บวกกับการผ่านลำดับของโสฬสญาน หรือ วิปัสสนาญาน
ที่เบื่อหน่ายนามรูป เข้าถึง อนันตลักษณะ และที่สุดมีพระนิพพานเป็นอารมณ์
อันนี้ผมคิดเอง - ตรงนี้แหละที่พระนิพพานจะเป็นอัตตาไม่ได้ เพราะอัตตาหมดไปตั้งแต่ สังขารุเปกขาญาน แล้ว เห็นไตรลักษณ์แล้ว
อันนี้ ผมคิดเอง ว่า - พระพุทธเจ้าตรัสว่า สัพเพ ธรรมา อนัตตา ความจริงไม่ควรเถียงหรือสงสัยในคำของพระพุทธเจ้า
แต่พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอนให้เชื่อเลย
และ สัจจญาน จะบริบูรณ์ก็ต่อเมื่อเข้าใจด้วยการศึกษา
ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงชัดเจนว่า สัพเพ ธัมมา อนัตตา ซึ่ง พระนิพพาน ก็เป็นธรรม เป็นอนัตตา อย่างไม่มีข้อสงสัย
-การเถึยงกันเรื่องพระนิพพานนี้ ก็ทำให้ผมแปลกใจ ก็รู้พระอภิธรรมเข้าใจเหมือนกัน แต่ว่ามีความแตกต่างนิดๆซึ่งยากมากที่จะหาข้อคำตอบมาชี้แจงให้แต่ละฝ่ายเข้าใจ เพราะต่างมีเหตุผลที่น่าเชื่อด้วยกันทั้งสิ้น
-แต่พอเมื่อ ไปเห็นเจดีย์พุทธคยา ทุกนักบวชหลากหลายสี ในพุทธ กลับมีท่าทีเคารพนบนอบต่อพระเจดีย์นั้นอย่างมากศรัทธาเหมือนๆกัน
-สำหรับ ผม เข้าใจว่า พระนิพพาน เป็น อนัตตา ก็ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ซึ่งก็เป็นไปตามที่ อาจารย์ ท่านได้สอนเรื่อง ปรมัตถธรรม๔
ส่วนใหญ่พวกท่านทั้งหลายมีการศึกษามาแล้วรู้ว่า ธรรมที่ดับทุกข์นั้น ก็คือ พระนิพพานนั่นเอง
ที่เบื่อหน่ายนามรูป เข้าถึง อนันตลักษณะ และที่สุดมีพระนิพพานเป็นอารมณ์
อันนี้ผมคิดเอง - ตรงนี้แหละที่พระนิพพานจะเป็นอัตตาไม่ได้ เพราะอัตตาหมดไปตั้งแต่ สังขารุเปกขาญาน แล้ว เห็นไตรลักษณ์แล้ว
อันนี้ ผมคิดเอง ว่า - พระพุทธเจ้าตรัสว่า สัพเพ ธรรมา อนัตตา ความจริงไม่ควรเถียงหรือสงสัยในคำของพระพุทธเจ้า
แต่พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอนให้เชื่อเลย
และ สัจจญาน จะบริบูรณ์ก็ต่อเมื่อเข้าใจด้วยการศึกษา
ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงชัดเจนว่า สัพเพ ธัมมา อนัตตา ซึ่ง พระนิพพาน ก็เป็นธรรม เป็นอนัตตา อย่างไม่มีข้อสงสัย
-การเถึยงกันเรื่องพระนิพพานนี้ ก็ทำให้ผมแปลกใจ ก็รู้พระอภิธรรมเข้าใจเหมือนกัน แต่ว่ามีความแตกต่างนิดๆซึ่งยากมากที่จะหาข้อคำตอบมาชี้แจงให้แต่ละฝ่ายเข้าใจ เพราะต่างมีเหตุผลที่น่าเชื่อด้วยกันทั้งสิ้น
-แต่พอเมื่อ ไปเห็นเจดีย์พุทธคยา ทุกนักบวชหลากหลายสี ในพุทธ กลับมีท่าทีเคารพนบนอบต่อพระเจดีย์นั้นอย่างมากศรัทธาเหมือนๆกัน
-สำหรับ ผม เข้าใจว่า พระนิพพาน เป็น อนัตตา ก็ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ซึ่งก็เป็นไปตามที่ อาจารย์ ท่านได้สอนเรื่อง ปรมัตถธรรม๔