เมื่อ1 ปีก่อนเราได้พาตัวเองไปอยู่ในความเสี่ยงด้วยการที่เราไม่ได้ป้องกัน แล้วพอมาปีนี้เรามีอาการแปลกๆคือน้ำหนักลด แล้วก็มีผื่นขึ้น แต่ที่ผ่านมาเราก็เสิร์ชหาข้อมูลในเน็ตว่าคนเป็นเอดส์หรือคนที่ติดเชื้อhiv เขาจะมีอาการอย่างไร แต่ในตอนนั้นเราไม่มีอาการอะไรก็เลยชะล่าใจ คงไม่มีอะไร พอในปีนี้ที่เรามีอาการเราเลยลองเสิร์ชอย่างละเอียดอีกทีก็พบว่าบางรายตอนแรกๆอาจจะยังไม่แสดงอาการเนื่องจากเราอาจจะมีภูมิต้านทานอยู่ แต่พอเวลาผ่านไปอาจจะ 1-10 ปีก็เริ่มแสดงอาการจนติดเชื้อเอดส์และแสดงอาการออกมาในวันที่ภูมิต้านทานเราลดลงแล้วก็ได้ วินาทีนั้นที่เราได้อ่านเราคิดในใจว่า แย่แล้ว เราเครียดมากแล้วเราก็กำลังเริ่มต้นใหม่กับแฟน มีอนาคตที่สดใส เราเครียดน้ำหนักก็ยิ่งลดไปอีก นอนไม่หลับเครียดอยู่อาทิตย์กว่าๆเราก็ตัดสินใจว่าจะไปตรวจเลือด แล้วเปลี่ยนจากการหาข้อมูลว่าอาการคนติดเชื้อhiv และอาการคนเป็นเอดส์มันเป็นยังไงนั้น เราก็หาข้อมูลคนที่กินยารักษายาต้านเชื้อhiv ว่าเขาใช้ชีวิตกันอย่างไรทำอย่างไรถึงใช้ชีวิตอยู่ต่อได้ เราเลยปลงคิดว่ายังไงก่อนตายเราควรที่จะทำประโยชน์ให้กับคนที่เรารักให้มากที่สุด ในคืนที่เราคิดว่าพรุ่งนี้ฉันจะไปตรวจ เอาวะ ดีกว่ามาเครียดคนเดียว อย่างน้อยให้หมอปลอบใจรักษาเราให้เราผ่านไปให้ได้ ดีกว่าไม่ยอมไปตรวจไม่ยอมไปรักษาแล้ววันนึงมันลุกลามกลายเป็นเอดส์ขึ้นมาเราคงรับสภาพตัวเองไม่ได้ คืนนั้นเรานอนไม่หลับเลยได้แต่มองหน้าแฟนว่าสงสารเขาจัง เขาเป็นคนดีทำเพื่อเราสาระพัดถ้าเขารู้ว่าเราติดเชื้อเขาคงเสียใจ เราคิดว่าหลังจากกลับมาเราค่อยมาบอกเขาตรงๆ พอเช้าวันนั้นเราตัดสินใจไปคลินิคนิรนาม วินาทีที่ไปถึงมีคนจำนวนมากมีแต่คนหน้าตาดีส่วนมากจะเป็นชายรักชายและฝรั่ง มีผู้หญิงไม่กี่คน หนึ่งในนั้นคือเรา เราก้กรอกข้อมูลในคอม กรอกไปมือสั่นไป พอกรอกเสร็จก็รอเรียกคิว ลืมบอกค่ะ ที่นี่ตรวจฟรีปีละ2 ครั้งจากนั้นพอถึงคิวเราคุณหมอก็ซักถามว่าเราไปมีความเสี่ยงอย่างไรมา ด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งในส่วนนี้ช่วยสภาพจิตใจเราได้มากในสภาวะจิตใจหดหู่มาเจอคุณหมอสวยๆพูดจาไพเราะ มันก็ดีในระดับนึง จากนั้นเราก็ต้องออกไปรอหน้าห้องที่เขาเจาะเลือด ตอนที่เจาะเลือดหมอบอกเจ็บนิดนึงนะคะแต่เราไม่รู้สึกเจ็บ เพราะเราตอนนั้นสภาพจิตใจคือพังแย่หดหู่ไปหมด ได้แต่ทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง พอเจาะเลือดเสร็จก้รอผลประมาณ1 ชั่วโมง เรามานั่งรอเรียกคิวหน้าห้องที่เราซักประวัติตอนแรก ระหว่างรอเรียกคิวนั้นเราก็คิดสาระพัดต่างๆนาๆ เราก็นั่งมองคนอื่นๆส่วนมากก็จะเป็นคนที่ป่วยอยู่แล้ว แล้วเขามาเจาะเลือดดอาการเพื่อมาดูว่าผลเลือดเขาดีขึ้นไหม แล้วก็มารับยากัน เราก็มองว่าต่อไปเราก็คงต้องเป็นแบบนั้นเลยมองเพื่อดูว่าเราจะทำอย่างไรให้สภาพจิตใจเราเป็นปกติระหว่างคิดไปเรื่อยๆนั้น เสียงเรียกคิวก็ดังขึ้น "เชิญหมายเลข1069 ค่ะ" เราสะดุ้งแล้วรีบพาร่างกายที่ไร้วิญญาณเข้าไปให้คุณหมอปลอบประโลมให้ไวที่สุดก่อนที่เราจะคิดสั้น คุณหมอก็ยื่นกระดาษผลตรวจให้เราเชคดูชื่อ-นามสกุลว่าถูกต้องใช่เราหรือเปล่า เราดูแบบรีบๆแล้วบอกว่าใช่ค่ะ หมอก็พูดไวมากจนเรายังไม่ทันตั้งตัว หมอบอกว่าผลเลือดปกติ ระหว่างที่คุณหมอพูด ก็เขียนข้อมูลและดูในกระดาษจนไม่เห็นว่าเรากำลังเบ้ปากเพราะเราร้องไห้ไม่หยุดด้วยความดีใจ หมอก็ยิ้มแล้วบอกว่าไม่เป็นไรนะคะคนไข้ ผลเลือดปกติ ผลนี้เชื่อถือได้99.9% นั่งซับน้ำตาแล้วทำใจสบายๆก่อนแล้วค่อยออกไปก็ได้นะคะ
ร้องไห้ไม่หยุด กับผลตรวจ HIV