สวัสดีค่ะทุกคนนนนนน ใกล้วันหยุดสุดสัปดาห์แล้ว ใครวางแพลนไปเที่ยวไว้แล้วบ้างงงง หาที่เที่ยวกันแล้ว อย่าลืมหาไรทานอร่อยๆกันนะค้าาา วันนี้เรามาเเนะนำร้านอาหารที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพและเป็นทางผ่านไปสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆที่ด้วย ใครอยากไปลองอาหารทะเลสดๆรสชาติดี ไปลองกันได้น้าาา เสริจกูเกิ้ลแมพแปบเดียวถึงเลยค่าา ไปง่ายๆ 

เช่นเคย ฝากกดไลค์ กดแชร เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะค้า

ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining
รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ

🇹🇭 Ruean Panya - เรือนปั้นหยา

⭐️ 1 Michelin Star - 1 ดาวมิชลิน

🦀 เรือนปั้นหยา ร้านอาหารไทยแบบธุรกิจครอบครัวชื่อดังแห่งย่านมหาชัย เสิร์ฟอาหารทะเลพื้นบ้าน โดยใช้วัตถุดิบสดใหม่ ในราคาที่เหมาะสมกับวัตถุดิบนั้นๆ มีทั้งวัตถุดิบทั่วไปและวัตถุดิบราคาแพงให้เลือกสั่งทานกัน เมนูชื่อดังคงหนีไม่พ้น “หลนปู” ที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในประเทศไทย และห้ามพลาดเมนูขึ้นชื่ออื่นๆ เช่น กุ้งกุลาอบเกลือ ปูเนื้อผัดต้นหอม เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกาแฟปั้นหยา อีกหนึ่งอย่างที่เป็นตัวชูโรงของที่นี่ในเรื่องกาแฟคุณภาพดีราคาไม่แพงอีกด้วย ตัวร้านใหญ่โตกว้างขวาง มีห้องส่วนตัวหลายห้อง บรรยากาศร่มรื่น หากไม่อยากรออาหารนานแนะนำให้ไปช่วงบ่ายแก่ๆจะดีที่สุด

🦞 นอกจากอาหารแล้ว มีคนกล่าวว่าที่นี่ไม่ง้อลูกค้าและมีกฎระเบียบเยอะ แต่มาลองทานดูก็เข้าใจได้ พนักงานที่นี่อาจมีจำนวนน้อยก็จริง แต่ก็พยายามบริการอย่างเต็มที่ พูดคุยเป็นกันเอง ส่วนกฎระเบียบจำนวนมากก็มากจริงๆเเต่ก็เข้าใจได้ ยกตัวอย่างเช่นการห้ามเด็กเข้าห้องที่มีของชิ้นเล็กตกแตกได้ การเขียนระบุไว้ตั้งแต่หน้าแรกถึงการสอบถามราคาอาหาร และแบ่งเมนูราคาแพงและเมนูทั่วไปอย่างชัดเจน รวมถึงเงื่อนไขการใช้บริการห้องส่วนตัวที่คิดค่าบริการรายชั่วโมงก็จัดว่ามีเหตุผล เอาจริงๆก็ไม่ได้แย่อะไร เพราะเราทั้งหมดจ่ายเพิ่มแค่ 80 บาท โดยที่ร้านไม่ได้คิดราคา Service และ Tax อีก 17% เหมือนร้านต่างๆในห้างสรรพสินค้า และได้นั่งห้องแอร์ทานข้าวแบบส่วนตัว ถือว่าคุ้มค่าเลยทีเดียว 🤔 อย่างไรก็ตามการใช้ภาษาเขียนป้ายต่างใช้ภาษาดูรุนแรงไป (มีคำที่เราอ่านเเล้วรู้สึกเหมือนโดนข่มขู่ด้วย ขนมที่วาวขายหน้าร้านห้ามหยิบของดูเอง ต้องถามพนักงานเท่านั้น) ซึ่งตรงนี้ก็ไม่เห็นด้วยเหมือนกัน เรามาทานข้าวแบบไม่ได้คิดอะไร พอมาอ่านป้ายแล้วเกิดความรู้สึกไม่สบายใจเลย คือป้ายเตือนมันเยอะจริงๆ ซึ่งก็ไม่ผิด แต่ควรเปลี่ยนภาษาที่ใช้เสียใหม่ เพื่อความสบายใจของลูกค้าดีๆที่แวะมาทาน 😐

🦑 โดยรวมถือว่าเป็นร้านอาหารรสเด็ดอีกร้านที่ต้องแวะมาชิม ด้วยความที่เป็นร้านอาหารทะเล ไม่มีการบวกภาษีและค่าบริการเพิ่ม อาจต้องทำใจสักนิดเรื่องรออาหารนาน แต่ได้รสชาติอาหารระดับนี้ ถือว่าหาได้ยากในกรุงเทพฯและปริมณฑลเลยทีเดียว

📃 เมนูวันนี้

- ปูเนื้อผัดต้นหอม (1950, 2200 บาท/กิโลกรัม)

- กุ้งกุลาทอดพริกเกลือ (2 ตัว 750, 2200 บาท/กิโลกรัม)

- เนื้อปูหลน (450)

- ปลากะพงทอดสามรส (550)

- แพนงเนื้อ (350)

- ปลาหมึกผัดไข่เค็ม (250)

- แกงส้มกุ้งผักรวม (250)

- ยอดมะพร้าวอ่อนผัดขี้เมา (200)

- ข้าวผัดปูกลาง (250)

- ข้าวโถ (80)

- ลอดช่องไทย (40)

- สละลอยแก้ว (40)

- กาแฟปั้นหยา (70)

- ลาเต้ร้อน (70)

- นมสดปั่น (80)

📃 ที่เห็นบ้านหลายหลังคือร้านอาหารทั้งหมด ใหญ่โตมากๆ โดยรวมแม้ว่าจะเป็นอาหารพื้นบ้าน แต่รสชาติดี เป็นอีกมื้อที่น่าประทับใจ

รสชาติ : 13/20
ราคา : 14/20
ความคุ้มค่า : 13/20
บรรยากาศ : 15/20
บริการ : 13/20

ความประทับใจโดยรวม : 14/20

- กุ้งกุลาทอดพริกเกลือ (2 ตัว 750, 2200 บาท/กิโลกรัม)

กุ้งกุลาดำเป็นๆ ตัวโตๆ เนื้อแน่นๆ ในราคากิโลกรัมละ 2200 บาท สามารถเลือกจำนวนตัวของกุ้งได้ เราเลือกสองตัว นำมาทำเมนูแนะนำของร้านคือ กุ้งกุลาผัดพริกเกลือ ที่ร้านทำกุ้งออกมาดีมาก สุกกำลังดี เนื้อเเน่น แต่ไม่เหนียว ผักกับพริกเกลือ โดยมีรสเค็มนำมาก่อน และมีรสพริกช่วยเพิ่มความอร่อย เข้ากันดี คุ้มค่ากับราคาแน่นอน (13/20)

- ปูเนื้อผัดต้นหอม (1950, 2200 บาท/กิโลกรัม)

ปูเนื้อเป็นๆ ตัวโตๆ ก้ามใหญ่ๆ ผัดกับต้นหอมและซอสรสกลมกล่อม ชูจุดเด่นของจานคือความหวานจากเนื้อปูแท้ๆ มีกลิ่นหอมของของปูทะเล และการปรุงรสอ่อนๆของต้นหอมและพริก ทำให้จานนี้เป็นกนึ่งในจานแนะนำของร้าน สำหรับราคาอาจจะสูงสักนิด แต่หากมองว่าเป็นราคา Net ไม่บวกเพิ่ม จัดว่าไม่แย่จนเกินไปเทียบกับรสชาติที่ได้รับ (13/20)

- ปลาหมึกผัดไข่เค็ม (250)

เนื้อหมึกเด้ง นุ่ม สุกกำลังดี ผัดกับไข่เค็มจนเข้ากัน รสชาติอาจยังสู่ร้านไผ่ ร้านย่านมหาชัยระดับมิชลิน เพลทอีกร้านที่ขึ้นชื่อเมนูนี้โดยเฉพาะไม่ได้ อย่างไรก็ตามก็ยังแนะนำให้ลองสั่งเมนูนี้มาทานหากได้เเวะมาที่นี่ เพราะรสชาติดีกว่ามาตรฐานร้านทั่วๆไปมาก ทานได้อร่อยเลย (12/20)

- ปลากะพงทอดสามรส (550)

ปลากะพงทอด เนื้อกรอบกำลังดี ราดด้วยซอสสามรสแบบไทยๆ มีความสมดุลของรสเปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ถือว่าทำออกมาได้ดีกว่ามาตรฐานทั่วไป และยังมีราคาสมเหตุสมผลอีกด้วย (13/20)

- แพนงเนื้อ (350)

แกงแพนง เนื้อแกงละเอียด เนื้อสัมผัสนุ่มมาก มีกลิ่นหอมเครื่องแกง รสชาติกลมกล่อม ส่วนเนื้อที่ใช้เป็นเนื้อไทยคุณภาพปานกลาง ถือว่าอร่อยกว่าร้านทั่วๆไปมาก แต่ยังสู้ สวนทิพย์ ร้านอาหารระดับ 1 ดาวมิชลินเช่นกันไม่ได้ (13/20)

- เนื้อปูหลน (450)

เนื้อปูหลน เมนูขึ้นชื่ออันดับหนึ่งของร้าน และน่าจะเป็นหนึ่งในร้านที่ทำเมนูนี้ได้ดีที่สุดในประเทศไทยเลย ตัวหลนรสหวานนำกำลังดี เหมาะกับคนชอบอาหารคาวรสหวาน รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นกะทิ ไม่มีกลิ่นคาวปูเลย ทานกับผักสดเข้ากันได้ดี หากใครชอบเมนูหลนมากๆ แนะนำให้สั่ง ปูเนื้อหลนแทนเนื้อปูหลน จะได้ปูทั้งตัว นำมาทำหลน จะได้ความปูมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า (13/20)

- เนื้อปูหลน (450)

ทานกับผักสดเคียง (13/20)

- ยอดมะพร้าวอ่อนผัดขี้เมา (200)

ยอดมะพร้าวอ่อนผัดขี้เมา หอมกลิ่นโหระพา มีรสเผ็ดอ่อนๆ ตัวยอดมะพร้าวอ่อนทำมาดีมาก เคี้ยวกรุบ ไม่แข็ง ตัดเนื้อสัมผัสด้วยกุ้งขาว เป็นอีกจานที่แนะนำให้สั่งมาทานเพื่อตัดรสกับอาหารจานหลักเลย (13/20)

- แกงส้มกุ้งผักรวม (250)

แกงส้มกุ้งผักรวมสูตรภาคกลางต้มมาหม้อใหญ่ มีรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ดสมดุลกันใช้ได้ ผักสุกกำลังดี รสชาติอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง ยังไม่ถึงกับน่าจดจำสำหรับมื้อนี้ (11/20)

- ข้าวผัดปูกลาง (250)

ข้าวผัดปูผัดมาอย่างดี ข้าวร่วน แห้งกำลังดี ไม่แฉะ ไม่มันเยิ้ม บ่งบอกว่าใช้ไฟสูงในการผัด เนื้อปูสด มีกลิ่นหอม ถือว่าทานได้อร่อยเลย (13/20)

- ข้าวผัดปูกลาง (250)

ทานกับต้นหอม แตงกวา และมะนาว (13/20)

- ข้าวโถ (80)

ข้าวที่นี่จัดว่าคุณภาพดี ข้าวเต็มเมล็ดทุกเมล็ด แต่ยังไม่ถึงกับเป็นข้าวเกรดพรีเมี่ยม (13/20)

- สละลอยแก้ว (40)

สละลอยแก้วรสชาติมาตรฐาน ตัวสละสด น้ำเชื่อมก็รสชาติหวานกำลังดี (10/20)

- ลอดช่องไทย (40)

ลอดช่องวัดเจษฎ์ชื่อดังแห่งย่านมหาชัย น้ำกะทิหวานเข้มข้น เส้นลอดช่องลวกมาสุกพอดี ทานเเล้วเนียนไปกับน้ำกะทิเลย (14/20)

- ลาเต้ร้อน (70)

กาแฟลาเต้ถือว่ารสดี นุ่มใช้ได้สำหรับราคานี้ (13/20)


ปล.ฝากติดตามเพจ FB: ตามล่า Fine Dining

รวบรวมร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์หลายร้อยแห่งทั่วโลก รวมถึงร้านอาหาร “ทุกร้าน” ในมิชลินไกด์ฉบับกรุงเทพฯ ไปล่าของกินด้วยกันค่ะ