สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเหตุการณ์ที่เจอมากับตัวอยากจะมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกัน ต้องบอกก่อนว่าเหตุการณ์นี้ผ่านมาได้สักระยะนึงแล้วแต่นึกได้เลยอยากจะมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกัน เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ
.
เคยได้ยินมาว่า "พระที่เพิ่งบวชใหม่มักจะถูกรับน้องจากใครสักคน" ก่อนหน้านี้ผมสงสัยนะครับว่าประโยคนี้ต้องการจะสื่ออะไร การถูกรับน้องจากใครสักคนเขาคือใคร จากหลวงพี่ หลวงตา พระอาจารย์ หรือใครกันแน่
.
ครั้งหนึ่งในชีวิตของลูกผู้ชายที่อยากบวชให้พ่อแม่อย่างจริงๆจังๆโอกาสมันได้มาถึง ผมได้มีโอกาสบวชตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ และในอีกทางคือได้มีโอกาสศึกษาเกี่ยวกับพระธรรมด้วยจึงเลือกบวชวัดปฏิบัติ(วัดป่า) ครับวันที่ห่มผ้าเหลืองมันเต็มไปด้วยความปลื้มปิติ พ่อแม่ ญาติพี่น้องต่างปลื้มใจยินดี ผมเองก็รู้สึกดีครับ
.
ขออนุญาตบรรยายเล็กน้อยนะครับ วัดที่ผมไปบวชเนี่ย กุฏิจะอยู่กลางเขา ....ใช่แล้วครับคือจะอยู่ห่างจากโบสถ์ประมาณ 1 กิโลเมตร ต้องขึ้นเขาและที่สำคัญกุฏิแต่ละกุฏิจะอยู่ห่างกันมากๆ เอาง่ายๆคือเปิดประตูออกมาจะเห็นแค่ป่าไม่เห็นกุฏิของพระท่านอื่นเลย ทางเดินขึ้นกุฏิจะเป็นแผ่นปูนที่ฉาบเอาไว้ แล้วเอาไปวางเป็นขั้นๆ กุฏิแคบมากๆ แคบประมาณว่ายืนกางแขนทั้งสองข้างจะชนกับกำแพงทั้งสองข้างได้ หน้าต่างมี4บาน คือรอบตัวเลยครับ มีห้องน้ำอยู่นอกกุฏิ
.
ความรู้สึกแรกผมกลัวมากๆเลยครับ กลัวสัตว์ป่ากลัวงู แต่ในคืนแรกที่ผมไปอยู่ผ่านไปได้ด้วยดีไม่มีอะไรแปลกไปกว่าทุกคืนที่ีผ่านมา
.
แต่!! คืนที่2 ช่วงหัวค่ำหลังท่องบทสวดเสร็จก็เพลียๆง่วงๆเลยหลับไปรู้สึกตัวอีกทีประมาณตี2 ตอนนั้นปวดท้องเลยออกไปเข้าห้องน้ำ หลังทำธุระส่วนตัวเสร็จกำลังจะกลับมาหลับต่อแต่นอนต่อไม่หลับขณะกำลังนอนคิดเพลินๆ ผมได้ยินเสียงคนเดินขึ้นเขามา แปะๆ ๆ ๆ ๆ ๆ คือต้องบอกว่าพระที่นี่จะใส่รองเท้าเดินกลับกุฏินะครับ เสียงประมาณคนสวมรองเท้าแตะเดิน เสียงแปะ ๆ ๆ ๆ เสียงไกล้เข้ามาเรื่อยๆ ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรเลยคิดว่าหลวงพี่มีธุระหรืออะไรไม่แน่ใจ จนกระทั่งเสียงนั้นมันมาหยุดที่หน้ากุฏิของผม แต่ตอนนั้นผมยังไม่คิดอะไรนะครับเพราะผมคิดว่าหลวงพี่จะมาขอความช่วยเหลืออะไรเราไหม
.
แต่.....
..นี่มันตี2นะ!!!! ใครจะมาเดินกลางป่า ทั้งมืด ทั้งเสี่ยง
.
ไม่ทันไรเสียงนั้นก็เริ่มเดินรอบๆกุฎิ รอบนี้เป็นเสียงคนเหยียบใบไม้ เดินไม่เร็วมากค่อยๆเดินรอบๆกุฏิผม แกรบ!! แกรบ!! แกรบ!! แกรบ!! วนอยู่แบบนี้แล้วด้วยความแคบของกุฏิมันทำให้ผมรู้สึกว่าเขาเดินรอบๆตัวผมแต่ผมก็ทำได้แค่ปลอบใจตัวเองนะว่า
"ประตูก็ล็อคแล้วเข้าไม่ได้หรอก แต่ถึงจะเป็นผีก็ไม่น่าจะเข้ากุฏิพระได้"
แต่เสียงเดินก็ยังคงเดินต่อวนอยู่แบบนี้ประมาณ2รอบครับ แล้วก็เงียบไปตอนนั้นความรู้สึกเหมือนเขามาหยุดอยู่ที่หน้าต่างข้างซ้ายมือผมซึ่งเป็นจุดที่ผมนอนอยู่ไหล่ผมชิดติดกำแพงข้างซ้าย กำแพงมีหน้าต่างเป็นหน้าต่างบานเกล็ด
.
หลังจากเสียงนั้นเงียบไปประมาณ 5 นาทีได้ผมก็ได้ยินเสียงนั้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้เสียงเดินไม่ได้มีแค่คนเดียว เป็นเสียงเดินเหยียบใบไม้หลายคนเท่าที่ฟังผมเดาว่าน่าจะมากกว่า 5 คน ตอนนั้นผมกลัวมากๆสติจะแตก อยากจะร้อง อยากจะหาคนช่วยแต่ ไม่รู้จะทำยังไงเพราะกุฏิแต่ละกุฏิช่างไกลกันเหลือเกิน เสียงเดินนี้เดินวนอยู่รอบกุฏิผมประมาณ 5 รอบ แล้วหยุดที่หน้ากุฏิ หลังจากนั้นเสียงก็เงียบไป ผมเงี่ยหูฟังอยู่แบบนี้จนตี4 ผมจึงผลอยหลับไป แล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนตี 5 เพื่อเตรียมบิณฑบาตร บอกตรงๆครับผมระแวงมากและกลัวมากๆเสียงมันดังก้องในหู แต่ก็ต้องทำใจดีสู้เสือแล้วเดินลงเขาไป
เช้าผมรีบไปถามพระอาจารย์
ผม : พระอาจารย์ครับ ผีเนี่ยเข้ากุฏิได้ไหมครับ
พระอาจารย์ : หลวงพี่กุฏิหน่ะมันก็แค่อิฐแค่ปูนทำไมจะเข้าไม่ได้ แต่ที่เขาไม่เข้าเพราะเขาเกรงใจผ้าเหลืองต่างหาก
ผม : แล้วเมื่อคืนพวกเขามาทำอะไรกันที่กุฏิผมหล่ะครับ
พระอาจารย์ : เขาคงแค่มาดูมั้งว่าใครมาอยู่หลวงพี่ไม่ต้องตกใจ
ใครจะไม่ตกใจหล่ะครับเจอแบบนี้สยองนอนไม่ได้เลย
วันนี้ขอจบแค่กระทู้นี้ก่อนนะครับแต่ผมขอบอกว่าคืนที่2ไม่ใช่แค่คืนเดียวที่ผมเจอ แต่คืนที่3 ผมขอเล่ากระทู้หน้านะครับ ใครที่เคยเจอประสบการณ์ตอนบวชมาแชร์กันได้นะครับ
[ประสบการณ์แปลกๆ] การถูกรับน้องของพระบวชใหม่
.
เคยได้ยินมาว่า "พระที่เพิ่งบวชใหม่มักจะถูกรับน้องจากใครสักคน" ก่อนหน้านี้ผมสงสัยนะครับว่าประโยคนี้ต้องการจะสื่ออะไร การถูกรับน้องจากใครสักคนเขาคือใคร จากหลวงพี่ หลวงตา พระอาจารย์ หรือใครกันแน่
.
ครั้งหนึ่งในชีวิตของลูกผู้ชายที่อยากบวชให้พ่อแม่อย่างจริงๆจังๆโอกาสมันได้มาถึง ผมได้มีโอกาสบวชตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ และในอีกทางคือได้มีโอกาสศึกษาเกี่ยวกับพระธรรมด้วยจึงเลือกบวชวัดปฏิบัติ(วัดป่า) ครับวันที่ห่มผ้าเหลืองมันเต็มไปด้วยความปลื้มปิติ พ่อแม่ ญาติพี่น้องต่างปลื้มใจยินดี ผมเองก็รู้สึกดีครับ
.
ขออนุญาตบรรยายเล็กน้อยนะครับ วัดที่ผมไปบวชเนี่ย กุฏิจะอยู่กลางเขา ....ใช่แล้วครับคือจะอยู่ห่างจากโบสถ์ประมาณ 1 กิโลเมตร ต้องขึ้นเขาและที่สำคัญกุฏิแต่ละกุฏิจะอยู่ห่างกันมากๆ เอาง่ายๆคือเปิดประตูออกมาจะเห็นแค่ป่าไม่เห็นกุฏิของพระท่านอื่นเลย ทางเดินขึ้นกุฏิจะเป็นแผ่นปูนที่ฉาบเอาไว้ แล้วเอาไปวางเป็นขั้นๆ กุฏิแคบมากๆ แคบประมาณว่ายืนกางแขนทั้งสองข้างจะชนกับกำแพงทั้งสองข้างได้ หน้าต่างมี4บาน คือรอบตัวเลยครับ มีห้องน้ำอยู่นอกกุฏิ
.
ความรู้สึกแรกผมกลัวมากๆเลยครับ กลัวสัตว์ป่ากลัวงู แต่ในคืนแรกที่ผมไปอยู่ผ่านไปได้ด้วยดีไม่มีอะไรแปลกไปกว่าทุกคืนที่ีผ่านมา
.
แต่!! คืนที่2 ช่วงหัวค่ำหลังท่องบทสวดเสร็จก็เพลียๆง่วงๆเลยหลับไปรู้สึกตัวอีกทีประมาณตี2 ตอนนั้นปวดท้องเลยออกไปเข้าห้องน้ำ หลังทำธุระส่วนตัวเสร็จกำลังจะกลับมาหลับต่อแต่นอนต่อไม่หลับขณะกำลังนอนคิดเพลินๆ ผมได้ยินเสียงคนเดินขึ้นเขามา แปะๆ ๆ ๆ ๆ ๆ คือต้องบอกว่าพระที่นี่จะใส่รองเท้าเดินกลับกุฏินะครับ เสียงประมาณคนสวมรองเท้าแตะเดิน เสียงแปะ ๆ ๆ ๆ เสียงไกล้เข้ามาเรื่อยๆ ตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไรเลยคิดว่าหลวงพี่มีธุระหรืออะไรไม่แน่ใจ จนกระทั่งเสียงนั้นมันมาหยุดที่หน้ากุฏิของผม แต่ตอนนั้นผมยังไม่คิดอะไรนะครับเพราะผมคิดว่าหลวงพี่จะมาขอความช่วยเหลืออะไรเราไหม
.
แต่.....
..นี่มันตี2นะ!!!! ใครจะมาเดินกลางป่า ทั้งมืด ทั้งเสี่ยง
.
ไม่ทันไรเสียงนั้นก็เริ่มเดินรอบๆกุฎิ รอบนี้เป็นเสียงคนเหยียบใบไม้ เดินไม่เร็วมากค่อยๆเดินรอบๆกุฏิผม แกรบ!! แกรบ!! แกรบ!! แกรบ!! วนอยู่แบบนี้แล้วด้วยความแคบของกุฏิมันทำให้ผมรู้สึกว่าเขาเดินรอบๆตัวผมแต่ผมก็ทำได้แค่ปลอบใจตัวเองนะว่า
"ประตูก็ล็อคแล้วเข้าไม่ได้หรอก แต่ถึงจะเป็นผีก็ไม่น่าจะเข้ากุฏิพระได้"
แต่เสียงเดินก็ยังคงเดินต่อวนอยู่แบบนี้ประมาณ2รอบครับ แล้วก็เงียบไปตอนนั้นความรู้สึกเหมือนเขามาหยุดอยู่ที่หน้าต่างข้างซ้ายมือผมซึ่งเป็นจุดที่ผมนอนอยู่ไหล่ผมชิดติดกำแพงข้างซ้าย กำแพงมีหน้าต่างเป็นหน้าต่างบานเกล็ด
.
หลังจากเสียงนั้นเงียบไปประมาณ 5 นาทีได้ผมก็ได้ยินเสียงนั้นอีกครั้งแต่ครั้งนี้เสียงเดินไม่ได้มีแค่คนเดียว เป็นเสียงเดินเหยียบใบไม้หลายคนเท่าที่ฟังผมเดาว่าน่าจะมากกว่า 5 คน ตอนนั้นผมกลัวมากๆสติจะแตก อยากจะร้อง อยากจะหาคนช่วยแต่ ไม่รู้จะทำยังไงเพราะกุฏิแต่ละกุฏิช่างไกลกันเหลือเกิน เสียงเดินนี้เดินวนอยู่รอบกุฏิผมประมาณ 5 รอบ แล้วหยุดที่หน้ากุฏิ หลังจากนั้นเสียงก็เงียบไป ผมเงี่ยหูฟังอยู่แบบนี้จนตี4 ผมจึงผลอยหลับไป แล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนตี 5 เพื่อเตรียมบิณฑบาตร บอกตรงๆครับผมระแวงมากและกลัวมากๆเสียงมันดังก้องในหู แต่ก็ต้องทำใจดีสู้เสือแล้วเดินลงเขาไป
เช้าผมรีบไปถามพระอาจารย์
ผม : พระอาจารย์ครับ ผีเนี่ยเข้ากุฏิได้ไหมครับ
พระอาจารย์ : หลวงพี่กุฏิหน่ะมันก็แค่อิฐแค่ปูนทำไมจะเข้าไม่ได้ แต่ที่เขาไม่เข้าเพราะเขาเกรงใจผ้าเหลืองต่างหาก
ผม : แล้วเมื่อคืนพวกเขามาทำอะไรกันที่กุฏิผมหล่ะครับ
พระอาจารย์ : เขาคงแค่มาดูมั้งว่าใครมาอยู่หลวงพี่ไม่ต้องตกใจ
ใครจะไม่ตกใจหล่ะครับเจอแบบนี้สยองนอนไม่ได้เลย
วันนี้ขอจบแค่กระทู้นี้ก่อนนะครับแต่ผมขอบอกว่าคืนที่2ไม่ใช่แค่คืนเดียวที่ผมเจอ แต่คืนที่3 ผมขอเล่ากระทู้หน้านะครับ ใครที่เคยเจอประสบการณ์ตอนบวชมาแชร์กันได้นะครับ