สวัสดีเพื่อน ๆ พันทิปทุกคน​ หลังจากที่เราห่างหายจากการมาแนะนำไอเท็มเด็ดๆ มาพอสมควร 

...... ครั้งนี้เรามีไอเทมสุด​ Classic แต่ต้องมีทุกบ้าน​ นั่นก็คือเครื่องชั่งน้ำหนัก​ 
ความดีงามของเค้าคือ​ สามารถแสดงเรื่อง เปอร์เซ็นต์ไขมัน แล้วก็มีกราฟแสดงผลอีกจ้า 

ตัวที่เราได้ลองมาชั่ง คือ เครื่องชั่งน้ำหนัก Bodivis H1



แต่ก่อนอื่นจะให้ดูสภาพร่างนายแบบของเราก่อนจ้า เพราะแต่ก่อนจะชั่งแบบปกติก็เห็นแค่ตัวเลขบนตราชั่งใช่ปะ แต่อันนี้แสดงหมดไปอีก



แต่อันนี้แสดงหมดไปอีก​ ต้องบอกก่อนเลยว่านายแบบของเราค่อนข้างมีน้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐาน​ คือถ้ามองด้วยตาเปล่ามันก็แค่น้ำหนักเยอะ​ แต่ถ้าอยากจะรู้ว่าภายใต้น้ำหนักเยอะนั้น​ จริง ๆ แล้วเราควรดูแลสุขภาพด้านใดบ้าง​เดี๋ยวมาดูกัน​



ก่อนที่จะไปดูว่าน้ำหนักจริง ๆ แล้วคือเท่าไหร่ 



ขอมาแนะนำคร่าวๆ เผื่อเพื่อนๆ​ จะงงว่า เครื่องชั่ง​  bodivis H1 มันคืออะไร  เพราะจริงๆ นางจะเป็นเครื่องชั่งน้ำหนักที่วิจัยพัฒนาร่วมกับโรงพยาบาล คือฟีลประมาณว่าชั่งเพื่อให้รู้ว่าในน้ำหนักทั้งหมดมันมีอะไรบ้าง

และก็อีกอย่างคือมันสามารถใช้ดูกับแอพบนมือถือไปอีก



อันนี้จะเป็นค่าสามารถวัดได้

ค่าที่วัดได้

น้ำหนัก (Weight)
เปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย (Body Fat Rate)
มวลไขมัน (Fat)
กล้ามเนื้อ (Muscle)
ดัชนีมวลกาย (BMI)
ปริมาณน้ำในร่างกาย (Water)
โปรตีนในร่างกาย (Protein)
กระดูก (Sclerotin)
มวลกล้ามเนื้อลาย (Skeletal Muscle)
แนะนำการควบคุมน้ำหนัก (Weight Control)
ระดับความอ้วน (Obesity Levels)
แบบฟอร์มทางร่างกาย (Bodily Form)
ดัชนีร่างกาย (Body Index)
อายุร่างกาย (Physical Age)
แนะนำการควบคุมไขมัน (Fat Control)
แนะนำการควบคุมกล้ามเนื้อ (Muscle Control)
ร่างกายปราศจากไขมัน (Fat Free Mass)
อัตราการเผาผลาญพลังงาน (BMR)
ดัชนีไขมันในช่องท้อง (Visceral Fat Index)
น้ำหนักมาตรฐาน (Standard Weight)
คำแนะนำในการรับประทานอาหาร (Diet Suggestion)



ว้าวววว​   เห็นเครื่องเท่านี้​  แต่ประสิทธิภาพเหลือล้นจริงๆ​ แต่ของดียังไม่หมด​ ยังมีอีกเทคโนโลยี​ คือ​  BIA ที่ใช้คลื่นความถี่ส่งสัญญาณไฟฟ้าต่ำ ๆ มาที่ร่างกายผ่านแผ่นฟิล์มรูปดอกไม้ พร้อมวัดระดับความต้านทานไฟฟ้าที่ต่างกันในร่างกาย 



ทำให้ได้ค่าต่างๆ  ออกมาวิเคราะห์ด้วยศาสตร์ทางการแพทย์ ซึ่งเมื่อรวมกับข้อมูลเรื่อง อายุ เพศ ที่เราได้กรอกไป ก็จะได้ผลสรุปค่าด้านสุขภาพที่ออกมาแม่นยำสูงโดยจะแสดงเป็นค่าน้ำหนัก
21 ค่า 

ซึ่งจะอ่านค่าได้ง่ายเพราะระบบมีการแยกสีมาให้​ 

สีเขียวคือ ค่าปกติ 
สีฟ้าคือค่าที่ไม่ถึงเกณฑ์
สีแดงคือค่าที่สูงกว่าเกณฑ์ 



เราจะรู้เลยว่าเราควรเริ่มต้นจะแก้ไขจุดไหนก่อน​  ซึ่งมันดีตรงที่​ กดดูดีเทลได้อีกว่าเราควรทำอะไร ควรควบคุมอะไร รวมไปถึงคำแนะนำในการออกกำลังกายด้วย ว่าต้องออกกำลังกายอย่างไร ใช้เวลาเท่าไหร่ ต้องให้อัตราการเต้นของหัวใจเต้นกี่ครั้งระหว่างที่ออกกำลังกาย รวมถึงคำแนะนำการกินอาหารแบบละเอียด เรียกได้ว่าเป็นผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ​ ที่ช่วยให้เราปรับร่างกายได้ดีจริง ๆ​



แต่ที่เจ๋งไปกว่านั้น​  คือ ถ้าหากเราอยากตั้งเป้าหมายเพิ่มหรือลดน้ำหนักให้ได้แบบ​ เป๊ะสุดๆ​ ล่ะก็​ เจ้าตัวนี้ก็มีให้อีกนะ​ มันก็จะบันทึกค่าในแต่ละวัน​  แต่ถ้าเราไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรเป็นพิเศษ ค่านี้ก็จะคำนวณมาจากน้ำหนักและส่วนสูงของเราเอง แต่ถ้าใครมีน้ำหนักที่อยากได้ก็สามารถตั้งค่าใหม่เองได้ จะเลือกเป็นน้ำหนักที่เราต้องการหรือจะเลือกจำนวนวันที่เราอยากท้าทายตัวเองก็ยังได้​  



และ หลังจากที่ได้เห็นน้ำหนักของตัวเองแล้วบอกเลยว่าตอนนี้จะต้องเริ่มออกกำลังกายลดน้ำหนักแบบจริงจัง​ ควบคุมอาหาร​ ไม่กินอาหารไม่เป็นประโยชน์ละ เพราะถ้าหาก​คิดจะดูแลสุขภาพ​ แต่ยังไม่รู้จักปัญหา​ของตัวเอง ก็อาจจะทำให้แก้ไขปัญหาได้ไม่ตรงจุด