(กระทู้เพื่อสนทนา แบ่งปัน แลกเปลี่ยน (ตั้งในหมวดกระทู้คำถามเพื่อให้สมาชิกทุกท่านส่งความเห็นได้ ))
_________
ขออนุญาตเสนอ ความเห็นที่ผม เห็นว่า ทำให้เกิดความเข้าใจ เกี่ยวกับ องค์ประกอบของสมาธิ ที่มีอยู่ในจิตตามปกติ อยู่แล้ว
และ สาเหตุที่ทำให้เกิดสมาธิ ระดับต่างๆ
ที่ สมาชิกท่านหนึ่ง(ท่านทำหมู)กรุณาอธิบายให้ ผมฟัง นะครับ
มีข้อคิดเห็น หรือมีข้อเสนอแนะใด กรุณาแจ้งที่ตัวผม ผู้นำมา ไม่เกี่ยวกับท่านที่อธิบายให้ผมฟังนะครับ
.
.
_____________________
https://ppantip.com/topic/39271598/comment16-1
ความคิดเห็นที่ 16-1
เจตสิกแต่ละชนิด มีกิจของตน มีทำหน้าที่ของตนเพียงอย่างเดียว
ซึ่งพระบรมศาสดา ได้จำแนกเจตสิกออกเป็น 52 ชนิดด้วยกัน
ในเจตสิกทั้งหมด 52 ชนิด
มีอยู่ 7 ชนิดที่เกิดกับจิตทุกดวง คือ
1. ผัสสะ (ความกระทบอารมณ์)
2. เวทนา (ความเสวยอารมณ์)
3. สัญญา (ความหมายรู้อารมณ์)
4. เจตนา (ความจงใจต่ออารมณ์)
5. เอกัคคตา (ความมีอารมณ์เป็นอันเดียว)
6. ชีวิตินทรีย์ (สภาวะที่เป็นใหญ่ในการรักษานามธรรมทั้งปวง)
7. มนสิการ (ความกระทำอารมณ์ไว้ในใจ, ใส่ใจ)
เจตสิกทั้ง 7 เป็นเหมือนกับคำสั่งพื้นฐานของจิต ที่รอรับการทำงานในหน้าที่ต่างๆ
เอกัคคตาเจตสิก เป็นเจตสิกที่สำคัญอีกตัว ที่รอการ
ทำงานของจิตเมื่อมีการกระทบ หน้าที่คือ ทำให้จิตใส่ใจในอารมณ์ที่ปรากฏ
เมื่อมีการเห็น จิตจะไปใส่ใจในกิจอื่นไม่ได้
ต้องใส่ใจในกิจเห็นอย่างเดียว เมื่อมีการนึกคิดเอกัคคตาจะทำหน้าที่ใส่ใจในเรื่องที่คิด จิตจึงมีการเรียบเรียงเป็นเรื่องเป็นราว เป็นสัตว์ เป็นบุคคลได้ ทังนี้ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่เราไปทำ แต่เป็นธรรมชาติของจิต-เจตสิก ทำอย่างนี้ร่วมกันมาเป็นแสนโกฏิกัปแล้ว
โดยปกติแล้ว ใน 1 วินาที จิตเกิดดับเป็นสนโกฏิขณะ เกิดวิถีจิตนับล้านวิถี ทั้งเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัส และนึกคิด
เอกัคคตาเจตสิกในแต่ละขณะก็ทำกิจในเรื่องต่างๆ สลับกันไป เอกัคคตาจึงมีสภาพ
ไม่ตั้งในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งติดต่อกัน จึงไม่มีกำลัง
สำหรับคนที่มีความต้องการในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่นตั้งใจอ่านหนังสือ ตั้งใจคิด ตั้งใจเล่นกีฬา เอกัคคตาก็จะทำหน้าที่ ตั้งมั่นในเรื่องที่ตนทำอย่างมากในเรื่องนั้นๆ จึงเป็นสมาธิที่มีกำลังขึ้นมา นี้ก็เรียกว่าสมาธิแต่ก็ไม่แนบแน่น
เพราะยังมีการสลับอารมณ์ในทวารต่างๆไปมา
สำหรับ
ฌานแล้ว
เป็นสภาพที่ต่างกันมาก เพราะเมื่อ
ผู้ปฏิบัติพยายามเพิ่กอารมณ์ (ทำเป็นไม่สนใจ) ที่เกิดทางทวารต่างๆ สนใจแต่มโนทวาร ปิดหู หลับตา ท่องบ่นบริกรรมเรื่องๆเดียวในเวลาหนึ่ง
หากจิตละความกังวลเรื่องต่างๆได้ สนใจแต่คำบริกรรม เอกัคคตาก็จะทำหน้าที่ของตนติดต่อกันในเรื่องเดียว ในส่วนของมโนวิญญาน เอกัคคตาชนิดนี้จึงมีกำลังมาก
ในฌาน 1 มีองค์ธรรม 5 องค์มีกำลังน้อย
ฌาน 2 มีองค์ธรรม 3
ฌาน 3 มีองค์ธรรม 2
และฌาน 4 มีองค์ธรรม 2
จะเห็นได้ว่าฌานยิ่งสูง องค์ธรรมยิ่งน้อย นั้นเป็นเพราะเอกัคคตามุ่งทำกิจในเรื่องเดียว
ยิ่งกิจที่ทำเป็นเรื่องเป็นราวซับซ้อน กำลังของสมาธิยิ่งน้อย
ในทางกลับกัน อารมณ์ยิ่งว่างเท่าใด กำลังของสมาธิก็ยิ่งมาก
ฌานถ้าฝึกได้ ย่อมมีประโยชน์ แต่การได้ฌานไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำแล้วได้ เพราะการได้ฌาน ต้องอาศัยปัจจัยแบบข้ามภพชาติเช่นเดียวกับการบรรลุธรรม
ทำหมู
8 ชั่วโมงที่แล้ว
______________
ความคิดเห็นที่ 16-2
.
.
.
.
----- โอ ชัดเจน แจ่มแจ้งยิ่งนัก เหมือนเปิดไฟในที่เคยมืด ให้เห็นสิ่งของที่ เคยมองไม่เห็น ทำให้เห็นอย่างแจ่มแจ้ง
ขอบพระคุณท่านทำหมู อย่างยิ่งครับ ทำให้เข้าใจสภาวะของสมาธิ
และเงื่อนไข ของการเกิดสมาธิที่มีกำลังมากขึ้นเรื่อย จนเป็นฌาน ได้
ขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ
และขออนุญาตนำคำอธิบายไปตั้งเป็นกระทู้ เพื่อประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจนะครับ
_/\_
แก้ไขข้อความเมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้ว
วงกลม
1 ชั่วโมงที่แล้ว
______________
--- จิตมี เอกัคคตา(ความมีอารมณ์เป็นอันเดียว)เจตสิก อยู่เสมอ /ถ้าทำให้มีติดต่อกัน ก็เป็นสมาธิที่มีกำลังมากขึ้น ตามลำดับ
_________
ขออนุญาตเสนอ ความเห็นที่ผม เห็นว่า ทำให้เกิดความเข้าใจ เกี่ยวกับ องค์ประกอบของสมาธิ ที่มีอยู่ในจิตตามปกติ อยู่แล้ว
และ สาเหตุที่ทำให้เกิดสมาธิ ระดับต่างๆ
ที่ สมาชิกท่านหนึ่ง(ท่านทำหมู)กรุณาอธิบายให้ ผมฟัง นะครับ
มีข้อคิดเห็น หรือมีข้อเสนอแนะใด กรุณาแจ้งที่ตัวผม ผู้นำมา ไม่เกี่ยวกับท่านที่อธิบายให้ผมฟังนะครับ
.
.
_____________________
https://ppantip.com/topic/39271598/comment16-1
ความคิดเห็นที่ 16-1
เจตสิกแต่ละชนิด มีกิจของตน มีทำหน้าที่ของตนเพียงอย่างเดียว
ซึ่งพระบรมศาสดา ได้จำแนกเจตสิกออกเป็น 52 ชนิดด้วยกัน
ในเจตสิกทั้งหมด 52 ชนิด มีอยู่ 7 ชนิดที่เกิดกับจิตทุกดวง คือ
1. ผัสสะ (ความกระทบอารมณ์)
2. เวทนา (ความเสวยอารมณ์)
3. สัญญา (ความหมายรู้อารมณ์)
4. เจตนา (ความจงใจต่ออารมณ์)
5. เอกัคคตา (ความมีอารมณ์เป็นอันเดียว)
6. ชีวิตินทรีย์ (สภาวะที่เป็นใหญ่ในการรักษานามธรรมทั้งปวง)
7. มนสิการ (ความกระทำอารมณ์ไว้ในใจ, ใส่ใจ)
เจตสิกทั้ง 7 เป็นเหมือนกับคำสั่งพื้นฐานของจิต ที่รอรับการทำงานในหน้าที่ต่างๆ เอกัคคตาเจตสิก เป็นเจตสิกที่สำคัญอีกตัว ที่รอการทำงานของจิตเมื่อมีการกระทบ หน้าที่คือ ทำให้จิตใส่ใจในอารมณ์ที่ปรากฏ
เมื่อมีการเห็น จิตจะไปใส่ใจในกิจอื่นไม่ได้ ต้องใส่ใจในกิจเห็นอย่างเดียว เมื่อมีการนึกคิดเอกัคคตาจะทำหน้าที่ใส่ใจในเรื่องที่คิด จิตจึงมีการเรียบเรียงเป็นเรื่องเป็นราว เป็นสัตว์ เป็นบุคคลได้ ทังนี้ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่เราไปทำ แต่เป็นธรรมชาติของจิต-เจตสิก ทำอย่างนี้ร่วมกันมาเป็นแสนโกฏิกัปแล้ว
โดยปกติแล้ว ใน 1 วินาที จิตเกิดดับเป็นสนโกฏิขณะ เกิดวิถีจิตนับล้านวิถี ทั้งเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส กระทบสัมผัส และนึกคิด เอกัคคตาเจตสิกในแต่ละขณะก็ทำกิจในเรื่องต่างๆ สลับกันไป เอกัคคตาจึงมีสภาพไม่ตั้งในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งติดต่อกัน จึงไม่มีกำลัง
สำหรับคนที่มีความต้องการในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่นตั้งใจอ่านหนังสือ ตั้งใจคิด ตั้งใจเล่นกีฬา เอกัคคตาก็จะทำหน้าที่ ตั้งมั่นในเรื่องที่ตนทำอย่างมากในเรื่องนั้นๆ จึงเป็นสมาธิที่มีกำลังขึ้นมา นี้ก็เรียกว่าสมาธิแต่ก็ไม่แนบแน่น เพราะยังมีการสลับอารมณ์ในทวารต่างๆไปมา
สำหรับฌานแล้ว เป็นสภาพที่ต่างกันมาก เพราะเมื่อผู้ปฏิบัติพยายามเพิ่กอารมณ์ (ทำเป็นไม่สนใจ) ที่เกิดทางทวารต่างๆ สนใจแต่มโนทวาร ปิดหู หลับตา ท่องบ่นบริกรรมเรื่องๆเดียวในเวลาหนึ่ง หากจิตละความกังวลเรื่องต่างๆได้ สนใจแต่คำบริกรรม เอกัคคตาก็จะทำหน้าที่ของตนติดต่อกันในเรื่องเดียว ในส่วนของมโนวิญญาน เอกัคคตาชนิดนี้จึงมีกำลังมาก
ในฌาน 1 มีองค์ธรรม 5 องค์มีกำลังน้อย
ฌาน 2 มีองค์ธรรม 3
ฌาน 3 มีองค์ธรรม 2
และฌาน 4 มีองค์ธรรม 2
จะเห็นได้ว่าฌานยิ่งสูง องค์ธรรมยิ่งน้อย นั้นเป็นเพราะเอกัคคตามุ่งทำกิจในเรื่องเดียว
ยิ่งกิจที่ทำเป็นเรื่องเป็นราวซับซ้อน กำลังของสมาธิยิ่งน้อย
ในทางกลับกัน อารมณ์ยิ่งว่างเท่าใด กำลังของสมาธิก็ยิ่งมาก
ฌานถ้าฝึกได้ ย่อมมีประโยชน์ แต่การได้ฌานไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำแล้วได้ เพราะการได้ฌาน ต้องอาศัยปัจจัยแบบข้ามภพชาติเช่นเดียวกับการบรรลุธรรม
ทำหมู
8 ชั่วโมงที่แล้ว
______________
ความคิดเห็นที่ 16-2
.
.
.
.
----- โอ ชัดเจน แจ่มแจ้งยิ่งนัก เหมือนเปิดไฟในที่เคยมืด ให้เห็นสิ่งของที่ เคยมองไม่เห็น ทำให้เห็นอย่างแจ่มแจ้ง
ขอบพระคุณท่านทำหมู อย่างยิ่งครับ ทำให้เข้าใจสภาวะของสมาธิ
และเงื่อนไข ของการเกิดสมาธิที่มีกำลังมากขึ้นเรื่อย จนเป็นฌาน ได้
ขอบพระคุณอย่างยิ่งครับ
และขออนุญาตนำคำอธิบายไปตั้งเป็นกระทู้ เพื่อประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจนะครับ
_/\_
แก้ไขข้อความเมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้ว
วงกลม
1 ชั่วโมงที่แล้ว
______________