เราอยากจะแนะนำสิ่งดีๆ เพื่อช่วยคนไทยหลายๆ คน (สำหรับคนที่สนใจภาษาอังกฤษ)
เราขอเล่าประสบการณ์ของตัวเองเกี่ยวกับภาษาอังกฤษให้ฟังก่อน แต่ก่อนเราเป็นคนหนึ่งที่อยากฟังและพูดภาษาอังกฤษได้ เพราะเรา อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดีถ้าเทียบกับฟังและพูด แต่เรารู้สึกมาตั้งแต่เด็กว่า เราฟังฝรั่งพูดไม่ค่อยรู้เรื่องเลย ในขณะที่เราสอบภาษาอังกฤษได้ A แต่เหมือนเวลาเราไปฟังฝรั่งพูดเรางงมาก เขาพูดอะไรไม่รู้ จับคำไม่ได้เลย เหมือนคำที่เขาพูดออกมา ไม่ใช่คำศัพท์ที่เราเคยเรียน หรือเคยฝึกพูดเลย เรางงมากๆ ตอนนั้นอยู่มัธยมนะ เรารู้สึกว่าการฟังภาษาอังกฤษอยากมาก เราเป็นเด็กโรงเรียนรัฐบาล ก็คิดว่าโรงเรียนสอนไม่พอ ก็ไปหาที่เรียนพิเศษ ค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ต้องการ เราท้อกับการฟังภาษาอังกฤษมาก และคิดว่ามันคงแก้ไม่ได้ก็คิดจะทิ้งมันไปเลย
แต่พอเรียนจบมหาวิทยาลัย เข้าทำงานก็พบว่าเราจะมีความก้าวหน้าในอาชีพการงานเราต้องพูดภาษาอังกฤษและฟังภาษาอังกฤษได้ บริษัทส่วนใหญ่ที่เราทำงานต้องติดต่อกับชาวต่างประเทศด้วย เราก็กังวลมากในเรื่องนี้
ในช่วงที่ทำงานเราก็ได้พบกับผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เรารู้สึกโชคดีมากที่เจอเขา เพราะเขามาในช่วงที่เรากำลังอยากจะพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองอีกครั้ง
ตอนที่เจอผู้เขียนกำลังเขียนหนังสือเล่มนี้(ประมาณ 8 ปี ที่แล้ว) เขาบอกเราว่าเขาอยากเขียนหนังสือเพื่อช่วยคนไทยในด้านภาษาอังกฤษ
เขาเล่าว่าทำไมเขาถึงเจอปัญหาที่คนไทยมี
เขาเข้ามาเรียนภาษาไทยที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬา และเขาซื้อพจนานุกรมไทย-อังกฤษ และ อังกฤษ-ไทย มาอ่านเพื่อทำการบ้าน เขาพบว่า ในพจนานุกรมอังกฤษ-ไทยมีคำอ่านภาษาไทยในวงเล็บที่มีไว้ให้คนไทยอ่านเพื่อออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษ เขาอ่านตามก็พบว่าเสียงที่ออกมามันไม่ตรงกับกับศัพท์ภาษาอังกฤษเลย เขาพบว่าหนังสือที่สอนภาษาอังกฤษจำนวนมากในประเทศไทย ส่วนใหญ่เขียนคำอ่านเป็นภาษาไทยให้คนไทยอ่านเพื่อออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษ เขาคิดว่ามันไม่ถูกต้องอย่างมาก
ตอนที่เขาเล่าเราก็นึกถึงตัวเองเลย เพราะเราก็เรียนมาแบบนั้นเลย เรางงว่าทำไมเวลาฝรั่งพูดคำศัพท์มันไม่ตรงกับที่เราเรียน แต่เราไม่รู้จะทำไงให้เราออกเสียงถูกต้องแบบเขา เราไม่รู้หลักการ เราอ่านไม่ออก
ผู้เขียนเขาบอกว่าเขาคิดว่านี่น่าจะเป็นปัญหาหนึ่ง ปัญหาใหญ่มากที่สุด ที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ที่เรียนมาแบบนี้ ฟังฝรั่งพูดไม่รู้เรื่อง เพราะเสียงที่คนไทยพูดกับฝรั่งพูดมันคนละเสียงกันเลย
เราเห็นด้วยกับเขาอย่างมาก ทีนี้เขาเสนอสอนระบบใหม่ให้กับเรา เป็นระบบที่เขาคิดค้นมานาน เรียกว่าระบบ PIPPASS™ ซึ่งจะนำมาใช้สอนการออกเสียง
PIPPASS™ เป็นระบบที่ใช้คำอ่านเป็นภาษาอังกฤษอธิบายการออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
แน่นอนเราตกลง
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เรารู้สึกโชคดีที่ได้เจอผู้เขียนและได้เรียนกับระบบนี้ เพราะ ถ้าไม่มีระบบนี้ เราก็ไม่รู้ว่าเราจะต้องไปหาที่เรียนพิเศษอะไรที่ไหนอีก จะเสียเงินอีกเท่าไหร่ แล้วจะได้ผลหรือไม่ได้ผลเหมือนที่ผ่านมา
ตอนนี้เราฟังฝรั่งออกมาขึ้น เรารู้ว่าเขาพูดคำอะไร เราฟังข่าวภาษาอังกฤษได้ เราพูดคุยกับชาวต่างประเทศได้ และเราคิดว่าภาษาจะค่อยๆ พัฒนาขึ้นไปอีก
เราจึงอยากแนะนำให้คนที่มีปัญหาแบบเราได้ลองศึกษาดู
PIPPASS™ เป็นระบบที่ง่ายมากๆ จะเริ่มจากต้องเรียนเสียงของระบบก่อน จากนั้นจะมีหลักการสะกดคำ ให้เรียนด้วย ซึ่งพบว่าเมื่อเราเรียนเสียงหมดแล้ว และผสมคำอ่านได้ รู้จักกฎการออกเสียง เราก็สามารถอ่านคำศัพท์ ภาษาอังกฤษได้ถูกต้อง
ผู้เขียนเขาอธิบายด้วยว่าทำไมการออกเสียงถึงสำคัญ การออกเสียงที่ถูกต้องคือรากฐานสำคัญของการเรียนภาษา
มนุษย์ทุกคน เริ่มเรียนภาษาจากการฟัง เด็กเกิดมา ได้ฟัง พ่อ แม่ พูด จากนั้นเด็กค่อยๆ พูดออก พอพูดได้ก็ค่อยเรียนอ่านกับเขียนทีหลัง
ฉะนั้นลำดับการเรียนภาษาคือ ฟัง พูด อ่าน และเขียน
ลองหาหนังสือมาอ่านดู เราเชื่อว่าหนังสือเล่มนี้สุดยอดจริงๆ
ตอนนี้ก็มีตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปหรือสั่งทางออนไลน์ก็ได้นะ
ถ้าอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมก็ไปกดติดตาม
Page Ajarn Singtoh อาจารย์สิงโต
https://www.facebook.com/Ajarn-Singtoh-อาจารย์สิงโต-829049620527428/?epa=SEARCH_BOX
[SR] PIPPASS™ Let’s Speak English & Stop Speaking Tinglish ใครอยากฟังฝรั่งพูดรู้เรื่อง ไปลองอ่านดู
เราขอเล่าประสบการณ์ของตัวเองเกี่ยวกับภาษาอังกฤษให้ฟังก่อน แต่ก่อนเราเป็นคนหนึ่งที่อยากฟังและพูดภาษาอังกฤษได้ เพราะเรา อ่าน เขียน ภาษาอังกฤษได้ค่อนข้างดีถ้าเทียบกับฟังและพูด แต่เรารู้สึกมาตั้งแต่เด็กว่า เราฟังฝรั่งพูดไม่ค่อยรู้เรื่องเลย ในขณะที่เราสอบภาษาอังกฤษได้ A แต่เหมือนเวลาเราไปฟังฝรั่งพูดเรางงมาก เขาพูดอะไรไม่รู้ จับคำไม่ได้เลย เหมือนคำที่เขาพูดออกมา ไม่ใช่คำศัพท์ที่เราเคยเรียน หรือเคยฝึกพูดเลย เรางงมากๆ ตอนนั้นอยู่มัธยมนะ เรารู้สึกว่าการฟังภาษาอังกฤษอยากมาก เราเป็นเด็กโรงเรียนรัฐบาล ก็คิดว่าโรงเรียนสอนไม่พอ ก็ไปหาที่เรียนพิเศษ ค่อนข้างเยอะ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ต้องการ เราท้อกับการฟังภาษาอังกฤษมาก และคิดว่ามันคงแก้ไม่ได้ก็คิดจะทิ้งมันไปเลย
แต่พอเรียนจบมหาวิทยาลัย เข้าทำงานก็พบว่าเราจะมีความก้าวหน้าในอาชีพการงานเราต้องพูดภาษาอังกฤษและฟังภาษาอังกฤษได้ บริษัทส่วนใหญ่ที่เราทำงานต้องติดต่อกับชาวต่างประเทศด้วย เราก็กังวลมากในเรื่องนี้
ในช่วงที่ทำงานเราก็ได้พบกับผู้เขียนหนังสือเล่มนี้เรารู้สึกโชคดีมากที่เจอเขา เพราะเขามาในช่วงที่เรากำลังอยากจะพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองอีกครั้ง
ตอนที่เจอผู้เขียนกำลังเขียนหนังสือเล่มนี้(ประมาณ 8 ปี ที่แล้ว) เขาบอกเราว่าเขาอยากเขียนหนังสือเพื่อช่วยคนไทยในด้านภาษาอังกฤษ
เขาเล่าว่าทำไมเขาถึงเจอปัญหาที่คนไทยมี
เขาเข้ามาเรียนภาษาไทยที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬา และเขาซื้อพจนานุกรมไทย-อังกฤษ และ อังกฤษ-ไทย มาอ่านเพื่อทำการบ้าน เขาพบว่า ในพจนานุกรมอังกฤษ-ไทยมีคำอ่านภาษาไทยในวงเล็บที่มีไว้ให้คนไทยอ่านเพื่อออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษ เขาอ่านตามก็พบว่าเสียงที่ออกมามันไม่ตรงกับกับศัพท์ภาษาอังกฤษเลย เขาพบว่าหนังสือที่สอนภาษาอังกฤษจำนวนมากในประเทศไทย ส่วนใหญ่เขียนคำอ่านเป็นภาษาไทยให้คนไทยอ่านเพื่อออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษ เขาคิดว่ามันไม่ถูกต้องอย่างมาก
ตอนที่เขาเล่าเราก็นึกถึงตัวเองเลย เพราะเราก็เรียนมาแบบนั้นเลย เรางงว่าทำไมเวลาฝรั่งพูดคำศัพท์มันไม่ตรงกับที่เราเรียน แต่เราไม่รู้จะทำไงให้เราออกเสียงถูกต้องแบบเขา เราไม่รู้หลักการ เราอ่านไม่ออก
ผู้เขียนเขาบอกว่าเขาคิดว่านี่น่าจะเป็นปัญหาหนึ่ง ปัญหาใหญ่มากที่สุด ที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ที่เรียนมาแบบนี้ ฟังฝรั่งพูดไม่รู้เรื่อง เพราะเสียงที่คนไทยพูดกับฝรั่งพูดมันคนละเสียงกันเลย
เราเห็นด้วยกับเขาอย่างมาก ทีนี้เขาเสนอสอนระบบใหม่ให้กับเรา เป็นระบบที่เขาคิดค้นมานาน เรียกว่าระบบ PIPPASS™ ซึ่งจะนำมาใช้สอนการออกเสียง
PIPPASS™ เป็นระบบที่ใช้คำอ่านเป็นภาษาอังกฤษอธิบายการออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
แน่นอนเราตกลง
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เรารู้สึกโชคดีที่ได้เจอผู้เขียนและได้เรียนกับระบบนี้ เพราะ ถ้าไม่มีระบบนี้ เราก็ไม่รู้ว่าเราจะต้องไปหาที่เรียนพิเศษอะไรที่ไหนอีก จะเสียเงินอีกเท่าไหร่ แล้วจะได้ผลหรือไม่ได้ผลเหมือนที่ผ่านมา
ตอนนี้เราฟังฝรั่งออกมาขึ้น เรารู้ว่าเขาพูดคำอะไร เราฟังข่าวภาษาอังกฤษได้ เราพูดคุยกับชาวต่างประเทศได้ และเราคิดว่าภาษาจะค่อยๆ พัฒนาขึ้นไปอีก
เราจึงอยากแนะนำให้คนที่มีปัญหาแบบเราได้ลองศึกษาดู
PIPPASS™ เป็นระบบที่ง่ายมากๆ จะเริ่มจากต้องเรียนเสียงของระบบก่อน จากนั้นจะมีหลักการสะกดคำ ให้เรียนด้วย ซึ่งพบว่าเมื่อเราเรียนเสียงหมดแล้ว และผสมคำอ่านได้ รู้จักกฎการออกเสียง เราก็สามารถอ่านคำศัพท์ ภาษาอังกฤษได้ถูกต้อง
ผู้เขียนเขาอธิบายด้วยว่าทำไมการออกเสียงถึงสำคัญ การออกเสียงที่ถูกต้องคือรากฐานสำคัญของการเรียนภาษา
มนุษย์ทุกคน เริ่มเรียนภาษาจากการฟัง เด็กเกิดมา ได้ฟัง พ่อ แม่ พูด จากนั้นเด็กค่อยๆ พูดออก พอพูดได้ก็ค่อยเรียนอ่านกับเขียนทีหลัง
ฉะนั้นลำดับการเรียนภาษาคือ ฟัง พูด อ่าน และเขียน
ลองหาหนังสือมาอ่านดู เราเชื่อว่าหนังสือเล่มนี้สุดยอดจริงๆ
ตอนนี้ก็มีตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปหรือสั่งทางออนไลน์ก็ได้นะ
ถ้าอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมก็ไปกดติดตาม
Page Ajarn Singtoh อาจารย์สิงโต
https://www.facebook.com/Ajarn-Singtoh-อาจารย์สิงโต-829049620527428/?epa=SEARCH_BOX
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้