ผู้ประกอบการรู้หรือไม่ว่าเอกสารหลายชนิด "ควร" รับรองคำแปลโดยนักแปล และนักแปลที่จะออกหนังสือรับรองหรือลงตราประทับรับรองให้ ควรเป็นนักแปลที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญงานนั้นโดยตรง เพราะหากเกิดปัญหาในเรื่องของการแปล จึงจะได้หาคนมารับผิดชอบได้ถูกคน และในขณะเดียวกันก็ยังสร้างความมั่นใจให้ธุรกิจได้มากขึ้นว่า ข้อมูลแะรายละเอียดต่าง ๆ ที่ส่งออกไปจากบริษัทจะถูกต้อง และสื่อสารได้ตามที่ต้องการ
การ "รับรองคำแปลถูกต้อง" คืออะไร

เมื่อพูดถึงการรับรองคำแปล เราจะต้องนึกถึง การ "รับรองคำแปลถูกต้อง" (Certified Correct Translation) หรือข้อความใดก็ตามที่มีความหมายนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการมั่นใจว่า ข้อความของเราส่งไปนั่นถูกต้องแม่นยำ และไม่บิดเบือนไปในภาษาอื่น
ธุรกิจใดบ้างที่ต้องการรับรองคำแปล:

🎯 บริษัทที่เป็น Corporate: บริษัทเหล่านี้ต้องการ "รับรองคำแปลถูกต้อง" เช่น เอกสารสัญญา เอกสารหุ้น เอกสารรายละเอียดสินค้า ฯลฯ ซึ่งเอกสารเหล่านี้ เมื่อต้องใช้สื่อสารกับลูกค้าต่างชาติ จำเป็นต้องการรับรองเพื่อให้มั่นใจว่า ข้อความในการแปลนั้น ถูกต้อง แม่นยำ
🎯 เอกสารกฎหมาย: เอกสารเกี่ยวกับกฎหมายทั้งหมด จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแปลให้ถูกต้อง แม่นยำ ครบคำและครบความ ต้องไม่บิดเบือนไปจากต้นฉบับแม้แต่น้อย เอกสารบางอย่างสามารถชี้ชะตาของธุรกิจเลยก็ว่าได้
🎯 เอกสารด้านทรัพยากรมนุษย์: เช่น สัญญาจ้างงาน เอกสารการฝึกอบรมทรัพยากรบุคคล ฯลฯ เป็นเอกสารที่จำเป็นในการใช้งาน จึงต้องมีการรับรองจากนักแปล

หากธุรกิจของท่านต้องการความมั่นใจว่าข้อมูลที่สื่ออกไปสู่ผู้บริโภค ลูกค้าหรือสาธารณะนั้นถูกต้อง ให้นึกถึงนักแปลที่มีความชำนาญในการแปลเอกสาร ที่แปลถูกต้อง เคารพต้นฉบับ แปลครบคำ ครบความ ไม่แต่งเติมจะเพี้ยนหรือคลาดเคลื่อนไปจากต้นฉบับ และให้นักแปลเป็นผู้ออกหนังสือ "รับรองคำแปล" หรือแสตมป์ "รับรองคำแปล" ให้คนบถ้วน

@แหล่งที่มา: สมาคมนักแปลและล่ามอาชีพเฉพาะทางแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA Association of Professional Translators and interpreters : SEA - ProTI)
@เว็บไซต์: https://www.sea-proti.com/
@เฟสบุ๊ค: https://www.facebook.com/SEAProTI/
https://www.sea-proti.com/what-is-certified-translation-and-to-use-it/
#CertifiedCorrectTranslation #CertifiedTranslator #รับรอบคำแปล #รับรองคำแปลถูกต้อง