สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เครื่องพวกนี้ใช้กระแสไฟอ่อนวัดผ่านเท้า
ไม่ได้หลอก แต่ไม่แม่นยำ 100%
และเวลาเอาไปใช้อ้างอิง ไม่ควรเอาไปเทียบกับของคนอื่น เพราะไม่มีทางแม่นยำตรง 100%
แต่ใช้อ้างอิงให้กับตัวเองได้ เช่น วัดได้ 30% เราพัฒนาจนวัดได้ 25% ถือว่าพอใช้บ่งบอกว่า ไขมันในตัวลดลงเป็นนัย โดยมีข้อแม้คือ ต้องใช้กับเครื่องนั้นเป็นค่าอ้างอิง ไม่ควรปนกับเครื่องอื่น
วัดได้ผลครับ แค่ต้องวัดให้ถูก
ไม่ได้หลอก แต่ไม่แม่นยำ 100%
และเวลาเอาไปใช้อ้างอิง ไม่ควรเอาไปเทียบกับของคนอื่น เพราะไม่มีทางแม่นยำตรง 100%
แต่ใช้อ้างอิงให้กับตัวเองได้ เช่น วัดได้ 30% เราพัฒนาจนวัดได้ 25% ถือว่าพอใช้บ่งบอกว่า ไขมันในตัวลดลงเป็นนัย โดยมีข้อแม้คือ ต้องใช้กับเครื่องนั้นเป็นค่าอ้างอิง ไม่ควรปนกับเครื่องอื่น
วัดได้ผลครับ แค่ต้องวัดให้ถูก
ความคิดเห็นที่ 2
วัดได้ครับ แต่แม่นยำไหมเป็นอีกเรื่องนึง
วิธีการของมันก็คือวัดหาค่า Impedance (ความต้านทาน) ในร่างกายเรา เอาค่าที่ได้ไปแปลงเป็นสัดส่วนต่างๆ ไขมัน หรือว่ามวลไร้ไขมันผ่านสมการความสัมพันธ์แบบ empirical
สมการนี้ก็อาจจะเทียบมาจากวิธีอื่นๆ
หมายความว่าลองจินตนาการดูนะครับ เขาเอาคนที่มีน้ำหนักส่วนสูง สัดส่วนไขมันแบบต่างๆ ไปวัดอัตราส่วนไขมันโดยวิธีการอื่นๆบนโลกนี้ ได้เท่าไหร่ก็จดไว้ แล้วหลังจากนั้นก็เอาขึ้นเครื่องวัด Impedance ได้เท่าไหร่ก็จดไว้ แล้วก็สร้างสมการความสัมพันธ์ออกมา แล้วเราก็ได้เครื่องที่สะดวกรวดเร็วในการวัดไขมันต่างๆแบบนี้
ปัญหาของมันคือเวลาวัด ถ้ามีขั้วไฟฟ้าแค่สองขั้วแบบเครื่องชั่งทั่วไป กระแสมันจะไหลผ่านแค่ช่วงล่างของร่างกาย หมายความว่าเราจะได้ค่าความต้านทานของร่างกายที่มาจากแค่ช่วงล่างของเราเท่านั้น ถ้าการกระจายตัวของไขมันหรืออะไรอื่นๆของเราไม่เป็นไปตามกลุ่มตัวอย่างที่เขาเอามาทดสอบ การวัดนี้มันก็ไม่สามารถครอบคลุมไปได้ (ซึ่งปกติแล้วคนเราก็กระจายตัวไม่ค่อยเหมือนกันหรอก)
แต่โดยมากแล้วก็ถือว่าแม่นยำในระดับที่ใช้ได้ครับเมื่อเทียบกับเวลา และเงินที่เสียไป DEXA scan ที่ว่ากันว่าดีที่สุดในปัจจุบันยังมีปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือเลย (วัดวันนี้ วัดพรุ่งนี้ได้ค่าไม่เท่าเป็นเรื่องปกติ)
----------------
กลับมาที่เจ้าของกระทู้
1. เวลาวัดควรวัดตอนเท้าไม่เปียก ไม่ใช่หลังออกกำลัง ไม่ใช่หลังอาบน้ำ ไม่งั้นตัวเลขมันจะเพี้ยนเยอะครับ เวลาที่เหมาะที่สุดคือหลังตื่นนอนหลังเข้าห้องน้ำเสร็จ (ห้องน้ำแห้ง) มันไม่สามารถชั่งเพื่อวัดค่าพวกนี้แล้วคาดหวังให้มีค่าเท่าเดิมได้หากเงื่อนไขก่อนวัดเปลี่ยนไป
2. ถ้าทำตามข้อหนึ่งแล้ว ค่ายังเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาโดยมากก็จะเป็นการเหวี่ยงปกติครับ (กินข้าวเยอะ กินข้าวน้อยมีผลต่อการวัดด้วย)
3.ขาดน้ำในที่นี้ต้องเข้าใจก่อนว่ามันมีความหมายถึงกล้ามเนื้อครับ มันคือข้อบ่งชี้ว่ามีกล้ามเนื้อน้อย ถ้าร่างกายมีกล้ามเนื้อเยอะ ร่างกายจะเก็บน้ำได้เยอะ ถ้ามีกล้ามเนื้อน้อยกินเข้าไปเท่าไหร่ก็ปล่อยออกหมดครับ เข้าใจว่าเครื่องวัดของเจ้าของกระทู้จะมีตัวเลขที่แปลงเป็นกล้ามเนื้อด้วย ตัวเลขน้ำกับกล้ามเนื้อมันจะสัมพันธ์กัน
วิธีการของมันก็คือวัดหาค่า Impedance (ความต้านทาน) ในร่างกายเรา เอาค่าที่ได้ไปแปลงเป็นสัดส่วนต่างๆ ไขมัน หรือว่ามวลไร้ไขมันผ่านสมการความสัมพันธ์แบบ empirical
สมการนี้ก็อาจจะเทียบมาจากวิธีอื่นๆ
หมายความว่าลองจินตนาการดูนะครับ เขาเอาคนที่มีน้ำหนักส่วนสูง สัดส่วนไขมันแบบต่างๆ ไปวัดอัตราส่วนไขมันโดยวิธีการอื่นๆบนโลกนี้ ได้เท่าไหร่ก็จดไว้ แล้วหลังจากนั้นก็เอาขึ้นเครื่องวัด Impedance ได้เท่าไหร่ก็จดไว้ แล้วก็สร้างสมการความสัมพันธ์ออกมา แล้วเราก็ได้เครื่องที่สะดวกรวดเร็วในการวัดไขมันต่างๆแบบนี้
ปัญหาของมันคือเวลาวัด ถ้ามีขั้วไฟฟ้าแค่สองขั้วแบบเครื่องชั่งทั่วไป กระแสมันจะไหลผ่านแค่ช่วงล่างของร่างกาย หมายความว่าเราจะได้ค่าความต้านทานของร่างกายที่มาจากแค่ช่วงล่างของเราเท่านั้น ถ้าการกระจายตัวของไขมันหรืออะไรอื่นๆของเราไม่เป็นไปตามกลุ่มตัวอย่างที่เขาเอามาทดสอบ การวัดนี้มันก็ไม่สามารถครอบคลุมไปได้ (ซึ่งปกติแล้วคนเราก็กระจายตัวไม่ค่อยเหมือนกันหรอก)
แต่โดยมากแล้วก็ถือว่าแม่นยำในระดับที่ใช้ได้ครับเมื่อเทียบกับเวลา และเงินที่เสียไป DEXA scan ที่ว่ากันว่าดีที่สุดในปัจจุบันยังมีปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือเลย (วัดวันนี้ วัดพรุ่งนี้ได้ค่าไม่เท่าเป็นเรื่องปกติ)
----------------
กลับมาที่เจ้าของกระทู้
1. เวลาวัดควรวัดตอนเท้าไม่เปียก ไม่ใช่หลังออกกำลัง ไม่ใช่หลังอาบน้ำ ไม่งั้นตัวเลขมันจะเพี้ยนเยอะครับ เวลาที่เหมาะที่สุดคือหลังตื่นนอนหลังเข้าห้องน้ำเสร็จ (ห้องน้ำแห้ง) มันไม่สามารถชั่งเพื่อวัดค่าพวกนี้แล้วคาดหวังให้มีค่าเท่าเดิมได้หากเงื่อนไขก่อนวัดเปลี่ยนไป
2. ถ้าทำตามข้อหนึ่งแล้ว ค่ายังเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาโดยมากก็จะเป็นการเหวี่ยงปกติครับ (กินข้าวเยอะ กินข้าวน้อยมีผลต่อการวัดด้วย)
3.ขาดน้ำในที่นี้ต้องเข้าใจก่อนว่ามันมีความหมายถึงกล้ามเนื้อครับ มันคือข้อบ่งชี้ว่ามีกล้ามเนื้อน้อย ถ้าร่างกายมีกล้ามเนื้อเยอะ ร่างกายจะเก็บน้ำได้เยอะ ถ้ามีกล้ามเนื้อน้อยกินเข้าไปเท่าไหร่ก็ปล่อยออกหมดครับ เข้าใจว่าเครื่องวัดของเจ้าของกระทู้จะมีตัวเลขที่แปลงเป็นกล้ามเนื้อด้วย ตัวเลขน้ำกับกล้ามเนื้อมันจะสัมพันธ์กัน
ความคิดเห็นที่ 27
ได้นะคะ ใช้ได้ดีเลยค่ะ มีฟังก์ชั่นมากมายให้เราเลือกดูค่ะ วัดค่าได้แม่นยำ มีแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย และยังมีฟังก์ชันที่ช่วยให้เราสามารถติดตามและปรับปรุงสุขภาพของเราได้ดียิ่งขึ้น ชอบมากค่ะ ราคาดี คุณภาพคุ้มค่ามากค่ะ https://ss-shp.click/h8l
แสดงความคิดเห็น
เครื่องชั่งน้ำหนักแบบดิจิตอลที่สามารถวัดมวลไขมันกล้ามเนื้อเราได้ มันวัดได้จริงๆ หรือเปล่าคะ?
อย่างบางทีเราชั่งน้ำหนักแล้วน้ำหนักเราลง แต่ไขมันกลับขึ้นสวนทางกับน้ำหนัก, น้ำหนักกระดูกเราก็ขึ้นๆ ลงๆ ระหว่าง 2-2.5 KG. ด้วยค่ะ และพ่อเราเป็นคนดื่มน้ำเยอะมาก แต่เครื่องชั่งก็ฟ้องว่าขาดน้ำ
เลยงงๆ ว่ามันวัดได้จริงกี่ %
ปล. เครื่องชั่งที่เราใช้เป็นรุ่น Mi body composition scale ได้มาตอนโปร 9.9 ราคา 400 กว่าๆ ค่ะ ก่อนหน้านี้เราใช้เครื่องชั่งแบบดิจิตอล แต่โชว์แค่น้ำหนัก ซึ่งแพงกว่า Mi body composition scale นี่อีก
ด้วยราคาแล้วเราว่าคุ้มมาก แต่กำลังสับสนเรื่องการวัดค่าต่างๆ มันหลอกเราหรือมันวัดได้จริงๆ