คุณดูถูกหลวงปู่ชา เหมือนที่ อ.คึกฤทธิ์กล่าวปรามาสไว้ เป็นการปรามาสพระอรหันต์ กรรมหนักนะ ครับ
เหมือนศิษย์ที่ทำเพจพุทธวจนตูน ปรามาสเอาไว้ เช่นนี้
...........
...........
...........
หลวงปู่ชา ท่านทำภาวนา จนจิตหลุดพ้น เป็นพระอรหันต์ จึงเกิดสิ่งที่เรียกว่าพระธาตุ การไปปรามาส คงไม่เป็นผลดีกับผู้กระทำ แน่นอน
.............
เหตูใด อัฐิ ถึง เปลี่ยนเป็นพระธาตุ เปลี่ยนอย่างไร ปัจจจัยใดทำให้เปลี่ยน
-----------------------------------
ขอยกส่วนหนึ่งจากเทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๕๐
อัฐิเป็นพระธาตุได้เร็วได้ช้า
คืออัฐิของเรากระดูกของเราตายต่างกันนะ วันนี้จะแจงอันนี้ให้ท่านทั้งหลายฟังเสียก่อน คือของปุถุชนคนธรรมดาตายแล้ว
กระดูกเป็นกระดูกตลอดไปเลย จากนั้นกลายเป็นดินไปเลย ส่วนอัฐิของพระอรหันต์นี้ พอท่านตายแล้วอัฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุ
เพราะอะไร เพราะจิตของท่านครอบอยู่ในร่างกาย พอจิตบริสุทธิ์แล้วเท่านั้น จิตดวงที่บริสุทธิ์นี้จะฟอกธาตุขันธ์ไปโดยหลักธรรมชาติ
ไม่มีใครบังคับบัญชา ความบริสุทธิ์ของจิตนี้เป็นความสะอาดสุดยอด แล้วมันจะซักฟอกร่างกายซึ่งเป็นของหยาบๆ ให้กลายเป็นร่าง
กายหรือว่าธาตุขันธ์อันละเอียดลงไปๆ จนกลายเป็นพระธาตุได้ คือจิตที่บริสุทธิ์นั่นละซักฟอกธาตุขันธ์ ให้พากันเข้าใจเสีย ซักฟอก
อยู่ในตัว
ยิ่งเข้าภาวนาเท่าไรซักฟอกร้อยเปอร์เซ็นต์ ความบริสุทธิ์ของจิตกระจายออกไปซักฟอกไปๆ สุดท้ายที่ว่ากระดูกนั้นเป็นส่วน
หยาบมันกลายเป็นส่วนละเอียดเป็นพระธาตุได้ เข้าใจเหรอ เพราะได้รับการซักฟอกจากจิตที่บริสุทธิ์อยู่ตลอดเวลา อันนี้เอาความจริง
มาพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง คืออำนาจของจิตที่บริสุทธิ์ครองร่างอยู่ จิตที่ครองร่างเป็นจิตที่บริสุทธิ์ครองร่าง จิตที่บริสุทธิ์นี้จะซักฟอก
ร่างกายที่เป็นส่วนหยาบให้กลายเป็นกายที่ละเอียดเข้าไปๆ จากนั้นพอเจ้าของตายไปก็เป็นพระธาตุไปเลย เพราะจิตนี้ซักฟอก จิต
บริสุทธิ์นี้ซักฟอกเป็นหลักธรรมชาติ ยิ่งเข้าภาวนาด้วยแล้วซักฟอกร้อยเปอร์เซ็นต์ ซักฟอกร่างกายให้เป็นส่วนละเอียดเข้าไปๆ เพราะ
ฉะนั้นจึงกลายเป็นพระธาตุได้
จิตปุถุชนเราจิตเศร้าหมอง ร่างกายก็เป็นธรรมดาไปเสียเศร้าหมองตามเดิม ถ้าเป็นจิตที่บริสุทธิ์แล้วก็ซักฟอกเรื่อย อันนี้ก็มีอีกเป็น
ขั้นๆ นะ ขั้นหนึ่งถ้าจิตของท่านที่บำเพ็ญถึงขั้นบริสุทธิ์แล้วนี้ แต่พอถึงแล้วท่านก็นิพพานไปเสีย อย่างนี้ก็นานหน่อย จะกลายเป็นพระธาตุ
ช้าว่างั้นเถอะ ถ้าจิตท่านบำเพ็ญมาโดยลำดับลำดา ละเอียดมาๆ ถึงขั้นบริสุทธิ์ แม้ท่านจะนิพพานไปไม่นานอัฐิก็กลายเป็นพระธาตุได้รวด
เร็วเหมือนกัน ยิ่งจิตของท่านครองธาตุครองขันธ์อยู่นานๆ ด้วยความบริสุทธิ์ของจิตนั้น พอท่านนิพพานไปแล้วจะกลายเป็นพระธาตุเร็ว
ต่างกันอย่างนี้
คือเป็นแต่ช้าหรือเร็ว เนื่องจากจิตดวงที่บริสุทธิ์แล้วครองขันธ์อยู่นานหรือไม่นาน ถ้านานก็เป็นพระธาตุได้เร็ว ถ้าไม่นานพอบริสุทธิ์
ได้ไม่นานนิพพานไปเสียนี้ อัฐินี้จะกลายเป็นพระธาตุช้าไปหน่อย พากันเข้าใจ นี้คือหลักความจริง เพราะจิตที่บริสุทธิ์นี้จะซักฟอกร่างกาย
ที่เป็นส่วนหยาบๆ นี้ให้กลายเป็นส่วนละเอียดๆ จนเป็นธาตุที่บริสุทธิ์ไปด้วยกัน เมื่อท่านนิพพานปั๊บอันนี้ก็เป็นพระธาตุได้เร็ว เข้าใจแล้วเหรอ
Cr.chiwat
https://ppantip.com/topic/31501228/comment8
พระธาตุหลวงปู่ชา ถูกศิษย์ อ.คึกฤทธิ์นามว่า withorn_saab มองว่าเป็นลัทธิ งมงาย
เหมือนศิษย์ที่ทำเพจพุทธวจนตูน ปรามาสเอาไว้ เช่นนี้
...........
...........
...........
หลวงปู่ชา ท่านทำภาวนา จนจิตหลุดพ้น เป็นพระอรหันต์ จึงเกิดสิ่งที่เรียกว่าพระธาตุ การไปปรามาส คงไม่เป็นผลดีกับผู้กระทำ แน่นอน
.............
เหตูใด อัฐิ ถึง เปลี่ยนเป็นพระธาตุ เปลี่ยนอย่างไร ปัจจจัยใดทำให้เปลี่ยน
-----------------------------------
ขอยกส่วนหนึ่งจากเทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๕๐
อัฐิเป็นพระธาตุได้เร็วได้ช้า
คืออัฐิของเรากระดูกของเราตายต่างกันนะ วันนี้จะแจงอันนี้ให้ท่านทั้งหลายฟังเสียก่อน คือของปุถุชนคนธรรมดาตายแล้ว
กระดูกเป็นกระดูกตลอดไปเลย จากนั้นกลายเป็นดินไปเลย ส่วนอัฐิของพระอรหันต์นี้ พอท่านตายแล้วอัฐิของท่านกลายเป็นพระธาตุ
เพราะอะไร เพราะจิตของท่านครอบอยู่ในร่างกาย พอจิตบริสุทธิ์แล้วเท่านั้น จิตดวงที่บริสุทธิ์นี้จะฟอกธาตุขันธ์ไปโดยหลักธรรมชาติ
ไม่มีใครบังคับบัญชา ความบริสุทธิ์ของจิตนี้เป็นความสะอาดสุดยอด แล้วมันจะซักฟอกร่างกายซึ่งเป็นของหยาบๆ ให้กลายเป็นร่าง
กายหรือว่าธาตุขันธ์อันละเอียดลงไปๆ จนกลายเป็นพระธาตุได้ คือจิตที่บริสุทธิ์นั่นละซักฟอกธาตุขันธ์ ให้พากันเข้าใจเสีย ซักฟอก
อยู่ในตัว
ยิ่งเข้าภาวนาเท่าไรซักฟอกร้อยเปอร์เซ็นต์ ความบริสุทธิ์ของจิตกระจายออกไปซักฟอกไปๆ สุดท้ายที่ว่ากระดูกนั้นเป็นส่วน
หยาบมันกลายเป็นส่วนละเอียดเป็นพระธาตุได้ เข้าใจเหรอ เพราะได้รับการซักฟอกจากจิตที่บริสุทธิ์อยู่ตลอดเวลา อันนี้เอาความจริง
มาพูดให้พี่น้องทั้งหลายฟัง คืออำนาจของจิตที่บริสุทธิ์ครองร่างอยู่ จิตที่ครองร่างเป็นจิตที่บริสุทธิ์ครองร่าง จิตที่บริสุทธิ์นี้จะซักฟอก
ร่างกายที่เป็นส่วนหยาบให้กลายเป็นกายที่ละเอียดเข้าไปๆ จากนั้นพอเจ้าของตายไปก็เป็นพระธาตุไปเลย เพราะจิตนี้ซักฟอก จิต
บริสุทธิ์นี้ซักฟอกเป็นหลักธรรมชาติ ยิ่งเข้าภาวนาด้วยแล้วซักฟอกร้อยเปอร์เซ็นต์ ซักฟอกร่างกายให้เป็นส่วนละเอียดเข้าไปๆ เพราะ
ฉะนั้นจึงกลายเป็นพระธาตุได้
จิตปุถุชนเราจิตเศร้าหมอง ร่างกายก็เป็นธรรมดาไปเสียเศร้าหมองตามเดิม ถ้าเป็นจิตที่บริสุทธิ์แล้วก็ซักฟอกเรื่อย อันนี้ก็มีอีกเป็น
ขั้นๆ นะ ขั้นหนึ่งถ้าจิตของท่านที่บำเพ็ญถึงขั้นบริสุทธิ์แล้วนี้ แต่พอถึงแล้วท่านก็นิพพานไปเสีย อย่างนี้ก็นานหน่อย จะกลายเป็นพระธาตุ
ช้าว่างั้นเถอะ ถ้าจิตท่านบำเพ็ญมาโดยลำดับลำดา ละเอียดมาๆ ถึงขั้นบริสุทธิ์ แม้ท่านจะนิพพานไปไม่นานอัฐิก็กลายเป็นพระธาตุได้รวด
เร็วเหมือนกัน ยิ่งจิตของท่านครองธาตุครองขันธ์อยู่นานๆ ด้วยความบริสุทธิ์ของจิตนั้น พอท่านนิพพานไปแล้วจะกลายเป็นพระธาตุเร็ว
ต่างกันอย่างนี้
คือเป็นแต่ช้าหรือเร็ว เนื่องจากจิตดวงที่บริสุทธิ์แล้วครองขันธ์อยู่นานหรือไม่นาน ถ้านานก็เป็นพระธาตุได้เร็ว ถ้าไม่นานพอบริสุทธิ์
ได้ไม่นานนิพพานไปเสียนี้ อัฐินี้จะกลายเป็นพระธาตุช้าไปหน่อย พากันเข้าใจ นี้คือหลักความจริง เพราะจิตที่บริสุทธิ์นี้จะซักฟอกร่างกาย
ที่เป็นส่วนหยาบๆ นี้ให้กลายเป็นส่วนละเอียดๆ จนเป็นธาตุที่บริสุทธิ์ไปด้วยกัน เมื่อท่านนิพพานปั๊บอันนี้ก็เป็นพระธาตุได้เร็ว เข้าใจแล้วเหรอ
Cr.chiwat
https://ppantip.com/topic/31501228/comment8