ไตรกีฬาเริ่มต้น สำหรับคน อายุ ห้าสิบเศษ ที่มีเวลาเตรียมตัว 2 เดือน

รวมแผนการเตรียมตัว เข้าร่วม ไตรกีฬาครั้งแรกแบบ Sprint สำหรับ  Bangkok Triathlon 2018

Personal Back Ground
โดนเพื่อนหลอกให้ มารวมการแข่งขัน Bangkok Triathlon 2018 ซึ่งเป็นการเข้าร่วมแข่งขัน กีฬา ที่ต้องออกกำลังกายจริงๆ ครั้งแรกในรอบ 30ปี (ตอนอายุ 5Xปี) นับแต่จบมหาวิทยาลัย  ในอดีต เคยเป็นนักกีฬา  ว่ายน้ำ และโปโลน้ำ ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เคยขึ้นโพเดียม จาก การแข่งขัน กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยในช่วง 2528-2530 และมีการร่วมแข่งขัน แบดมินตันเป็นตัวแทนคณะ หลังจากจบมหาวิทยาลัยมาก็ค่อยๆ เลิกเล่นกีฬาเกือบทุกประเภท หันมาตีกอล์ฟ ตั้งแต่ปี 2539 ได้ ถ้วยมาเยอะมากใน ไฟต์ B-C แต่ไม่เคยได้ถ้วยไฟต์ A เลยแปลว่ายังมีคนเก่งกว่าอีกเยอะ ระหว่างนั่นก็เริ่มอ้วนขึ้นหนักสุดเกือบ 90กก เลยต้องออกกำลังกายเพื่อลดความอ้วน ด้วยว่ายน้ำและปั่นจักยาน โดยเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาคมจักรยานเพื่อสุขภาพแห่งประเทศไทย(TCC)ใน ยุคแรกๆ ไปร่วมออกทริปบ้างนานๆครั้ง  เป็นระยะๆ จนปี 2554 น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ เลยหยุดตีกอล์ฟ ไปเลย พอ น้ำลด เริ่มเข้าสู่ยุคคนหันมาออกกำลังกายด้วยการ ปั่นจักรยาน มีคนชวนปั่นเยอะมาก จนมี สนามเขียว และงาน Bike for MOM และ Bike for DAD  ก็เเข้าร่วมงานทุกงาน  จนหยุดการออกกำลังกายทุกชนิดเหลือแต่ปั่นจักรยานอย่างเดียว หลายปีแต่ส่วนใหญ่จะเป็นการปั่นเพื่อสุขภาพเท่านั่นไม่เคยร่วมแข่งขันรายการใดๆเลย
    จนกระทั้ง ต้นเดือน เมษายน 2561 ไปเจอเพื่อนนักกีฬาเก่าๆในงานเลี้ยง มีเพื่อนหลายคนทั้งเพื่อนอดีต นักว่ายน้ำ เพื่อนตีกอล์ฟ เพื่อนตีแบด ที่ปัจจุบันส่วนใหญ่หันมา ร่วมแข่งขัน วิ่งตั้งแต่ มินิฯ จนถึง มาราธอน หรือ แม้แต่ไปวิ่ง เทรล 100 กม มาชวนให้ลงไปร่วมแข่ง ไตรกีฬา เนื่องจาก รู้ว่า อดีตเราเป็นนักกีฬาว่ายน้ำ น่าจะได้แต้มต่อ จาก กีฬาประเภทนี้ แถม ยังปั่นจักรยานมานานแล้ว และแนะนำว่าจะเข้าร่วม แข่งขัน Bangkok Triathlon 2018 หลายคน เลยกลับ มาศึกษา ทราบว่ารายการนี้ ใหญ่ ดังมากและ หยุดดำเนินการแข่งขัน มา 2 ปีแล้ว จึงตัดสินใจจะสมัคร ตั้งแต่ ช่วงแรกๆ เป็น Early Bird จุดประสงค์คือถูกกว่า หลังจากนั่นก็เริ่มเครียดสิครับ จะลงประเภทไหน ปีนี้ มี 3 ประเภท
1. Bangkok Brave Heart ว่ายน้ำ 200 เมตร จักรยาน 10 กม วิ่ง 2.5 กม
2. Bangkok Beast ว่ายน้ำ 750 เมตร จักรยาน 27 กม วิ่ง 5 กม  
3. Bangkok Tough Thai ว่ายน้ำ 1500 เมตร จักรยาน 54 กม วิ่ง 10 กม  
แข่งกัน 2 วัน ตั้งใจว่าเราเป็นอดีต นักกีฬา อย่างไรก็ต้องลงประเภท Olympic หรือ Standard แต่กังวล เรื่องหัวเข่าซ้ายที่มีปัญหา มาตลอดตั้งแต่แบดที่เลิกเล่นไป จนมาเจ็บแม้แต่ตีกอล์ฟ  ก็เลยต้องลอง  วันแรกที่ลอง จัด ไป วิ่ง 10 กม pace 6 ตอนจบการซ้อมยังปกติ คิดว่าได้ลงรุ่น Tough แน่ แต่หลังจากนั้น 1 วัน เจ็บเข่าชนิดเดินไม่ได้ต้องหาหมอกินยา ครับ หมอให้หยุดซ้อม 2-3 สัปดาห์หรือจนกว่าจะหาย ทำให้ตัดสินใจใหม่ ลงรุ่นที่ลดระยะลงมาเพื่อความสบายใจ โดยสมัครลงรุ่นBangkok Beast แทน และเริ่มซ้อม กีฬาว่ายน้ำและ ปั่นจักรยานแทน ไปพรางๆก่อน

เริ่มการซ้อม
โดยในช่วงแรกปลายเดือน เมษายน พฤษภาคม จะเน้นซ้อมเบาๆก่อน เช่น ว่ายน้ำ 1500 เมตร ปั่นจักรยาน 47 กม และปั่น Spinner ในกรณีไม่มีเวลาออกกำลังกาย เนื่องจาก เพิ่งกลับมาว่ายน้ำครั้งแรกในรอบเกือบ 8ปี  ส่วนจักรยาน จะปั่นสนามฟ้า 2 รอบประจำอยู่แล้ว ส่วนวิ่งจะเริ่ม จากช้าๆ 2-5 กม ที่ Pace 7-8 โดยกำหนดไว้ว่าจะต้องซ้อมให้ครบทุกประเภทกีฬา ในแต่ละสัปดาห์ ส่วนที่เกินถือเป็นกำไร (ตย ดูจากSunnto Listข้างล่าง)
โดยในช่วงที่สองเดือน มิถุนายน จะเน้นซ้อมเข้มเต็มที่ เช่น ว่ายน้ำ 3000 เมตร ปั่นจักรยาน 47 กม และปั่น Spinner ในกรณีไม่มีเวลาออกกำลังกาย วิ่ง 5 กม ที่ Pace 5-6 โดยกำหนดไว้ว่าจะต้องซ้อมให้ครบทุกประเภทกีฬา ในแต่ละสัปดาห์ และให้ในสัปดาห์มีการซ้อมควบ 2 หรือ 3 ประเภทกีฬาอย่างน้อย 1 ครั้ง (ตย ดูจากSunnto Listข้างล่าง)
โดยในช่วงที่สามเดือน กรกฏาคม จะเริ่มลดการซ้อมลงเช่น ว่ายน้ำ 2500 เมตร ปั่นจักรยาน 27 กม วิ่ง 5 กม ที่ Pace 6  โดยสัปดาห์สุดท้ายก่อนแข่งงดเนื่องจากมีอการไข้หวัดจึงพักยาวไปถึงวันที่ลงแข่ง(ตย ดูจากSunnto Listข้างล่าง)
รวมเวลาการซ้อมรวม 80 วัน ตั้งแต่สมัคร ใช้เวลา 44 ชม ได้ระยะทางรวม 614 กม  (ตย ดูจากSunnto Listข้างล่าง)

ก่อนวันแข่งจริงเอาจักรยานไปฝากตอนเย็นรีบกลับบ้านไปกินข้าวเข้านอนตอน 2ทุ่ม ตื่น ตี3 มากินข้าวเหนียวปลาทูย่างให้อิ่มเข้าห้องน้ำถ่ายสามรอบเอาให้หมด ไปถึง สะพานพระรามแปด ราวๆ ตี 5 ฝากของมีค่าเสร็จ ติด Track ที่หัวไหล่กับขา แล้วเข้าจุดจอดจักรยานเอาหมวก รองเท้าจักรยาน รองเท้าวิ่งไปเก็บใส่ตะกร้า ออกไปรอเตรียมว่ายน้ำ ลองเอาเท้าจุ่มน้ำดู อุ่นดีครับ ลงน้ำที่ละประมาณ10-20 คน กว่า จะลงว่ายจริงน่าจะ lot ที่ 4-5 แล้ว น้ำเชี่ยวมาก เจอปลาตีนของคนที่ลงก่อนแต่ว่ายไม่ไป ไปเยอะพอสมควร ว่ายทวนน้ำอยู่สักพัก กว่าจะถึงจุด U-Turn เริ่มเจอคนน้อยลงเพราะ คนเก่งไปหมดแล้ว ขากลับตามน้ำว่ายเป็นจรวด มาถึงจุด U-Turn พอกลับมาก็เจอกระแสน้ำอีก ต้องเร่งว่ายเพื่อเข้าจุดจบการแข่งขันว่ายน้ำ  พอจับเชือกดึงตัวขึ้นก็รู้ว่า แรงหมดไปกลับการว่ายน้ำ แล้ว ที่เหลือต้องคุมดีๆ ทั้งจักรยานและวิ่ง ซึ่งทั้ง 2 ประเภท ต้องพยายามไม่เร่ง เช่นจักรยานตามปกติจะปั่น 34-38 ก็ลดลงเหลือ 30-32 บางช่วงเจอลมก็ตกเหลือ 26-28 พอถึงจุดกลับรถ ได้ลมช่วย คิดจะเร่ง พอเกิน 35 ตระคริวมาเลยครับเลย จนไปจบจักรยาน  มาวิ่ง ต่อนี้คือ หมดแรงแล้ว วิ่งช้าๆตลอดจนจบการแข่งขัน

ผลการแข่งขัน (เพื่อนที่ชวนไม่มีใครมาร่วมแข่งขันสักคน มารู้วันที่ประกาศ BIB)

1.ว่ายน้ำจบ อันดับที่ 5 ในรุ่นอายุ ที่ 39 ตามเพศ และ 46 ในประเภทรวม (น้ำเชี่ยวมาก หมดแรงตั้งแต่ว่ายน้ำ)
2.จักรยานจบ อันดับที่ 8 ในรุ่นอายุ ที่ 65 ตามเพศ และ 75 ในประเภทรวม (AV 29.9 แต่ตระคริวถามหาตลอดถ้าเร่ง)
3.วิ่งจบ อันดับที่ 10 ในรุ่นอายุ ที่ 88 ตามเพศ และ 102 ในประเภทรวม (Pace 7.17 ตระคริว มาสลับซ้าย ขวา)
สรุปจบ ไตรกีฬาแรก ทำให้รู้ว่า ยังอ่อนซ้อมไป เอาไว้คราวต่อไปต้องวางแผนให้ยาวและต่อเนื่องกว่านี้ครับ





แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่