ใครทำงานไม่ต้องสายที่เรียนบ้างคะ ?

เราเรียนจบ วิศวกรรมโยธา มาเกือบๆ 3 ปี
     เเชร์ประสบการณ์ การทำงาน เจอทั้ง ดีเเละเเย่ ขี้แงขี้แง

     มาเริ่มเลย เเล้วกัน..  ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนว่า เราทำงานวิศวกรรมโยธา ผ่านงาน ออฟฟิศ ภาคสนาม มาเเล้ว ส่วนตัวที่ได้มาเรียนสายโยธา เพราะไม่รู้จะเรียนอะไร เรียนตามเพื่อนก็ว่าได้ เเละหลอกตัวเองไปว่า เราชอบสิ่งนี้ อดทน จนเรียนจบ สิ่งเดียวที่คิดตอนนั้น คือ เงินเดือนเริ่มต้น ค่อยข้างสูงกว่าสายอื่น (ไม่ได้เหมารวมนะคะ เเสดงให้เห็นว่าความคิดตอนนั้นเป็นเเบบนี้ มาทำงานพึ่งรู้ว่าปัจจุบันวิศวกรโยธาเงินเดือนเริ่มต้นก็เริ่มน้อยกว่าสายอื่นๆเเล้ว) ส่วนตัวคิดว่า จบมาเเล้วได้ทำงาน ถ้าทำๆไปก็ คงจะชินเเละอยู่กับมันได้เอง เเต่ปรากฏว่า พออยู่หน้างานก็ได้คุยกับช่าง ช่างมีทั้งคนไทย เเละต่างชาติ ส่วนใหญ่ 90 เปอร์เซ็นเป็นต่างชาติ ประเทศเพื่อนบ้านเราๆทั้งนั้น ซึ่งส่วนตัวเราว่าการคุยกับช่างยากมากกกกก เจอดีหน่อย ร้ายหน่อย บ้างคนเห็นเราเป็นผู้หญิงก็ไม่ให้เกียรติ ยิ่งช่างอยู่เป็นครอบครัวเป็นหมู่คณะ ยิ่งงอแงเอาใจยาก บางงานไม่อยากทำ ทั้งที่จ่ายเงินราคาส่วนนั้นให้ เเละยิ่งเรายังไม่เข้าใจในงานก่อสร้างเพราะพึ่งได้มาเริ่มทำจริงจังก็งานนี้ มีทั้งปัญหาที่แก้ได้บ้างไม่ได้บ้าง งานที่ทำได้เเละมั่นใจก็เป็นการเขียนเเบบ ถอดเเบบ พอไปเคลียร์แบบ อธิบายก็ไม่เชื่อเรา ไปขอให้เก็บงานให้ ก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง เเล้วยิ่งเจอโฟร์เเมนที่สนิทกับหัวหน้าบ้างเเหละ CEO บ้างเเหละ เรานี่จบเลย นั่งถอดเเบบ เคลียร์งานเอกสาร ออกไปที ช่างทำงานก็ไม่ตามแบบ สรุปคนที่ผิดก็เป็นเราที่ไม่บอกหรือเคลียร์กับช่าง ทั้งๆที่ก่อนทำก็คุยกันเเล้ว 
   
     โดยส่วนตัวไม่ชอบการคุยกับช่าง เเละเข้าใจว่างานก่อสร้าง ทุกๆงาน ทุกๆที่ ทุกๆบริษัท ช่างเป็นแบบนี้ เเละวิศวกรมาเพื่อแก้ไข ปัญหา เพราะถ้าไม่มีปัญหา เขาคงไม่จ้างวิศวกรมาคุมหรอก ยิ่งทำงานกับคนหมู่มากเเละเป็นประเภทเคี้ยวลากดินนี่จบเลย ต้องบอกก่อน เราพึ่งทำหน้างานมาได้เกือบๆ 1 ปี ก่อนหน้านี้ เรียนจบก็อยู่ในออฟฟิศมาตลอด จนมีบริษัทที่เรายื่นสมัครงานวิศวกรภาคสนาม เป็นบริษัทเเเรกที่ยื่น เเละได้สัมภาษณ์ เงินเดือนก็เยอะกว่างานในออฟฟิศเเละยังไม่เคยทำงานภาคสนามมา จึงได้ตกลงมาทำงานภาคสนาม อาจเป็นทางของเรา เเต่ผลลัพธ์ก็อย่างที่กล่าวไป เเละเราไม่ชอบการควบคุมคน การเป็นหัวหน้านี่ไม่ชอบเลย เราอยากเป็นลูกน้อง ยิ่งถ้าต้องมาคอยด่า คอยว่า คอยดุ ไม่ใช่สไตล์เราเลย เราเป็นคนพูดดีกับช่าง ช่างทำผิดก็เป็นการขอให้แก้ ทั้งๆที่เราสามารถตำหนิได้ เเต่เราไม่อยากทำเเบบนั้น พอวางตัวแบบนี้ ช่างยิ่งงอแง เอาเเต่ใจ ยิ่งอยู่ในสายงานนี้ไปเท่าไหร่ ยิ่งทำให้รู้ว่าไม่ชอบในงานสายนี้ พอยื่นสมัครสายอื่นที่ไม่ใช่หน้างานก่อสร้าง ก็ไม่มีใครเรียกสัมภาษณ์ เลยค่ะ 

     โดยส่วนตัวคิดว่าจะออกจากงานก่อสร้างเเต่คงได้วนๆอยู่กับงาน เขียนเเบบ ถอดเเบบ อยู่บ้าง มีบริษัท โทรมานัดสัมภาษณ์ ซึ่งก็จะไม่ใช่งานช่างเลย ฉีกไปเป็นคนละรูปแบบพอสมควร เป็นงานที่ว่า ถ้าทำเเล้ว กลับมาสายโยธา ไม่ได้เเล้ว เเต่เราก็ไม่ได้จะทำเกี่ยวกับโยธา

     สอบถามพี่ๆที่เคยผ่านจุดนี้ เเนะนำยังไงบ้างคะ อยากหนีจากสายงานนี้ไปเลย เเต่ใจก็ยังไม่กล้า 

ปล.รู้ตัวตั้งเเต่ตอนเรียนเเล้วว่า งานหน้างาน งานเอกสารเป็น อย่างไร ตอนนั้นคิดว่าคงกังวลไปเอง มาทำคงอยู่กับมันได้ สรุปตอนนี้ ยิ่งรู้ตัวมากว่า เราไม่เหมาะกับสายงานนี้ โดยส่วนตัว ถอดเเบบเเละเขียนเเบบได้ ความชอบก็ออกเเนว งานสถาปัตย์ ตกเเต่ง ออกแบบ เเต่ก็เข้าใจว่าสายงานลักษณะนี้ คงเป็นสายของสถาปัตย์ไปเเล้ว จึงยังไม่มีโอกาสที่ได้ลองงานแนวนี้เลย
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ผมจบครู แต่ไม่ได้เป็นครู ซึ่งอันนี้เป็นความตั้งใจของตัวเอง ถามว่าผมสามารถสอนเด็กได้ไหม ได้ ผมพูดได้ สอนได้ แต่ปัญหาคือ การควบคุมอารมณ์และพฤติกรรม ผมรู้ตัวดีว่าผมเป็นคนอารมณ์ร้อน โมโหง่าย ขี้บ่น พูดจาเสียงดัง ฉะนั้นมันไม่ดีหรอกที่จะไปแสดงกิริยาอาการแบบนี้ต่อหน้าเด็ก ๆ ผมกลัวว่าจะหลุด ก็เลยเลือกจะไม่เป็นครู

ตอนนี้ผมเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ ถามว่า แล้ววิชาที่ร่ำเรียนมาได้ใช้ไหม? ผมไม่ซีเรียส เพราะเอาจริง ๆ ก็มีหยิบ skill บางอย่างมาใช้ เช่น การพูดหน้าชั้น การนำเสนอ การเรียบเรียงและจับใจความ ซึ่งนำไปใช้ต่อยอดได้ในการเขียนบันทึกและหนังสือราชการ เรียกว่าเรียนมาก็ไม่ด้สูญเปล่าเสียทีเดียว มีหยิบมาใช้ได้บ้างเหมือนกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่