ติดตามวิวาห์ลวงตอนก่อนหน้าที่นี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/39022888 บทนำ
https://ppantip.com/topic/39028501 บทที่1
https://ppantip.com/topic/39036780 บทที่2
https://ppantip.com/topic/39042887 บทที่3
https://ppantip.com/topic/39051172 บทที่4
https://ppantip.com/topic/39059955 บทที่5
https://ppantip.com/topic/39074462 บทที่6
https://ppantip.com/topic/39091708 บทที่7
https://ppantip.com/topic/39105675 บทที่8
โหลดบทก่อนทั้งหมด ที่จัดทำเป็น ebook ได้ทางลิ้งก์นะครับ
https://www.mebmarket.com/ebook-99146-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B9%8C%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%AA&page_no=1
..........ตำรวจหนุ่มเอามือกุมใบหน้า เอานิ้วโป้งกับนิ้วชี้นวดดวงตา อีกครั้งแล้วที่เห็นแสงแปลกๆ ออกมาจากร่างกายของคน ตั้งแต่ฟื้นคืนมาการมองเห็นเปลี่ยนไป หรือการที่ตนเองมีดวงตาที่สีต่างจากคนทั่วไปตั้งแต่กำเนิด มันทำให้การมองเห็นไม่ปกติ แต่ว่าการมองเห็นพลังงานแสงจากร่างกายของคน
ตอนบวชเคยได้ยินครูบาอาจารย์เคยสอนเหมือนกัน เรื่องพลังเรืองแสงที่ออกมารอบกายมนุษย์ สามารถเห็นเป็นแถบสีได้ ดังเช่น ฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้า แต่เขาปฏิบัติธรรมได้ไม่ดีนัก ทำไมถึงมีความสามารถเช่นนี้ได้ หรือว่าการผ่านโลกของความตาย แล้วฟื้นคืนมา มันทำให้มีความสามารถเช่นนี้
พอเสร็จธุระในห้องน้ำ ผู้หมวดเจนเดินกระย่องกระแย่งออกมา สีหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ได้ร่างใหญ่ของจ่าดับประคองนำมานอนบนเตียง หมอใยไหมช่วยห่มผ้าให้ พอวัดอุณหภูมิในร่างกาย เห็นว่ามีไข้ แม้ไม่สูงนัก เวลานี้ควรจะรีบพักผ่อน ติดที่มีแขกมาเยี่ยมไข้ เขาขอให้ลุกนั่งเอนหลังกับหมอน เพื่อสะดวกในการพูดคุย
ใยไหมแอบกังวลถึงแววตาของตำรวจหญิงคนนั้นที่มองดูเจน มันไม่ใช่สายตาของเพื่อนร่วมงานแล้ว ตนเองรู้ด้วยความเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ความสัมพันธ์ของทั้งสองคน ต้องลึกซึ้งกว่านี้แน่ เพียงแต่ไม่รู้อยู่ในขั้นไหน พอเริ่มคิดมาก ใยไหมเขย่าหน้า บอกย้ำกับตัวเองเขาเป็นเพียงเพื่อนเก่า เรื่องที่เคยคบหาในสมัยเด็กมันเป็นความไม่ประสาตามวัย เธอเลือกจะเดินออกไปตรวจดูคนไข้รายอื่น ร่างในชุดขาวเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
จ่าดับแยกเขี้ยวยิ้มแล้วค่อยแห้งแล้ง มองตามคุณหมอคนสวยเดินออกจากห้องไป ไม่หันมามองตำรวจหนุ่มใหญ่บ้างเลย ผู้หมวดเจนมองดูอยู่รู้สึกขบขัน แสงสีดำรอบกายของจ่า สีดำ-หมายถึงกำลังสับสน ทุกข์ใจ บ้ากาม แต่ที่ทันเห็นแววตามน่าจะบ้ากามแน่ ๆ
“ยิ้มอะไรอยู่คนเดียวหมวด”
“เปล่าครับ ผมแค่ดีใจที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้เห็นหน้าทุกคน”
“ผู้หมวดเจนต้องขอบคุณผู้กองมินตรานะครับ ที่สู้ยื้อชีวิตไว้จนสุดความสามารถ ผมกับจ่าสิงห์เห็นกับตา หมวดหยุดหายใจ หัวใจก็หยุดเต้น แต่ผู้กองไม่ยอมแพ้ สู้ยื้อไว้จนฟื้นคืนมาได้” จ่าดับชูนิ้วโป้งให้หัวหน้างานของตน ถึงเป็นผู้หญิง ในวินาทีคับขัน เธอควบคุมสติได้ดีมาก แก้ไขสถานการณ์ได้ทีละเปลาะ
มินตราเดินเข้ามายืนใกล้เตียง ผู้หมวดเจนนอนลืมตาปริบ ๆ ถึงรู้เธอคิดยังไงกับตน แต่ขอทำตัวเฉย ๆ ดีกว่า แล้วต้องแปลกใจเมื่อถูกคว้ามือที่ถูกแทงเข็มเติมน้ำเกลือมาจับไว้ ดวงตาแวววาวด้วยน้ำหล่อเลี้ยงคู่นั้นมันสุดซึ้งจะพรรณนาคำพูดออกมา ตอนนี้มันยังตื้นตันนัก เขาเห็นแสงที่เปล่งออกมาจากผิวหนัง
สีชมพู-ความรัก ความจริงใจ …
ริมฝีปากแห้งแตกเป็นสะเก็ดขยับเม้มแล้วยิ้มเห็นฟันเรียง มีคนที่รักเขาในโลกเพิ่มขึ้นอีกคน จะเป็นไรไป แต่เธอเกือบเป็นพี่สะใภ้ มืออีกข้างค่อยขยับมาดึงมือของเธอออก ทำเอาสีหน้าผิดหวังไม่น้อย
ที่ผ่านมาพยายามรักษาระยะห่างมาตลอด ให้เป็นเพียงเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น ไม่คิดจะกลับไปคบหาในแบบคนรักอีก ในเมื่อรู้ดีอยู่เต็มอก
ผู้หญิงคนนี้เคยขึ้นเตียงกับพี่ชาย น้องชายคนนี้จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วยฉันชู้สาว...
“ผู้หมวดพักผ่อนต่อไปเถอะ ฉันจะไม่รบกวนแล้ว” น้ำเสียงเรียบนิ่งของผู้กอง ดูคล้ายจะยิ้มแล้วหันหลังเรียกจ่าคู่ใจ เขารู้สึกแปลกใจ
สีดำ-หมายถึงภาวะสับสน ทุกข์ระทม ผู้กองเธอกำลังเสียใจอย่างนั้นหรือ ทั้งที่กำลังยิ้ม
“เดี๋ยวก่อนสิ ขอคุยเรื่องงานก่อน” ผู้หมวดเจนร้องขึ้น
“ผู้หมวดเจนพึ่งฟื้นยังไม่รู้ ตอนนี้นายสั่งให้ชุดของเรา ยุติการสืบคดีค้ามนุษย์นี้แล้ว” จ่าดับพูด
“ทำไม... ในเมื่อเรา กำลังเข้าใกล้แหล่ง ที่สงสัยว่าจะเป็นแหล่งกักขังพวกแรงงานต่างด้าวใช้แรงงานทาสแล้วแท้ๆ มีเหตุผลอะไรที่นายสั่งให้เราหยุดตามคดีนี้”
ผู้กองมินตราเอามือลูบหน้าเก็บซ่อนน้ำตาไว้ เห็นจะเอาสมาธิมาในเรื่องการงานก่อน น้ำเสียงจาก ที่แผ่วต่ำเริ่มได้ระดับขึ้นมา “เราสืบไปเจอตอเข้าแล้วนะสิ นายถึงสั่งให้เลิกตามคดีนี้ ฝ่ายความมั่นคงพึ่ง แทงเรื่องมาหาหน่วยงานของเรา ภายหลังจากรู้เรื่องที่คนของเราหายไปหนึ่ง เจ็บไปอีกหนึ่ง”
“ฝ่ายความมั่นคง” ผู้หมวดเจนกะพริบตาปริบ เอ่ยชื่อหน่วยงานนี้ด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ใช่ครับผู้หมวด ฝ่ายความมั่นคงได้ระบุชื่อของเสี่ยอิทธิกับหลานชายที่ชื่อ
ร้อยเอกภูผา หรือชื่อกะเหรี่ยง
หลูไป ซึ่งเป็นนายทหารกะเหรี่ยงในสังกัดของนายพลซอลเมียะ คนคนนี้มีสองสัญชาติทำให้ข้ามไปมาระหว่างสองประเทศได้ แต่พฤติกรรมน่าสงสัยจะเป็นภัย ตอนนี้ฝ่ายความมั่นคงกำลังถูกจับตาดูอย่างใกล้ชิด รู้ว่าเราเข้าไปใกล้เกินจะทำให้เป้าหมายรู้ตัวเสียก่อน”
“หมู่สันติก็อาจจะโดนเหมือนผู้หมวด แต่เขาไม่โชคดี” ผู้กองมินตราพูดด้วยสีหน้าหนักใจในชะตากรรมของผู้ใต้บังคับบัญชาอีกคน ที่กลายเป็นบุคคลสูญหาย
“ฝ่ายความมั่นคง อาจติดตามเรื่องตั้งแต่ที่นายมนตรีพาตำรวจบุกตรวจค้นไร่ของเสี่ยอิทธิไปในครั้งก่อนแล้วไม่ได้อะไรก็เป็นไปได้ ลองถึงขนาดสั่งห้ามหน่วยงานของเรา แสดงว่าต้องค้นพบอะไรแล้วแน่” จ่าดับกำมือแน่น ยังคงมีใจในการสืบคดีนี้อยู่เช่นเดิม
“ผมขอสันนิษฐานให้ฟังนะ” ผู้หมวดยกมือขึ้นระดับอก แม้เจ็บคอเสียงแหบแห้ง “มีความเป็นไปได้ที่นายพลซอลเมียะกับเสี่ยอิทธิ กำลังร่วมมือกันทำอะไรบางอย่างในเขตไร่ ที่มีการป้องกันอย่างหนาแน่น โดยมีผู้กองภูผาทำหน้าที่ป้องกันอารักขา สองคนนี้คงไม่ได้เกี่ยวดองกันทางญาติอย่างเดียวแน่ หากจะต้องร่วมมือกันทำงานบางอย่างที่ไม่เปิดเผย
ไม่แน่ที่ผ่านมา ในไร่ของเสี่ยอิทธิจะเป็นแหล่งผลิตเฮโลอีน ยาบ้า ไอซ์ เพื่อนำเงินไปเลี้ยงกองทัพของนายพลซอลเมียะมาโดยตลอด กองกำลังนี้ขึ้นชื่อเรื่องมีเบื้องหลังเป็นแหล่งผลิตจำหน่ายยาเสพติด เพียงแต่ไม่เคยมีใครรู้แหล่งผลิตอยู่ที่ไหน ในเขตอิทธิพลของนายพลซอลเมียะ ไม่แน่ว่ามันอาจอยู่แค่ปลายจมูกทางการไทยนี่เอง
ผมเป็นคนที่เติบโตในพื้นที่นี้ อย่างน้อยก็สมัยเด็ก ผมจึงจดจำเรื่องราวได้ดี เรื่องที่คุณพ่อของผมลงทุนทำรีสอร์ตแห่งแรกเมื่อสิบกว่าปีก่อน แต่แล้วกิจการก็ต้องปิดตัวลงไปอย่างรวดเร็ว ปัญหาหลัก ๆ เรารู้ดีอยู่เต็มอกว่าถูกกลั่นแกล้งจากคนของเสี่ยอิทธิ ในเมื่อเส้นทางก่อนจะถึงรีสอร์ต จะต้องผ่านไร่ของเสี่ย พอถูกขัดขวางไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามา กิจการของเราจึงต้องปิดตัวลงอย่างรวดเร็ว ทั้งที่พ่อของผมไม่เคยมีปัญหาด้วยมาก่อน
แม้ในปัจจุบัน ลุงจ่าสิงห์บอกทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ใครจะมาปักหลักทำมาหากินแถวนั้นยาก แม้ทางการจะตัดถนนลาดยางเข้ามายังถูกพวกนี้ขัดขวาง หากคิดในแง่ที่ว่านี้ เพื่อปกปิดความลับจากคน ภายนอกไม่ให้เข้ามากล้ำกรายเขตไร่ ว่าแท้ที่จริงมันคือแหล่งผลิตยาเสพติด
แหล่งผลิตยาเสพติดเพื่อขายทำ เงิน นำมาบำรุงกองทัพ แต่เป็นพิศภัยกับคนไทยและชาวโลกหาก โดยใช้แรงงานที่ถูกหลอกบังคับมาทำของพวกนี้ หรือไม่อาจเลวร้ายนาดบังคับให้เสพ เพื่อลองฤทธิ์ของยา นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมแรงงานต่างด้าวพวกนี้ถึงถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่สามารถติดต่อโลกภายนอกได้เลย”
จ่าดับยืนเดินวนกลับไปกลับมา คิ้วหนาเลิกขึ้น มือที่กุมริมฝีปากครางตอบดังอืมๆ
“ผู้หมวดพูดมีเหตุผล การป้องกันในเขตไร่ของเสี่ยอิทธิมันน่าสงสัยมาก อีกทั้งใกล้ชายแดนขนาดนั้น จะขนคน หรือขนของข้ามไปมาได้โดยง่าย ดีไม่ดีจะเป็นที่ซ่องสุมกองกำลังต่างชาติ เพราะเหตุนี้ฝ่ายความมั่นคงถึงจับตามองดูอยู่ เพราะหากเกิดแตกหักกันจริงๆ กำลังตำรวจอย่างเราคงเอาไม่อยู่” จ่าผู้เคร่งขรึม เสือยิ้มยากกล่าวสรุป โดยส่วนตัวสนิทกับหมู่สันติ ทำให้ร้อนใจไม่น้อยในการติดตามสืบหาเพื่อนร่วมงาน ที่หายตัวไปก่อนหน้า
“ทั้งสองคนถอนตัวจากภารกิจตามคำสั่ง ส่วนตัวผมจะขอพักฟื้นร่างกายที่รีสอร์ต” คำพูดเรียบ ๆ ของผู้หมวดกลับเป็นที่แสลงหูของสองนายตำรวจ คิ้วโก่งของผู้กองมินตราคดเข้าหากัน รู้นิสัยใจคอดีว่าลองสนใจคดีไหนแล้วตามกัดไม่ปล่อย
“ฉันถามอาการของหมวดเจนจากหมอภาคภูมิแล้ว เรื่องกระสุนฝั่งใน ถ้ามันไม่ไปโดนจุดสำคัญก็ไม่จำเป็นต้องผ่าออก ร่างกายได้พักฟื้นอีกไม่กี่วันก็กลับได้ ฉันเลยเดาว่าหมวดจะตามคดีนี้ต่อใช่ไหม” ผู้กองสาวยิ้มเยาะ พูดดักไว้ก่อนเพราะรู้ทันนิสัยของเขาดี
“ผมแค่จะอยู่ต่อ เพื่อตามหาเพื่อนร่วมงานของผมคนหนึ่งให้พบเท่านั้น ต้องสืบจนกว่าจะแน่ใจยังชีวิตอยู่หรือตาย หมู่สันติเป็นคนดี มีลูกมีเมียที่ต้องดูแล ผมจะไม่ปล่อยปละเขาให้ไปตามยถากรรม”
“เข้าใจพูดนี่ครับผู้หมวด หมู่สันติเพื่อนรุ่นน้องของผม ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาก็นาน ผมไม่แล้งน้ำใจทิ้งเพื่อนไปตามยถากรรมหรอก” จ่าดับยิ้มเห็นฟันซี่โต เข้ามากุมมือของผู้หมวดเขย่าเบาๆ แทนความหมายว่าเอาด้วย ผู้กองมินตราถอนใจกับเรื่องยุ่งยากอีกแล้ว ไม่ใช่แค่หมวดหัวดื้อ จ่าก็ดื้อไม่แพ้กันถ้าเธอถอยแล้วจะได้ใจลูกน้องได้อย่างไร เธอเดินมาประสานมือด้วยต่างมองตากันว่าเอาแน่
“ไหน ๆ ก็ทีมเดียวกันแล้ว ฉันเอาด้วย สู้จนกว่าจะหาหมู่สันติพบ”
หมอใยไหมกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับไซริงค์ลดไข้ ผู้หมวดเจนเห็นเข็มแล้วหน้าเหวอ
“เพื่อให้ยาได้ผลไว ฉีดยาที่กล้ามเนื้อนะคะ” เธอบอกให้เขาถกกางเกงลง
“คุณหมอครับ ยากินลดไข้ไม่มีหรือครับ”
“เป็นไงล่ะ คนไข้คนเก่ง ทำไมกะอิแค่เข็มแค่นี้ทำไมหน้าซีดจังเลย”
“ผมก็หน้าซีดแบบนี้อยู่แล้ว คนป่วยนี่ครับ”
“รู้ตัวด้วยเหรอว่าป่วย แล้วทำไมไม่ยอมพักผ่อนเสียที” น้ำเสียงแกมดุของคุณหมอคนสวย ทำเอาจ่าดับกับผู้กองมินตราครางเออทำสีหน้าไม่ถูก คุณหมอจะต้องพูดตำหนิสองคนด้วยแน่ ที่มาชวนคนไข้พูดคุยอยู่เป็นนาน เห็นทีต้องขอตัวเพื่อให้ได้พักผ่อนเสียที
[บทที9]....วิวาห์ลวง (เรดโรส)
..........ตำรวจหนุ่มเอามือกุมใบหน้า เอานิ้วโป้งกับนิ้วชี้นวดดวงตา อีกครั้งแล้วที่เห็นแสงแปลกๆ ออกมาจากร่างกายของคน ตั้งแต่ฟื้นคืนมาการมองเห็นเปลี่ยนไป หรือการที่ตนเองมีดวงตาที่สีต่างจากคนทั่วไปตั้งแต่กำเนิด มันทำให้การมองเห็นไม่ปกติ แต่ว่าการมองเห็นพลังงานแสงจากร่างกายของคน
ตอนบวชเคยได้ยินครูบาอาจารย์เคยสอนเหมือนกัน เรื่องพลังเรืองแสงที่ออกมารอบกายมนุษย์ สามารถเห็นเป็นแถบสีได้ ดังเช่น ฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้า แต่เขาปฏิบัติธรรมได้ไม่ดีนัก ทำไมถึงมีความสามารถเช่นนี้ได้ หรือว่าการผ่านโลกของความตาย แล้วฟื้นคืนมา มันทำให้มีความสามารถเช่นนี้
พอเสร็จธุระในห้องน้ำ ผู้หมวดเจนเดินกระย่องกระแย่งออกมา สีหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ได้ร่างใหญ่ของจ่าดับประคองนำมานอนบนเตียง หมอใยไหมช่วยห่มผ้าให้ พอวัดอุณหภูมิในร่างกาย เห็นว่ามีไข้ แม้ไม่สูงนัก เวลานี้ควรจะรีบพักผ่อน ติดที่มีแขกมาเยี่ยมไข้ เขาขอให้ลุกนั่งเอนหลังกับหมอน เพื่อสะดวกในการพูดคุย
ใยไหมแอบกังวลถึงแววตาของตำรวจหญิงคนนั้นที่มองดูเจน มันไม่ใช่สายตาของเพื่อนร่วมงานแล้ว ตนเองรู้ด้วยความเป็นผู้หญิงเหมือนกัน ความสัมพันธ์ของทั้งสองคน ต้องลึกซึ้งกว่านี้แน่ เพียงแต่ไม่รู้อยู่ในขั้นไหน พอเริ่มคิดมาก ใยไหมเขย่าหน้า บอกย้ำกับตัวเองเขาเป็นเพียงเพื่อนเก่า เรื่องที่เคยคบหาในสมัยเด็กมันเป็นความไม่ประสาตามวัย เธอเลือกจะเดินออกไปตรวจดูคนไข้รายอื่น ร่างในชุดขาวเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
จ่าดับแยกเขี้ยวยิ้มแล้วค่อยแห้งแล้ง มองตามคุณหมอคนสวยเดินออกจากห้องไป ไม่หันมามองตำรวจหนุ่มใหญ่บ้างเลย ผู้หมวดเจนมองดูอยู่รู้สึกขบขัน แสงสีดำรอบกายของจ่า สีดำ-หมายถึงกำลังสับสน ทุกข์ใจ บ้ากาม แต่ที่ทันเห็นแววตามน่าจะบ้ากามแน่ ๆ
“ยิ้มอะไรอยู่คนเดียวหมวด”
“เปล่าครับ ผมแค่ดีใจที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้เห็นหน้าทุกคน”
“ผู้หมวดเจนต้องขอบคุณผู้กองมินตรานะครับ ที่สู้ยื้อชีวิตไว้จนสุดความสามารถ ผมกับจ่าสิงห์เห็นกับตา หมวดหยุดหายใจ หัวใจก็หยุดเต้น แต่ผู้กองไม่ยอมแพ้ สู้ยื้อไว้จนฟื้นคืนมาได้” จ่าดับชูนิ้วโป้งให้หัวหน้างานของตน ถึงเป็นผู้หญิง ในวินาทีคับขัน เธอควบคุมสติได้ดีมาก แก้ไขสถานการณ์ได้ทีละเปลาะ
มินตราเดินเข้ามายืนใกล้เตียง ผู้หมวดเจนนอนลืมตาปริบ ๆ ถึงรู้เธอคิดยังไงกับตน แต่ขอทำตัวเฉย ๆ ดีกว่า แล้วต้องแปลกใจเมื่อถูกคว้ามือที่ถูกแทงเข็มเติมน้ำเกลือมาจับไว้ ดวงตาแวววาวด้วยน้ำหล่อเลี้ยงคู่นั้นมันสุดซึ้งจะพรรณนาคำพูดออกมา ตอนนี้มันยังตื้นตันนัก เขาเห็นแสงที่เปล่งออกมาจากผิวหนัง
สีชมพู-ความรัก ความจริงใจ …
ริมฝีปากแห้งแตกเป็นสะเก็ดขยับเม้มแล้วยิ้มเห็นฟันเรียง มีคนที่รักเขาในโลกเพิ่มขึ้นอีกคน จะเป็นไรไป แต่เธอเกือบเป็นพี่สะใภ้ มืออีกข้างค่อยขยับมาดึงมือของเธอออก ทำเอาสีหน้าผิดหวังไม่น้อย
ที่ผ่านมาพยายามรักษาระยะห่างมาตลอด ให้เป็นเพียงเพื่อนร่วมงานกันเท่านั้น ไม่คิดจะกลับไปคบหาในแบบคนรักอีก ในเมื่อรู้ดีอยู่เต็มอก
ผู้หญิงคนนี้เคยขึ้นเตียงกับพี่ชาย น้องชายคนนี้จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วยฉันชู้สาว...
“ผู้หมวดพักผ่อนต่อไปเถอะ ฉันจะไม่รบกวนแล้ว” น้ำเสียงเรียบนิ่งของผู้กอง ดูคล้ายจะยิ้มแล้วหันหลังเรียกจ่าคู่ใจ เขารู้สึกแปลกใจ สีดำ-หมายถึงภาวะสับสน ทุกข์ระทม ผู้กองเธอกำลังเสียใจอย่างนั้นหรือ ทั้งที่กำลังยิ้ม
“เดี๋ยวก่อนสิ ขอคุยเรื่องงานก่อน” ผู้หมวดเจนร้องขึ้น
“ผู้หมวดเจนพึ่งฟื้นยังไม่รู้ ตอนนี้นายสั่งให้ชุดของเรา ยุติการสืบคดีค้ามนุษย์นี้แล้ว” จ่าดับพูด
“ทำไม... ในเมื่อเรา กำลังเข้าใกล้แหล่ง ที่สงสัยว่าจะเป็นแหล่งกักขังพวกแรงงานต่างด้าวใช้แรงงานทาสแล้วแท้ๆ มีเหตุผลอะไรที่นายสั่งให้เราหยุดตามคดีนี้”
ผู้กองมินตราเอามือลูบหน้าเก็บซ่อนน้ำตาไว้ เห็นจะเอาสมาธิมาในเรื่องการงานก่อน น้ำเสียงจาก ที่แผ่วต่ำเริ่มได้ระดับขึ้นมา “เราสืบไปเจอตอเข้าแล้วนะสิ นายถึงสั่งให้เลิกตามคดีนี้ ฝ่ายความมั่นคงพึ่ง แทงเรื่องมาหาหน่วยงานของเรา ภายหลังจากรู้เรื่องที่คนของเราหายไปหนึ่ง เจ็บไปอีกหนึ่ง”
“ฝ่ายความมั่นคง” ผู้หมวดเจนกะพริบตาปริบ เอ่ยชื่อหน่วยงานนี้ด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ใช่ครับผู้หมวด ฝ่ายความมั่นคงได้ระบุชื่อของเสี่ยอิทธิกับหลานชายที่ชื่อ ร้อยเอกภูผา หรือชื่อกะเหรี่ยง หลูไป ซึ่งเป็นนายทหารกะเหรี่ยงในสังกัดของนายพลซอลเมียะ คนคนนี้มีสองสัญชาติทำให้ข้ามไปมาระหว่างสองประเทศได้ แต่พฤติกรรมน่าสงสัยจะเป็นภัย ตอนนี้ฝ่ายความมั่นคงกำลังถูกจับตาดูอย่างใกล้ชิด รู้ว่าเราเข้าไปใกล้เกินจะทำให้เป้าหมายรู้ตัวเสียก่อน”
“หมู่สันติก็อาจจะโดนเหมือนผู้หมวด แต่เขาไม่โชคดี” ผู้กองมินตราพูดด้วยสีหน้าหนักใจในชะตากรรมของผู้ใต้บังคับบัญชาอีกคน ที่กลายเป็นบุคคลสูญหาย
“ฝ่ายความมั่นคง อาจติดตามเรื่องตั้งแต่ที่นายมนตรีพาตำรวจบุกตรวจค้นไร่ของเสี่ยอิทธิไปในครั้งก่อนแล้วไม่ได้อะไรก็เป็นไปได้ ลองถึงขนาดสั่งห้ามหน่วยงานของเรา แสดงว่าต้องค้นพบอะไรแล้วแน่” จ่าดับกำมือแน่น ยังคงมีใจในการสืบคดีนี้อยู่เช่นเดิม
“ผมขอสันนิษฐานให้ฟังนะ” ผู้หมวดยกมือขึ้นระดับอก แม้เจ็บคอเสียงแหบแห้ง “มีความเป็นไปได้ที่นายพลซอลเมียะกับเสี่ยอิทธิ กำลังร่วมมือกันทำอะไรบางอย่างในเขตไร่ ที่มีการป้องกันอย่างหนาแน่น โดยมีผู้กองภูผาทำหน้าที่ป้องกันอารักขา สองคนนี้คงไม่ได้เกี่ยวดองกันทางญาติอย่างเดียวแน่ หากจะต้องร่วมมือกันทำงานบางอย่างที่ไม่เปิดเผย
ไม่แน่ที่ผ่านมา ในไร่ของเสี่ยอิทธิจะเป็นแหล่งผลิตเฮโลอีน ยาบ้า ไอซ์ เพื่อนำเงินไปเลี้ยงกองทัพของนายพลซอลเมียะมาโดยตลอด กองกำลังนี้ขึ้นชื่อเรื่องมีเบื้องหลังเป็นแหล่งผลิตจำหน่ายยาเสพติด เพียงแต่ไม่เคยมีใครรู้แหล่งผลิตอยู่ที่ไหน ในเขตอิทธิพลของนายพลซอลเมียะ ไม่แน่ว่ามันอาจอยู่แค่ปลายจมูกทางการไทยนี่เอง
ผมเป็นคนที่เติบโตในพื้นที่นี้ อย่างน้อยก็สมัยเด็ก ผมจึงจดจำเรื่องราวได้ดี เรื่องที่คุณพ่อของผมลงทุนทำรีสอร์ตแห่งแรกเมื่อสิบกว่าปีก่อน แต่แล้วกิจการก็ต้องปิดตัวลงไปอย่างรวดเร็ว ปัญหาหลัก ๆ เรารู้ดีอยู่เต็มอกว่าถูกกลั่นแกล้งจากคนของเสี่ยอิทธิ ในเมื่อเส้นทางก่อนจะถึงรีสอร์ต จะต้องผ่านไร่ของเสี่ย พอถูกขัดขวางไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามา กิจการของเราจึงต้องปิดตัวลงอย่างรวดเร็ว ทั้งที่พ่อของผมไม่เคยมีปัญหาด้วยมาก่อน
แม้ในปัจจุบัน ลุงจ่าสิงห์บอกทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ใครจะมาปักหลักทำมาหากินแถวนั้นยาก แม้ทางการจะตัดถนนลาดยางเข้ามายังถูกพวกนี้ขัดขวาง หากคิดในแง่ที่ว่านี้ เพื่อปกปิดความลับจากคน ภายนอกไม่ให้เข้ามากล้ำกรายเขตไร่ ว่าแท้ที่จริงมันคือแหล่งผลิตยาเสพติด
แหล่งผลิตยาเสพติดเพื่อขายทำ เงิน นำมาบำรุงกองทัพ แต่เป็นพิศภัยกับคนไทยและชาวโลกหาก โดยใช้แรงงานที่ถูกหลอกบังคับมาทำของพวกนี้ หรือไม่อาจเลวร้ายนาดบังคับให้เสพ เพื่อลองฤทธิ์ของยา นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมแรงงานต่างด้าวพวกนี้ถึงถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่สามารถติดต่อโลกภายนอกได้เลย”
จ่าดับยืนเดินวนกลับไปกลับมา คิ้วหนาเลิกขึ้น มือที่กุมริมฝีปากครางตอบดังอืมๆ
“ผู้หมวดพูดมีเหตุผล การป้องกันในเขตไร่ของเสี่ยอิทธิมันน่าสงสัยมาก อีกทั้งใกล้ชายแดนขนาดนั้น จะขนคน หรือขนของข้ามไปมาได้โดยง่าย ดีไม่ดีจะเป็นที่ซ่องสุมกองกำลังต่างชาติ เพราะเหตุนี้ฝ่ายความมั่นคงถึงจับตามองดูอยู่ เพราะหากเกิดแตกหักกันจริงๆ กำลังตำรวจอย่างเราคงเอาไม่อยู่” จ่าผู้เคร่งขรึม เสือยิ้มยากกล่าวสรุป โดยส่วนตัวสนิทกับหมู่สันติ ทำให้ร้อนใจไม่น้อยในการติดตามสืบหาเพื่อนร่วมงาน ที่หายตัวไปก่อนหน้า
“ทั้งสองคนถอนตัวจากภารกิจตามคำสั่ง ส่วนตัวผมจะขอพักฟื้นร่างกายที่รีสอร์ต” คำพูดเรียบ ๆ ของผู้หมวดกลับเป็นที่แสลงหูของสองนายตำรวจ คิ้วโก่งของผู้กองมินตราคดเข้าหากัน รู้นิสัยใจคอดีว่าลองสนใจคดีไหนแล้วตามกัดไม่ปล่อย
“ฉันถามอาการของหมวดเจนจากหมอภาคภูมิแล้ว เรื่องกระสุนฝั่งใน ถ้ามันไม่ไปโดนจุดสำคัญก็ไม่จำเป็นต้องผ่าออก ร่างกายได้พักฟื้นอีกไม่กี่วันก็กลับได้ ฉันเลยเดาว่าหมวดจะตามคดีนี้ต่อใช่ไหม” ผู้กองสาวยิ้มเยาะ พูดดักไว้ก่อนเพราะรู้ทันนิสัยของเขาดี
“ผมแค่จะอยู่ต่อ เพื่อตามหาเพื่อนร่วมงานของผมคนหนึ่งให้พบเท่านั้น ต้องสืบจนกว่าจะแน่ใจยังชีวิตอยู่หรือตาย หมู่สันติเป็นคนดี มีลูกมีเมียที่ต้องดูแล ผมจะไม่ปล่อยปละเขาให้ไปตามยถากรรม”
“เข้าใจพูดนี่ครับผู้หมวด หมู่สันติเพื่อนรุ่นน้องของผม ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาก็นาน ผมไม่แล้งน้ำใจทิ้งเพื่อนไปตามยถากรรมหรอก” จ่าดับยิ้มเห็นฟันซี่โต เข้ามากุมมือของผู้หมวดเขย่าเบาๆ แทนความหมายว่าเอาด้วย ผู้กองมินตราถอนใจกับเรื่องยุ่งยากอีกแล้ว ไม่ใช่แค่หมวดหัวดื้อ จ่าก็ดื้อไม่แพ้กันถ้าเธอถอยแล้วจะได้ใจลูกน้องได้อย่างไร เธอเดินมาประสานมือด้วยต่างมองตากันว่าเอาแน่
“ไหน ๆ ก็ทีมเดียวกันแล้ว ฉันเอาด้วย สู้จนกว่าจะหาหมู่สันติพบ”
หมอใยไหมกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับไซริงค์ลดไข้ ผู้หมวดเจนเห็นเข็มแล้วหน้าเหวอ
“เพื่อให้ยาได้ผลไว ฉีดยาที่กล้ามเนื้อนะคะ” เธอบอกให้เขาถกกางเกงลง
“คุณหมอครับ ยากินลดไข้ไม่มีหรือครับ”
“เป็นไงล่ะ คนไข้คนเก่ง ทำไมกะอิแค่เข็มแค่นี้ทำไมหน้าซีดจังเลย”
“ผมก็หน้าซีดแบบนี้อยู่แล้ว คนป่วยนี่ครับ”
“รู้ตัวด้วยเหรอว่าป่วย แล้วทำไมไม่ยอมพักผ่อนเสียที” น้ำเสียงแกมดุของคุณหมอคนสวย ทำเอาจ่าดับกับผู้กองมินตราครางเออทำสีหน้าไม่ถูก คุณหมอจะต้องพูดตำหนิสองคนด้วยแน่ ที่มาชวนคนไข้พูดคุยอยู่เป็นนาน เห็นทีต้องขอตัวเพื่อให้ได้พักผ่อนเสียที