เชฟชื่อดังชาวฮ่องกง Alvin Leung ผู้ผันตัวจากอาชีพวิศวกร ฝึกฝนเทคนิคการทำอาหารด้วยตัวเองจนกลายมาเป็นสุดยอดเชฟระดับ 3 ดาวมิชลินและได้รับการขนานนามว่าเป็น Demon Chef ตัวร้านตั้งอยู่ในตึกย่าน Wan Chai โดยต้องขึ้นลิฟท์จากชั้นล่างซึ่งมองหาได้ยากจากถนนใหญ่ ภายในตกแต่งโดยใช้โทนสีน้ำเงินเป็นหลักซึ่งจะตัดกันกับสีขาวของโต๊ะหินอ่อนและสีน้ำตาลของพื้นไม้ ครัวที่นี่เป็นแบบ Open kitchen ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นทีมเชฟปรุงอาหารได้ตลอดเวลา 

👨🏻‍🍳 เชฟอัลวินนิยามอาหารของตัวเองว่าเป็น 'X-treme' Chinese Cuisine โดยใช้อาหารจีนมาผสมผสานกับเทคนิคการปรุงอาหารแบบฝรั่งเศสและเทคนิคการนำเสนอในรูปแบบ Molecular Gastronomy มีเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Molecular หรือ x-treme “xiao long bao” ที่ได้รับอิทธิพลมาจากเมนู Olive Sphere อันโด่งดังของอดีตร้านอาหารระดับ 3 ดาวมิชลินและเป็นอดีตห้องอาหารอันดับ 1 ของโลกอย่าง El Bulli ในประเทศสเปน ยังมีเมนู No Shark Fin อาหารหวานที่เเสดงถึงเจตนารมย์การต่อต้านการทานหูฉลามของคนจีนโดยใช้ส้มยูซู ดอกหอมหมื่นลี้ และลูกพลับอบแห้งมาทำให้มีเนื้อสัมผัสคล้ายหูฉลามของจริง แต่เมนูที่เราประทับใจที่สุดคงต้องยกให้ A3 Saga-Guu Beef นุดยอดเนื้อวัววากิวระดับ A3 ที่มีอัตราส่วนของเนื้อต่อมันลงตัวสุดๆ เนื่อวัวนุ่มจนแทบละลายในปาก ทานกับเห็ดทรัฟเฟิลดำ อร่อยสุดๆ 

😛 Tips : เราขอแนะนำให้มาทานอาหาร Tasting Menu มื้อกลางวันเพราะทางร้านได้รวบรวมเมนูซิกเนเจอร์ไว้ค่อนข้างครบถ้วน และยังมีราคาย่อมเยากว่ามื้อกลางคืนมาก (ในปัจจุบันทางร้านเพิ่งปรับเปลี่ยนเมนูมื้อกลางวันใหม่เป็นเมนู 7 คอร์สในราคาคนละ 780 HKD ต่อคนทำให้ราคาต่อรวมภาษีคนตกอยู่เพียง 3,350 บาทและทั้งสองคนสามารถเลือกทานอาหารจานหลักที่แตกต่างกันได้ โดยเมนูทุกอย่างยังคงเป็นเมนูเดิมกับที่เราได้ไปทานมา 
เราไม่แนะนำให้ทาน Set Lunch ของทางร้านเนื่องจากทางร้านตั้งราคาเอาไว้ที่ 630 HKD รวมภาษีต่อคนแล้วอยู่ที่ 2,700 บาทแต่ได้ทานอาหารเพียง 3 คอร์ส ส่วนมื้อกลางคืนทางร้านนำเสนอ I ❤️ HK Tasting Menu จำนวน 10 คอร์ส ราคา 1,380 HKD หรือ 6,000 บาทต่อคน และสุดยอดเมนูที่ดีที่สุดของทางร้านคือ Chef Blue Menu จำนวน 12 คอร์สและมีราคาสูงถึง 2,380 HKD หรือ 10,000 บาทต่อคนทำให้อาจต้องชั่งน้ำหนักเรื่องความคุ้มค่าดูสักหน่อย 

📃 9 Course Tasting Menu (900 HKD pp + 200 for Beef + Vat 10%)

- Amuse-boucheHong Kong Pan Cake

- Kinki
tofu, vichyssoise, morel mushroom, scallion 

- Brittany Lobster 
Wonton, tartare, har mi oil, semi dried tomato, black truffles

- Corn 
cauliflower, pinenut, “pat chun” vinegar 

- Molecular 
x-treme “xiao long bao” 

- Duck foie gras 
preserved chinese mustard green, 
walnut, aged zhenjiang vinegar 

- Mou Tai 
butterfly pea flower, calamansi 

- Leg of Suckling Pig 
sichuan peppercorn, pineapple, baby greens, 
“pat chun” ginger vinaigrette 

- A3 Saga-Gyu Beef (supplement $200) 
black truffle, “cheung fun”, first press superior soy 

- Bo’s Signature Chicken Rice 
shaved sun-dried abalone, air dried foie gras 

- No Shark Fin 
yuzu, osmanthus, peach resin, dried persimmon 

👍 รสชาติอาหารจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ เเต่หากทางร้านนำเสนอจุดเด่นในเรื่อง Molecular Gastronomy อาจมีข้อสงสัยตามมาว่าอาหารของที่นี่มี Wow Factor เพียงพอหรือไม่สำหรับห้องอาหารระดับ 3 Michelin Star

รสชาติ : 16/20
ราคา : 9/20
ความคุ้มค่า : 13/20
บรรยากาศ : 14/20
บริการ : 16/20

ความประทับใจโดยรวม : 14/20


- Kinki
tofu, vichyssoise, morel mushroom, scallion 
สำหรับคอร์สแรกคือปลากิงกิจากประเทศญี่ปุ่น เสิร์ฟมาแบบซาชิมิสไตล์ ออนทอปด้วยยูนนานแฮมจากจีน ข้างบนเป็นแผ่นกรอบทำจากเห็ดโมเรลเพื่อตัดรสเค็ม ข้าวล่างมีเพียวเรทำจาก Leek หรือกระเทียมต้น จานนี้เชฟทำปลาออกมาเนื้อนุ่ม ละมุนมากจนแทบละลายในปาก ยูนนานแฮมมีกลิ่นหอม อร่อยใช้ได้ เพียวเรกระเทียมต้นเนื้อเนียนละเอียด กลิ่นหอมมาก เข้ากับปลาได้ดี (16/20)


- Brittany Lobster 
Wonton, tartare, har mi oil, semi dried tomato, black truffles
จานถัดมาคือ Brittany Lobster Ravioli หรือเกี๊ยวกุ้งล็อบสเตอร์นำเข้าจากแคว้นนบริตานี ประเทศฝรั่งเศส โรยด้วยซอสเห็ดทรัฟเฟิลสีดำ สีแดงคือมะเขือเทศตากจน”เกือบ”แห้ง ปิดท้ายด้วยการราด Har Mi Oil หรือซอสสีส้มสดแบบจีนทำมาจากกุ้งแห้ง อีกองค์ประกอบข้างๆคือทาทาร์เนื้อล็อบสเตอร์ ทางร้านทำสับออกมาละเอียดพอดี มีรสหวานธรรมชาติ หอมกลิ่น Har Mi Oil (17/20)


- Brittany Lobster 
Wonton, tartare, har mi oil, semi dried tomato, black truffles
จานนี้เป็นอีกจานที่ชูรสวัตถุดิบได้ดีมาก รสธรรมชาติ ปรุงแต่งเล็กน้อย ออกมาอร่อยสุดๆ (17/20)


- Brittany Lobster 
Wonton, tartare, har mi oil, semi dried tomato, black truffles
Har Mi Oil ที่ใช้ราดล็อบสเตอร์ ทำจากกุ้งแห้งแบบจีน (17/20)


- Corn 
cauliflower, pinenut, “pat chun” vinegar 
ถัดมาคือคอร์นสลัด เป็นการเสิร์ฟข้าวโพดในหลากหลายรูปแบบในจานเดียว ประกอบด้วยข้าวโพดเผา ขนาบข้างด้วยเมล็ดไพน์นัท เพียวเรข้าวโพด คอร์นวาฟเฟิล เเละดอกกะหล่ำ ผงสีแดงข้างๆคือเปปเปอคอร์น ราดด้วยน้ำส้มสายชู Pat Chun Vinega จานนี้หอมกลิ่นข้าวโพดเพียวเรมาก แกมด้วยกลิ่นถ่านจากข้าวโพดเผา อร่อยใช้ได้ (15/20)


- Corn 
cauliflower, pinenut, “pat chun” vinegar 
Pat Chun Vinegar ของจริง


- Molecular 
x-treme “xiao long bao” 
คอร์สถัดมาถือเป็นคอร์ส Signature ของร้าน และเป็นคอร์สที่ถูกใส่ไว้ในเมนูตั้งแต่ร้านเปิดจนถึงปัจจุบัน เชฟอัลวินได้แรงบันดาลใจจาก เสี่ยวหลงเป่าของ Din Tai Fung ร้านอาหารจีนระดับ Bib Gourmand ในไต้หวัน แต่เพิ่มความว้าวโดยการใส่ลูกเล่นแบบโมเลกุลโดยเปลี่ยนแป้งข้างนอกเป็นการผสมแคลเซียมในซุป นำไปหยดลงในสาหร่ายจนได้ของเหลวทรงกลมที่กัดแล้วแตกในปากออกมาเป็นรสเสี่ยวหลงเป่า ไม่บอกก็รู้ว่าเทคนิคโมเลกุลรูปแบบนี้มีต้นแบบมาจากร้าน El Bulli อดีตร้านอาหารระดับ 3 ดาวมิชลิน และเป็นอดีตร้านอาหารอันดับหนึ่งของโลกในประเทศสเปน (และเป็นเทคนิคเดียวกันกับที่ร้าน Gaggan ใช้ทำซิกเนเจอร์คอร์สอย่าง Yogurt Explosion) ทันทีที่ทานเข้าไปเจลทรงกลมจะเเตกออกพร้อมด้วยรสชาติภายในที่ระเบิดออกมา ในด้านรสชาติค่อนข้างเค็มไปมากและไม่กลมกล่อมในแบบที่เสี่ยวหลงเป่าปกติควรจะเป็นอันเป็นผลมาจากการทำให้น้ำซุปให้เข้มข้นเพื่อจะได้เซ็ทตัวในรูปแบบเจลทรงกลมได้ง่าย (14/20)


- Duck foie gras 
preserved chinese mustard green, walnut, aged zhenjiang vinegar 
ถัดมาคือตับเป็ดนำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส นำไปเซียบนกระทะจนสุกพอดี กินกับผลองุ่นเขียว และไอศกรีมทำมาจากสมุนไพรจีนดองรองข้างล่างด้วยถั่ววอลนัท ราดด้วยซอส Zhenjiang Vinegratte รสเปรี้ยว ให้ทานองค์ประกอบทั้งหมดพร้อมกัน (17/20)


- Duck foie gras 
preserved chinese mustard green, walnut, aged zhenjiang vinegar 
ที่ต้องขอชมเลยคือตับเป็ดที่ทางร้านทำออกมาดีมากจริงๆ สุกกำลังดี มีเนื้อสัมผัสนุ่มละมุนสุดๆ ไม่มีกลิ้นคาวใดๆ ทำให้จานนี้เป็นอีกจานที่ดีที่สุดในมื้อนี้เลย ทานเปล่าๆแบบไม่ต้องมีซอสก็อร่อย หรือจะทานสลับกับองุ่นเขียวก็สดชื่นไม่แพ้กัน (17/20)


- Mou Tai 
butterfly pea flower, calamansi 
ถัดมาคือ เหมา ไต๋ หรือเหล้าจีน ผสมดอกอัญชัญ และคาลามานซี่ (ส้มจีน) จานนี้ให้รสชาติเหมือนเหล้าขาวผสมแฟนต้าน้ำเขียวหรือยาสีฟัน รสชาติค่อนข้างแปลก กลืนลงคอก็รู้สึกร้อนไปถึงท้อง รสชาติใช้ได้เเละยังแปลกอีกด้วย (15/20)


- Mou Tai 
butterfly pea flower, calamansi 
ทางร้านเสิร์ฟมาเป็นเหยือกเลย (15/20)


- Mou Tai 
butterfly pea flower, calamansi 
ทางร้านนำ เหมา ไต๋ ของจริงมาให้ดู (15/20)


- Leg of Suckling Pig 
sichuan peppercorn, pineapple, baby greens, “pat chun” ginger vinaigrette 
ถัดมาคือเมนคอร์สจานแรก ขาหมูหันหนังกรอบสไตล์ฮ่องกง โดยเชฟจะนำมาให้ดูก่อนทาน (16/20)


- Leg of Suckling Pig 
sichuan peppercorn, pineapple, baby greens, “pat chun” ginger vinaigrette 
ทานสลับกันกับสับปะรดที่เซียมาบนกระทะ มีรสชาติเปรี้ยวหวาน มีกลิ่นหอม (16/20)


- Leg of Suckling Pig 
sichuan peppercorn, pineapple, baby greens, “pat chun” ginger vinaigrette 
เสิร์ฟกับผักสลัดที่มีรสชาติอร่อยไม่เบา (16/20)


- A3 Saga-Gyu Beef (supplement $200) 
black truffle, “cheung fun”, first press superior soy 
หนึ่งในจานที่อร่อยที่สุดในมื้อนี้คือเนื้อวัวซากะกิวระดับ A3 นำเข้าจากญี่ปุ่นเสิร์ฟมาความสุกแบบ Medium-Rare สาเหตุที่ทางร้านไม่ใช้เลือกใช้เนื้อวัวระดับ A5 เพราะกลิ่นเนื้อเบามากเกินไป รองด้านล่างด้วย Cheung Fun หรือก๋วยเตี๋ยวหลอดฮ่องกง ราดด้วยซอสเห็ดทรัฟเฟิลจากออสเตรเลีย จานนี้รสชาติอร่อยมาก เนื้อวัวสุกระดับมีเดียมแรร์เท่ากันทั้งชิ้นทำให้มีความนุ่มที่พอดี ทีเด็คือซอสเห็ดทรัฟเฟิลดำที่ทางร้านเคี่ยวจนเข้มข้นสุดๆ เสริมรสเเละกลิ่นของเนื้อได้ดีมาก สุดยอดจริงๆ (18/20)

ต่อกันในคอมเม้นค่าาา

ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining 
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ
ชื่อสินค้า:   🇭🇰 Bo Innovation - โบ อินโนเวชั่น
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่