ตอนที่สนใจจะพัฒนาเรื่องการออกเสียงเราก็พอรู้อยู่ว่าฝรั่งเขาใช้ระบบอะไรบ้างในการสอนภาษาอังกฤษของประเทศเขา ก็พบว่ามีทั้ง
1. Whole of language
2. Phonics
3. I.P.A.
หลังจากที่เราศึกษาไปแล้วก็พบว่าเราสนใจ I.P.A. นะเพราะดูจะเป็นระบบที่เหมาะกับวัยเราและน่าจะได้ผลเพราะเรามีเพื่อนที่ได้เรียนกับระบบนี้เขาก็ออกเสียงภาษาอังกฤษถูกต้องชัดเจนดี
ในประเทศไทยพบว่ามีการสอนระบบนี้ในระดับมหาวิทยาลัยและในคณะที่เน้นด้านภาษาเท่านั้นหรืออาจจะมีสอนตามสถาบันต่างๆที่เราต้องลงทุนไปเรียนเอง
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นไม่นาน เราก็พบกับอีกระบบหนึ่งเป็นระบบใหม่ใหม่มากๆที่ช่วยในด้านการออกเสียงเช่นเดียวกันมีคำอ่านที่ใช้อ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษเช่นเดียวกับI.P.A.
แต่มีจุดต่างหลายจุดและพบว่าจุดหนึ่งที่เราสนใจคือระบบนี้ไม่ได้ใช้ตัวสัญลักษณ์แปลกๆมาเป็นคำอ่านระบบการสอนนี้เรียกว่าระบบ PIPPASS™
เราจึงสนใจระบบนี้ด้วย
ทีนี้เราลองดูขั้นตอนของการศึกษาทั้งสองระบบระหว่าง I.P.A. กับ PIPPASS™ ดูว่าระบบไหนน่าใช้กว่ากัน
เราพบว่ามีขั้นตอนแรกของการศึกษาระบบทั้งสองคล้ายกันนะคือเราต้องศึกษาและจำชุดตัวสัญลักษณ์ของระบบก่อน
1. ระบบI.P.A. ก็จะมีชุดตัวสัญลักษณ์ประมาณนี้
สระ
/ʌ/, /ɑ:/, /æ/, /oʊ/, /ə/ เป็นต้น
พยัญชนะ
/ŋ/, /θ/, /ʃ/, /g/, /p/ เป็นต้น
ตัวอย่างคำอ่านI.P.A.
beauty /ˈbjuːti/
university /juːnɪˈvəːsɪti/
fox /fɒks/
2. ระบบPIPPASS™ ก็จะมีชุดตัวสัญลักษณ์ประมาณนี้
สระ
[ay] [ee] [ie] [oh] [er] [or] เป็นต้น
พยัญชนะ
[p] [t] [ch] [d] [t-ch] เป็นต้น
ตัวอย่างคำอ่านPIPPASS™
University [yoon-niv-vers-sit-tee]
Beauty [b-yoot-tee]
Fox [fok-ks]
พอเห็นขั้นตอนแรกเราก็คิดว่าหากเราต้องนั่งจำชุดตัวสัญลักษณ์ทั้งหมด
ทำไมเราต้องจำตัวแปลกๆที่จำยากเหมือนเราต้องเรียนภาษาเพิ่มขึ้นมาอีกภาษาหนึ่งเราจำตัวสัญลักษณ์ที่เราคุ้นเคยดีกว่าไหม
ระบบ PIPPASS™ ใช้แค่ตัวอักษรภาษาอังกฤษA-Z เป็นตัวสัญลักษณ์ซึ่งจำง่ายมาก
ต่างจากI.P.A. ที่ใช้ตัวสัญลักษณ์แปลกๆเป็นตัวสัญลักษณ์จำค่อนข้างยาก
สิ่งนี้ทำให้เราสนใจระบบ PIPPASS™ มากขึ้นนอกจากนั้นพบว่าระบบ PIPPASS™ มีการอธิบายการออกเสียงได้ครอบคลุมกว่าในขณะที่ I.P.A. ไม่มีเช่น
- I.P.A. ไม่มีตัวสัญลักษณ์เฉพาะเสียง[ks], [ps] และ [ts] แต่ระบบPIPPASS™ มี เช่นคำว่าfox [fok-ks] locks [lok-ks] cats [kat-ts]
- คำอ่านของI.P.A. เขียนทุกตัวติดกันไม่ได้แสดงถึงเสียงพยัญชนะเชื่อมกันระหว่างพยางค์เช่นคำว่า University
ระบบI.P.A. เขียนคำอ่านแบบนี้ university /juːnɪˈvəːsɪti/
ระบบ PIPPASS™ เขียนคำอ่านแบบนี้ university [yoon-niv-vers-sit-tee]
- เป็นต้น
และที่เราสนใจมากอีกอย่างหนึ่งคือระบบ PIPPASS™ ไม่มี stress maker เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าจะ stress ตรงไหนพบว่าระบบ PIPPASS™ไม่ต้องจำ stress เลยแค่อ่านตามคำอ่านให้ถูกต้องเราจะได้เสียงภาษาอังกฤษที่เป็นธรรมชาติ
ด้วยเหตุผลหลายอย่างเราจึงเลือกที่จะลองใช้ระบบ PIPPASS™ มาเป็นตัวช่วยในการออกเสียงภาษาอังกฤษของเรา
เรายังพบอีกว่า ผู้คิดค้นระบบเขายังไม่ได้เปิดเผยที่ไหนเลยเขามาเปิดเผยที่ไทยเป็นที่แรก ทำไมเขาเลือกประเทศไทยเพราะเขายืมแนวคิดการพัฒนา ระบบนี้มาจากการเรียนภาษาไทย ภาษาไทยมีคำอ่านที่ช่วยเขาในเรื่องการออกเสียงภาษาไทยเขาเรียนภาษาไทยได้ผลดีเพราะมีคำอ่านภาษาไทย
เขาเลยคิดว่าในภาษาอังกฤษน่าจะมีระบบแบบนี้บ้างระบบที่ใช้คำอ่านภาษาอังกฤษอธิบายการออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
สิ่งนี้ทำให้เกิดระบบ
PIPPASS™ ขึ้นมา
ถึงตรงนี้หากมีใครสนในระบบ
PIPPASS™เราขออธิบายคร่าวๆในเรื่องการศึกษาระบบ
ว่าจะเรียน PIPPASS™ ได้ยังไง
ผู้คิดค้นระบบเขาได้ถ่ายทอดความรู้ทุกอย่างลงในหนังสือและวิดิโอฟรีในยูทูปให้ทุกคนได้ศึกษาเพราะนี่คือช่องทางที่ง่ายที่สุดที่จะช่วยเหลือคนไทยทุกคนให้ได้มีโอกาสเรียนและศึกษาระบบPIPPASS™
ขั้นตอนที่ดีที่สุดตอนนี้คือ
1. อ่านหนังสือPIPPASS™ Let’s Speak English & Stop Speaking Tinglish เขียนโดยIvan M. Paton ชื่อเล่นสิงโต
2. เปิดไปที่ภาคผนวกบทที่1 จะมีขั้นตอนในการเรียนซึ่งคร่าวๆประมาณนี้
- เรียนรู้ชุดตัวสัญษณ์ของระบบ PIPPASS™ (มีวิดิโอฟรีในยูทูปช่องชื่อAjarn Singtoh)
- ทำแบบฝึกหัด (มีวิดิโอฟรีในยูทูป)
- ศึกษากฎของการสะกดและออกเสียงภาษาอังกฤษ
- ฝึกการออกเสียงคำภาษาอังกฤษตามคำอ่าน PIPPASS™
หากใครสนใจเรื่องการออกเสียงภาษาอังกฤษให้ถูกต้องลองศึกษาดูเลยเราเชื่อว่าระบบนี้ดีมาก
ศึกษาเพิ่มเติม
Facebook Page
https://www.facebook.com/Ajarn-Singtoh-อาจารย์สิงโต-829049620527428/?epa=SEARCH_BOX
ทำไมระบบ PIPPASS™ ถึงน่าเรียน ???
1. Whole of language
2. Phonics
3. I.P.A.
หลังจากที่เราศึกษาไปแล้วก็พบว่าเราสนใจ I.P.A. นะเพราะดูจะเป็นระบบที่เหมาะกับวัยเราและน่าจะได้ผลเพราะเรามีเพื่อนที่ได้เรียนกับระบบนี้เขาก็ออกเสียงภาษาอังกฤษถูกต้องชัดเจนดี
ในประเทศไทยพบว่ามีการสอนระบบนี้ในระดับมหาวิทยาลัยและในคณะที่เน้นด้านภาษาเท่านั้นหรืออาจจะมีสอนตามสถาบันต่างๆที่เราต้องลงทุนไปเรียนเอง
ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นไม่นาน เราก็พบกับอีกระบบหนึ่งเป็นระบบใหม่ใหม่มากๆที่ช่วยในด้านการออกเสียงเช่นเดียวกันมีคำอ่านที่ใช้อ่านออกเสียงคำภาษาอังกฤษเช่นเดียวกับI.P.A.
แต่มีจุดต่างหลายจุดและพบว่าจุดหนึ่งที่เราสนใจคือระบบนี้ไม่ได้ใช้ตัวสัญลักษณ์แปลกๆมาเป็นคำอ่านระบบการสอนนี้เรียกว่าระบบ PIPPASS™
เราจึงสนใจระบบนี้ด้วย
ทีนี้เราลองดูขั้นตอนของการศึกษาทั้งสองระบบระหว่าง I.P.A. กับ PIPPASS™ ดูว่าระบบไหนน่าใช้กว่ากัน
เราพบว่ามีขั้นตอนแรกของการศึกษาระบบทั้งสองคล้ายกันนะคือเราต้องศึกษาและจำชุดตัวสัญลักษณ์ของระบบก่อน
1. ระบบI.P.A. ก็จะมีชุดตัวสัญลักษณ์ประมาณนี้
สระ
/ʌ/, /ɑ:/, /æ/, /oʊ/, /ə/ เป็นต้น
พยัญชนะ
/ŋ/, /θ/, /ʃ/, /g/, /p/ เป็นต้น
ตัวอย่างคำอ่านI.P.A.
beauty /ˈbjuːti/
university /juːnɪˈvəːsɪti/
fox /fɒks/
2. ระบบPIPPASS™ ก็จะมีชุดตัวสัญลักษณ์ประมาณนี้
สระ
[ay] [ee] [ie] [oh] [er] [or] เป็นต้น
พยัญชนะ
[p] [t] [ch] [d] [t-ch] เป็นต้น
ตัวอย่างคำอ่านPIPPASS™
University [yoon-niv-vers-sit-tee]
Beauty [b-yoot-tee]
Fox [fok-ks]
พอเห็นขั้นตอนแรกเราก็คิดว่าหากเราต้องนั่งจำชุดตัวสัญลักษณ์ทั้งหมด
ทำไมเราต้องจำตัวแปลกๆที่จำยากเหมือนเราต้องเรียนภาษาเพิ่มขึ้นมาอีกภาษาหนึ่งเราจำตัวสัญลักษณ์ที่เราคุ้นเคยดีกว่าไหม
ระบบ PIPPASS™ ใช้แค่ตัวอักษรภาษาอังกฤษA-Z เป็นตัวสัญลักษณ์ซึ่งจำง่ายมาก
ต่างจากI.P.A. ที่ใช้ตัวสัญลักษณ์แปลกๆเป็นตัวสัญลักษณ์จำค่อนข้างยาก
สิ่งนี้ทำให้เราสนใจระบบ PIPPASS™ มากขึ้นนอกจากนั้นพบว่าระบบ PIPPASS™ มีการอธิบายการออกเสียงได้ครอบคลุมกว่าในขณะที่ I.P.A. ไม่มีเช่น
- I.P.A. ไม่มีตัวสัญลักษณ์เฉพาะเสียง[ks], [ps] และ [ts] แต่ระบบPIPPASS™ มี เช่นคำว่าfox [fok-ks] locks [lok-ks] cats [kat-ts]
- คำอ่านของI.P.A. เขียนทุกตัวติดกันไม่ได้แสดงถึงเสียงพยัญชนะเชื่อมกันระหว่างพยางค์เช่นคำว่า University
ระบบI.P.A. เขียนคำอ่านแบบนี้ university /juːnɪˈvəːsɪti/
ระบบ PIPPASS™ เขียนคำอ่านแบบนี้ university [yoon-niv-vers-sit-tee]
- เป็นต้น
และที่เราสนใจมากอีกอย่างหนึ่งคือระบบ PIPPASS™ ไม่มี stress maker เราเป็นคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าจะ stress ตรงไหนพบว่าระบบ PIPPASS™ไม่ต้องจำ stress เลยแค่อ่านตามคำอ่านให้ถูกต้องเราจะได้เสียงภาษาอังกฤษที่เป็นธรรมชาติ
ด้วยเหตุผลหลายอย่างเราจึงเลือกที่จะลองใช้ระบบ PIPPASS™ มาเป็นตัวช่วยในการออกเสียงภาษาอังกฤษของเรา
เรายังพบอีกว่า ผู้คิดค้นระบบเขายังไม่ได้เปิดเผยที่ไหนเลยเขามาเปิดเผยที่ไทยเป็นที่แรก ทำไมเขาเลือกประเทศไทยเพราะเขายืมแนวคิดการพัฒนา ระบบนี้มาจากการเรียนภาษาไทย ภาษาไทยมีคำอ่านที่ช่วยเขาในเรื่องการออกเสียงภาษาไทยเขาเรียนภาษาไทยได้ผลดีเพราะมีคำอ่านภาษาไทย
เขาเลยคิดว่าในภาษาอังกฤษน่าจะมีระบบแบบนี้บ้างระบบที่ใช้คำอ่านภาษาอังกฤษอธิบายการออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
สิ่งนี้ทำให้เกิดระบบ PIPPASS™ ขึ้นมา
ถึงตรงนี้หากมีใครสนในระบบ PIPPASS™เราขออธิบายคร่าวๆในเรื่องการศึกษาระบบ
ว่าจะเรียน PIPPASS™ ได้ยังไง
ผู้คิดค้นระบบเขาได้ถ่ายทอดความรู้ทุกอย่างลงในหนังสือและวิดิโอฟรีในยูทูปให้ทุกคนได้ศึกษาเพราะนี่คือช่องทางที่ง่ายที่สุดที่จะช่วยเหลือคนไทยทุกคนให้ได้มีโอกาสเรียนและศึกษาระบบPIPPASS™
ขั้นตอนที่ดีที่สุดตอนนี้คือ
1. อ่านหนังสือPIPPASS™ Let’s Speak English & Stop Speaking Tinglish เขียนโดยIvan M. Paton ชื่อเล่นสิงโต
2. เปิดไปที่ภาคผนวกบทที่1 จะมีขั้นตอนในการเรียนซึ่งคร่าวๆประมาณนี้
- เรียนรู้ชุดตัวสัญษณ์ของระบบ PIPPASS™ (มีวิดิโอฟรีในยูทูปช่องชื่อAjarn Singtoh)
- ทำแบบฝึกหัด (มีวิดิโอฟรีในยูทูป)
- ศึกษากฎของการสะกดและออกเสียงภาษาอังกฤษ
- ฝึกการออกเสียงคำภาษาอังกฤษตามคำอ่าน PIPPASS™
หากใครสนใจเรื่องการออกเสียงภาษาอังกฤษให้ถูกต้องลองศึกษาดูเลยเราเชื่อว่าระบบนี้ดีมาก
ศึกษาเพิ่มเติม
Facebook Page https://www.facebook.com/Ajarn-Singtoh-อาจารย์สิงโต-829049620527428/?epa=SEARCH_BOX