จิตประภัสสร จิตเดิมของธรรมชาติ จิตที่บริสุทธิ์ ยังมาเกิดได้ไหม?
จิตเดิมของธรรมชาติ คือ จิตประภัสสร เป็นจิตที่บริสุทธิ์
อาจารย์เสถียร โพธินันทะ แย้งขึ้นว่า "ถ้าจิตเดิมบริสุทธิ์แล้วพระอรหันต์ก็กลับเป็นปุถุชนได้ซิ ถ้าจิตเดิมบริสุทธิ์แล้วว่าตามเถรวาท พระอรหันต์ก็กลายเป็นปุถุชนได้ เมื่อบริสุทธิ์แล้วจะมาเวียนว่ายตายเกิดอีกทำไมเล่า เพราะฉะนั้นจึงแสดงให้เห็นว่า จิตเดิมบริสุทธิ์ไม่มีในพุทธศาสนา นิกายเถรวาทไม่เคยสอนว่า “จิตเดิม” คำว่า “จิตเดิม” ไม่มีแม้คำว่า “เดิม” หาไม่เจอแล้วตามนิกายเถรวาท มีแต่คำว่า “จิตประภัสสร” จิตนี้เป็นธรรมชาติผ่องใส พูดไว้เท่านี้ ก็ไม่มีคำว่า “เดิม” กับ “แท้”"
อันนั้นเขาเกิด (พระอริยสงฆ์ พระโพธิสัตว์ พระอรหันต์) ไม่ใช่เกิดด้วยแรงแห่งกิเลส ไม่ใช่เกิดด้วยแห่งแรงกรรม แต่เกิดด้วยแรงแห่งเจตนา คือ ท่านมีปณิธาน เหมือนกับเจ้าแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ (觀世音) พระอรหันต์จี้กง (เต้าจี้ฉานซือ 道濟禪師, จี้กงหัวฝอ 濟公活佛) เป็นต้น
ไม่ใช่ว่าเป็นแรงแห่งการทำชั่วแล้วมาเกิด แต่เป็นแรงแห่งการสำนึก และไม่ใช่มาเกิดด้วยกรรมดี แต่มาเกิดด้วยแรงแห่งเจตนา ปณิธาน
ถ้าอย่างนั้นพระพุทธเจ้าก็มาเกิดใหม่ได้นะสิ?
พระพุทธเจ้ามาเกิดใหม่ไม่ได้ เพราะว่าพระพุทธเจ้าไม่ปรารถนามาเกิดอีกแล้ว เพราะท่านเปล่งวาจาแล้ว แต่ถ้าเป็นพระอรหันต์ สามารถมาเกิดใหม่อีกได้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะมีเจ้าแม่กวนอิมมาช่วยเหลือคนได้ยังไง หมายความว่าพระพุทธเจ้าไม่ปรารถนาที่จะมาเกิดแล้ว แต่พระอรหันต์ยังมีปรารถนาอยู่ และพระปัจเจกพุทธเจ้า ก็ไม่ปรารถนามาเกิดอีกเช่นกัน ท่านถือว่าชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายแล้ว ท่านไม่อยากยุ่งอีกแล้ว และท่านไม่มีเจตนาที่จะอยากยุ่ง แต่พระอรหันต์ท่านก็ปรารถนาที่จะมาเกิดใหม่ก็ได้ และไม่ปรารถนาที่จะมาเกิดใหม่ก็ได้อีกเช่นกัน เป็นสิทธิ์ของท่าน
พระอรหันต์จี้กง ท่านก็สามารถเข้าสู่นิพพานก็ได้ แต่ท่านไม่ปรารถนา ขอมาทำหน้าที่เป็นพระโพธิสัตว์ก่อน
ทุกคนมีจิตประภัสสรให้ทุกคน ทุกคนจะต้องมี ถ้าเราไม่มีจิตประภัสสร ก็ไม่มีสิ่งที่ไปทำให้หัวใจเต้นไม่ได้หรอก
จิตประภัสสร จิตเดิมแท้ หรือจิตดั้งเดิม เป็นจิตจะต้องดำรงแห่งความบริสุทธิ์ ไม่ถูกเจือปนด้วยสิ่งใด ทั้งสัมมาและมิจฉา ทั้งดีและไม่ดี จิตประภัสสร ไม่มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีการสลายเลย เพราะดำรงเป็นไปตามธรรม และแปรเปลี่ยนไปตามธรรม ของธรรม
จิตเดิมแท้นั้นคล้ายนิพพาน เพราะว่าไม่ถูกอะไรครอบงำ ตราบใดที่จิตนั้นยังไม่ถูกเจือปน ถ้าถูกเจือปนก็ไม่ใช่จิตประภัสสร แต่ถ้าถูกสิ่งนั้นเจือปนก็เป็นจิตสิ่งนั้นแล้ว เช่น จิตโกรธ จิตโทสะ ฯลฯ
ถ้าอย่างนั้น ทุกคนก็เป็นพระอรหันต์มาก่อนหมดนะสิ?
ไม่ใช่!! ทุกคนมีสิทธิ์ ทุกคนดำรงจากจุดตรงนั้นมา จุดตรงนั้นเป็นนิพพานแต่เพียงในชื่อ แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่มีปัญญาพอ
แปลอย่างนี้แหละ แปลผิด เลยทำให้คนสับสน
ที่จริง ตรงนั้นจะเรียกว่า "จิตอรหันต์" ไม่ได้ จิตตรงนั้นไม่มีกิเลส แต่จิตตรงนั้นยังข้องแวะกิเลสได้ตลอดเวลา
จิตประภัสสร ยังมีอวิชชาอยู่ใช่ไหม?
จิตประภัสสร ยังมีอวิชชาอยู่แน่นอน แต่ไม่ใช่จิตอวิชชานะ เขาเป็นจิตหนึ่งก็คือว่า เป็นจิตที่รองรับอะไรมาก็ได้ สามารถมาผสมได้หมด เช่น มีพุทธะมาผสมก็ให้ ความโกรธมาผสมกับจิตก็ให้ ความหลงมาปนกับจิตก็ได้ อนัตตามาปนกับจิตก็ให้ จะเป็นมหาโจรก็ให้ แต่จะมาบอกว่าเป็นจิตนิพพานไม่ได้เลย แต่เป็นภาวะเดียวกันได้ เพราะว่าเป็นภาวะที่ยังไม่ถูกอะไรครอบงำ ต้องเป็น ณ เวลานั้นนะ แต่ถ้าเคลื่อนมาอีกจังหวะถูกเจือปนก็ไม่ใช่แล้ว
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต
จิตประภัสสร จิตเดิมของธรรมชาติ จิตที่บริสุทธิ์ ยังมาเกิดได้ไหม?
จิตเดิมของธรรมชาติ คือ จิตประภัสสร เป็นจิตที่บริสุทธิ์
อาจารย์เสถียร โพธินันทะ แย้งขึ้นว่า "ถ้าจิตเดิมบริสุทธิ์แล้วพระอรหันต์ก็กลับเป็นปุถุชนได้ซิ ถ้าจิตเดิมบริสุทธิ์แล้วว่าตามเถรวาท พระอรหันต์ก็กลายเป็นปุถุชนได้ เมื่อบริสุทธิ์แล้วจะมาเวียนว่ายตายเกิดอีกทำไมเล่า เพราะฉะนั้นจึงแสดงให้เห็นว่า จิตเดิมบริสุทธิ์ไม่มีในพุทธศาสนา นิกายเถรวาทไม่เคยสอนว่า “จิตเดิม” คำว่า “จิตเดิม” ไม่มีแม้คำว่า “เดิม” หาไม่เจอแล้วตามนิกายเถรวาท มีแต่คำว่า “จิตประภัสสร” จิตนี้เป็นธรรมชาติผ่องใส พูดไว้เท่านี้ ก็ไม่มีคำว่า “เดิม” กับ “แท้”"
อันนั้นเขาเกิด (พระอริยสงฆ์ พระโพธิสัตว์ พระอรหันต์) ไม่ใช่เกิดด้วยแรงแห่งกิเลส ไม่ใช่เกิดด้วยแห่งแรงกรรม แต่เกิดด้วยแรงแห่งเจตนา คือ ท่านมีปณิธาน เหมือนกับเจ้าแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์ (觀世音) พระอรหันต์จี้กง (เต้าจี้ฉานซือ 道濟禪師, จี้กงหัวฝอ 濟公活佛) เป็นต้น
ไม่ใช่ว่าเป็นแรงแห่งการทำชั่วแล้วมาเกิด แต่เป็นแรงแห่งการสำนึก และไม่ใช่มาเกิดด้วยกรรมดี แต่มาเกิดด้วยแรงแห่งเจตนา ปณิธาน
ถ้าอย่างนั้นพระพุทธเจ้าก็มาเกิดใหม่ได้นะสิ?
พระพุทธเจ้ามาเกิดใหม่ไม่ได้ เพราะว่าพระพุทธเจ้าไม่ปรารถนามาเกิดอีกแล้ว เพราะท่านเปล่งวาจาแล้ว แต่ถ้าเป็นพระอรหันต์ สามารถมาเกิดใหม่อีกได้ ถ้าไม่อย่างนั้นจะมีเจ้าแม่กวนอิมมาช่วยเหลือคนได้ยังไง หมายความว่าพระพุทธเจ้าไม่ปรารถนาที่จะมาเกิดแล้ว แต่พระอรหันต์ยังมีปรารถนาอยู่ และพระปัจเจกพุทธเจ้า ก็ไม่ปรารถนามาเกิดอีกเช่นกัน ท่านถือว่าชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายแล้ว ท่านไม่อยากยุ่งอีกแล้ว และท่านไม่มีเจตนาที่จะอยากยุ่ง แต่พระอรหันต์ท่านก็ปรารถนาที่จะมาเกิดใหม่ก็ได้ และไม่ปรารถนาที่จะมาเกิดใหม่ก็ได้อีกเช่นกัน เป็นสิทธิ์ของท่าน
พระอรหันต์จี้กง ท่านก็สามารถเข้าสู่นิพพานก็ได้ แต่ท่านไม่ปรารถนา ขอมาทำหน้าที่เป็นพระโพธิสัตว์ก่อน
ทุกคนมีจิตประภัสสรให้ทุกคน ทุกคนจะต้องมี ถ้าเราไม่มีจิตประภัสสร ก็ไม่มีสิ่งที่ไปทำให้หัวใจเต้นไม่ได้หรอก
จิตประภัสสร จิตเดิมแท้ หรือจิตดั้งเดิม เป็นจิตจะต้องดำรงแห่งความบริสุทธิ์ ไม่ถูกเจือปนด้วยสิ่งใด ทั้งสัมมาและมิจฉา ทั้งดีและไม่ดี จิตประภัสสร ไม่มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีการสลายเลย เพราะดำรงเป็นไปตามธรรม และแปรเปลี่ยนไปตามธรรม ของธรรม
จิตเดิมแท้นั้นคล้ายนิพพาน เพราะว่าไม่ถูกอะไรครอบงำ ตราบใดที่จิตนั้นยังไม่ถูกเจือปน ถ้าถูกเจือปนก็ไม่ใช่จิตประภัสสร แต่ถ้าถูกสิ่งนั้นเจือปนก็เป็นจิตสิ่งนั้นแล้ว เช่น จิตโกรธ จิตโทสะ ฯลฯ
ถ้าอย่างนั้น ทุกคนก็เป็นพระอรหันต์มาก่อนหมดนะสิ?
ไม่ใช่!! ทุกคนมีสิทธิ์ ทุกคนดำรงจากจุดตรงนั้นมา จุดตรงนั้นเป็นนิพพานแต่เพียงในชื่อ แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่มีปัญญาพอ
แปลอย่างนี้แหละ แปลผิด เลยทำให้คนสับสน
ที่จริง ตรงนั้นจะเรียกว่า "จิตอรหันต์" ไม่ได้ จิตตรงนั้นไม่มีกิเลส แต่จิตตรงนั้นยังข้องแวะกิเลสได้ตลอดเวลา
จิตประภัสสร ยังมีอวิชชาอยู่ใช่ไหม?
จิตประภัสสร ยังมีอวิชชาอยู่แน่นอน แต่ไม่ใช่จิตอวิชชานะ เขาเป็นจิตหนึ่งก็คือว่า เป็นจิตที่รองรับอะไรมาก็ได้ สามารถมาผสมได้หมด เช่น มีพุทธะมาผสมก็ให้ ความโกรธมาผสมกับจิตก็ให้ ความหลงมาปนกับจิตก็ได้ อนัตตามาปนกับจิตก็ให้ จะเป็นมหาโจรก็ให้ แต่จะมาบอกว่าเป็นจิตนิพพานไม่ได้เลย แต่เป็นภาวะเดียวกันได้ เพราะว่าเป็นภาวะที่ยังไม่ถูกอะไรครอบงำ ต้องเป็น ณ เวลานั้นนะ แต่ถ้าเคลื่อนมาอีกจังหวะถูกเจือปนก็ไม่ใช่แล้ว
^_^ ..._/\_... ^_^
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกกล่าวมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
เอื้อ-เกื้อ-กัน เป็นกัลยาณมิตรทุกขณะจิต