The Bucket List checked ✅
ตั้งแต่ออกกำลังกายมาอย่างต่อเนื่องก็อยากหาความท้าทายให้กับตัวเองเรื่อยๆ ไตรกีฬาก็เป็นอะไรที่อยากลอง เมื่อโอกาสมาก็คว้าไว้ สำหรับงาน ตัดสินใจลงพร้อมกับเพื่อนอีกคน ซึ่งครั้งแรกด้วยกันทั้งคู่ เรียกว่ามือใหม่หัดไตร เลยทีเดียว 😅
ไตรกีฬา คือการแข่งขันกีฬา 3 ประเภท ต่อเนื่องกัน คือ ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน วิ่ง ระยะทางในการแข่งขันกีฬานั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายระยะทางแตกต่างกันออกไป การแข่ง TriDash 2019 สนามนี้เหมาะกับมือใหม่อยากไตร หรือคนที่อยากลงสนามฝึกปรือเพื่อไปแข่งไตรกีฬาแบบจริงจัง เพราะรายการนี้จัดขึ้นในทุกๆเดือน สำหรับปีนี้จะมีถึงเดือน พฤศจิกายน การแข่งขันมี Race Catagories 2 แบบ คือ
1. Mini Dash Distance ว่ายน้ำ 200 เมตร ปั่นจักรยาน 10 กิโลเมตร วิ่ง 2.5 กิโลเมตร
2. Traditional Dash Distance ว่ายน้ำ 400 เมตร ปั่นจักรยาน 20 กิโลเมตร วิ่ง 5 กิโลเมตร ซึ่งสำหรับ Traditional Dash Distance สามารถเลือกประเภทการแข่งขันได้ว่าจะลงแบบ Individual Dash (แข่งแบบเดี่ยว) หรือ Team Relay (แข่งแบบทีม) ซึ่งเราเลือกลงแบบ Individual Dash (ลงทั้งทีมันต้องไปให้สุด)
ทั้งหมดทั้งมวล สามารถแข่งได้ทั้งชายและหญิง อายุตั้งแต่ 18 ปี เป็นต้นไป
สถานที่ : Bangpoo Golf and Sports Club จังหวัด สมุทรปราการ
หากใครที่สมัครเรียบร้อยแล้ว จะได้รับ อีเมล ยืนยัน พร้อมรายละเอียดต่างๆ อย่าลืมเช็คดูให้ถูกต้องเรียบร้อย เมื่อใกล้ วันที่แข่ง 2-3 วัน จะมีอีเมลส่งมาเตือนเราอีกครั้ง สำหรับเราสมัครไปตอนเดือน สิงหาคม และแข่งในเดือนตุลาคม มีเวลาเตรียมตัวให้พร้อมเกือบ 2 เดือน จะว่าน้อยก็น้อย จะว่าเยอะก็เยอะ ขึ้นอยู่กับความตั้งใจในการซ้อม
สำหรับเรา ออกกำลัง 4 -5 วัน ต่อสัปดาห์ ส่วนมากจะเล่น Crossfit ต่อยมวย ปั่นจักรยานในร่ม วิ่งบ้าง แต่ว่ายน้ำนั้นน้อยมากๆ เอาจริงๆมีเวลาซ้อมว่ายน้ำ 2-3 ครั้งเท่านั้นเอง ซ้อมกับสระว่ายน้ำที่คอนโด สรุปคือ ไม่เคยซ้อมกีฬาทั้ง 3 ประเภทอย่างต่อเนื่องเลย
อุปกรณ์จำเป็นสำหรับการแข่ง ก็คือ จักรยาน และหมวกกันน๊อคสำหรับใส่ในการปั่นจักรยาน อย่างที่รู้กันจักรยานราคาไม่ใช่จะถูก และนี่คือการแข่งครั้งแรกเพื่อลองสนาม จะลงทุนซื้อจักรยานเลยมันก็อาจจะเปลืองเกินไป โชคดีมากที่มีเพื่อนให้ยืมจักรยานพร้อมหมวกมาครบเซตเลย ได้ทดลองปั่นตามระยะทางจริง 1 ครั้งถ้วน เราไปลองปั่นที่บึงหนองบอน ตอนซ้อมก็ใส่หมวก ใส่รองเท้าที่จะใช้ในวันแข่งให้เหมือนจริงที่สุด แม้แต่ชุดที่จะใส่แข่งก็ควรเอามาใส่ซ้อมด้วย แต่ก็อีกแหละค่ะ ชุดแข่ง ไตรกีฬาโดยเฉพาะนั้น ราคาก็หลายพันอยู่ ส่วนมากก็เป็นชุดที่ เนื้อผ้าแบบชุดว่ายน้ำ ชุดออกกำลังการทั่วไป เน้นที่เบา ใส่สบาย แห้งไว ระบายอากาศได้ดี รูปแบบชุด มีทั้งแบบต็มตัว หรือแบบแยกชิ้น ความยาวชุดเหนือเข่า มีซิปรูดด้านหน้า ส่วนเป้าจะมีโฟมเพื่อ Support ก้นระหว่างปั่นจักรยาน แต่หากกำลังเงินใครยังไม่พร้อม แนะนำว่าไม่ต้องซื้อก็ได้นะคะ สามารถใส่ชุดออกกำลัง ที่เราใส่แล้วคล่องตัวในการแข่งกีฬาทั้ง 3 ชนิด แบบที่สามารถใส่ต่อเนื่องกันได้ จะได้ไม่เสียเวลาในการเปลี่ยนได้เลย เพราะงาน TriDash นี้เค้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องชุดมากนัก
การเช็ค Bib รายชื่อ และเส้นทางในการแข่งขัน สามารถเช็คได้จากใน Facebook Page : Tri Dash ได้เลย หน้าตาก็จะประมาณนี้
รายชื่อจะถูกจัดแบ่งเป็น Group แต่ละ Group จะมีเวลาปล่อยตัวที่ต่างกัน หมายเลขข้างหน้าก็คือ หมายเลขBib / Pool ก็คือเลนที่เราจะต้องไปยืนรอว่ายน้ำ / Sequence ก็คือลำดับที่จะปล่อยตัวลงน้ำ/ Start Time คือเวลาที่เราเริ่มแข่งขัน ของเรา Bib no. 99 อยู่ที่เลน 8 ลำดับ H ปล่อยตัวเวลา 07:05:10
จาก e-mail ที่ได้รับแจ้งจะต้องไป Register ตั้งแต่เวลา 05:30-06:30 น. หากใครบ้านไกล ก็แนะนำให้เผื่อเวลาเดินทางกัน รถไม่ติด แต่ระยะทางจะไกล หาไม่ยาก เพียงเปิด Google Map สถานที่จัดงานใหญ่โต มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ในทุกจุด
สิ่งแรกที่ควรรจะไปทำเมื่อมาถึงก็คือ เดินไปลงทะเบียน รับBib และ Body Mark (การเขียนเลข Bib ที่แขน และ ขา ทั้ง 2 ข้าง สำหรับการแข่งว่ายน้ำ) ใส่ Micro Ship ที่ข้อเท้า ทางผู้จัดงานในครั้งนี้ จะมีเสื้อให้นักกีฬาทุกคนฟรี 1 ตัว กระบอกน้ำ ถุงเป้ และ Energy Gel สำหรับกินระหว่างแข่งขัน ในวันที่เรามาถึง อากาศค่อนข้างดี มีความครึ้มฟ้าครึ้มฝน แต่ก็ไม่ตก และแดดก็ไม่ออก ลมพัดเย็นและชิวดีมากๆ แต่ก็แนะนำให้ทาครีมกันแดดไว้ก็จะดี หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อย ก็เอาจักรยานไปวางไว้ที่จุดจอดจักรยานที่จะแบ่งตามลำดับ Bib เอาอุปกรณ์ต่างๆใส่ตะกร้าที่เค้าจัดไว้ให้ แล้ววางไว้ข้างจักรยาน ควรวางให้เป็นระเบียบ หยิบจับได้ง่าย เพื่อความรวดเร็ว ระหว่างช่วง Transition เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย ก็ทำใจให้สบาย ดื่มน้ำ เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย แล้วตรงไปยังสระว่ายน้ำได้เลย
🏊🏻♀️ ว่ายน้ำ ระยะ 400 เมตร ความยาวของสระคือ 50 เมตร เท่ากับต้องว่าย ไปกลับทั้งหมด 8 รอบ ด้วยความที่ซ้อมก่อนแข่งแบบกรุบกริบกับสระคอนโดขนาดย่อม บอกตรงว่า ตอนเห็นสระจริงก็หวั่นใจอยู่ แล้วพแแข่งจริง มันเหนื่อยยยยยยมาก เราเลือกว่าย freestlye สลับการเดินด้วยความที่สระไม่ลึกแล้วก็คือว่าพักเหนื่อย และสุดท้ายก็ตัดสินใจหงายตัวตีกรรเชียงไปแบบ โนสน โนแคร์ 🤣 ในตอนนั้นคิดว่าท่าทางไม่เน้น ขอไปให้ถึงจนจบให้เร็วที่สุด
ทุกๆประเภทการแข่งขัน นักกีฬาจะต้องนับรอบกันด้วยตัวเองนะ ไม่มีกรรมการคอยนับให้ เพราะฉะนั้นต้องมีสติหรือหากใครมีคนมาเชียร์ก็บอกกองเชียร์ให้ช่วยนับก็ได้ เมื่อครบ 8รอบ ก็ต้องรีบไปโซนที่จอดจักรยานไว้ ควรเช็คตัวให้แห้งที่สุดเพราะฉะนั้น ต้องเตรียมผ้าเช็ดตัวมาด้วยนะ ใส่รองเท้า ใส่หมวกกันน๊อคให้แน่น ดื่มน้ำ กินเจล ใส่ Bib เรียบร้อย ก็ต้องจูงจักรยานไปยังจุดปล่อยตัวจักนยาน เมื่อพร้อมก็ออกตัวได้เลย
🚴♀️ จักรยาน ระยะ 20 กิโลเมตร สนามจริงคือรอบละ 5 กิโลเมตร ก็ต้องปั่นไป 4 รอบ โชคดีที่แดดไม่มี ปั่นแบบไม่ร้อน อากาศชิว แต่ขานี่สับๆๆ แทบไม่หยุด สิ่งสำคัญต้องใส่หมวกกันน๊อคตลอดการปั่น จักรยานบางคนเร็วมากอย่างกับจรวด ก็อย่าไปสนใจ ปล่อยเค้าไป พยายามเลือกเกียร์ให้ถูกต้อง เพื่อเป็นการพยุงแรงของเราไปให้ได้จนจบ
🏃🏼♀️ วิ่ง ระยะทาง 5 กิโลเมตร ตามเส้นทางต้องวิ่งไปกลับ ทั้งหมด 2 รอบ ส่วนตัวแล้วคิดว่าวิ่งน่ากังวลน้อยสุดเพราะมีโอกาสได้ซ้อมเยอะที่สุด พอถึงเวลาแข่งก็จริง แต่จากการที่เรา ผ่านการว่ายน้ำและปั่นจักรยาน แบบต่อเนื่อง ขาก็จะล้า เลยคิดว่าวิ่งแบบ tempo จังหวะเดียวไปจนจบ ไม่มีการ speed sprint ใดๆ น่าจะดีที่สุด ระหว่างทางวื่ง จะมีจุดให้น้ำ และ ฟองน้ำเย็นๆแจกให้ได้เช็ดหน้าเช็ดตาเช็ดตัว
เมื่อเข้าFinsh Line เจ้าหน้าที่ก็จะแจกเหรียญให้เลย พร้อมกับ ถอด Microship ออกจากข้อเท้า รู้สึกดีใจมากๆ ที่มาถึงจุดนี้ และแข่งจนจบได้ด้วยตัวเอง
เมื่อจบการแข่งขัน ผู้แข่งขันสามารถเข้าไปดู Official Time ของตัวเองได้ใน เพจ Tri Dash ภายในวันนั้นเลย ซึ่งทางผู้จัดลงให้รวดเร็วทันใจ ส่วนรูปสวยๆที่นำมาลง สามีเป็นคนถ่ายให้ แต่ทางเพจ Tri Dash ก็มีรูปลงไว้เช่นกันจะเป็นรูปที่มีลายโลโก้อยู่ด้านล่าง รูปสวยและเยอะ ที่สำคัญสามารถ Save มาได้เลยไม่มีค่าใช้จ่าย
และนี่คือ Official Time ของ Tridash ครั้งแรก กับเวลาซ้อมที่น้อยนิดทำได้เท่านี้ก็พอใจละ ไม่ได้แข่งกับใคร แต่แข่งกับตัวเองล้วนๆ ทำให้รู้ว่า skill ไหนต้องปรับ หรือเพิ่ม แล้วปีหน้าก็คิดว่าจะกลับมาแก้มือใหม่
หากใครสนใจอยากลอง สามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่างๆได้ที่ Website :
http://www.tridashthailand.com หรือ Facebook Page : Tri Dash ข้อมูลค่อนข้างครบถ้วน และตอนนี้มีรายการสำหรับปี 2020 มาลงในเพจแล้ว มีความท้าทายมากขึ้นกว่าเดิมด้วย
Tridash Bangkok Series 2019
06-10-19
มือใหม่หัดไตร MY FIRST TRIDASH BANGKOK SERIES 2019
ตั้งแต่ออกกำลังกายมาอย่างต่อเนื่องก็อยากหาความท้าทายให้กับตัวเองเรื่อยๆ ไตรกีฬาก็เป็นอะไรที่อยากลอง เมื่อโอกาสมาก็คว้าไว้ สำหรับงาน ตัดสินใจลงพร้อมกับเพื่อนอีกคน ซึ่งครั้งแรกด้วยกันทั้งคู่ เรียกว่ามือใหม่หัดไตร เลยทีเดียว 😅
ไตรกีฬา คือการแข่งขันกีฬา 3 ประเภท ต่อเนื่องกัน คือ ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน วิ่ง ระยะทางในการแข่งขันกีฬานั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายระยะทางแตกต่างกันออกไป การแข่ง TriDash 2019 สนามนี้เหมาะกับมือใหม่อยากไตร หรือคนที่อยากลงสนามฝึกปรือเพื่อไปแข่งไตรกีฬาแบบจริงจัง เพราะรายการนี้จัดขึ้นในทุกๆเดือน สำหรับปีนี้จะมีถึงเดือน พฤศจิกายน การแข่งขันมี Race Catagories 2 แบบ คือ
1. Mini Dash Distance ว่ายน้ำ 200 เมตร ปั่นจักรยาน 10 กิโลเมตร วิ่ง 2.5 กิโลเมตร
2. Traditional Dash Distance ว่ายน้ำ 400 เมตร ปั่นจักรยาน 20 กิโลเมตร วิ่ง 5 กิโลเมตร ซึ่งสำหรับ Traditional Dash Distance สามารถเลือกประเภทการแข่งขันได้ว่าจะลงแบบ Individual Dash (แข่งแบบเดี่ยว) หรือ Team Relay (แข่งแบบทีม) ซึ่งเราเลือกลงแบบ Individual Dash (ลงทั้งทีมันต้องไปให้สุด)
ทั้งหมดทั้งมวล สามารถแข่งได้ทั้งชายและหญิง อายุตั้งแต่ 18 ปี เป็นต้นไป
สถานที่ : Bangpoo Golf and Sports Club จังหวัด สมุทรปราการ
หากใครที่สมัครเรียบร้อยแล้ว จะได้รับ อีเมล ยืนยัน พร้อมรายละเอียดต่างๆ อย่าลืมเช็คดูให้ถูกต้องเรียบร้อย เมื่อใกล้ วันที่แข่ง 2-3 วัน จะมีอีเมลส่งมาเตือนเราอีกครั้ง สำหรับเราสมัครไปตอนเดือน สิงหาคม และแข่งในเดือนตุลาคม มีเวลาเตรียมตัวให้พร้อมเกือบ 2 เดือน จะว่าน้อยก็น้อย จะว่าเยอะก็เยอะ ขึ้นอยู่กับความตั้งใจในการซ้อม
สำหรับเรา ออกกำลัง 4 -5 วัน ต่อสัปดาห์ ส่วนมากจะเล่น Crossfit ต่อยมวย ปั่นจักรยานในร่ม วิ่งบ้าง แต่ว่ายน้ำนั้นน้อยมากๆ เอาจริงๆมีเวลาซ้อมว่ายน้ำ 2-3 ครั้งเท่านั้นเอง ซ้อมกับสระว่ายน้ำที่คอนโด สรุปคือ ไม่เคยซ้อมกีฬาทั้ง 3 ประเภทอย่างต่อเนื่องเลย
อุปกรณ์จำเป็นสำหรับการแข่ง ก็คือ จักรยาน และหมวกกันน๊อคสำหรับใส่ในการปั่นจักรยาน อย่างที่รู้กันจักรยานราคาไม่ใช่จะถูก และนี่คือการแข่งครั้งแรกเพื่อลองสนาม จะลงทุนซื้อจักรยานเลยมันก็อาจจะเปลืองเกินไป โชคดีมากที่มีเพื่อนให้ยืมจักรยานพร้อมหมวกมาครบเซตเลย ได้ทดลองปั่นตามระยะทางจริง 1 ครั้งถ้วน เราไปลองปั่นที่บึงหนองบอน ตอนซ้อมก็ใส่หมวก ใส่รองเท้าที่จะใช้ในวันแข่งให้เหมือนจริงที่สุด แม้แต่ชุดที่จะใส่แข่งก็ควรเอามาใส่ซ้อมด้วย แต่ก็อีกแหละค่ะ ชุดแข่ง ไตรกีฬาโดยเฉพาะนั้น ราคาก็หลายพันอยู่ ส่วนมากก็เป็นชุดที่ เนื้อผ้าแบบชุดว่ายน้ำ ชุดออกกำลังการทั่วไป เน้นที่เบา ใส่สบาย แห้งไว ระบายอากาศได้ดี รูปแบบชุด มีทั้งแบบต็มตัว หรือแบบแยกชิ้น ความยาวชุดเหนือเข่า มีซิปรูดด้านหน้า ส่วนเป้าจะมีโฟมเพื่อ Support ก้นระหว่างปั่นจักรยาน แต่หากกำลังเงินใครยังไม่พร้อม แนะนำว่าไม่ต้องซื้อก็ได้นะคะ สามารถใส่ชุดออกกำลัง ที่เราใส่แล้วคล่องตัวในการแข่งกีฬาทั้ง 3 ชนิด แบบที่สามารถใส่ต่อเนื่องกันได้ จะได้ไม่เสียเวลาในการเปลี่ยนได้เลย เพราะงาน TriDash นี้เค้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องชุดมากนัก
การเช็ค Bib รายชื่อ และเส้นทางในการแข่งขัน สามารถเช็คได้จากใน Facebook Page : Tri Dash ได้เลย หน้าตาก็จะประมาณนี้
รายชื่อจะถูกจัดแบ่งเป็น Group แต่ละ Group จะมีเวลาปล่อยตัวที่ต่างกัน หมายเลขข้างหน้าก็คือ หมายเลขBib / Pool ก็คือเลนที่เราจะต้องไปยืนรอว่ายน้ำ / Sequence ก็คือลำดับที่จะปล่อยตัวลงน้ำ/ Start Time คือเวลาที่เราเริ่มแข่งขัน ของเรา Bib no. 99 อยู่ที่เลน 8 ลำดับ H ปล่อยตัวเวลา 07:05:10
จาก e-mail ที่ได้รับแจ้งจะต้องไป Register ตั้งแต่เวลา 05:30-06:30 น. หากใครบ้านไกล ก็แนะนำให้เผื่อเวลาเดินทางกัน รถไม่ติด แต่ระยะทางจะไกล หาไม่ยาก เพียงเปิด Google Map สถานที่จัดงานใหญ่โต มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ในทุกจุด
สิ่งแรกที่ควรรจะไปทำเมื่อมาถึงก็คือ เดินไปลงทะเบียน รับBib และ Body Mark (การเขียนเลข Bib ที่แขน และ ขา ทั้ง 2 ข้าง สำหรับการแข่งว่ายน้ำ) ใส่ Micro Ship ที่ข้อเท้า ทางผู้จัดงานในครั้งนี้ จะมีเสื้อให้นักกีฬาทุกคนฟรี 1 ตัว กระบอกน้ำ ถุงเป้ และ Energy Gel สำหรับกินระหว่างแข่งขัน ในวันที่เรามาถึง อากาศค่อนข้างดี มีความครึ้มฟ้าครึ้มฝน แต่ก็ไม่ตก และแดดก็ไม่ออก ลมพัดเย็นและชิวดีมากๆ แต่ก็แนะนำให้ทาครีมกันแดดไว้ก็จะดี หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อย ก็เอาจักรยานไปวางไว้ที่จุดจอดจักรยานที่จะแบ่งตามลำดับ Bib เอาอุปกรณ์ต่างๆใส่ตะกร้าที่เค้าจัดไว้ให้ แล้ววางไว้ข้างจักรยาน ควรวางให้เป็นระเบียบ หยิบจับได้ง่าย เพื่อความรวดเร็ว ระหว่างช่วง Transition เมื่อเตรียมทุกอย่างเรียบร้อย ก็ทำใจให้สบาย ดื่มน้ำ เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย แล้วตรงไปยังสระว่ายน้ำได้เลย
🏊🏻♀️ ว่ายน้ำ ระยะ 400 เมตร ความยาวของสระคือ 50 เมตร เท่ากับต้องว่าย ไปกลับทั้งหมด 8 รอบ ด้วยความที่ซ้อมก่อนแข่งแบบกรุบกริบกับสระคอนโดขนาดย่อม บอกตรงว่า ตอนเห็นสระจริงก็หวั่นใจอยู่ แล้วพแแข่งจริง มันเหนื่อยยยยยยมาก เราเลือกว่าย freestlye สลับการเดินด้วยความที่สระไม่ลึกแล้วก็คือว่าพักเหนื่อย และสุดท้ายก็ตัดสินใจหงายตัวตีกรรเชียงไปแบบ โนสน โนแคร์ 🤣 ในตอนนั้นคิดว่าท่าทางไม่เน้น ขอไปให้ถึงจนจบให้เร็วที่สุด
ทุกๆประเภทการแข่งขัน นักกีฬาจะต้องนับรอบกันด้วยตัวเองนะ ไม่มีกรรมการคอยนับให้ เพราะฉะนั้นต้องมีสติหรือหากใครมีคนมาเชียร์ก็บอกกองเชียร์ให้ช่วยนับก็ได้ เมื่อครบ 8รอบ ก็ต้องรีบไปโซนที่จอดจักรยานไว้ ควรเช็คตัวให้แห้งที่สุดเพราะฉะนั้น ต้องเตรียมผ้าเช็ดตัวมาด้วยนะ ใส่รองเท้า ใส่หมวกกันน๊อคให้แน่น ดื่มน้ำ กินเจล ใส่ Bib เรียบร้อย ก็ต้องจูงจักรยานไปยังจุดปล่อยตัวจักนยาน เมื่อพร้อมก็ออกตัวได้เลย
🚴♀️ จักรยาน ระยะ 20 กิโลเมตร สนามจริงคือรอบละ 5 กิโลเมตร ก็ต้องปั่นไป 4 รอบ โชคดีที่แดดไม่มี ปั่นแบบไม่ร้อน อากาศชิว แต่ขานี่สับๆๆ แทบไม่หยุด สิ่งสำคัญต้องใส่หมวกกันน๊อคตลอดการปั่น จักรยานบางคนเร็วมากอย่างกับจรวด ก็อย่าไปสนใจ ปล่อยเค้าไป พยายามเลือกเกียร์ให้ถูกต้อง เพื่อเป็นการพยุงแรงของเราไปให้ได้จนจบ
🏃🏼♀️ วิ่ง ระยะทาง 5 กิโลเมตร ตามเส้นทางต้องวิ่งไปกลับ ทั้งหมด 2 รอบ ส่วนตัวแล้วคิดว่าวิ่งน่ากังวลน้อยสุดเพราะมีโอกาสได้ซ้อมเยอะที่สุด พอถึงเวลาแข่งก็จริง แต่จากการที่เรา ผ่านการว่ายน้ำและปั่นจักรยาน แบบต่อเนื่อง ขาก็จะล้า เลยคิดว่าวิ่งแบบ tempo จังหวะเดียวไปจนจบ ไม่มีการ speed sprint ใดๆ น่าจะดีที่สุด ระหว่างทางวื่ง จะมีจุดให้น้ำ และ ฟองน้ำเย็นๆแจกให้ได้เช็ดหน้าเช็ดตาเช็ดตัว
เมื่อเข้าFinsh Line เจ้าหน้าที่ก็จะแจกเหรียญให้เลย พร้อมกับ ถอด Microship ออกจากข้อเท้า รู้สึกดีใจมากๆ ที่มาถึงจุดนี้ และแข่งจนจบได้ด้วยตัวเอง
เมื่อจบการแข่งขัน ผู้แข่งขันสามารถเข้าไปดู Official Time ของตัวเองได้ใน เพจ Tri Dash ภายในวันนั้นเลย ซึ่งทางผู้จัดลงให้รวดเร็วทันใจ ส่วนรูปสวยๆที่นำมาลง สามีเป็นคนถ่ายให้ แต่ทางเพจ Tri Dash ก็มีรูปลงไว้เช่นกันจะเป็นรูปที่มีลายโลโก้อยู่ด้านล่าง รูปสวยและเยอะ ที่สำคัญสามารถ Save มาได้เลยไม่มีค่าใช้จ่าย
และนี่คือ Official Time ของ Tridash ครั้งแรก กับเวลาซ้อมที่น้อยนิดทำได้เท่านี้ก็พอใจละ ไม่ได้แข่งกับใคร แต่แข่งกับตัวเองล้วนๆ ทำให้รู้ว่า skill ไหนต้องปรับ หรือเพิ่ม แล้วปีหน้าก็คิดว่าจะกลับมาแก้มือใหม่
หากใครสนใจอยากลอง สามารถเข้าไปดูรายละเอียดต่างๆได้ที่ Website : http://www.tridashthailand.com หรือ Facebook Page : Tri Dash ข้อมูลค่อนข้างครบถ้วน และตอนนี้มีรายการสำหรับปี 2020 มาลงในเพจแล้ว มีความท้าทายมากขึ้นกว่าเดิมด้วย
Tridash Bangkok Series 2019
06-10-19