เรื่องสั้น.....รักสามเศร้า...6

เดือนนี้เป็นเดือนที่เข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวแล้ว ช่วงกันยายนฝนก็เริ่มทิ้งช่วง อากาศก็เริ่มเย็นลง ได้ยินผู้เฒ่าผู้แก่ว่าหน้าหนาวปีนี้มาเร็ว สงสัยจะจริง บางวันหนาวก็หนาวแล้วฝนยังจะมาตกอีก ยิ่งทำให้อากาศหนาวเข้าไปอีก

ลมเริ่มพัดเอาความหนาวเข้ามา ฝนเริ่มทิ้งช่วงห่างไป ต้นข้าวในท้องนาเริ่มตั้งท้องออกรวงเพื่อรอการเก็บเกี่ยว จากสีเขียวก็กำลังเปลี่ยนสีกลายเป็นสีเหลือง

ใบไม้เริ่มร่วงลงจากต้นมากองที่พื้น เพื่อรอฤดูฝนใหม่ในปีหน้า และช่วงนี้เป็นช่วงที่ภารโรงทำงานหนัก ยิ่งโรงเรียนในต่างจังหวัด ปลูกต้นไม้มากมายทั่วโรงเรียน เมื่อภารโรงทำไม่ไหว ผู้อำนวยการโรงเรียนก็ให้นักเรียนทำความสะอาดปัดกวาดใบไม้ช่วย โดยแบ่งเป็นเขตพื้นที่ของแต่ละห้อง ให้รับผิดชอบทำความสะอาดทุกวัน

เดือนนี้ทุกคนต้องเตรียมตัวสอบปลายภาค ทั้งโรงเรียนของบูม และโรงเรียนของเนส ก็เริ่มทยอยสอบปลายภาคเรียนกันแล้ว บูมกับอาร์จึงคุยกันน้อยลง แต่ก็ไม่ลืมที่จะส่งข้อความบอกฝันดีกันและกัน

บูมนั่งอ่านหนังสือเตรียมสอบวิชาของวันพรุ่งนี้ นั่งอ่านทบทวนในส่วนที่คิดว่าครูจะออกข้อสอบ แต่ดูเหมือนจะสำคัญไปหมดทุกหัวข้อ

“อาร์อย่าลืมหัวข้อนี้นะสำคัญ คิดว่าครูคงจะเอาไปออกข้อสอบ” บูมส่งไลน์หาอาร์

“อาร์โอเค” อาร์ส่งสติ๊กเกอร์ตอบแทนข้อความ

บูมกดเข้าไปอ่าน แล้วก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ ตี๊ดๆ เสียงนาฬิกาดิจิตอลดังบอกเวลา ที่ถ้าผ่านไปทุกๆชั่วโมงเจ้านาฬิกาก็จะส่งเสียงเตือน

บูมเงยหน้าขึ้นมามองนาฬิกาตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว ถึงเวลานอนแล้ว จึงเก็บหนังสือเข้าที่ กำลังจะปิดไฟนอน เสียงแชทจากเฟซบุ๊กก็ดังขึ้น พอหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นเนสทักมานั้นเอง

“เนสทักมาทำไม” บูมพูดกับตัวเอง ตั้งแต่ขอแอดเเฟซบุ๊กไปเนสไม่เคยทักมาเลย บูมก็ไม่กล้าทักไปด้วย

“ว่าไงเนส มีเรื่องอะไรป่าว”

“โรงเรียนนายสอบหรือยัง”

“สอบแล้ว พรุ่งนี้วันที่สอง โรงเรียนเนสสอบยัง”

“เริ่มสอบวันแรกพรุ่งนี้”

“เราพึ่งอ่านหนังสือเสร็จ กำลังจะเข้านอน อย่าลืมอ่านหนังสือด้วยล่ะ ไม่เข้าใจตรงไหนถามเราได้”

“โอเค นอนเถอะ เราก็จะเข้านอนเหมือนกัน”

จากนั้นบูมก็นึกขึ้นมาได้ จะนอนได้ยังไงยังไม่ได้บอกรักบอกฝันดีอาร์เลย

“ฝันดีครับอาร์ บูมรักอาร์นะ และจะรักตลอดไป”

บูมคิดว่าอาร์นะจะหลับแล้ว แต่ไลน์ของอาร์ก็เด้งตอบกลับมา

“อาร์รับแซบ” ตามด้วยส่งรูปหัวใจของคนรักกันตามมาติดๆ


เช้าวันนี้บูมตื่นเช้าเองแม่ไม่ได้มาปลุก ตั้งแต่มีสอบบูมตื่นเช้าเอง เพราะอยากไปโรงเรียนแต่เช้า อยากไปนั่งทบทวนเนื้อหาที่จะใช้สอบกับเพื่อนๆ

เมื่อมาถึงห้องเรียนบูมเดินไปยังโต๊ะประจำของตัวเอง หยิบกระดาษที่ตัวเองแล็คเชอร์ไว้เมื่อคืนมาอ่านทบทวน สำหรับวิชาแรกก่อนที่จะสอบในช่วงเช้า

ไม่ถึงสามนาทีอาร์ก็เดินเข้ามาในห้องเรียน เอากระเป๋ามาเก็บไว้ที่โต๊ะของตัวเองเช่นกัน บูมเห็นอาร์เดินเข้ามาจึงลุกขึ้นจากโต๊ะตัวเองแล้วเดินมาหาอาร์ ถือกระดาษแล็คเชอร์มาด้วย

“นี่อาร์ของบูม บูมสรุปมาพอเข้าใจได้แค่นี้ เอ้า เอาไปอ่าน”

“ของอาร์สรุปได้แค่นี้ ไม่รู้บูมจะเข้าใจป่าว”

สองคนเอาแล็คเชอร์ที่ตัวเองอ่านแล้วสรุปไว้มาแลกเปลี่ยนกัน จะได้ทบทวนได้รวดเร็วก่อนสอบ แลกเปลี่ยนความรู้กัน

ไม่นานเพื่อนๆสมาชิกในห้องก็ตามมาเกือบจะครบทุกคนแล้ว ถ้าช่วงไหนมีสอบนักเรียนจะมาโรงเรียนเช้ากว่าปกติ ยกเว้นพวกแล้วแต่ดวง ที่ไม่กระตือรือร้นอะไร

“ข้าว่าครูต้องออกบทนี้ว่ะ ข้าเตรียมตัวมาอย่างดี” แก็บพูดขึ้น

“เฮ้ย แต่ข้าว่าครูน่าจะออกตรงนี้นะ” บูมพูดขึ้นมั่ง

“ข้าว่าครูออกทั้งเล่มว่ะ ข้าอ่านมาทั้งเล่มเลย!! พวกเอ็งคอยดูนะ ตรงไหนครูไม่ได้สอน ตรงนั้นแหละครูจะออกข้อสอบ” โต้งพูดขึ้น

ฮ่าๆๆๆ โต้งแกก็พูดไปน้อ ครูเค้าไม่ทำแบบนั้นหรอก เพื่อนผู้หญิงอีกคนพูดขึ้น

“เฮ้ย อาร์ ได้ก็บอกกันด้วยนะ”

“พอๆกันล่ะ พวกเธอได้อย่าลืมบอกเราด้วย”

“บอกว่าไม่ได้ๆ คะแนนออกมาทีไรได้ท็อปทุกทีเลย”

“ฟลุ๊คหน่า” บูมเถียงแทนอาร์

“ฮัลแน่! ออกรับแทนกันด้วย” พวกเพื่อนแซวสองคน

เสียงออดดังบอกเวลาให้นักเรียนทุกคนไปเข้าแถวหน้าเสาธง เพื่อทำกิจกรรมตอนเช้า วันนี้ครูเวรพูดเรื่องการสอบปลายภาคเทอมแรก ห้ามนักเรียนทุจริตการสอบเด็ดขาด

ไม่ว่าจะวิธีการใดๆก็ตาม ห้ามเขียนใส่หน้าขาตัวเอง ห้ามเขียนใส่ยางลบ ห้ามเขียนใส่เสื้อนักเรียนข้างใน ห้ามนำกระเป๋าดินสอปากกาเข้าห้องสอบ เอาอุปกรณ์เข้าไปแค่จำเป็นต้องใช้ ห้ามนำศัพท์ภาษาอังกฤษเข้าไปสอบคณิตศาสตร์

ถ้าจับได้ว่าใครทุจริตการสอบ ต้องโดนกาหัวกระดาษอย่างเดียว ตกอย่างเดียวไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ เพราะฉะนั้นแล้วแต่ดวง ใครไม่อ่านหนังสือมาก็ให้เป็นไปตามกรรม หรือใครจะใช้ตรรกะความน่าจะเป็นก็ได้ครูไม่ห้าม

ประโยคนี้ทำเอาขาแล้วแต่ดวงเจ้าประจำหลายคนหัวเราะชอบใจออกมา เมื่อทำกิจกรรมหน้าเสาร์ธงเสร็จแล้ว ครูก็ปล่อยเข้าห้องสอบ

“อาร์ เต็มที่นะ”

“เต็มที่อยู่แล้ว บูมด้วยนะ”

สองคนให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เวลานี้โรงเรียนเงียบสงบเพราะทุกคนเข้าห้องสอบกันหมดแล้ว ในห้องสอบเกือบจะทุกห้อง จะจัดโต๊ะแยกออกมาให้ห่างกัน

นั่งใครนั่งมันเรียงตามเลขที่ เรียงกันขึ้นลงสลับฟันปลา ทุกคนเงียบไม่กระดุกกระดิกตั้งใจก้มหน้าก้มตาทำข้อสอบ ครูประจำวิชาก็เดินตรวจตราไม่ให้คลาดสายตา กลัวว่าจะมีนักเรียนทุจริตการสอบเกิดขึ้น

เดินไปยืนมุมนั้น มุมนี้ เดินไปแถวนั้นแถวนี้ คนไหนอ่านหนังสือมาก็ทำข้อสอบสบาย คนไหนมาอ่านเอาตอนเช้าก็ต้องทำการบ้านหนักหน่อย ส่วนคนไม่อ่านเลยทำไงดี

ถ้าในส่วนของข้อสอบปรนัยมันก็ยังพอจะเดาได้ แต่ไอ้ข้อสอบอัตนัยสิ จะเอาอะไรมาตอบ จะส่งกระดาษป่าวก็ไม่กล้าส่ง เลยต้องหาคำตอบจากโจทย์และคำตอบของข้อสอบปรนัยมาตอบลงข้อสอบอัตนัย ถูกไม่ถูกไม่รู้ขอแค่มีคำตอบส่ง ไม่ผ่านก็แค่สอบแก้

บูมแสยะยิ้มให้กับข้อสอบ ข้อนี้อ่านมาจำได้ เขียนคำตอบได้สบายมาก แต่จะถูกมั้ยยังไงต้องแล้วแต่ปลายปากาครู

บูมชอบข้อสอบอัตนัยมากกว่าปรนัย เพราะอัตนัยคือการบรรยายคำตอบ ถึงไม่ถูกต้องทั้งหมดก็ยังมีส่วนถูก หยิบตรงนั้นมาใส่ตรงนี้ หยิบตรงนี้มาใส่ตรงนั้น ส่วนปรนัยมันต้องเลือกที่ถูกที่สุดเพียงข้อเดียว ต้องอ่านมาแม่นยำที่สุดถึงจะตอบถูก

วิชาแรกผ่านไป วิชาที่สองผ่านไป และวิชาสุดท้ายของช่วงเช้า นักเรียนทุกคนนั้งทำข้อสอบอย่างตั้งใจ คนทำได้ก็ทำได้ คนทำไม่ได้ก็เดาต่อไป

“นักเรียน เหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมงจะหมดเวลาแล้ว ใครเสร็จแล้วเอาข้อสอบมาส่ง ไม่ต้องรอเพื่อน แล้วออกไปทานข้าวได้”

บูมเหลือแค่สองข้อก็ใกล้จะเสร็จแล้ว เหลือบมองเห็นอาร์กำลังทำหน้าเครียดๆ ทำข้อสอบได้หรือป่าวนะ ใกล้จะเสร็จยัง

บูมยังไม่รีบทำอีกสองข้อที่เหลือ ที่จริงอ่านและรู้คำตอบแล้ว แต่ยังไม่ทำรอออกไปพร้อมอาร์ ทำทีเป็นเปิดแผ่นกระดาษคำถามกลับไปกลับมา

“อ้าวๆอิทธิพล เสร็จแล้วก็เอาคำตอบมาส่งครู ไม่ต้องรอเพื่อน”

บูมตกใจครูรู้ได้ไงว่าบูมทำเสร็จแล้ว สุกท้ายบูมก็ต้องลุกเอาข้อสอบไปส่งครู แล้วเดินออกไปนั่งรออาร์ข้างนอก ออกมาก็เห็นเพื่อนๆนั่งรออยู่ก่อนแล้ว

“พวกเองทำข้อสอบได้กันเหรอถึงทำเสร็จกันเร็วขนาดนี้”

“ฮื้อ เดาล้วนๆว่ะบูม เองทำได้มั้ยออกจากห้องช้า”

“พอได้ แต่ไม่รู้จะถูกมั้ย แค่ผ่านพอว่ะ ขี้เกียจสอบแก้”

“อาร์ยังไม่เสร็จอีกเหรอ”

“ยังว่ะ ไม่รู้ทำข้อสอบได้หรือป่าว”

“บูมเองไม่ต้องเป็นห่วงอาร์หรอก ท็อปทุกเทอม รายนี้ท็อปทุกเทอม”

เพื่อนๆรวมทั้งบูมรออาร์ออกมาจากห้องสอบ ไม่รู้ทำถึงข้อไหนแล้ว บูมออกมาก็เหลือแค่ยี่สิบนาทีเอง ไม่รู้จะทำข้อสอบทันหรือป่าว

อาร์ทำข้อสอบยันนาทีสุดท้าย อาร์เดินออกมาด้วยหน้าตาเศร้าบูมสังเกตได้

“อาร์ทำข้อสอบทันมั้ย” บูมเดินไปหาอาร์เมื่อเห็นอาร์เดินออกมาจากห้องสอบ

“ทัน แต่ทำไม่ได้”

สีหน้าของอาร์ยังเศร้าๆ ที่ทำข้อสอบไม่ได้ คำถามข้อนี้อาร์ก็ทำการบ้านมา แต่ทำไมจำไม่ได้นะ ทั้งที่ก็อ่านมา ยังไม่พอก่อนเข้าห้องสอบก็ทบทวนเป็นอย่างดี

“ไม่เป็นไร ไม่ผ่านก็แค่สอบใหม่ ไม่ต้องคิดมาก บูมก็ทำข้อสอบไม่ได้เหมือนกัน”

บูมปลอบใจอาร์พูดให้อาร์รู้สึกดีขึ้น อยากให้อาร์ยิ้ม เพราะรอยยิ้มของอาร์น่ารัก บูมชอบที่อาร์ยิ้มแล้วมีเสน่ห์เหมือนกำลังหยุดโลกทั้งใบให้หยุดหมุน ณ ตอนนั้น

“เราไปหาอะไรกินกันเถอะ กินเสร็จจะได้มาเตรียมตัวสอบวิชาช่วงบ่าย” โต้งพูดขึ้น

การสอบวันที่สองของบูมกับอาร์ผ่านไปด้วยดี มีวิชาทำได้บ้าง ไม่ได้บ้างมันก็เป็นเรื่องปกติ บูมไม่ซีเรียสอยู่แล้ว ระหว่างที่กำลังอ่านหนังสือสอบบูมก็นึกถึงเนส เนสจะทำข้อสอบได้มั้ยนะ เมื่อคืนเนสบอกว่าวันนี้สอบวันแรก

“เนสสอบวันนี้เป็นไงบ้าง ทำข้อสอบได้มั้ย”

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเนสก็ยังไม่อ่านไม่ตอบกลับ สงสัยคงยุ่งๆอยู่ น่าจะกำลังอ่านหนังสือเหมือนกันมั่ง แล้วก็มีแชทตอบกลับมา

“ใครเนส เนสคือใคร”

บูมงงว่าอาร์ส่งแชทเฟซบุ๊กมาทำไม ปกติก็คุยกันทางไลน์นิ เปิดเข้าไปอ่านบูมแทบตกเก้าอี้ที่นั่งอ่านหนังสืออยู่

ตายแล้วงานเข้าแล้ว ส่งผิดคน! บูมจะทำไงดี นี่บูมอ่านหนังสือจนตาลายเลยหรือนี่ แต่ชื่อเฟซบุ๊กสองคนก็คล้ายกันคนหนึ่ง”ชลันดา”อีกคน”ชลลดา”ตัวพยัญชนะภาษาอังกฤษเริ่มต้นใช้ตัวเดียวกันอีก สองคนใช้ชื่อภาษาอังกฤษเป็นชื่อล็อคอินเฟซบุ๊ก

ทำไงดีทีนี้ทำไงดี จะอธิบายให้อาร์เข้าใจยังไงดี ความจริงบูมไม่ได้คิดเก็บเนสมากกว่าเพื่อนเลย แต่อาร์จะเข้าใจหรือป่าว ช่วงนี้สอบด้วยไม่อยากให้อาร์คิดมาก

“ เนสคือเพื่อนบูมเองอาร์”

“เพื่อนที่ไหนล่ะ ทำไมอาร์ไม่รู้จัก ผู้หญิงหรือผู้ชาย “

“เอ่อ...คือผู้หญิง เพื่อนที่บ้านย่าบูมไง หลานยายจันทร์ที่บูมเคยเล่าให้ฟัง อาร์จำไม่ได้เหรอ”

“ไม่จำ ไม่อยากจำอย่าให้มันมากกว่าเพื่อนละกัน จับได้เลิก”

“ครับๆ บูมรักอาร์คนเดียวนะ อ่านหนังสือได้แล้วเดี๋ยวทำข้อสอบไม่ได้ เตี้ยเอ้ยหวงเค้าเหรอ”

ตามด้วยอาร์ส่งสติ๊กเกอร์งอนมาให้ แล้วบูมก็ส่งสติ๊กเกอร์รูปหมาจูบกันแล้วมีรูปหัวใจเด้งออกมาไปให้แทน

เกือบซวยแล้วมั้ยล่ะบูม เบลอขนาดนี้ควรพักสายตา ควรนอนได้แล้ว แต่บูมก็ไม่เข็ด ส่งแชทหาเนสอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ผิดแน่

“เนสวันนี้ทำข้อสอบได้มั้ย เป็นไงบ้างสอบวันแรก”

“ทำได้แต่ไม่ค่อยมั่นใจเลย”

“เอาหน่าไม่ต้องคิดมาก สอบไม่ได้ก็แค่สอบแก้อีกครั้ง เรายังไม่เห็นซีเรียสเลย”

“อือ”

“ฝันดีนะเนส”

บูมเก็บหนังสือเข้าที่ เตรียมตัวนอนพรุ่งนี้สอบวันสุดท้ายแล้ว เขาต้องทำให้เต็มที่ ให้สุดความสามารถ คะแนนจะได้ออกมาเป็นที่น่าพอใจ พ่อแม่ปู่ย่าน้องเบสด้วยจะได้ภูมิใจเขา

บูมกะว่าถ้าสอบเสร็จจะชวนเพื่อนๆไปเที่ยวแก้เครียดกันสักหน่อย บูมคิดไว้แล้วว่าจะไปที่ไหน ยังไม่บอกเพื่อน รอให้สอบเสร็จก่อน แล้วบูมก็ปิดไฟล้มตัวลงนอน หลับไปอย่างเร็วเพราะวันนี้เพลียมาก ใช้สมองทั้งวัน


เนสอ่านข้อความที่บูมส่งมาก็แอบยิ้ม มีบอกฝันดีด้วย ตั้งแต่ขึ้นมัธยมยังไม่มีผู้ชายคนไหนส่งข้อความมาบอกฝันดีเนสเลย นอกจากพ่อเท่านั้น

เนสมองเวลาตอนนี้ก็ใกล้จะห้าทุ่มครึ่งแล้วเนสก็ควรนอน ถ้านอนดึกไปกว่านี้เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่อยากตื่น เนสพิมพ์ข้อความแล้วลบ พิมพ์แล้วลบ จะส่งให้บูมดีมั้ยนะ

“ฝันดีนะบูม”

สุดท้ายเนสก็ตัดสินใจส่งให้บูม ข้อความยังไม่ถูกอ่าน สงสัยนอนแล้ว จากนั้นเนสก็เก็บหนังสือเข้าที่ ตัวเองก็จะนอนเหมือนกัน

เนสนอนไม่หลับทำไงดี พรุ่งนี้ก็จะสอบอีกยังสอบไม่เสร็จเลย เนสนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนที่นอน คิดถึงเรื่องที่ส่งแชทกลับไปหาบูมว่าฝันดี บ้าไปแล้วเนส แกทำแบบนี้ได้ไง

เนสกำมือแน่นทุบลงไปบนที่นอนดัง ตุ๊บ ตุ๊บ ทำอะไรลงไปเนี่ย ถ้าวันหยุดบูมมาจะกล้าเจอหน้าได้ไง แต่พอนึกถึงที่บูมส่งมาก่อนก็อดยิ้มไม่ได้ ยังไงบูมก็ส่งมาก่อน ถ้าบูมล้อก็ใช้ข้อนี้แหละอ้างไป

เนสแอบรู้สึกดีตั้งแต่เจอกับบูมครั้งแรกแล้ว รู้สึกดีถูกชะตา ยังไงบอกไม่ถูก ไม่ใช่เพราะชอบ ถึงยังไงบูมก็มีแฟนอยู่แล้วจะไปชอบได้ไง แค่คิดก็ผิดแล้ว

แต่ทำไมเนสรอการมาบ้านย่าของบูมทุกอาทิตย์ รอแชทจากบูมทุกวันถึงแม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ อยากคุย บางครั้งเนสก็แอบกดเข้าไปดูเฟสบุ๊คบูม เลื่อนดูรูปเรื่อยๆ พอเลื่อนไปเจอรูปบูมถ่ายกับผู้หญิงคนนั้น ก็ทำให้เนสไม่อยากดูต่อแล้ว

คิดถึงคนอื่นทำไมเนส นอนเถอะดึกแล้วพรุ่งนี้สอบนะ!! เนสบอกตัวเองแล้วข่มตาหลับไป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งเรื่องสั้น แต่งนิยาย
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่