เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผมเองเมื่อ10ปีก่อนแต่นึกถึงที่ไรก็ยังหลอนและขนลุกทุกครั้ง
10 ปีก่อน ผมไปงานแต่งญาติที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งผมไม่รู้จักใครเลยนอกจากญาติๆ
ในคืนก่อนที่จะมีพิธีแต่งงาน ทางบ้านเจ้าภาพก็จะมีการเตรียมอาหาร เพื่อเลี้ยงแขกในวันรุ่งขึ้น
พ่อครัวแม่ครัวซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านจะมาช่วยกันทำกับข้าว ผมก็เป็นอีกคนที่เข้าไปช่วยงานในครัว
เพราะญาติฝ่ายเจ้าภาพทุกคนต่างช่วยกันเตรียมงานแทบไม่ได้นอนกันเลยคับ
ส่วนในตัวบ้านก็เป็นวงเหล้าเจ้าประจำที่มักจะพบได้ทุกๆงาน ซึ่งถือเป็นการตั้งวงเหล้า พูดคุยกันและอยู่เป็นเพื่อนเจ้าภาพ
เผลอแปปเดียว เวลาเกือบๆตี3 ผมรู้สึกง่วงจนทนไม่ไหวต้องหาที่แอบงีบให้ได้ การที่จะไปนอนในบ้านตัดออกไปได้เลย
เพราะวงเหล้าท่าจะยาวถึงเช้า ผมจึงเดินมาด้านหลังบ้านและมุดรั่วลวดหนามเพื่อจะนอนแคร่ของบ้านข้างๆที่อยู่ติดกัน
ในความมืดผมเห็นเปลผูกอยู่และตัดสินใจที่จะนอนตรงนี้สักพักค่อยกลับไปช่วยงานครัวต่อ
ข้างๆเปลจะเป็นตอไม้ซึ่งมีการตัดต้นไม้ออกใหม่ๆ ผมใช้เท้าถีบเพื่อส่งเปลให้ไกวและถือเป็นการไล่ยุงไปด้วย
นอนสักพักผมก็หลับไปเพราะง่วงจัด ซึ่งบางครั้งก็ได้ยินเสียงพูดคุยของพ่อตัวแม่ครัวเป็นระยะๆ เพราะอยู่ไม่ห่างกับจุดที่ผมนอนมากนัก
ฝัน!! ผมหลับและฝันไป !! ในความฝันผมเห็น
ผู้หญิงอายุประมาน 40-50ปี ใส่ผ้าถุงลายดอก "ผูกคอตาย" ใช้ผ้ายัดปากตัวเอง ห้อยโตงเตงอยู่กับต้นไม้
ที่ผมใช้เท้าถีบเพื่อไกวเปล
ในฝันนั่นมันเหมือนจริงมาก เหมือนผมอยู่ในเหตุการณ์ เหมือนผมไม่ได้ฝัน
สะดุ้งตื่น!! ผมยกมือไหว้แล้วรีบลุกออกจากเปล แล้วเดินกลับไปครัว ผมเล่าความฝันให้ทุกคนที่อยู่ในครัวฟัง
ทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เหตุการณ์ในความฝันของผม ไม่ว่าจะเป็นการผูกคอตาย เสื้อผ้าที่ใส่ การเอาผ้ายัดปากตัวเอง
ทุกอย่างตรงกับความฝันหมด และที่สำคัญคือ
เพิ่งเกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ก่อนงานมีงานแต่ง
ผู้ตายน้อยใจเรื่องปัญหาครอบครัว จึงมาผูกคอตายกับต้นมะม่วงข้างบ้าน และทุกอย่างก็ถูกถ่ายทอดผ่านความฝันตามที่ผมเล่ามาคับ
เรื่องที่เกิดขึ้น ถือว่าชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยเจอมาอาจเพราะอยู่ถูกที่ ถูกเวลาหรือไม่ ก็ตาม
ถ้าเกิดจากการคิดไปเอง หรือรู้สึกนึกคิดจากจิตใต้สำนึกยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยเพราะผมกับผู้ตายไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
อีกอย่างคือผมไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น (ถ้ารู้ก่อนผมคงไม่กล้าไปนอนตรงนั้น แน่ๆ)
เป็นเหตุการณ์ชวนสงสัยแต่ที่แน่ๆเราไม่อยากหาคำตอบ แน่นอนคับ
ประสบการณ์ชวนขนลุก ผีผูกคอตายมาเล่าความจริง ผ่านความฝัน
10 ปีก่อน ผมไปงานแต่งญาติที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ซึ่งผมไม่รู้จักใครเลยนอกจากญาติๆ
ในคืนก่อนที่จะมีพิธีแต่งงาน ทางบ้านเจ้าภาพก็จะมีการเตรียมอาหาร เพื่อเลี้ยงแขกในวันรุ่งขึ้น
พ่อครัวแม่ครัวซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านจะมาช่วยกันทำกับข้าว ผมก็เป็นอีกคนที่เข้าไปช่วยงานในครัว
เพราะญาติฝ่ายเจ้าภาพทุกคนต่างช่วยกันเตรียมงานแทบไม่ได้นอนกันเลยคับ
ส่วนในตัวบ้านก็เป็นวงเหล้าเจ้าประจำที่มักจะพบได้ทุกๆงาน ซึ่งถือเป็นการตั้งวงเหล้า พูดคุยกันและอยู่เป็นเพื่อนเจ้าภาพ
เผลอแปปเดียว เวลาเกือบๆตี3 ผมรู้สึกง่วงจนทนไม่ไหวต้องหาที่แอบงีบให้ได้ การที่จะไปนอนในบ้านตัดออกไปได้เลย
เพราะวงเหล้าท่าจะยาวถึงเช้า ผมจึงเดินมาด้านหลังบ้านและมุดรั่วลวดหนามเพื่อจะนอนแคร่ของบ้านข้างๆที่อยู่ติดกัน
ในความมืดผมเห็นเปลผูกอยู่และตัดสินใจที่จะนอนตรงนี้สักพักค่อยกลับไปช่วยงานครัวต่อ
ข้างๆเปลจะเป็นตอไม้ซึ่งมีการตัดต้นไม้ออกใหม่ๆ ผมใช้เท้าถีบเพื่อส่งเปลให้ไกวและถือเป็นการไล่ยุงไปด้วย
นอนสักพักผมก็หลับไปเพราะง่วงจัด ซึ่งบางครั้งก็ได้ยินเสียงพูดคุยของพ่อตัวแม่ครัวเป็นระยะๆ เพราะอยู่ไม่ห่างกับจุดที่ผมนอนมากนัก
ฝัน!! ผมหลับและฝันไป !! ในความฝันผมเห็น
ผู้หญิงอายุประมาน 40-50ปี ใส่ผ้าถุงลายดอก "ผูกคอตาย" ใช้ผ้ายัดปากตัวเอง ห้อยโตงเตงอยู่กับต้นไม้
ที่ผมใช้เท้าถีบเพื่อไกวเปล ในฝันนั่นมันเหมือนจริงมาก เหมือนผมอยู่ในเหตุการณ์ เหมือนผมไม่ได้ฝัน
สะดุ้งตื่น!! ผมยกมือไหว้แล้วรีบลุกออกจากเปล แล้วเดินกลับไปครัว ผมเล่าความฝันให้ทุกคนที่อยู่ในครัวฟัง
ทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เหตุการณ์ในความฝันของผม ไม่ว่าจะเป็นการผูกคอตาย เสื้อผ้าที่ใส่ การเอาผ้ายัดปากตัวเอง
ทุกอย่างตรงกับความฝันหมด และที่สำคัญคือ เพิ่งเกิดขึ้นเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ก่อนงานมีงานแต่ง
ผู้ตายน้อยใจเรื่องปัญหาครอบครัว จึงมาผูกคอตายกับต้นมะม่วงข้างบ้าน และทุกอย่างก็ถูกถ่ายทอดผ่านความฝันตามที่ผมเล่ามาคับ
เรื่องที่เกิดขึ้น ถือว่าชัดเจนที่สุดเท่าที่เคยเจอมาอาจเพราะอยู่ถูกที่ ถูกเวลาหรือไม่ ก็ตาม
ถ้าเกิดจากการคิดไปเอง หรือรู้สึกนึกคิดจากจิตใต้สำนึกยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยเพราะผมกับผู้ตายไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
อีกอย่างคือผมไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น (ถ้ารู้ก่อนผมคงไม่กล้าไปนอนตรงนั้น แน่ๆ)
เป็นเหตุการณ์ชวนสงสัยแต่ที่แน่ๆเราไม่อยากหาคำตอบ แน่นอนคับ