ช่วงนี้อะไรๆ ก็เป็นไข่เค็มเยอะแยะเต็มไปหมด ทั้งของคาวและของหวาน (ในส่วนของหวานนั้นบางทีก็คิดว่าไม่น่าจะเข้ากันได้ แต่บางอย่างก็เข้ากันเฉยเลย) ตัวไข่เค็มรสชาติจะมีความหอม มัน และความเค็มที่เป็นเอกลักษณ์ เราเองก็มีโอกาสลองกินมาหลายอย่าง ทั้งปิ้งย่าง ยำ(ที่เข้าคิวกันเป็นชั่วโมงๆ) ไก่ทอดที่มีผงไข่เค็ม ขนมหวาน บิงซูบัวลอยไข่เค็ม กาแฟ โจ๊ก มาม่า ขนมขบเคี้ยวต่างๆ จนล่าสุดได้มีโอกาสกินชาบูซุปไข่เค็มที่ร้านนี้ด้วย

อย่าง Fufu Shabu ชาบูสไตล์ไต้หวันแท้ๆ ใครจะไปคิดว่ามีน้ำซุปไข่เค็มด้วย จากที่เห็นในหม้อจะออกไปทางสีเหลืองทอง และมีเป็นเนื้อไข่เค็มของจริงที่ไม่ใช่มาเป็นผงปรุงรสนะ แต่มาเป็นเนื้อไข่เค็มลอยให้เราเห็นเลย

พอได้ลองรสชาติแล้ว ค่อนข้างกลมกล่อม รู้สึกได้ว่าความเค็มของไข่เค็มไม่มากไป กำลังพอดี มีความมัน หอมกลิ่นไข่เค็มไม่เหม็นคาวอย่างที่คิดไว้ รสชาติโอเคเลย ได้ความนัวร์ของไข่เค็มจริงๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อเลือกเอาวัตถุดิบในร้านมากินคู่กับน้ำซุปนี้แล้วจะเข้ากันรึเปล่า

เริ่มจากเนื้อวัว เราสั่งมา 3 แบบ คือ ริบอาย เนื้อวัวสันนอก และเสือร้องไห้ ในความรู้สึกของเราตัวที่ เข้ากันมากที่สุดน่าจะเป็นริบอาย คือค่อนข้างนุ่มและรู้สึกได้ว่ากลิ่นไม่แรงมากเวลากินกับซุปไข่เค็ม แต่เสือร้องไห้ค่อนข้างกลิ่นแรงนิดนึงและเหนียวกว่า ส่วนสันนอกยังรู้สึกเฉยๆ

สำหรับเนื้อหมูจะมีสันคอหมูกับสันนอก แล้วก็เนื้อไก่ ที่สั่งมาอย่างละเซท เราคิดว่าเนื้อไก่กับสันคอจะเข้ากันกับซุปไข่เค็มมากที่สุด ค่อนข้างนุ่มและกลิ่นไม่แรง ตัวน้ำซุปรู้สึกจะเพิ่มความหอมมันให้เนื้อหมูกับเนื้อไก่ค่อนข้างดี แต่ตัวสันนอกเมื่อกินกับซูปแล้วรู้สึกกลิ่นจะแรงนิดหน่อย แต่ก็ไม่แรงเท่าเนื้อวัว ยังถือว่าดีอยู่

พอจิ้มกับน้ำจิ้มแล้ว รสชาติก็ยิ่งดีขึ้นนะ

สำหรับอาหารทะเลอื่นๆ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลาหมึก ปลาแซลมอน ที่คิดไว้ว่ามันมีกลิ่นที่ค่อนข้างโดดเด่นอยู่แล้ว พอลองได้กินกับซุปไข่เค็มจริงๆ เหมือนมันจะเพิ่มความมัน ความหอมเข้าไปมากกว่า ค่อนข้างเข้ากันได้ดีถือว่าใช้ได้ พอจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดแล้วก็ยิ่งฟินเลย

ส่วนของผักและวัตถุดิบอื่นๆ บางอย่างที่เรากินอยู่แล้ว พอเอามาลองกินกับน้ำซุปไข่เค็มก็ถือว่าเข้ากันได้ดี ความรู้สึกเหมือนว่า ความมัน ความหอม มันเข้าไปในวัตถุดิบเลย ที่สำคัญรู้สึกว่ากินได้เรื่อยๆ ไม่เลี่ยนไม่เค็มด้วย เพราะเคยคิดว่าส่วนมากพวกอาหารที่มีไข่เค็มเป็นส่วนประกอบจะชอบเค็มและเลี่ยน หรืออาจจะเป็นเพราะน้ำจิ้มของฟู่ฟู่ด้วยมั้ง ที่มาช่วยตัดเลี่ยนหรือการที่เราต้มผักนานๆ ทำให้น้ำซุปหวานขึ้น

ส่วนผสมต่างๆ ของน้ำจิ้มที่เราสามารถปรุงได้เองตามใจชอบ (แต่ที่ร้านเค้าก็มีบอกสูตรไว้ด้วยนะ)

ปิดท้ายด้วยของหวานตัวใหม่ คือ พานาคอตต้าชานม ที่ราดด้วยซอสสุดพิเศษ คือซอสบราวน์ชูการ์ พอได้ลองกินแล้ว เห้ย!! มันคล้ายชานมไข่มุกเลย ทีนี้ลองเอาไข่มุกจริงๆ ผสมลงไปนิดหน่อย ก็อร่อยใช้ได้เลยนะ ใครที่เป็นสาวกชานมไข่มุก(อย่างเราอิอิ)ก็ควรไปลองกันดู

และเมนูของหวานที่เราไม่เคยพลาดเลยก็คือไอศครีม ฮาเก้นดาส และ ชานมไข่มุกยั่วๆ จ้า!!

สรุปจากที่ได้มาลองซุปไข่เค็มที่ Fufu Shabu จากการที่ได้ลองแบบไม่กินพร้อมจิ้มน้ำจิ้มก็จะรู้สึกว่าเข้ากันกับวัตถุดิบหลายอย่างเลยนะ อาจจะมีแค่บางอย่างที่ไม่เข้ากันก็จริง แต่เมื่อกินกับน้ำจิ้มฟู่ฟู่ด้วย ก็ถือว่าอร่อยเลย อีกอย่างคือพวกผักต่างๆ ช่วยเสริมให้น้ำซุปรสชาติดีขึ้นด้วย แน่นอนว่าที่นี่เค้าขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลายทั้งของคาวและของหวานอยู่แล้ว ใครที่อยากมากินก็สามารถลองเลือกวัตถุดิบอื่นๆ มาลองกินกับซุปนี้ดูได้นะ