สองคนเดินเล่นชมดอกไม้ในสวนที่ไหนสักแห่ง มีดอกไม้หลากสีนาๆชนิด ที่สำคัญกลิ่นของมันหอมละมุนต่อจมูกดีมาก ชายคนรักหันหน้ามาหาเขา เอามือจับที่เอวแล้วขยับตัวเขาเข้ามาชิดๆ ชายคนรักกำลังโน้มศรีษะลงมาจูบหน้าผากเขาเบาๆ
ภาพตัดมาที่ห้องนอน มองดีๆห้องนอนนี้ไม่ใช่ห้องที่อยู่บ้านยาย แต่มันเป็นห้องนอนที่บ้านที่กรุงเทพ ชายคนรักกำลังนอนทับร่างเขาอยู่แต่ไม่รู้สึกหนักเลยสักนิด ชายคนรักกำลังเอาหน้าซุกไซร้ลำคอของเขาทีละข้าง มือก็จับประสานมือกันไว้ จากที่เขาซุกไซร้คอแล้วก็เลื่อนต่ำลงมาที่หน้าอก พอหนำใจแล้วชายคนรักก็เลื่อนหน้าขึ้นมาขนานกับใบหน้าเขา แล้วบรรจงจูบที่ปากเขาเบาๆ
“บูมรักเนสที่สุดเลย”
สักพักก็มีแสงสว่างจากข้างนอกลอดเข้ามา มีผู้หญิงคนหนึ่งเปิดประตูห้องเข้ามาขณะที่เขากำลังบรรเลิงเพลงรัก ผู้หญิงคนนั้นไม่พูดไม่จาอะไร เดินมากระฉากชายคนรักให้กระเด็นออกไปจากตัวเขา แล้วกระฉากเขาลงจากเตียงนอน แต่แรงกระฉากทำให้เขาตกจากเตียง แต่เหมือนเตียงสูงมาก อย่างกะเขาตกลงจากเหวยังไงยังงั้น
เขาตกใจในฝันทำให้เนสสะดุ้งตื่นขึ้นมา เนสเอามือขึ้นมาจับหน้าตัวเอง จับที่ตัว ที่แท้ก็ฝันไป ฝันบ้าอะไรเนี่ย จู่ๆก็ฝันถึงบูม คิดถึงฝันเมื่อสักครู่ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้แต่พอนึกถึงฉากสุดท้ายเนสต้องหุบยิ้มไว้ ผู้หญิงคนนั้นก็คืออาร์แน่ๆเลย
วันนี้เนสตื่นสายกว่าทุกวัน อาจเป็นเพราะเมื่อคืนนอนดูเฟซบุ๊กของบูมดึกไป ทำให้วันนี้ตื่นสายกว่าปกติ จากนั้นเนสก็ลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินไปอาบน้ำ
ขณะแปรงฟันเนสนึกถึงฝันเมื่อเช้าบูมรักเนสงั้นเหรอ ถ้าเป็นความจริงก็ดีสิ เขาก็แอบชอบบูมเหมือนกัน แต่บูมจะรู้มั้ยนะ ถึงรู้เขาคงจะหัวเราะเยาะเนส เขาไม่มีวันจะรักเนสหรอก เขามีอาร์ทั้งคนอยู่แล้ว
เมื่อคิดอย่างนั้นเนสก็รีบแปรงฟัน ด้วยความที่รีบไปหน่อย ทำให้แปรงพลาดไปแทงกระพุ่งแก้ม จนต้องหยุดแปรงเพราะความเจ็บ บ้าชะมัด!! ต้องเจ็บตัวเพราะนึกถึงคนอื่น
เนสอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็ออกมานั่งเล่นที่เปลหน้าบ้านเช่นเคย ในหัวสมองตอนนี้นึกถึงแต่ความฝันเมื่อเช้า นึกที่ไรก็เผลอยิ้มทุกที แต่พอนึกไปถึงฉากสุดท้ายก็หุบยิ้มทำหน้าบึ้งอัตโนมัติ นี่ถ้าใครมาเห็นคงจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหลานยายจันทร์น่าจะเป็นบ้าไปแล้ว ยิ้มคนเดียว หน้าบึ้งคนเดียว
บูมมาอยู่บ้านย่าได้ครึ่งเดือนแล้ว อีกครึ่งเดือนก็จะเปิดเทอม ยังไม่เคยได้ไปไหนเลย ไปครั้งล่าสุดก็ตอนพ่อกับแม่มาส่งนั้นแหละ บูมอยากใช้เวลาอยู่กับเนสให้มากที่สุด ไม่รู้ทำไม รู้แค่ว่าความรู้สึก มันอยากให้ทำแบบนั้น และเหมือนจะห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้ด้วย
ส่วนอาร์เขาก็ยังรักและแคร์เหมือนเดิม หรือที่รู้สึกกับเนสแบบนี้เพราะความใกล้ชิด ถ้าเขากลับไปเรียนเขายังจะรู้สึกกับเนสแบบนี้อยู่มั้ย
บูมเดินออกมานั่งหน้าบ้านเหมือนเช่นเคย ตามด้วยน้องเบสเดินตามหลังมา วันนี้ไม่ยักเห็นเนสมาหาน้องเบสเช่นทุกวัน ตื่นสายละสิ แต่พอมองไปที่บ้านเนสก็เห็นเนสนั่งที่เปลหน้าบ้านแล้ว สงสัยจะเบื่อ
นึกถึงคำว่าเบื่อ บูมก็เบื่อเช่นกัน อยู่แต่บ้านไม่ได้ไปไหนเลย พอคิดเช่นนี้เขาก็นึกได้ ชวนเนสไปเที่ยวดีกว่า บูมชวนน้องเบสเดินไปหาเนสที่บ้าน แทนการแชทคุย คุยกันปากต่อปากสนุกกว่าคุยเป็นตัวหนังสือตั้งเยอะ ได้ยินเสียงด้วย
“เนส ทำไร”
บูมตะโกนถามเนสทั้งที่ยังเดินไปไม่ถึงบ้านเนสเลย แต่ไม่ได้เสียงดังมาก คนถูกถามได้ยินตกใจเกือบตกเปล เพราะไม่ได้นั่งหันหน้าไปทางบ้านบูม ไม่รู้ตัวว่าบูมกับน้องเบสเดินมา
“ใจลอยคิดถึงเรื่องอะไรอยู่เนี่ย”
“ป่าว นายกับน้องเบสมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“มาตั้งนานแล้วเรียกก็ไม่ตอบ”
บูมยืนอยู่หัวเปล ส่วนน้องเบสกระโดดขึ้นไปนั่งบนเปลกับเนสแล้ว เนสที่กำลังใจลอยกับฝันเมื่อเช้า ไม่ทันรู้ตัวว่าสองคนเดินมาหาตังเอง เมื่อบูมเรียกจึงไม่ได้ยิน และพอมาเรียกใกล้ๆ ทำให้เนสตกใจสะดุ้งเห็นได้ชัด
“ว่าจะชวนไปเที่ยวสักหน่อย ไปมั้ย”
“แล้วจะไปไหนละ”
“เนส อยากไปไหนเราไปได้หมด”
“เราไม่รู้จะไปไหน นายแหละพาเราไป”
สองคนคุยกันเมื่อไม่รู้จะไปไหนบูมเลยถามผู้เป็นน้องสาวดีกว่าว่าอยากไปไหน ต้องคำนึงถึงเด็กด้วย ถ้าไปสถานที่ๆเด็กชอบอาจจะสนุกกว่านี้
“น้องเบสอยากไปดูไดโนเสาร์”
น้องเบสตอบ ทั้งที่เคยไปแล้วและไปบ่อยมาก แต่เด็กน้อยก็ไม่เบื่อ น้องเบสขยั้นขะยอเนสไปจนได้ สองคนพากันแยกย้ายไปขออนุญาตย่ากับยายก่อน เมื่อย่ากับยายอนุญาตจึงแชทนัดเวลากันว่าจะออกไปตอนไหน
เนสกลับเข้ามาแต่งตัวใหม่ ด้วยชุดทมัดทะแมง ใส่เสื้อเชิตทรงผู้หญิงสีเหลือง ใส่กางเกงยีนส์สีดำขาดสองสามจุด ใส่รองเท้าผ้าใบ การที่เนสใส่เสื้อสีเหลือยิ่งทำให้เนสขาวเข้าไปอีก จากที่เป็นคนผิวขาวอยู่แล้ว เมื่อแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมารอบูมกับน้องเบสที่หน้าบ้าน
ส่วนบูมก็แต่งตัวคล้ายกัน เสื้อยืดกางเกงยีนส์ แต่ดูแล้วหล่อมาก บูมมีรูปร่างสูงสมส่วน ผิวขาว ใส่รองเท้าผ้าใบเหมือนกัน น้องเบสก็แต่งชุดสวยงามตามประสาเด็กๆ เนสเผลอมองบูมจนบูมจับได้อีกแล้ว
“อ่านกินเราเหรอ”
“ใครอ่านกิน หล่อตายแหละ”
“ก็เห็นอยู่เมื่อกี่”
“ไปได้แล้วสายกว่านี้แดดแรง”
เนสเปลี่ยนเรื่องคุย บูมเดินไปหยิบหมวกกันน็อคมาสองใบให้เขากับเนส ส่วนน้องเบสใส่หมวกกันแดดธรรมดาก็พอ ไม่ใช่ไม่อยากให้ใส่ แต่ของเด็กมันไม่มี แถวนี้มีหมวกไว้กันตำรวจกัน ไม่ค่อยได้ใช่กันน็อคเท่าไหร่
ไปเที่ยวครั้งนี้ใช้มอเตอร์ไซต์เป็นยานพาหนะ เป็นรถของอาพ่อของน้องเบส สภาพยังใหม่เพราะซื้อมาได้ปีเดียวก็มาจากไปก่อน เลยถูกจอดไว้ ไม่มีใครใช้ นอกจากบูม เพราะคงจะกลัว มอเตอร์ไซต์เวฟร้อยสีแดงคาดดำ เคลื่อนตัวออกจากบ้านอย่างช้าๆ ย่าร้องตามหลังว่าพาน้องขับรถดีๆ อย่าขับเร็วค่อยๆไปนะ
บูมเป็นคนขับ น้องเบสนั่งตรงกลาง ส่วนเนสเป็นคนนั่งหลังสุด เนสยื่นมือมาจับชายเสื้อบูมกันน้องเบสไว้ และตัวเองก็กลัวตกด้วย บูมขับรถไม่เร็วมาก ค่อยๆขับไปใช้ทางลัด ระหว่างสองอำเภอถึงแป๊บเดียวก็ถึงที่หมายแล้ว
สามคนมาถึงพิพิธภัณฑ์ได้โนเสาร์ เดินไปยังหน้าเคาท์เตอร์ มีป้ายบอกว่านักท่องเที่ยว ห้าสิบบาท นักเรียนนักศึกษายี่สิบห้าบาท เด็กถึงสิบสองขวบฟรี
พนักงานต้อนรับถามกล่าวทักทายสวัสดีสามคน เมื่อมองสำรวจแล้วพนักงานถามถึงบัตรนักเรียนได้พกมาด้วยมั้ย สองคนต่างไม่ได้พกมา พนักงานตัดสินด้วยสายตาจึงเรียกเก็บคนละยี่สิบห้าบาทแทน ส่วนน้องเบสเข้าชมฟรี
พนักงานให้คำแนะนำว่าเดินตามรอยเท้าไดโนเสาร์ไป แล้วจะเจอทางออกเอง และจะได้ชมทุกส่วนของพิพิธภัณฑ์แน่นอน สามคนก็ปฏิบัติตามเดินตามรอยเท้าไดโนเสาร์ไป
บูมจับมือน้องเบสเดินนำหน้า ส่วนเนสเดินตามหลังมาติดๆ บูมรู้สึกว่ามันแปลกๆไป ทำไมเนสต้องเดินตามหลังเขาสองคน ต้องมาเดินด้วยกันสิ เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงพาน้องเบสหยุดเดิน รอให้เนสเดินมาถึง เมื่อเนสเดินมาถึงก็แปลกใจว่าพากันหยุดทำไม
“เอ้า รออะไรเหรอ ทำไมไม่ไปต่อ”
“รอเนส”
“รอเรา” เนสเอามือชี้ที่ตัวเอง
“ใช่ เราเดินไปพร้อมกันสิ มาด้วยกัน”
แล้วบูมก็เดินไปจับมือเนสให้เดินไปด้วยกัน เนสทำท่าจะสบัดออกบูมยิ่งจับแน่นเข้าไปอีก สุดท้ายเนสต้องยอมให้บูมจับมือตัวเองเดิน
เนสรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจตัวเอง ตอนนี้มันเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว คนที่เราแอบชอบตอนนี้อยู่กับเรา จับมือเรา มันจะไม่ตื่นเต้นได้ไง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บูมจับมือเนส แต่มันก็ตื่นเต้นอยู่ดี
ชอบไม่ใช่เหรอเนส ทำไมต้องเขิน ทำไมต้องอาย อีกหน่อยเขาก็ไปแล้ว อีกไม่กี่วันเขาก็จะกลับไปอยู่กับคนของเขาแล้ว อะไรที่พอจะเป็นความทรงจำก็ปล่อยไปเถอะ เนสคิดในใจระหว่างที่เดินชมจุดต่างๆและก็เดินจับมือบูมไปด้วย
พอถึงจุดถ่ายรูป บูมถ่ายรูปให้น้องเบสกับเนส เดี่ยวบ้างคู่บ้าง ผลัดกันถ่ายให้กันบ้าง
“สองคนถ่ายคู่กันเลย น้องเบสถ่ายให้” น้องเบสอยู่ ป.2 แล้วถ่ายรูปเป็น มือนิ่ง และภาพก็ออกมาสวยใช้ได้
“ไม่เอา พี่เนสไม่ถ่าย”
“เถอะหน่าเนส อย่าขัดใจน้องเบสสิ อีกอย่างเราก็...”
“เราก็อะไร” เนสจ้องหน้าบูมจะเอาคำตอบ
“เราอยากถ่ายกับเนส”
ต่างคนต่างไม่พูดอะไรมองหน้ากัน แต่ต้องหลุดออกจากภวังค์เมื่อน้องเบสดึงแขนเนสให้มานั่งตรงเก้าอี้ยาว และตามด้วยเดินไปลากแขนบูมให้มานั่งคู่กัน
“ขยับเข้าไปชิดๆกันหน่อย”
“พอยัง” บูมตอบ
“ยังขยับเข้าไปชิดๆกันเลย ติดกันน่ะพี่บูมเข้าใจมั้ย”
เบสออกคำสั่งพี่ชาย ซึ่งดูเหมือนตากล้องจะหงุดหงิดสะแล้ว ส่วนเนสนั่งเกร็งไม่กล้าพูดอะไร มีสองจิตสองใจในร่างเดียวกัน ทั้งชอบทั้งไม่ชอบ คิดยังไม่ทันจบเลยเนสต้องตกใจเมื่อมือบูมสอดเข้ามากอดเอวตัวเองไว้
“นาย”!!!
“ก็น้องเบสสั่ง”
บูมยิ้มที่มุมปากเหมือนมีเลศนัย เนสมัวแต่คิดในใจไม่ได้ยินว่าน้องเบสพูดอะไร น้องเบสสั่งให้กอดจริงหรือป่าว จากนั้นน้องเบสก็กดซัตเตอร์รัวๆ สำหรับภาพนี้
“เดียวก่อนน้องเบส ถ่ายเข้ามือถือให้พี่บูมด้วย”
บูมยื่นมือถือให้น้องสาว แล้วเอามือเข้ามากอดเนสให้แน่นกว่าเดิม กลัวเนสจะดิ้นออก เดียวได้ภาพไม่สวย บูมเอาหน้าตัวเองเข้าไปใกล้ๆ เนสหันมาแก้มโดนปากบูมพอดี และเป็นจังหวะที่น้องเบสกดถ่ายพอดีด้วย
“บูม”!
เนสทำหน้าบึ้งใส่บูมกำลังจะลุกเดินหนี แต่บูมคว้าแขนไว้ได้พอดี เนสจึงสดุดล้มลงมาที่ตักบูมอีกครั้ง บูมกอดเนสไว้เพราะเดี๋ยวเนสร่วงลงพื้นอายคนอื่นเข้าไปอีก
“อย่าโกหกใจตัวเองเลยนะ”
“แต่นายมีแฟนแล้วทั้งคน”
เมื่อบูมได้ยินดังนั้นสติจึงกลับมา ปล่อยเนสให้ยืนขึ้น ใช่แล้ว เขามีอาร์อยู่แล้วทั้งคน ทำไมเขาเป็นคนใจง่ายแบบนี้ คิดไม่ทันไรเสียงโทรเข้าจากไลน์ก็ดังขึ้น
บูมหยิบมือถือขึ้นมาดู เห็นชื่อคนเรียกเข้าเป็นอาร์ ทำไมอาร์โทรมาได้ ปกติไม่เห็นโทรมาแบบนี้ หรืออาร์จะรู้ เป็นไปไม่ได้หน่า น้องเบสคงไม่ได้เป็นสายให้อาร์หรอก ไม่เคยรู้จักกันเลย
บูมมองที่หน้าจอมือถือ แล้วหันมามองเนส เหมือนตัดสินใจว่าจะรับดีมั้ย ตอนนี้ไม่รู้หัวใจเขาแคร์ใครกันแน่ แคร์คนที่คบกันมานาน หรือคนที่อยู่ตรงหน้า
“รับสายเขาสิ แฟนโทรมานิ” เนสพูดและหลบสายตาบูม
บูมถอนหายใจก่อนจะเดินไปรับสายอาร์อีกมุมหนึ่ง ไม่รู้คุยอะไรกัน เห็นแต่บูมคุยแล้วก็มองมาที่ตัวเอง
ตอนนี้เนสบอกความรู้สึกตัวเองไม่ถูก เนสไม่พอใจที่บูมคุยโทรศัพท์เหรอ เนสไม่อยากให้บูมคุยกับคนอื่น เนสรู้สึกโกรธผู้หญิงคนนั้นที่โทรมาไม่รู้จักเวล่ำเวลาเหรอ บ้าไปแล้วเนส นั้นแฟนเขานะ เธอต่างหากที่ทำอะไม่เหมาะไม่ควร
เนสรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกร้อนที่ตา เหมือนตาจะแดง เหมือนมันเบลอๆมองอะไรก็พล่ามัวไปหมด เพราะตอนนี้น้ำตากำลังคลอเบ้า บางหยดมัยก็ไหลลงมาบ้างแล้ว เนสรีบเช็ดออกเพราะกลัวน้องเบสเห็น เนสรีบเช็ดน้ำตาตัวเองออกให้หมด หยิบแป้งฝุ่นในกระเป๋ามาทาหน้า เติมลิปสติกให้ดูปกติที่สุด ไม่ให้บูมรู้ว่าเขาร้องไห้
สักพักบูมก็เดินมาทางสองคน ทำหน้าตาท่าทางปกติ เนสอยากจะถามว่าเป็นไงบ้างแต่ก็ไม่กล้าถาม เดียวบูมหาว่ายุ่งเรื่องของเขา ถ้าบูมอยากพูดเดี๋ยวคงพูดเองแหละ
จากนั้นสามคนก็พากันย้ายไปชมอีกจุดนึง ยังเหลือจุดให้ชม และถ่ายรูปอีกหลายจุดกว่าจะถึงทางออก สามคนแวะถ่ายรูปแต่ละจุดๆ เนสกับบูมมีถ่ายด้วยกันบ้าง ส่วนมากจะเป็นรูปน้องเบสมากกว่า
บรรยากาศหลังจากอาร์โทรเข้ามันดูเงียบๆยังไงแปลกๆ ทั้งบูมด้วย ผิดกับเมื่อเช้าตอนมาถึงแรกๆ แต่ตอนนี้ดูเงียบผิดปกติ ไม่ต่างกับเนสเท่าไหร่ คนสนุกสนานเห็นแต่จะเป็นน้องเบสคนเดียว ที่เดินไปถึงจุดต่างๆ ก็พยายามอ่านป้ายที่เจ้าพนักงานเขียนแนะนำไดโนเสาร์แต่ละตัว อ่านไปก็สะกดไปด้วย คำไหนอ่านไม่ได้ก็หันมาถามพี่สาวกับพี่ชาย
“เนส” บูมเป็นคนทำลายความเงียบก่อน
“อะไรเหรอ”
“เราขอโทษนะกับเรื่องวันนี้”
“อือ ไม่เป็นไรหรอก”
แล้วบูมก็เดินมาจับมือเนสเดินอีกเช่นเคย และเนสไม่ยอมขัดขืนเหมือนครั้งแรก ปล่อยให้บูมเอาใจเขาไปตามสบาย ตอนนี้เขายังไม่คิด ค่อยไปเสียใจตอนบูมกับไปหาคนของเขาแล้วกัน
สามคนพากันเดินเที่ยวจนครบทุกจุดแล้วก็ถึงทางออก แล้วพากันไปหาอะไรรองท้องก่อนกลับบ้าน
มีต่อค่ะ
เรื่องสั้น....รักสามเศร้า...10
สองคนเดินเล่นชมดอกไม้ในสวนที่ไหนสักแห่ง มีดอกไม้หลากสีนาๆชนิด ที่สำคัญกลิ่นของมันหอมละมุนต่อจมูกดีมาก ชายคนรักหันหน้ามาหาเขา เอามือจับที่เอวแล้วขยับตัวเขาเข้ามาชิดๆ ชายคนรักกำลังโน้มศรีษะลงมาจูบหน้าผากเขาเบาๆ
ภาพตัดมาที่ห้องนอน มองดีๆห้องนอนนี้ไม่ใช่ห้องที่อยู่บ้านยาย แต่มันเป็นห้องนอนที่บ้านที่กรุงเทพ ชายคนรักกำลังนอนทับร่างเขาอยู่แต่ไม่รู้สึกหนักเลยสักนิด ชายคนรักกำลังเอาหน้าซุกไซร้ลำคอของเขาทีละข้าง มือก็จับประสานมือกันไว้ จากที่เขาซุกไซร้คอแล้วก็เลื่อนต่ำลงมาที่หน้าอก พอหนำใจแล้วชายคนรักก็เลื่อนหน้าขึ้นมาขนานกับใบหน้าเขา แล้วบรรจงจูบที่ปากเขาเบาๆ
“บูมรักเนสที่สุดเลย”
สักพักก็มีแสงสว่างจากข้างนอกลอดเข้ามา มีผู้หญิงคนหนึ่งเปิดประตูห้องเข้ามาขณะที่เขากำลังบรรเลิงเพลงรัก ผู้หญิงคนนั้นไม่พูดไม่จาอะไร เดินมากระฉากชายคนรักให้กระเด็นออกไปจากตัวเขา แล้วกระฉากเขาลงจากเตียงนอน แต่แรงกระฉากทำให้เขาตกจากเตียง แต่เหมือนเตียงสูงมาก อย่างกะเขาตกลงจากเหวยังไงยังงั้น
เขาตกใจในฝันทำให้เนสสะดุ้งตื่นขึ้นมา เนสเอามือขึ้นมาจับหน้าตัวเอง จับที่ตัว ที่แท้ก็ฝันไป ฝันบ้าอะไรเนี่ย จู่ๆก็ฝันถึงบูม คิดถึงฝันเมื่อสักครู่ก็อดที่จะยิ้มไม่ได้แต่พอนึกถึงฉากสุดท้ายเนสต้องหุบยิ้มไว้ ผู้หญิงคนนั้นก็คืออาร์แน่ๆเลย
วันนี้เนสตื่นสายกว่าทุกวัน อาจเป็นเพราะเมื่อคืนนอนดูเฟซบุ๊กของบูมดึกไป ทำให้วันนี้ตื่นสายกว่าปกติ จากนั้นเนสก็ลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินไปอาบน้ำ
ขณะแปรงฟันเนสนึกถึงฝันเมื่อเช้าบูมรักเนสงั้นเหรอ ถ้าเป็นความจริงก็ดีสิ เขาก็แอบชอบบูมเหมือนกัน แต่บูมจะรู้มั้ยนะ ถึงรู้เขาคงจะหัวเราะเยาะเนส เขาไม่มีวันจะรักเนสหรอก เขามีอาร์ทั้งคนอยู่แล้ว
เมื่อคิดอย่างนั้นเนสก็รีบแปรงฟัน ด้วยความที่รีบไปหน่อย ทำให้แปรงพลาดไปแทงกระพุ่งแก้ม จนต้องหยุดแปรงเพราะความเจ็บ บ้าชะมัด!! ต้องเจ็บตัวเพราะนึกถึงคนอื่น
เนสอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วก็ออกมานั่งเล่นที่เปลหน้าบ้านเช่นเคย ในหัวสมองตอนนี้นึกถึงแต่ความฝันเมื่อเช้า นึกที่ไรก็เผลอยิ้มทุกที แต่พอนึกไปถึงฉากสุดท้ายก็หุบยิ้มทำหน้าบึ้งอัตโนมัติ นี่ถ้าใครมาเห็นคงจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหลานยายจันทร์น่าจะเป็นบ้าไปแล้ว ยิ้มคนเดียว หน้าบึ้งคนเดียว
บูมมาอยู่บ้านย่าได้ครึ่งเดือนแล้ว อีกครึ่งเดือนก็จะเปิดเทอม ยังไม่เคยได้ไปไหนเลย ไปครั้งล่าสุดก็ตอนพ่อกับแม่มาส่งนั้นแหละ บูมอยากใช้เวลาอยู่กับเนสให้มากที่สุด ไม่รู้ทำไม รู้แค่ว่าความรู้สึก มันอยากให้ทำแบบนั้น และเหมือนจะห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้ด้วย
ส่วนอาร์เขาก็ยังรักและแคร์เหมือนเดิม หรือที่รู้สึกกับเนสแบบนี้เพราะความใกล้ชิด ถ้าเขากลับไปเรียนเขายังจะรู้สึกกับเนสแบบนี้อยู่มั้ย
บูมเดินออกมานั่งหน้าบ้านเหมือนเช่นเคย ตามด้วยน้องเบสเดินตามหลังมา วันนี้ไม่ยักเห็นเนสมาหาน้องเบสเช่นทุกวัน ตื่นสายละสิ แต่พอมองไปที่บ้านเนสก็เห็นเนสนั่งที่เปลหน้าบ้านแล้ว สงสัยจะเบื่อ
นึกถึงคำว่าเบื่อ บูมก็เบื่อเช่นกัน อยู่แต่บ้านไม่ได้ไปไหนเลย พอคิดเช่นนี้เขาก็นึกได้ ชวนเนสไปเที่ยวดีกว่า บูมชวนน้องเบสเดินไปหาเนสที่บ้าน แทนการแชทคุย คุยกันปากต่อปากสนุกกว่าคุยเป็นตัวหนังสือตั้งเยอะ ได้ยินเสียงด้วย
“เนส ทำไร”
บูมตะโกนถามเนสทั้งที่ยังเดินไปไม่ถึงบ้านเนสเลย แต่ไม่ได้เสียงดังมาก คนถูกถามได้ยินตกใจเกือบตกเปล เพราะไม่ได้นั่งหันหน้าไปทางบ้านบูม ไม่รู้ตัวว่าบูมกับน้องเบสเดินมา
“ใจลอยคิดถึงเรื่องอะไรอยู่เนี่ย”
“ป่าว นายกับน้องเบสมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“มาตั้งนานแล้วเรียกก็ไม่ตอบ”
บูมยืนอยู่หัวเปล ส่วนน้องเบสกระโดดขึ้นไปนั่งบนเปลกับเนสแล้ว เนสที่กำลังใจลอยกับฝันเมื่อเช้า ไม่ทันรู้ตัวว่าสองคนเดินมาหาตังเอง เมื่อบูมเรียกจึงไม่ได้ยิน และพอมาเรียกใกล้ๆ ทำให้เนสตกใจสะดุ้งเห็นได้ชัด
“ว่าจะชวนไปเที่ยวสักหน่อย ไปมั้ย”
“แล้วจะไปไหนละ”
“เนส อยากไปไหนเราไปได้หมด”
“เราไม่รู้จะไปไหน นายแหละพาเราไป”
สองคนคุยกันเมื่อไม่รู้จะไปไหนบูมเลยถามผู้เป็นน้องสาวดีกว่าว่าอยากไปไหน ต้องคำนึงถึงเด็กด้วย ถ้าไปสถานที่ๆเด็กชอบอาจจะสนุกกว่านี้
“น้องเบสอยากไปดูไดโนเสาร์”
น้องเบสตอบ ทั้งที่เคยไปแล้วและไปบ่อยมาก แต่เด็กน้อยก็ไม่เบื่อ น้องเบสขยั้นขะยอเนสไปจนได้ สองคนพากันแยกย้ายไปขออนุญาตย่ากับยายก่อน เมื่อย่ากับยายอนุญาตจึงแชทนัดเวลากันว่าจะออกไปตอนไหน
เนสกลับเข้ามาแต่งตัวใหม่ ด้วยชุดทมัดทะแมง ใส่เสื้อเชิตทรงผู้หญิงสีเหลือง ใส่กางเกงยีนส์สีดำขาดสองสามจุด ใส่รองเท้าผ้าใบ การที่เนสใส่เสื้อสีเหลือยิ่งทำให้เนสขาวเข้าไปอีก จากที่เป็นคนผิวขาวอยู่แล้ว เมื่อแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมารอบูมกับน้องเบสที่หน้าบ้าน
ส่วนบูมก็แต่งตัวคล้ายกัน เสื้อยืดกางเกงยีนส์ แต่ดูแล้วหล่อมาก บูมมีรูปร่างสูงสมส่วน ผิวขาว ใส่รองเท้าผ้าใบเหมือนกัน น้องเบสก็แต่งชุดสวยงามตามประสาเด็กๆ เนสเผลอมองบูมจนบูมจับได้อีกแล้ว
“อ่านกินเราเหรอ”
“ใครอ่านกิน หล่อตายแหละ”
“ก็เห็นอยู่เมื่อกี่”
“ไปได้แล้วสายกว่านี้แดดแรง”
เนสเปลี่ยนเรื่องคุย บูมเดินไปหยิบหมวกกันน็อคมาสองใบให้เขากับเนส ส่วนน้องเบสใส่หมวกกันแดดธรรมดาก็พอ ไม่ใช่ไม่อยากให้ใส่ แต่ของเด็กมันไม่มี แถวนี้มีหมวกไว้กันตำรวจกัน ไม่ค่อยได้ใช่กันน็อคเท่าไหร่
ไปเที่ยวครั้งนี้ใช้มอเตอร์ไซต์เป็นยานพาหนะ เป็นรถของอาพ่อของน้องเบส สภาพยังใหม่เพราะซื้อมาได้ปีเดียวก็มาจากไปก่อน เลยถูกจอดไว้ ไม่มีใครใช้ นอกจากบูม เพราะคงจะกลัว มอเตอร์ไซต์เวฟร้อยสีแดงคาดดำ เคลื่อนตัวออกจากบ้านอย่างช้าๆ ย่าร้องตามหลังว่าพาน้องขับรถดีๆ อย่าขับเร็วค่อยๆไปนะ
บูมเป็นคนขับ น้องเบสนั่งตรงกลาง ส่วนเนสเป็นคนนั่งหลังสุด เนสยื่นมือมาจับชายเสื้อบูมกันน้องเบสไว้ และตัวเองก็กลัวตกด้วย บูมขับรถไม่เร็วมาก ค่อยๆขับไปใช้ทางลัด ระหว่างสองอำเภอถึงแป๊บเดียวก็ถึงที่หมายแล้ว
สามคนมาถึงพิพิธภัณฑ์ได้โนเสาร์ เดินไปยังหน้าเคาท์เตอร์ มีป้ายบอกว่านักท่องเที่ยว ห้าสิบบาท นักเรียนนักศึกษายี่สิบห้าบาท เด็กถึงสิบสองขวบฟรี
พนักงานต้อนรับถามกล่าวทักทายสวัสดีสามคน เมื่อมองสำรวจแล้วพนักงานถามถึงบัตรนักเรียนได้พกมาด้วยมั้ย สองคนต่างไม่ได้พกมา พนักงานตัดสินด้วยสายตาจึงเรียกเก็บคนละยี่สิบห้าบาทแทน ส่วนน้องเบสเข้าชมฟรี
พนักงานให้คำแนะนำว่าเดินตามรอยเท้าไดโนเสาร์ไป แล้วจะเจอทางออกเอง และจะได้ชมทุกส่วนของพิพิธภัณฑ์แน่นอน สามคนก็ปฏิบัติตามเดินตามรอยเท้าไดโนเสาร์ไป
บูมจับมือน้องเบสเดินนำหน้า ส่วนเนสเดินตามหลังมาติดๆ บูมรู้สึกว่ามันแปลกๆไป ทำไมเนสต้องเดินตามหลังเขาสองคน ต้องมาเดินด้วยกันสิ เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงพาน้องเบสหยุดเดิน รอให้เนสเดินมาถึง เมื่อเนสเดินมาถึงก็แปลกใจว่าพากันหยุดทำไม
“เอ้า รออะไรเหรอ ทำไมไม่ไปต่อ”
“รอเนส”
“รอเรา” เนสเอามือชี้ที่ตัวเอง
“ใช่ เราเดินไปพร้อมกันสิ มาด้วยกัน”
แล้วบูมก็เดินไปจับมือเนสให้เดินไปด้วยกัน เนสทำท่าจะสบัดออกบูมยิ่งจับแน่นเข้าไปอีก สุดท้ายเนสต้องยอมให้บูมจับมือตัวเองเดิน
เนสรู้สึกถึงการเต้นของหัวใจตัวเอง ตอนนี้มันเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว คนที่เราแอบชอบตอนนี้อยู่กับเรา จับมือเรา มันจะไม่ตื่นเต้นได้ไง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บูมจับมือเนส แต่มันก็ตื่นเต้นอยู่ดี
ชอบไม่ใช่เหรอเนส ทำไมต้องเขิน ทำไมต้องอาย อีกหน่อยเขาก็ไปแล้ว อีกไม่กี่วันเขาก็จะกลับไปอยู่กับคนของเขาแล้ว อะไรที่พอจะเป็นความทรงจำก็ปล่อยไปเถอะ เนสคิดในใจระหว่างที่เดินชมจุดต่างๆและก็เดินจับมือบูมไปด้วย
พอถึงจุดถ่ายรูป บูมถ่ายรูปให้น้องเบสกับเนส เดี่ยวบ้างคู่บ้าง ผลัดกันถ่ายให้กันบ้าง
“สองคนถ่ายคู่กันเลย น้องเบสถ่ายให้” น้องเบสอยู่ ป.2 แล้วถ่ายรูปเป็น มือนิ่ง และภาพก็ออกมาสวยใช้ได้
“ไม่เอา พี่เนสไม่ถ่าย”
“เถอะหน่าเนส อย่าขัดใจน้องเบสสิ อีกอย่างเราก็...”
“เราก็อะไร” เนสจ้องหน้าบูมจะเอาคำตอบ
“เราอยากถ่ายกับเนส”
ต่างคนต่างไม่พูดอะไรมองหน้ากัน แต่ต้องหลุดออกจากภวังค์เมื่อน้องเบสดึงแขนเนสให้มานั่งตรงเก้าอี้ยาว และตามด้วยเดินไปลากแขนบูมให้มานั่งคู่กัน
“ขยับเข้าไปชิดๆกันหน่อย”
“พอยัง” บูมตอบ
“ยังขยับเข้าไปชิดๆกันเลย ติดกันน่ะพี่บูมเข้าใจมั้ย”
เบสออกคำสั่งพี่ชาย ซึ่งดูเหมือนตากล้องจะหงุดหงิดสะแล้ว ส่วนเนสนั่งเกร็งไม่กล้าพูดอะไร มีสองจิตสองใจในร่างเดียวกัน ทั้งชอบทั้งไม่ชอบ คิดยังไม่ทันจบเลยเนสต้องตกใจเมื่อมือบูมสอดเข้ามากอดเอวตัวเองไว้
“นาย”!!!
“ก็น้องเบสสั่ง”
บูมยิ้มที่มุมปากเหมือนมีเลศนัย เนสมัวแต่คิดในใจไม่ได้ยินว่าน้องเบสพูดอะไร น้องเบสสั่งให้กอดจริงหรือป่าว จากนั้นน้องเบสก็กดซัตเตอร์รัวๆ สำหรับภาพนี้
“เดียวก่อนน้องเบส ถ่ายเข้ามือถือให้พี่บูมด้วย”
บูมยื่นมือถือให้น้องสาว แล้วเอามือเข้ามากอดเนสให้แน่นกว่าเดิม กลัวเนสจะดิ้นออก เดียวได้ภาพไม่สวย บูมเอาหน้าตัวเองเข้าไปใกล้ๆ เนสหันมาแก้มโดนปากบูมพอดี และเป็นจังหวะที่น้องเบสกดถ่ายพอดีด้วย
“บูม”!
เนสทำหน้าบึ้งใส่บูมกำลังจะลุกเดินหนี แต่บูมคว้าแขนไว้ได้พอดี เนสจึงสดุดล้มลงมาที่ตักบูมอีกครั้ง บูมกอดเนสไว้เพราะเดี๋ยวเนสร่วงลงพื้นอายคนอื่นเข้าไปอีก
“อย่าโกหกใจตัวเองเลยนะ”
“แต่นายมีแฟนแล้วทั้งคน”
เมื่อบูมได้ยินดังนั้นสติจึงกลับมา ปล่อยเนสให้ยืนขึ้น ใช่แล้ว เขามีอาร์อยู่แล้วทั้งคน ทำไมเขาเป็นคนใจง่ายแบบนี้ คิดไม่ทันไรเสียงโทรเข้าจากไลน์ก็ดังขึ้น
บูมหยิบมือถือขึ้นมาดู เห็นชื่อคนเรียกเข้าเป็นอาร์ ทำไมอาร์โทรมาได้ ปกติไม่เห็นโทรมาแบบนี้ หรืออาร์จะรู้ เป็นไปไม่ได้หน่า น้องเบสคงไม่ได้เป็นสายให้อาร์หรอก ไม่เคยรู้จักกันเลย
บูมมองที่หน้าจอมือถือ แล้วหันมามองเนส เหมือนตัดสินใจว่าจะรับดีมั้ย ตอนนี้ไม่รู้หัวใจเขาแคร์ใครกันแน่ แคร์คนที่คบกันมานาน หรือคนที่อยู่ตรงหน้า
“รับสายเขาสิ แฟนโทรมานิ” เนสพูดและหลบสายตาบูม
บูมถอนหายใจก่อนจะเดินไปรับสายอาร์อีกมุมหนึ่ง ไม่รู้คุยอะไรกัน เห็นแต่บูมคุยแล้วก็มองมาที่ตัวเอง
ตอนนี้เนสบอกความรู้สึกตัวเองไม่ถูก เนสไม่พอใจที่บูมคุยโทรศัพท์เหรอ เนสไม่อยากให้บูมคุยกับคนอื่น เนสรู้สึกโกรธผู้หญิงคนนั้นที่โทรมาไม่รู้จักเวล่ำเวลาเหรอ บ้าไปแล้วเนส นั้นแฟนเขานะ เธอต่างหากที่ทำอะไม่เหมาะไม่ควร
เนสรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกร้อนที่ตา เหมือนตาจะแดง เหมือนมันเบลอๆมองอะไรก็พล่ามัวไปหมด เพราะตอนนี้น้ำตากำลังคลอเบ้า บางหยดมัยก็ไหลลงมาบ้างแล้ว เนสรีบเช็ดออกเพราะกลัวน้องเบสเห็น เนสรีบเช็ดน้ำตาตัวเองออกให้หมด หยิบแป้งฝุ่นในกระเป๋ามาทาหน้า เติมลิปสติกให้ดูปกติที่สุด ไม่ให้บูมรู้ว่าเขาร้องไห้
สักพักบูมก็เดินมาทางสองคน ทำหน้าตาท่าทางปกติ เนสอยากจะถามว่าเป็นไงบ้างแต่ก็ไม่กล้าถาม เดียวบูมหาว่ายุ่งเรื่องของเขา ถ้าบูมอยากพูดเดี๋ยวคงพูดเองแหละ
จากนั้นสามคนก็พากันย้ายไปชมอีกจุดนึง ยังเหลือจุดให้ชม และถ่ายรูปอีกหลายจุดกว่าจะถึงทางออก สามคนแวะถ่ายรูปแต่ละจุดๆ เนสกับบูมมีถ่ายด้วยกันบ้าง ส่วนมากจะเป็นรูปน้องเบสมากกว่า
บรรยากาศหลังจากอาร์โทรเข้ามันดูเงียบๆยังไงแปลกๆ ทั้งบูมด้วย ผิดกับเมื่อเช้าตอนมาถึงแรกๆ แต่ตอนนี้ดูเงียบผิดปกติ ไม่ต่างกับเนสเท่าไหร่ คนสนุกสนานเห็นแต่จะเป็นน้องเบสคนเดียว ที่เดินไปถึงจุดต่างๆ ก็พยายามอ่านป้ายที่เจ้าพนักงานเขียนแนะนำไดโนเสาร์แต่ละตัว อ่านไปก็สะกดไปด้วย คำไหนอ่านไม่ได้ก็หันมาถามพี่สาวกับพี่ชาย
“เนส” บูมเป็นคนทำลายความเงียบก่อน
“อะไรเหรอ”
“เราขอโทษนะกับเรื่องวันนี้”
“อือ ไม่เป็นไรหรอก”
แล้วบูมก็เดินมาจับมือเนสเดินอีกเช่นเคย และเนสไม่ยอมขัดขืนเหมือนครั้งแรก ปล่อยให้บูมเอาใจเขาไปตามสบาย ตอนนี้เขายังไม่คิด ค่อยไปเสียใจตอนบูมกับไปหาคนของเขาแล้วกัน
สามคนพากันเดินเที่ยวจนครบทุกจุดแล้วก็ถึงทางออก แล้วพากันไปหาอะไรรองท้องก่อนกลับบ้าน
มีต่อค่ะ