ตัวอักษร CH & SH อ่านได้ยังไง ทำไมคนไทยมักจะงงๆ กับตัวเหล่านี้ โดย Ivan M. Paton (สิงโต)

         
           สวัสดีครับคุณผู้อ่าน ผมชื่อ Ivan M. Paton ชื่อเล่น สิงโต นะครับ เป็นชาวออสเตรเลีย พักอาศัยอยู้ที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2004
เป็นผู้เขียนของหนังสือที่เรียกว่า PIPPASS™ Let’s Speak English & Stop Speaking Tinglish ซึ่งผมเขียนเพื่อช่วยให้คนไทยเข้าใจหลักการออกเสียงภาษาอังกฤษได้ดีมากขึ้น

        ในบทความนี้ผมจะใช้คำอ่านเป็นภาษาอังกฤษของระบบการสอน PIPPASS™ เพื่ออธิบายประเด็นต่างๆ ถึงแม้ว่าคุณอาจจะยังไม่เข้าใจจะอ่านออกเสียงคำอ่านได้อย่างไร แต่คุณจะเข้าใจประเด็นที่ผมสื่อสารได้แน่นอน มีคำศัพท์ภาษาอังกฤษเยอะที่ปกติไม่จำเป็นที่ต้องเขียนคำอ่าน
เพราะว่าการออกเสียงตามการสะกดตรงๆ เช่น คำว่า shop อ่านว่า [shop] คำว่า chop อ่านว่า [chop] คำว่า wish อ่านว่า [wish] เป็นต้น
แต่ว่าเพื่อให้เข้าใจได้อย่างง่ายๆ ในบทความนี้ ผมจะเขียนคำอ่านให้กับทุกคำอย่างนี้ด้วยนะครับ ถ้าคุณอยากจะฟังเสียงของคำใดคำหนึ่งพร้อมอ่านคำอ่าน เป็นภาษาอังกฤษ ก็แนะนำไปเปิดเสียงในพจนานุกรมในอินเตอร์เน็ตหรือใน App และถ้าอยากจะเรียนรู้เสียงภาษาอังกฤษเสียงใดเสียงหนึ่ง ก็แนะนำไปชมวิดีโอในช่องยูทูปของผมที่จะแนะนำข้างล่างนะครับ

          
         ในการพูดและการฟังภาษาอังกฤษคนไทยมักจะงงๆ กับการอ่านตัวอักษร CH กับ SH และมักจะแยกสองเสียง [ch] กับ [sh] ไม่ออกด้วย
ถ้าคุณเป็นคนที่เคยมีปัญหากับเรื่องนี้ หลังจากอ่านบทความนี้ให้จบ ก็จะไม่มีปัญหาอีกต่อไปนะครับ เราสามารถทำความเข้าใจดีๆ ในเรื่องนี้ได้ โดยศึกษาประเด็น 3 ข้อต่อไปนี้ คือ

       1.     ในตำแหน่งพยัญชนะต้นตัวอักษร ช ช้าง สามารถเกิด 2 เสียงได้ คือ เสียง [ch] กับ เสียง [sh]

       2.     ในภาษาอังกฤษเสียง[ch] กับ [sh] เป็นคนละเสียงกัน สลับกันไม่ได้ และแต่ละเสียงเกิดขึ้นได้จากตัวอักษรต่างๆ

      3.     ในการสะกดคำตัวอักษร SH เกิดเสียงอย่างเดียว ส่วนตัวอักษร CH เกิดเสียงต่างๆ


         เวลาตัว ช ช้าง อยู่ข้างหน้าคำในตำแหน่งพยัญชนะต้นตัวนี้สามารถเกิดเสียงพยัญชนะ 2 เสียงได้ ที่ผมเรียกว่า ช ที่ 1 หรือ [ช1-]
ที่เหมือนกับเสียง [ch] และ ช ที่ 2 หรือ [ช2-] ที่เหมือนกับเสียง [sh] ถ้าตัว ช ช้าง เป็นตัวแรกในคำใดคำหนึ่งคนไทยมักจะสลับสองเสียงนี้
บางคนอาจจะใช้เสียงแรก ส่วนบางคนอาจจะใช้เสียงที่สอง แต่ในกรณีพิเศษตัว ช ช้าง ใช้สองเสียงเหล่านั้นโดยเป็นเสียงที่กำหนดไว้ตายตัว ถ้าเราศึกษากรณี 2 ข้อนี้ ก็จะช่วยให้เราเข้าใจเสียง [ch] และเสียง [sh] ที่เราใช้ในการออกเสียงคำภาษาอังกฤษ

      1. ตัวอักษร ช ช้าง ใช้เสียง [ช1-] = เสียง [ch]

      เวลาตัว ช ช้าง อยู่กลางคำภาษาไทยที่มีโครงสร้างคำที่เกิดการออกเสียงแบบต่อไปนี้ [พยางค์ที่ลงท้ายด้วยแม่กด--ช+สระ] ตัวอักษร ช ก็จะเกิดเสียงที่ผมเีรียกว่า ช ที่ 1 หรือ [ช1-] เช่น คำว่า ราชการ อ่านว่า [ราด-ชะ-กาน] หรือสามารถเขียนคำอ่านในรูปแบบใหม่ว่า [ราด-ช1ะ-กาน] พยางค์แรกลงท้ายด้วย
แม่กด ลิ้นของเราจึงติดกับเพดานปาก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการพูดตัว ช ช้าง ต่อไปจากนั้น เสียง ช ที่ 1 หรือ [ช1-] นี้เป็นเสียงที่เหมือนกับเสียง [ch] ในภาษาอังกฤษ เสียง [ช1-] = เสียง [ch]

            สิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับการพูดเสียง [ช1-] หรือ [ch] คือ จุดเริ่มต้นเป็นจุดที่ลิ้นขึ้นไปติดกับเพดานปาก ซึ่งในคำภาษาไทยที่มีโครงสร้างคำดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างอัตโนมีติเมื่ออ่านถึงตัวสะกดของแม่กด ในการพูดคำภาษาอังกฤษที่เริ่มต้นกับเสียง [ch] ต้องให้ลิ้นขึ้นไปติดกับเพดานปากที่จุดนี้เหมือนกัน เช่น chip [chip], check [chek], เป็นต้น

     2. ตัวอักษร ช ช้าง ใช้เสียง [ช2-] = เสียง [sh]

     เวลาตัว ช ช้าง อยู่กลางคำภาษาไทยที่มีโครงสร้างคำที่เกิดการออกเสียงแบบต่อไปนี้ [พยางค์ที่ลงท้ายด้วยสระ--ช+สระ]  ตัวอักษร ช ก็จะเกิดเสียงอีกอย่างหนึ่ง ที่ผมเีรียกว่า ช ที่ 2 หรือ [ช2-] ซึ่งเป็นเสียงที่เหมือนกับเสียง [sh] ในภาษาอังกฤษ เป็นคนละเสียงจากเสียง ช ที่ 1 หรือ [ช1-] เพราะว่าพยางค์ก่อนตัว ช ช้าง ลงท้ายด้วยเสียงของสระ เพราะฉะนั้นไม่สามารถให้ลิ้นขึ้นไปติดกับเพดานปากเหมือนที่เราทำกับเสียง ช ที่ 1 ถ้าทำอย่างนั้นจะทำให้เกิด
เสียงของตัวสะกดที่เรียกว่า แม่กด ซึ่งจะเป็นการออกเสียงผิดไป ในการพูดเสียง ช ที่ 2 นี้ลิ้นของเราขึ้นไปคล้ายๆ กับเพดานปากแต่ไม่ได้ติด จึงเกิดเสียงอีกอย่างหนึ่งที่เหมือนกับเสียง [sh] ในภาษาอังกฤษ ยกตัวอย่างเช่น 

    ในคำว่า ผู้ชาย - พยางค์แรก ผู้ ลงท้ายด้วยเสียงของสระ  เพราะเหตุนั้นเวลาเราจะออกเสียงตัว ช ช้าง ต่อไปจากนั้นลิ้นของเราไม่สามารถไปติดกับเพดานปากได้ จุดลิ้นขึ้นไปอยู่คล้ายๆ  กับเพดานปากแต่ไม่ได้ติด  ถ้าลิ้นของเราไปอยู่ติดกับเพดานปากจะทำให้เสียงของแม่กดเกิดขึ้นท้ายพยางค์แรก คือ [ผู้ด-] ซึ่งจะผิดไปเพราะพยางค์นี้ลงท้ายด้วยสระไม่มีตัวสะกด เพราะฉะนั้นเสียงของ ช ช้าง ในคำแบบนี้เปลี่ยนไป เป็นเสียงที่ผมเรียกว่า ช ที่ 2 หรือ [ช2-] ผมจะเขียนคำอ่านให้เห็นแบบนี้ ผู้ชาย [ผู้-ช2าย] เสียงที่ 2 นี้ของ ช ช้าง เป็นเสียงที่เเหมือนกับเสียง [sh] ในภาษาอังกฤษ เสียง [ช2-] = เสียง [sh] 

      สิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับการพูดเสียง [ช2-] หรือ [sh] คือ จุดเริ่มต้นเป็นจุดที่ลิ้นขึ้นไปคล้ายๆ กับเพดานปากแต่ไม่ได้ติด ซึ่งในคำภาษาไทยที่มีโครงสร้างคำดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างอัตโนมีติเมื่ออ่านตัว ช ช้าง ในการพูดคำภาษาอังกฤษที่เริ่มต้นกับเสียง [sh] ต้องให้ลิ้นขึ้นไปอยู่คล้ายๆ    กับเพดานปากที่จุดนี้เหมือนกัน เช่น ship [ship], shop [shop], sheep [sheep], เป็นต้น

       
         ในการออกเสียงภาษาอังกฤษเสียง [ch] และเสียง [sh] เป็นเสียงพยัญชนะสองเสียงที่แตกต่างอย่างมากๆ แล้วไม่สามารถสลับสองเสียงนี้ได้เลย
ถ้าสลับสองเสียงนี้ในการพูดคำภาษาอังกฤษเป็นการออกเสียงไม่ถูกต้องนะครับ สองเสียงนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากตัวอักษรภาษาอังกฤษหลายๆ ตัว เช่น

ตัวอักษร C, CH, CZ, T, เกิดเสียง [ch] เช่น

       § ตัว C = เสียง [ch] เช่น     cello [chel-loh]

       § ตัว CH = เสียง [ch] เช่น    chips [chip-ps], check [chek], cheap [cheep],

       § ตัว CZ = เสียง [ch] เช่น    Czech [chek]

       § ตัว T = เสียง [ch] เช่น      picture [pik-(t)-chuh], question [k-wes-(t)-chuhn]

ตัวอักษร C, CH, CHE, S, SCH, SH, & T เกิดเสียง [sh] เช่น

      § ตัว C = เสียง [sh] เช่น     delicious [del-lish-shuhs], facial [faysh-shuhl],

       § ตัว CH = เสียง [sh] เช่น    chef [shef], champagne [sham-payn]

       § ตัว CHE = เสียง [sh] เช่น douche [doosh], quiche [keesh]

       § ตัว S = เสียง [sh] เช่น      mission [mish-shuhn], sugar [shug-guh]

       §  ตัว SCH = เสียง [sh] เช่น schist [shis-t], Schumacher [shoo-mark-kuh]

       § ตัว SH = เสียง [sh] เช่น    ships [ship-ps], she [shee], shoe [shoo], sheep [sheep]

       § ตัว T = เสียง [sh] เช่น      action [ak-shuhn], fraction [f-rak-shuhn]


กฎ - ตัวอักษร SH เกิดเสียง [sh] เท่านั้น

      ในประเด็นสุดท้ายนี้เราจะเริ่มต้นกับตัวอักษร SH เพราะถ้ามีตัวนี้ในการสะกดคำภาษาอังกฤษเป็นกฎที่จะออกเสียงเป็นเสียง [sh] นี้เสียงเดียวตลอด
เท่าที่ผมเข้าใจไม่มีข้อยกเว้น เช่น

       § cash [kash], dish [dish], fish [fish], mash [mash], posh [posh], rush [ruhsh], trash [t-rash], wash [wosh],

ตัวอักษร CH เกิดเสียง [ch], [k], [k-k], [t-ch], [sh], [d-j] เช่น

      ส่วนตัวอักษร CH ทั้งๆ ที่เสียงหลักของสองตัวนี้เป็นเสียง [ch] สองตัวนี้ยังสามารถเกิดหลายๆ เสียงได้  เช่น

      § ตัว CH = เสียง [ch] เช่น    check [chek], cheese [cheez], watch [wot-ch]

      § ตัว CH = เสียง [k] เช่น     school [s-kool], Christmas [k-ris-muhs]

      § ตัว CH = เสียง [k-k] เช่น   mechanic [mek-kan-nik],

      § ตัว CH = เสียง [t-ch] เช่น beach [beet-ch], much [muht-ch], search [sert-ch],

      § ตัว CH = เสียง [sh] เช่น    chef [shef], champagne [sham-payn]

      § ตัว CH = เสียง [d-j] เช่น    sandwich [san-(d)-wid-j]

      
     เราเห็นได้จากประเด็น 3 ข้อเหล่านี้ว่า เหตุผลที่คนไทยมักจะมีปัญหากับตัวอักษร CH & SH และเสียง [ch] กับเสียง [sh] เป็นเพราะว่ามาจากอิทธิพลของตัวอักษร ช ช้าง และความสับสนเกี่ยวกับวิธีการอ่านออกเสียงตัวอักษร  CH และ SH ในคำภาษาอังกฤษด้วย

      ถ้าคนไทยอยากจะพูดและฟังภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง ก็จำเป็นต้องเรียนการพูดสองเสียง [ch] และ [sh] นี้ให้ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยให้ฟังสองเสียงนี้ออกได้ด้วย  และตัองระวังอิทธิพลจากภาษาไทยไม้ให้สลับสองเสียงนี้ในการพูดคำภาษาอังกฤษด้วย

Ivan M. Paton (ชื่อเล่นสิงโต)


การเรียนรู้วิธีการพูดเสียง [ch] & [sh]

      ถ้าคุณสนใจเรียนรู้สองเสียงนี้ ขอแนะนำไปชมวิดีโอสองอันต่อไปนี้ในช่องยูทูปของผมที่เรียกว่า Ajarn Singtoh
นอกจากนั้นในช่องนี้มีชุดวิดีเพื่อเรียนรู้เสียงของทั้งสระและพยัญชนะในภาษาอังกฤษทุกๆ เสียงให้ครบ ซึ่งมีเสียงหลายๆๆ อย่างที่ไม่มีในคำภาษาไทยด้วย

      §  22 PPA-TH เสียงพยัญชนะ [ch] & [t-ch]  

      §  36 PPA-TH เสียงพยัญชนะ [sh] & [sh-sh]

[
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่