เริ่มเรื่องก่อนคือผมมีเพศสัมพันธ์กับคนคุยนี้เหละครับเริ่มคุยกันได้ประมาณ2เดือนเเละช่วงเดือนมกกราคมได้มีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัยเหตุด้วยความเมาด้วยเหละ แต่ก็โทษใครไม่ได้ยกเว้นตัวเอง เเต่ตอนนั้นด้วยความที่เป็นวัยรุ่นด้วยเหละเลยไม่ได้ติดใจอะไรเรื่องเเบบนี้
*แต่พอช่วงเดือนกุมภาพันธ์ช่วงปลายเดือน เริ่มมีอาการ เป็นไข้ ปวดหัว และเริ่มมีเเผลบริเวณน้องชาย เเละบริเวณอวัยวะเป็นแผลเริมเเข็ง ไม่เจ็บ เป็นแผลเป็นวงตรงข้างจมูก และรู้สึกว่ามีเเผลบริเวณศรีษะ(ผิดพลาดอย่างไรของโทษด้วยครับ) เลยตัดสินใจหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตอาการค่อนข้างที่จะเป็นซิฟิลิสเลยตัดสินใจไปหาหมอ
**ตอนรอหมอเครียดมากเพราะหาข้อมูลเกี่ยวกับซิฟิลิสเเละHiv หลังจากรอพบหมอในห้องให้คำปรึกษา หมอสอบถามอาการต่างๆ เกี่ยวกับมีอาการผิดปกติของร่างกายอย่างไรบ้าง หลังจากนั้นเราเลยไปห้องเจาะเลือด นั่งรอผล(บอกได้เลยว่าเครียดกลัวว่าจะมีHIVมาด้วย) นั่งรอผล3 ชั่วโมง ปรากฎว่ามีเชื้อซิฟิลิส 1:64 (ในใจคิดว่า
ละทำไงอะทีนี้) เเต่ผลของHIV เป็นลบ จึงเข้าสู่กระบวนการรักษาในวันนั้นเลย
***ตอนเข้าพบหมอ หมอก็ถามถึงอาการต่าง ถามว่ามีอะไรผิดปกติไหม ผมเลยบอกว่ามีเเผลบริเวณอวัยวะเพศครับ เเต่ไม่มีอาการเจ็บ สักพักหมอขอดูหน่อย(ตอนนั้นก็แอบเขินอยู่เหมือนกันเพราะต้องมาเปิดให้หมอดู เขิน+อาย) เเต่หมอเลยบอกว่านี้เป็นอาการของซิฟิลิส หมอเลยงดห้ามมีเพศสัมพันธ์ก่อนในช่วงการรักษาตัวเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการรับเชื้อเพิ่มหรือเเพร่เชื้อต่อคนอื่น หลังจากนั้นหมอเลยจ่าย ยาเพนิซิลลิน (Penicillin) และไปที่ห้องฉีดยาเพื่อฉีดเข้ากล้ามเนื้อสโพกทั้ง2ข้าง บอกได้เลยว่าเป็นยาที่ฉีดเเละปวดมากๆ อย่าหาเป็น ปวดจนเเบบเดินเเทบไม่ไหวหลังจากฉีดหมอให้นั่งพัก20นาทีเพื่อดูอาการหลังจากนั้นให้กลับบ้านได้ โดยนัด3 เดือนมาตรวจเลือดดูค่า titer ว่าตอบสนองต่อยาที่ฉีดไปไหม
***หลังจาก3 เดือนไปเจาะเลือดหมอบอกค่า titer ลง1:4 ซิฟิลิสหายเเล้วและนัดอีกที6เดือนเพื่อตรวจติดตามค่าซิฟิลิส+Hiv
****หลังจากรอ6เดือนนี้เหละทำให้ผมจะเป็นบ้า เพราะหาข้อมูลต่างๆน่า อ่านกระทู้ต่างๆ ว่าตัวเองมีความเสี่ยงที่จะเป็นHIVไหมไปเจาะเลือดเดือนละ 2ครั้ง ใครไม่โดนกับตัวคงไม่เข้าใจ จนมาสังเกดอาการที่แสดงถึงการเกิด Hiv สักพักเริ่มมีงูสวัสขึ้นบริเวณแผ่นหลังเลยหาข้อมูล ว่าคนเป็นHIVอาจมีงูสวัสเครียดจนไม่ต้องทำอะไรกันเเล้วไม่กล้าบอกใคร ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นอาจะเป็นเพราะพักผ่อนน้อย เเต่ไม่ว่าจะเป็นผื่นหรือว่าอะไรผมจะโยงเข้า HIV ไปซะหมด เพราะเห็นข้อมูลว่าตรวจ3 เดือนไม่เจอ มาเจออีกที6 เดือน เอาซะผมไม่เป็นกินเป็นนอนเลย
*****หลังจากครบกำหนด6 เดือน เลยตัดสินใจว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดเราไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้อยู่เเล้วหลังเจาะเลือดเค่าซิฟิลิส ลดลง+ค่าของHIVเป็นลบโห่พระเจ้าเหมือนยกภูเขาออกจากอก หมอเลยเเนะนำว่าเรามีความเสี่ยงที่จะมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่รุ้จักไหม หมอเเนะนำให้รับยาเพร็พ (PrEP) เพื่อป้องกันการติดเชื้อของHIV และพยายามอย่าไห้ติดเชื้อซิฟิลิสเพิ่มมาอีก และนัดดูผลเลือดอีกที 1 ปี
*****หลังจากนี้บทเรียนคือการสวมถุงยางอนามัย ถ้ารักสนุกต้องรู้จักที่จะป้องกัน คุณมั่นใจว่าคุณไม่มีโรค เเต่คุณมั่นใจได้อย่างไรว่าคู่นอนของคุณไม่มีโรค เป็นบทเรียนที่ผมจำที่สุด ส่วนใครที่ยังกังวลว่าจะเป็นไหม แนะนำตรวจเลือดเลยครับ ไม่มีอะไรที่ต้องอายเเล้วจังหวะนั้น ยิ่งหาข้อมูลต่างๆนาๆยิ่งทำให้เสียสุขภาพจิต ยิ่งตรวจเจอเร็วรักษาเร็ว ก็ทำให้การรักษาเร็ว ขอบคุณครับ
รักษาซิฟิลิส ในสถานะคนป่วย
*แต่พอช่วงเดือนกุมภาพันธ์ช่วงปลายเดือน เริ่มมีอาการ เป็นไข้ ปวดหัว และเริ่มมีเเผลบริเวณน้องชาย เเละบริเวณอวัยวะเป็นแผลเริมเเข็ง ไม่เจ็บ เป็นแผลเป็นวงตรงข้างจมูก และรู้สึกว่ามีเเผลบริเวณศรีษะ(ผิดพลาดอย่างไรของโทษด้วยครับ) เลยตัดสินใจหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตอาการค่อนข้างที่จะเป็นซิฟิลิสเลยตัดสินใจไปหาหมอ
**ตอนรอหมอเครียดมากเพราะหาข้อมูลเกี่ยวกับซิฟิลิสเเละHiv หลังจากรอพบหมอในห้องให้คำปรึกษา หมอสอบถามอาการต่างๆ เกี่ยวกับมีอาการผิดปกติของร่างกายอย่างไรบ้าง หลังจากนั้นเราเลยไปห้องเจาะเลือด นั่งรอผล(บอกได้เลยว่าเครียดกลัวว่าจะมีHIVมาด้วย) นั่งรอผล3 ชั่วโมง ปรากฎว่ามีเชื้อซิฟิลิส 1:64 (ในใจคิดว่าละทำไงอะทีนี้) เเต่ผลของHIV เป็นลบ จึงเข้าสู่กระบวนการรักษาในวันนั้นเลย
***ตอนเข้าพบหมอ หมอก็ถามถึงอาการต่าง ถามว่ามีอะไรผิดปกติไหม ผมเลยบอกว่ามีเเผลบริเวณอวัยวะเพศครับ เเต่ไม่มีอาการเจ็บ สักพักหมอขอดูหน่อย(ตอนนั้นก็แอบเขินอยู่เหมือนกันเพราะต้องมาเปิดให้หมอดู เขิน+อาย) เเต่หมอเลยบอกว่านี้เป็นอาการของซิฟิลิส หมอเลยงดห้ามมีเพศสัมพันธ์ก่อนในช่วงการรักษาตัวเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการรับเชื้อเพิ่มหรือเเพร่เชื้อต่อคนอื่น หลังจากนั้นหมอเลยจ่าย ยาเพนิซิลลิน (Penicillin) และไปที่ห้องฉีดยาเพื่อฉีดเข้ากล้ามเนื้อสโพกทั้ง2ข้าง บอกได้เลยว่าเป็นยาที่ฉีดเเละปวดมากๆ อย่าหาเป็น ปวดจนเเบบเดินเเทบไม่ไหวหลังจากฉีดหมอให้นั่งพัก20นาทีเพื่อดูอาการหลังจากนั้นให้กลับบ้านได้ โดยนัด3 เดือนมาตรวจเลือดดูค่า titer ว่าตอบสนองต่อยาที่ฉีดไปไหม
***หลังจาก3 เดือนไปเจาะเลือดหมอบอกค่า titer ลง1:4 ซิฟิลิสหายเเล้วและนัดอีกที6เดือนเพื่อตรวจติดตามค่าซิฟิลิส+Hiv
****หลังจากรอ6เดือนนี้เหละทำให้ผมจะเป็นบ้า เพราะหาข้อมูลต่างๆน่า อ่านกระทู้ต่างๆ ว่าตัวเองมีความเสี่ยงที่จะเป็นHIVไหมไปเจาะเลือดเดือนละ 2ครั้ง ใครไม่โดนกับตัวคงไม่เข้าใจ จนมาสังเกดอาการที่แสดงถึงการเกิด Hiv สักพักเริ่มมีงูสวัสขึ้นบริเวณแผ่นหลังเลยหาข้อมูล ว่าคนเป็นHIVอาจมีงูสวัสเครียดจนไม่ต้องทำอะไรกันเเล้วไม่กล้าบอกใคร ซึ่งอาการที่เกิดขึ้นอาจะเป็นเพราะพักผ่อนน้อย เเต่ไม่ว่าจะเป็นผื่นหรือว่าอะไรผมจะโยงเข้า HIV ไปซะหมด เพราะเห็นข้อมูลว่าตรวจ3 เดือนไม่เจอ มาเจออีกที6 เดือน เอาซะผมไม่เป็นกินเป็นนอนเลย
*****หลังจากครบกำหนด6 เดือน เลยตัดสินใจว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดเราไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้อยู่เเล้วหลังเจาะเลือดเค่าซิฟิลิส ลดลง+ค่าของHIVเป็นลบโห่พระเจ้าเหมือนยกภูเขาออกจากอก หมอเลยเเนะนำว่าเรามีความเสี่ยงที่จะมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่รุ้จักไหม หมอเเนะนำให้รับยาเพร็พ (PrEP) เพื่อป้องกันการติดเชื้อของHIV และพยายามอย่าไห้ติดเชื้อซิฟิลิสเพิ่มมาอีก และนัดดูผลเลือดอีกที 1 ปี
*****หลังจากนี้บทเรียนคือการสวมถุงยางอนามัย ถ้ารักสนุกต้องรู้จักที่จะป้องกัน คุณมั่นใจว่าคุณไม่มีโรค เเต่คุณมั่นใจได้อย่างไรว่าคู่นอนของคุณไม่มีโรค เป็นบทเรียนที่ผมจำที่สุด ส่วนใครที่ยังกังวลว่าจะเป็นไหม แนะนำตรวจเลือดเลยครับ ไม่มีอะไรที่ต้องอายเเล้วจังหวะนั้น ยิ่งหาข้อมูลต่างๆนาๆยิ่งทำให้เสียสุขภาพจิต ยิ่งตรวจเจอเร็วรักษาเร็ว ก็ทำให้การรักษาเร็ว ขอบคุณครับ