สวัสดีค่ะ ตอนเเรกคิดอยู่ว่าจะเล่าดีไหม เเต่ตัดสินใจเเล้วว่าอยากเเชร์ให้ได้อ่านกันค่ะ
เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ2เดือนที่เเล้ว ตอนนั้นเราได้สมัครงานที่ฟิตเนสเเห่งหนึ่ง ในตำเเหน่งธุรการ
เเละได้รู้จากพี่สาวว่าเงินเดือนไม่เยอะ เเค่9,000/เดือน เลิกงาน2ทุ่ม ตอนนั้นเลยไปสมัครที่อื่นไว้ด้วย
ซึ่งตอนที่ไปสมัครที่ฟิตเนส ตอนนั้นใบสมัครหมด พี่เค้าเลยให้เราเขียนใหม่ทุกอย่างในกระดาษA4 คือเขียนเเบบฟอร์มเองเลย
ให้ระบุเงินเดือนที่ต้องการ เราเเอบเห็นใบสมัครคนอื่น เขียนเเค่9,000-9,600 เราเลยเขียน9,000-10,000
ซึ่งเราก็ว่าน้อยมากเลยนะสำหรับคนจบปริญญาตรี
จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ก่อน มีเบอร์หนึ่งโทรมาหาเราประมาณ2ทุ่มครึ่ง
เค้า : สวัสดีค่ะ ใช่น้อง...หรือเปล่าคะ
เรา : ใช่ค่ะ
เค้า : ตอนนี้มีงานทำหรือยังคะ
เรา : ยังค่ะ
เค้า : คือพี่จะนัดให้น้องมาทดลองงานค่ะ ที่โรงเรียนกวดวิชา อยู่ข้าง....พุทธมณฑล สาย4 น้องสะดวกมาเริ่มงานเลยไหมคะ
เรา : ค่ะ เมื่อไหร่คะ
เค้า : พรุ่งนี้เลยได้ไหมคะ
เรา : เอ่อ คือตอนนี้ยังไม่สะดวกอ่ะค่ะ พอดียังอยู่ต่างจังหวัดอยู่เลยค่ะ
เค้า : อ๋อ งั้นเป็นวันพฤหัสได้ไหมคะ
เรา : ได้ค่ะ
เเละพอเราจะถามรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น ชื่อโรงเรียนอะไร ตำเเหน่งอะไร เค้าก็วางสายไปเสียก่อน
คือตอนนั้นเราก็เเปลกใจตั้งเเต่โทรมาตอน2ทุ่มครึ่งกว่าๆเเล้ว ปกติต้องโทรเวลางานไม่ใช่หรอ
เเล้วไหนจะให้ทดลองงานเลย ทำไมไม่นัดสัมภาษณ์ก่อนด้วย
เเละอีกประเด็นที่สำคัญคือ เราไม่เคยไปสมัครที่โรงเรียนกวดวิชานะ เค้ามีข้อมูลเราได้ไง
เเต่ก็คิดว่าน่าจะเอามาจากในเว็บสมัครงานเเหละมั้ง
อีกทั้งไม่บอกข้อมูลอื่นๆ ทำให้เราคิดว่าเราอาจจะโดนหลอกอยู่ก็ได้ เลยตัดสินใจไม่รับงานนี้
จนวันพฤหัส เวลาประมาณ4ทุ่มเกือบ5ทุ่ม เบอร์นี้ก็โทรมาอีก (เพราะเราเมมเบอร์ไว้)
เเต่เราก็ไม่ได้รับสาย เพราะเราติดสายเพื่อนอยู่
จนเช้าวันศุกร์เวลา7โมง40 เค้าก็โทรมาอีก (เเต่ตอนนั้นเรายังไม่ตื่นดี)
เราสงสัยเลยลองเอาเบอร์เเอดในไลน์ ปรากฏว่าขึ้นเป็นชื่อโรงเรียนกวดวิชานั้นขึ้นมา
เลยเสิร์ชหาในเน็ต ตอนเเรกก็งง เพราะสถานที่ไม่ตรงกับที่เค้าบอกไว้
(ตอนเเรกเราพยายามหาข้อมูลเเล้วค่ะว่าโรงเรียนกวดวิชาในพุทธมณฑลสาย4 เเต่ไม่เจอที่ใช่)
เเม่เราก็พูดประมาณว่าให้ลองทำดู รอได้งานใหม่
เราเลยตัดสินใจโทรกลับไปที่เบอร์เดิม ในเวลาประมาณ10โมงหรือ11โมงนี่เเหละค่ะ
สอบถามจนได้เรื่องว่า
1.ทำตำเเหน่งธุรการ
2.ทดลองงานประมาณ3วัน เพื่อพิจารณาเงินเดือน
3.ผ่าน2เดือน จะปรับเงินเดือนให้เป็นมาตรฐาน
4.ได้หยุดวันธรรมดา เสาร์อาทิตย์ไม่หยุด
5.ทำ11โมง เลิก2ทุ่ม (เเต่เราต่อรองจนได้ทำ10โมงเลิกทุ่มนึง เพราะเลิกดึกเเล้วกลับบ้านลำบาก)
6.อาทิตย์เเรกให้ใส่ชุดสบายๆมาก่อน เพราะช่วยทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถูนิดหน่อย
******ย้ำว่านิดหน่อย**********
พอวันจันทร์ที่ผ่านมา เราก็มาทดลองงาน เป็นตึกเเถว
มาวันเเรกก็เข้าใจเลย เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาเป็นคนเดียวกับเจ้าของฟิตเนสที่เคยสมัครไป
พี่เค้าว่าเพิ่งย้ายมาจากที่เก่า ที่นี่ทำเลดีกว่าที่เดิม บลาๆๆๆ
มาวันเเรกพี่เค้าก็อธิบายรายละเอียดดังนี้
1.ให้ช่วยทำความสะอาดสักอาทิตย์นึง
2.เดือนหน้าจะให้นั่งธุรการเต็มตัว
3.จริงๆต้องมีธุรการ2คน เเต่เรียกมาคนเดียวก่อน เพราะเดี๋ยวมาเเล้วจะเเย่งหน้าที่กันทำ
4.คนเเรกที่รับสมัครไป ทำได้2เดือน พอย้ายมาที่นี่ก็ลาออก
5.คนที่สองทำวันเเรกก็ลาออก เค้าไม่โอเคกับการทำความสะอาด เเต่ก็นานาจิตตังครับ
6.ประมาณวันเสาร์อาทิตย์ จะประเมินเงินเดือนให้
ตอนนั้นเราก็คิดว่าเเค่ทำความสะอาดนิดๆหน่อยๆมันจะสักเเค่ไหนกันเชียว
เพราะตอนเรียนมัธยมนี่ทำตั้งเเต่ยกไม้ ขนไม้ ทาสี สารพัดงานช่างเเละงานทำความสะอาด
เเละคิดว่าไม่มีอะไรเหนื่อยเท่ากับตอนอัดถ่านชีวมวล(อัดมือ)ตอนมหาลัยอีกเเล้วล่ะ
พอคุยกันเสร็จ พี่เค้าก็พาขึ้นไปเดินดูชั้นบน
ตอนเเรกที่เราเข้ามา เราก็ว่าเออ มันก็สะอาดดี น่าจะทำความสะอาดง่าย (เพราะมันเป็นชั้น1)
เเต่...
พอขึ้นมาชั้น2 ชั้น3 ชั้นน4 โอ้มายก็อด เเม่เจ้า อยากร้องไห้มาก
พี่เค้าก็อธิบายงานที่เราต้องทำ
ตอนเเรกก็บอกว่าเเค่กวาดกับถู สักพักบอกให้ขัดพื้นตรงนั้นด้วย พออีกเเป๊บบอกว่างๆมาขัดห้องน้ำด้วยนะ
คือทุกคนคะ ลองนึกภาพตามนะ ตึกเเถวที่คนเก่าย้ายออกไปได้สักพักใหญ่ๆ
เเล้วเราก็เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่อ่ะค่ะ ความสกปรกนี่เยอะมากกกกกก ฝุ่นก็เช่นกัน
เเต่เราก็คิดว่าไหนๆก็มาเเล้ว มันต้องลองกันสักตั้ง!
เริ่มจากกวาดชั้น4 ชั้น3 ชั้น2 เเละตามด้วยถูชั้น4-3-2ตามลำดับ
อ๋อ มีกวาดหยากไย่ด้วยค่ะ ทำเเบบนี้ทุกชั้น
คือเดินขึ้นบันไดก็เหนื่อยเเล้วค่ะ เเละไม่มีพัดลมหรือเครื่องระบายความร้อน อากาศในห้องเหมือนเตาอบดีๆ
เหงื่อนี่ไหลราวกับไปอาบน้ำมา
เราต้องขอพักเหนื่อยด้วยการลงไปตากเเอร์ที่ชั้น1
พร้อมกับขอตัวเเวะออกไปซื้อน้ำดื่มที่เซเว่น เเล้วจึงกลับมาทำงานต่อ
งานต่อมาคือการขัดพื้นค่ะ คราบดำที่มันฝังกับกระเบื้อง เราไม่รู้ว่ามันคือคราบอะไร
เเต่ขัดยากมากกกกกกก เเต่เราก็ต้องขัด
จากนั้นไปล้างห้องน้ำ เป็นห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำด้วย สภาพก็เละๆหน่อยอ่ะค่ะ ไม่มีคนใช้งานนาน
เราขัดจนมือเราเป็นเเผลเต็มไปหมด สุดท้ายต้องออกไปเซเว่นอีกรอบเพื่อซื้อพลาสเตอร์ยา
เราทำงานเสร็จเรียบร้อย จึงมานั่งตากเเอร์ที่ชั้น1เหมือนเดิม พร้อมกับรายงานผล
พี่เค้าก็ว่าไม่ต้องรีบทำก็ได้ ค่อยๆทำไป เเต่เราอยากทำให้เสร็จเร็วๆ งานทำความสะอาดจะได้จบๆไป
พอสักพัก พี่เค้าก็มาสั่งงานเราอีกเเล้ว ให้เรายกกองหนังสือ เเละเรียงใส่ตู้ตามหมวดหมู่
พร้อมกับบอกว่าถ้าเราหิวข้าวก็ให้ออกไปกินข้าวก่อนได้นะ เเต่พี่จะไม่อยู่ กลับมาประมาณ4โมง
เราเรียงหนังสือเสร็จในเวลาบ่าย2เกือบบ่าย3 พร้อมกับอาการหิวข้าวอย่างหนัก
เเต่ก็ไม่สามารถออกไปกินข้าวได้ เพราะ... เราไม่มีกุญเเจ ถ้าเราไปคือต้องเปิดทิ้งไว้เเบบนี้
เเล้วถ้าของหาย ใครจะรับผิดชอบ ถ้าไม่ใช่เรา
เราเลยนั่งรอพี่เค้ากลับมา เเต่ปรากฏว่าพี่เค้ากลับมาตอน5โมงกว่าๆ
พี่เค้ากลับมาพร้อมกับเเฟน(?)
สักพักก็เริ่มสอนงาน(?) ว่าให้พิมพ์เเบบนี้นะ ทำโฟโต้ช็อปเป็นไหม บลาๆๆ
เราในตอนนั้นยังสู้อยู่ ถึงจะเหนื่อยหอบมาทั้งวันก็เถอะ
พี่เค้าก็ขึ้นไปตรวจงานชั้น2-3-4 ลงมาบอกว่าชั้น4สะอาดดีมาก
พรุ่งนี้ให้มาขัดกระจก เเละทำชั้นอื่นต่อนะ
เรานี่งงเลยค่ะ สมองเเบบ ฮะ? อะไรนะ? ทำอะไรอีกนะ?
เเละรับรู้ชะตากรรมเลยว่าพวกโต๊ะ พวกลัง พวกกล่อง กองหนังสือ เเละของที่ไม่ใช่
ต้องเป็นเราเเน่ๆ ที่เป็นผู้โชคดีได้เเบกมันไปโยนชั้น5
เเละอาจจะเป็นเราอีกเเน่ๆ ที่เป็นผู้โชคดีที่ได้ทำความสะอาดชั้นลอย
พอสั่งงานเราเสร็จ พี่เค้ากับเเฟนก็บอกว่าจะออกไปข้างนอก ฝากเราปิดร้านให้ด้วย
เเฟนเค้าก็ว่าเราไม่น่าจะดึงประตูเหล็กลงมาได้ มันหนัก (ใช่ค่ะ หนูก็คิดอย่างนั้น)
เเต่พี่เค้า (ผู้ชายเจ้าของโรงเรียน) บอกว่าน้องเค้าทำได้ เมื่อเช้ายังยกเลย
เอ่อ พี่คะ ยกขึ้นกับดึงลง มันต่างกันนะคะ หนูเป็นผู้หญิงที่อาจจะสูง เเต่ดูเเขนหนูด้วยค่ะ
วันนี้ไม่มีเด็กมาเรียน เเต่ให้เราอยู่เฝ้าจนกว่าจะเลิกงาน
พร้อมกับว่าถ้ามีผู้ปกครองมาสมัครเรียนให้ลูก ก็ให้เรารับให้เลย สอนเขียนบิลเรียบร้อย
เเต่... ไหนล่ะเงินทอน ถ้าสมมติว่าผู้ปกครองให้เงินเกินมาล่ะ เราจะเอาเงินที่ไหนมาทอนคะ?
เเต่ไม่ได้ถามออกไปนะ สุดท้ายพี่เค้าก็ออกไป
วินาทีนั้น เรารู้สุกเหนื่อย อยากลาออก อยากร้องไห้ จึงโทรหาเเม่ เล่าให้เเม่ฟัง
เเม่ยังบอกเลยว่าเค้าไม่เคยใช้เราทำงานหนักขนาดนี้
ตกลงเรามาเป็นธุรการหรือเเม่บ้าน
เพราะเราทำเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ปัด กวาด เช็ด ถู ขัดพื้น ขัดห้องน้ำ ยกของ เรียงหนังสือ ถ่ายน้ำปลาหางนกยูง ขัดราวบันได เขียนป้ายไวท์บอร์ด พิมพ์เอกสารโปรโมชั่นการสมัครเรียน
เรียนรู้การใช้โฟโตช็อป เรียนรู้การเขียนบิลการสมัครเรียน เรียนรู้การทะเลาะกับเครื่องปริ้นซ์ (เครื่องปริ้นซ์มันดื้อ ไม่ยอมปริ้นซ์ออกมา)
อ่อ ก่อนไป พี่เค้าบอกเราว่า วันจันทร์นะมาคุยกันเรื่องเงินเดือน
เฮ้ย เลื่อนอีกเเล้วหรอวะ ปกติเเล้วมาทำงานมันก็ต้องดีลเรื่องเงินเดือนกันก่อนไหมอ่ะ
ช่วงทดลองงานก็น่าจะได้เป็นรายวันอะไรเเบบนี้
พร้อมกับย้ำว่า เดือนหน้าเราถึงจะได้นั่งธุรการ (เท่ากับว่าเรายังต้องทำความสะอาดไปอีกเรื่อยๆ)
สุดท้ายเราเลยตัดสินใจปิดร้าน เลิกงานก่อนเวลา20นาที
เเถมเเม่ค้าผลไม้หน้าร้านต้องมาช่วยเราดึงประตูเหล็กอีกต่างหาก ขอบคุณมากเลยนะคะ
ช่วงตอนเช้าเรายังมีความคิดว่าให้ตายยังไงก็จะไม่ออก เพราะถ้าเราออก คนที่มาเเทนเรานี่สบายเลย เราทำหมดเเล้ว
เเต่พอได้ยินว่าพรุ่งนี้ต้องกลับมาเจอกับอะไรอีก มันก็เหนื่อย ท้อไปหมด อยากลาออก
เรานั่งน้องไห้อยู่ป้ายรถเมล์ ฟีลตอนนั้นเหมือนนางเอกเพลงอกหักเลยค่ะ //เเล้วฉันจะทำอย่างไรต่อจากนี้...
เราเข้าใจความรู้สึกของคนก่อนหน้านี้ที่ว่าทำงานวันเดียวเเล้วออกเลยล่ะ
ในหัวเรามีคำถามมากมายที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เช่น
1.นี่มันเกินหน้าที่เราหรือเปล่า หรือว่าช่วงทดลองงานเเล้วเลือกไม่ได้ ต้องทำเเบบนี้
2.ทำไมเค้าไม่จ้างเเม่บ้านหรือพวกบริษัททำความสะอาด เพราะมันเยอะมาก ไหนจะฝุ่น ไหนจะเเมลงสาปอีกที่เราต้องเจอ
3.ทำไมไม่รับธุรการเข้ามาพร้อมกัน2คนเลย จะได้ช่วยกันทำความสะอาด
เเบบนี้เท่ากับว่าถ้าเราทำจนหมดเเล้ว เเละรับอีกคนมาที่หลังก็เท่ากับว่าไม่ต้องทำเเบบเราหรอ
4.ถ้าเงือนเดือน9,000นี่ เราว่าไม่คุ้มนะ
เรากลับบ้านมาร้องไห้ เพราะพี่สาวเราไม่เข้าใจที่เราจะออก
เราเลยตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะหยุดงานเพื่อทบทวนอีกครั้ง โดยจะอ้างว่าป่วย
สุดท้ายอีกวันเราป่วยจริงๆ มีไข้เเละกล้ามเนื้ออักเสบ
เเละพี่เค้าคงรู้ว่เราลาออก เพราะไม่โทรตามเลย วันนี้ก็ไม่โทรเหมือนกัน
พี่สาวเราว่าเค้าให้ทำหนักเเค่วันเเรกหรือเปล่า เเต่เราดูจากสภาพการณ์เเล้ว
เรายังต้องเจองานทำความสะอาดไปอีกนาน ตราบใดที่พี่เค้าไม่จ้างเเม่บ้านมาทำ
อีกคำถามที่สำคัญก็คือ
สรุปเเล้วคุณจ้างเรามาในตำเเหน่งอะไรกันเเน่?
เราต้องทำความสะอาดเเบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะสิ้นเดือนเลยหรือ?
หรือคุณเเค่หลอกคนมาทดลองงาน ให่ทำความสะอาดให้เเบบนี้ไปเรื่อยๆ ใครทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็เรียกคนใหม่
โดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินจ้างเเม่บ้าน เเละไม่เสียเงินให้กับคนที่ไม่ผ่านช่วงทดลองงาน
เราขอโทษ เเต่เราไม่โอเคจริงๆ
เป็นประสชบการณ์ทำงานที่เเย่มากจริงๆ
ปล.พ่อเราให้ออกทันทีที่รู้เรื่องเลยค่ะ บอกว่าไม่คุ้ม เเละใช้งานเราหนักเกินไป
แชร์ประสบการณ์ทำงานวันเเรก
เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ2เดือนที่เเล้ว ตอนนั้นเราได้สมัครงานที่ฟิตเนสเเห่งหนึ่ง ในตำเเหน่งธุรการ
เเละได้รู้จากพี่สาวว่าเงินเดือนไม่เยอะ เเค่9,000/เดือน เลิกงาน2ทุ่ม ตอนนั้นเลยไปสมัครที่อื่นไว้ด้วย
ซึ่งตอนที่ไปสมัครที่ฟิตเนส ตอนนั้นใบสมัครหมด พี่เค้าเลยให้เราเขียนใหม่ทุกอย่างในกระดาษA4 คือเขียนเเบบฟอร์มเองเลย
ให้ระบุเงินเดือนที่ต้องการ เราเเอบเห็นใบสมัครคนอื่น เขียนเเค่9,000-9,600 เราเลยเขียน9,000-10,000
ซึ่งเราก็ว่าน้อยมากเลยนะสำหรับคนจบปริญญาตรี
จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ก่อน มีเบอร์หนึ่งโทรมาหาเราประมาณ2ทุ่มครึ่ง
เค้า : สวัสดีค่ะ ใช่น้อง...หรือเปล่าคะ
เรา : ใช่ค่ะ
เค้า : ตอนนี้มีงานทำหรือยังคะ
เรา : ยังค่ะ
เค้า : คือพี่จะนัดให้น้องมาทดลองงานค่ะ ที่โรงเรียนกวดวิชา อยู่ข้าง....พุทธมณฑล สาย4 น้องสะดวกมาเริ่มงานเลยไหมคะ
เรา : ค่ะ เมื่อไหร่คะ
เค้า : พรุ่งนี้เลยได้ไหมคะ
เรา : เอ่อ คือตอนนี้ยังไม่สะดวกอ่ะค่ะ พอดียังอยู่ต่างจังหวัดอยู่เลยค่ะ
เค้า : อ๋อ งั้นเป็นวันพฤหัสได้ไหมคะ
เรา : ได้ค่ะ
เเละพอเราจะถามรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น ชื่อโรงเรียนอะไร ตำเเหน่งอะไร เค้าก็วางสายไปเสียก่อน
คือตอนนั้นเราก็เเปลกใจตั้งเเต่โทรมาตอน2ทุ่มครึ่งกว่าๆเเล้ว ปกติต้องโทรเวลางานไม่ใช่หรอ
เเล้วไหนจะให้ทดลองงานเลย ทำไมไม่นัดสัมภาษณ์ก่อนด้วย
เเละอีกประเด็นที่สำคัญคือ เราไม่เคยไปสมัครที่โรงเรียนกวดวิชานะ เค้ามีข้อมูลเราได้ไง
เเต่ก็คิดว่าน่าจะเอามาจากในเว็บสมัครงานเเหละมั้ง
อีกทั้งไม่บอกข้อมูลอื่นๆ ทำให้เราคิดว่าเราอาจจะโดนหลอกอยู่ก็ได้ เลยตัดสินใจไม่รับงานนี้
จนวันพฤหัส เวลาประมาณ4ทุ่มเกือบ5ทุ่ม เบอร์นี้ก็โทรมาอีก (เพราะเราเมมเบอร์ไว้)
เเต่เราก็ไม่ได้รับสาย เพราะเราติดสายเพื่อนอยู่
จนเช้าวันศุกร์เวลา7โมง40 เค้าก็โทรมาอีก (เเต่ตอนนั้นเรายังไม่ตื่นดี)
เราสงสัยเลยลองเอาเบอร์เเอดในไลน์ ปรากฏว่าขึ้นเป็นชื่อโรงเรียนกวดวิชานั้นขึ้นมา
เลยเสิร์ชหาในเน็ต ตอนเเรกก็งง เพราะสถานที่ไม่ตรงกับที่เค้าบอกไว้
(ตอนเเรกเราพยายามหาข้อมูลเเล้วค่ะว่าโรงเรียนกวดวิชาในพุทธมณฑลสาย4 เเต่ไม่เจอที่ใช่)
เเม่เราก็พูดประมาณว่าให้ลองทำดู รอได้งานใหม่
เราเลยตัดสินใจโทรกลับไปที่เบอร์เดิม ในเวลาประมาณ10โมงหรือ11โมงนี่เเหละค่ะ
สอบถามจนได้เรื่องว่า
1.ทำตำเเหน่งธุรการ
2.ทดลองงานประมาณ3วัน เพื่อพิจารณาเงินเดือน
3.ผ่าน2เดือน จะปรับเงินเดือนให้เป็นมาตรฐาน
4.ได้หยุดวันธรรมดา เสาร์อาทิตย์ไม่หยุด
5.ทำ11โมง เลิก2ทุ่ม (เเต่เราต่อรองจนได้ทำ10โมงเลิกทุ่มนึง เพราะเลิกดึกเเล้วกลับบ้านลำบาก)
6.อาทิตย์เเรกให้ใส่ชุดสบายๆมาก่อน เพราะช่วยทำความสะอาด ปัดกวาดเช็ดถูนิดหน่อย
******ย้ำว่านิดหน่อย**********
พอวันจันทร์ที่ผ่านมา เราก็มาทดลองงาน เป็นตึกเเถว
มาวันเเรกก็เข้าใจเลย เจ้าของโรงเรียนกวดวิชาเป็นคนเดียวกับเจ้าของฟิตเนสที่เคยสมัครไป
พี่เค้าว่าเพิ่งย้ายมาจากที่เก่า ที่นี่ทำเลดีกว่าที่เดิม บลาๆๆๆ
มาวันเเรกพี่เค้าก็อธิบายรายละเอียดดังนี้
1.ให้ช่วยทำความสะอาดสักอาทิตย์นึง
2.เดือนหน้าจะให้นั่งธุรการเต็มตัว
3.จริงๆต้องมีธุรการ2คน เเต่เรียกมาคนเดียวก่อน เพราะเดี๋ยวมาเเล้วจะเเย่งหน้าที่กันทำ
4.คนเเรกที่รับสมัครไป ทำได้2เดือน พอย้ายมาที่นี่ก็ลาออก
5.คนที่สองทำวันเเรกก็ลาออก เค้าไม่โอเคกับการทำความสะอาด เเต่ก็นานาจิตตังครับ
6.ประมาณวันเสาร์อาทิตย์ จะประเมินเงินเดือนให้
ตอนนั้นเราก็คิดว่าเเค่ทำความสะอาดนิดๆหน่อยๆมันจะสักเเค่ไหนกันเชียว
เพราะตอนเรียนมัธยมนี่ทำตั้งเเต่ยกไม้ ขนไม้ ทาสี สารพัดงานช่างเเละงานทำความสะอาด
เเละคิดว่าไม่มีอะไรเหนื่อยเท่ากับตอนอัดถ่านชีวมวล(อัดมือ)ตอนมหาลัยอีกเเล้วล่ะ
พอคุยกันเสร็จ พี่เค้าก็พาขึ้นไปเดินดูชั้นบน
ตอนเเรกที่เราเข้ามา เราก็ว่าเออ มันก็สะอาดดี น่าจะทำความสะอาดง่าย (เพราะมันเป็นชั้น1)
เเต่...
พอขึ้นมาชั้น2 ชั้น3 ชั้นน4 โอ้มายก็อด เเม่เจ้า อยากร้องไห้มาก
พี่เค้าก็อธิบายงานที่เราต้องทำ
ตอนเเรกก็บอกว่าเเค่กวาดกับถู สักพักบอกให้ขัดพื้นตรงนั้นด้วย พออีกเเป๊บบอกว่างๆมาขัดห้องน้ำด้วยนะ
คือทุกคนคะ ลองนึกภาพตามนะ ตึกเเถวที่คนเก่าย้ายออกไปได้สักพักใหญ่ๆ
เเล้วเราก็เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่อ่ะค่ะ ความสกปรกนี่เยอะมากกกกกก ฝุ่นก็เช่นกัน
เเต่เราก็คิดว่าไหนๆก็มาเเล้ว มันต้องลองกันสักตั้ง!
เริ่มจากกวาดชั้น4 ชั้น3 ชั้น2 เเละตามด้วยถูชั้น4-3-2ตามลำดับ
อ๋อ มีกวาดหยากไย่ด้วยค่ะ ทำเเบบนี้ทุกชั้น
คือเดินขึ้นบันไดก็เหนื่อยเเล้วค่ะ เเละไม่มีพัดลมหรือเครื่องระบายความร้อน อากาศในห้องเหมือนเตาอบดีๆ
เหงื่อนี่ไหลราวกับไปอาบน้ำมา
เราต้องขอพักเหนื่อยด้วยการลงไปตากเเอร์ที่ชั้น1
พร้อมกับขอตัวเเวะออกไปซื้อน้ำดื่มที่เซเว่น เเล้วจึงกลับมาทำงานต่อ
งานต่อมาคือการขัดพื้นค่ะ คราบดำที่มันฝังกับกระเบื้อง เราไม่รู้ว่ามันคือคราบอะไร
เเต่ขัดยากมากกกกกกก เเต่เราก็ต้องขัด
จากนั้นไปล้างห้องน้ำ เป็นห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำด้วย สภาพก็เละๆหน่อยอ่ะค่ะ ไม่มีคนใช้งานนาน
เราขัดจนมือเราเป็นเเผลเต็มไปหมด สุดท้ายต้องออกไปเซเว่นอีกรอบเพื่อซื้อพลาสเตอร์ยา
เราทำงานเสร็จเรียบร้อย จึงมานั่งตากเเอร์ที่ชั้น1เหมือนเดิม พร้อมกับรายงานผล
พี่เค้าก็ว่าไม่ต้องรีบทำก็ได้ ค่อยๆทำไป เเต่เราอยากทำให้เสร็จเร็วๆ งานทำความสะอาดจะได้จบๆไป
พอสักพัก พี่เค้าก็มาสั่งงานเราอีกเเล้ว ให้เรายกกองหนังสือ เเละเรียงใส่ตู้ตามหมวดหมู่
พร้อมกับบอกว่าถ้าเราหิวข้าวก็ให้ออกไปกินข้าวก่อนได้นะ เเต่พี่จะไม่อยู่ กลับมาประมาณ4โมง
เราเรียงหนังสือเสร็จในเวลาบ่าย2เกือบบ่าย3 พร้อมกับอาการหิวข้าวอย่างหนัก
เเต่ก็ไม่สามารถออกไปกินข้าวได้ เพราะ... เราไม่มีกุญเเจ ถ้าเราไปคือต้องเปิดทิ้งไว้เเบบนี้
เเล้วถ้าของหาย ใครจะรับผิดชอบ ถ้าไม่ใช่เรา
เราเลยนั่งรอพี่เค้ากลับมา เเต่ปรากฏว่าพี่เค้ากลับมาตอน5โมงกว่าๆ
พี่เค้ากลับมาพร้อมกับเเฟน(?)
สักพักก็เริ่มสอนงาน(?) ว่าให้พิมพ์เเบบนี้นะ ทำโฟโต้ช็อปเป็นไหม บลาๆๆ
เราในตอนนั้นยังสู้อยู่ ถึงจะเหนื่อยหอบมาทั้งวันก็เถอะ
พี่เค้าก็ขึ้นไปตรวจงานชั้น2-3-4 ลงมาบอกว่าชั้น4สะอาดดีมาก
พรุ่งนี้ให้มาขัดกระจก เเละทำชั้นอื่นต่อนะ
เรานี่งงเลยค่ะ สมองเเบบ ฮะ? อะไรนะ? ทำอะไรอีกนะ?
เเละรับรู้ชะตากรรมเลยว่าพวกโต๊ะ พวกลัง พวกกล่อง กองหนังสือ เเละของที่ไม่ใช่
ต้องเป็นเราเเน่ๆ ที่เป็นผู้โชคดีได้เเบกมันไปโยนชั้น5
เเละอาจจะเป็นเราอีกเเน่ๆ ที่เป็นผู้โชคดีที่ได้ทำความสะอาดชั้นลอย
พอสั่งงานเราเสร็จ พี่เค้ากับเเฟนก็บอกว่าจะออกไปข้างนอก ฝากเราปิดร้านให้ด้วย
เเฟนเค้าก็ว่าเราไม่น่าจะดึงประตูเหล็กลงมาได้ มันหนัก (ใช่ค่ะ หนูก็คิดอย่างนั้น)
เเต่พี่เค้า (ผู้ชายเจ้าของโรงเรียน) บอกว่าน้องเค้าทำได้ เมื่อเช้ายังยกเลย
เอ่อ พี่คะ ยกขึ้นกับดึงลง มันต่างกันนะคะ หนูเป็นผู้หญิงที่อาจจะสูง เเต่ดูเเขนหนูด้วยค่ะ
วันนี้ไม่มีเด็กมาเรียน เเต่ให้เราอยู่เฝ้าจนกว่าจะเลิกงาน
พร้อมกับว่าถ้ามีผู้ปกครองมาสมัครเรียนให้ลูก ก็ให้เรารับให้เลย สอนเขียนบิลเรียบร้อย
เเต่... ไหนล่ะเงินทอน ถ้าสมมติว่าผู้ปกครองให้เงินเกินมาล่ะ เราจะเอาเงินที่ไหนมาทอนคะ?
เเต่ไม่ได้ถามออกไปนะ สุดท้ายพี่เค้าก็ออกไป
วินาทีนั้น เรารู้สุกเหนื่อย อยากลาออก อยากร้องไห้ จึงโทรหาเเม่ เล่าให้เเม่ฟัง
เเม่ยังบอกเลยว่าเค้าไม่เคยใช้เราทำงานหนักขนาดนี้
ตกลงเรามาเป็นธุรการหรือเเม่บ้าน
เพราะเราทำเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ปัด กวาด เช็ด ถู ขัดพื้น ขัดห้องน้ำ ยกของ เรียงหนังสือ ถ่ายน้ำปลาหางนกยูง ขัดราวบันได เขียนป้ายไวท์บอร์ด พิมพ์เอกสารโปรโมชั่นการสมัครเรียน
เรียนรู้การใช้โฟโตช็อป เรียนรู้การเขียนบิลการสมัครเรียน เรียนรู้การทะเลาะกับเครื่องปริ้นซ์ (เครื่องปริ้นซ์มันดื้อ ไม่ยอมปริ้นซ์ออกมา)
อ่อ ก่อนไป พี่เค้าบอกเราว่า วันจันทร์นะมาคุยกันเรื่องเงินเดือน
เฮ้ย เลื่อนอีกเเล้วหรอวะ ปกติเเล้วมาทำงานมันก็ต้องดีลเรื่องเงินเดือนกันก่อนไหมอ่ะ
ช่วงทดลองงานก็น่าจะได้เป็นรายวันอะไรเเบบนี้
พร้อมกับย้ำว่า เดือนหน้าเราถึงจะได้นั่งธุรการ (เท่ากับว่าเรายังต้องทำความสะอาดไปอีกเรื่อยๆ)
สุดท้ายเราเลยตัดสินใจปิดร้าน เลิกงานก่อนเวลา20นาที
เเถมเเม่ค้าผลไม้หน้าร้านต้องมาช่วยเราดึงประตูเหล็กอีกต่างหาก ขอบคุณมากเลยนะคะ
ช่วงตอนเช้าเรายังมีความคิดว่าให้ตายยังไงก็จะไม่ออก เพราะถ้าเราออก คนที่มาเเทนเรานี่สบายเลย เราทำหมดเเล้ว
เเต่พอได้ยินว่าพรุ่งนี้ต้องกลับมาเจอกับอะไรอีก มันก็เหนื่อย ท้อไปหมด อยากลาออก
เรานั่งน้องไห้อยู่ป้ายรถเมล์ ฟีลตอนนั้นเหมือนนางเอกเพลงอกหักเลยค่ะ //เเล้วฉันจะทำอย่างไรต่อจากนี้...
เราเข้าใจความรู้สึกของคนก่อนหน้านี้ที่ว่าทำงานวันเดียวเเล้วออกเลยล่ะ
ในหัวเรามีคำถามมากมายที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เช่น
1.นี่มันเกินหน้าที่เราหรือเปล่า หรือว่าช่วงทดลองงานเเล้วเลือกไม่ได้ ต้องทำเเบบนี้
2.ทำไมเค้าไม่จ้างเเม่บ้านหรือพวกบริษัททำความสะอาด เพราะมันเยอะมาก ไหนจะฝุ่น ไหนจะเเมลงสาปอีกที่เราต้องเจอ
3.ทำไมไม่รับธุรการเข้ามาพร้อมกัน2คนเลย จะได้ช่วยกันทำความสะอาด
เเบบนี้เท่ากับว่าถ้าเราทำจนหมดเเล้ว เเละรับอีกคนมาที่หลังก็เท่ากับว่าไม่ต้องทำเเบบเราหรอ
4.ถ้าเงือนเดือน9,000นี่ เราว่าไม่คุ้มนะ
เรากลับบ้านมาร้องไห้ เพราะพี่สาวเราไม่เข้าใจที่เราจะออก
เราเลยตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะหยุดงานเพื่อทบทวนอีกครั้ง โดยจะอ้างว่าป่วย
สุดท้ายอีกวันเราป่วยจริงๆ มีไข้เเละกล้ามเนื้ออักเสบ
เเละพี่เค้าคงรู้ว่เราลาออก เพราะไม่โทรตามเลย วันนี้ก็ไม่โทรเหมือนกัน
พี่สาวเราว่าเค้าให้ทำหนักเเค่วันเเรกหรือเปล่า เเต่เราดูจากสภาพการณ์เเล้ว
เรายังต้องเจองานทำความสะอาดไปอีกนาน ตราบใดที่พี่เค้าไม่จ้างเเม่บ้านมาทำ
อีกคำถามที่สำคัญก็คือ
สรุปเเล้วคุณจ้างเรามาในตำเเหน่งอะไรกันเเน่?
เราต้องทำความสะอาดเเบบนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะสิ้นเดือนเลยหรือ?
หรือคุณเเค่หลอกคนมาทดลองงาน ให่ทำความสะอาดให้เเบบนี้ไปเรื่อยๆ ใครทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็เรียกคนใหม่
โดยที่คุณไม่ต้องเสียเงินจ้างเเม่บ้าน เเละไม่เสียเงินให้กับคนที่ไม่ผ่านช่วงทดลองงาน
เราขอโทษ เเต่เราไม่โอเคจริงๆ
เป็นประสชบการณ์ทำงานที่เเย่มากจริงๆ
ปล.พ่อเราให้ออกทันทีที่รู้เรื่องเลยค่ะ บอกว่าไม่คุ้ม เเละใช้งานเราหนักเกินไป