JJNY :บริหาร จัดการน้ำดี๊ดี...ซี้จุกสูญ น้ำชีวิกฤต/ชัยนาทส่อแล้งหนัก/พิมายเหลือน้ำ1%/ชัยภูมิแล้งจัด/นาข้าวหลายที่ขาดน้ำ

กระทู้คำถาม
"น้ำชีวิกฤต" เขื่อนวังยางหยุดสูบน้ำเตือนปชช.ใช้น้ำประหยัดหวั่นกระทบผลิตประปาในเมือง
https://www.matichon.co.th/region/news_1588016

วันที่ 19 กรกฎาคม  นายพัฒนะ พลศรี หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 3 เขื่อนระบายน้ำฝายวังยาง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพัฒนาลุ่มน้ำชีตอนกลางกล่าวว่า สถานการณ์น้ำในแม่น้ำชีถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต ตลอดลำน้ำชีที่ไหลผ่านจังหวัดมหาสารคาม ระยะทาง 80 กิโลเมตร ผ่าน อ.เชียงยืน โกสุมพิสัย กันทรวิชัย และอำเภอเมืองมหาสารคาม บางช่วงของแม่น้ำชีปริมาณน้ำลดลงจนสามารถเดินข้ามไปมาได้ ซึ่งเป็นภาพที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน อาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและการผลิตน้ำประปาในอนาคต

โดยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชีกลาง ได้ออกประกาศเรื่องการหยุดส่งน้ำสถานีสูบน้ำเขื่อนวังยาง ฤดูฝน ปี 2562 ฉบับที่ 2 ระบุใจความว่า ปัจจุบันเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ซึ่งจากการคาดหมายลักษณะอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ปี 2562 ปริมาณฝนจะมีค่าต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ย 5-10 เปอร์เซ็นต์ ณ ปัจจุบันเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งเป็นต้นน้ำ มีน้ำใช้การได้อยู่ที่ -6.08 หรือคิดเป็น -0.33% การระบายน้ำด้านท้ายน้ำ 0.51 ล้านลูกบาศก์เมตร เขื่อนลำปาว มีปริมาณน้ำใช้การ 433.80 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 21.91% ระบายน้ำด้านท้าย 4.81 ล้านลูกบาศก์เมตร ไม่สามารถระบายน้ำเพื่อช่วยเหลือกิจกรรมด้านเกษตรกรรมได้
โดยระดับน้ำในแม่น้ำชีลดลงอย่างต่อเนื่อง หากยังเป็นเช่นนี้ จะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำประปาอำเภอเมืองมหาสารคาม ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำเลยหัวกะโหลกเพียง 50 เซนติเมตร และจะกระทบกับประปาหมู่บ้านทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำชี

ขณะที่ปริมาณน้ำชีที่หน้าฝายวังยาง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำเก็บกักอยู่ที่ 133.92 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง จากระดับเก็บกักที่ 137.00 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ต่ำกว่าระดับเก็บกัก 3.08 เมตร ซึ่งไม่เพียงพอต่อการทำการเกษตร ทำได้เพียงอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศน์เท่านั้น โดยได้มีการออกประกาศให้แพสูบน้ำต่าง ๆ ที่เป็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นงดสูบน้ำเพื่อการเกษตรในช่วงนี้ และหยุดเดินเครื่องสูบน้ำด้วยไฟฟ้าขนาดใหญ่ของสถานีสูบน้ำเขื่อนวังยาง เนื่องจากฝนทิ้งช่วง และน้ำต้นทุนมีน้อย ซึ่งภายหลังจากที่มีประกาศออกไป ก็ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี จากเดิมที่ปริมาณน้ำเคยลดลงเฉลี่ยวัน ละ 10-15 เซนติเมตร เป็นลดลงวันละ 5-8 เซนติเมตร ซึ่งถือว่าประชาชนมีความตื่นตัวที่ร่วมกันใช้น้ำอย่างประหยัดทำให้น้ำลดลงในทางต่ำ ซึ่งส่งผลดีช่วยให้ยืดระยะเวลาในการบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป


ชัยนาทส่อแล้งหนัก ชลประทานวอนประหยัดน้ำ แนะปลูกข้าวโพด ถั่ว ใช้น้ำน้อย
https://www.matichon.co.th/region/news_1587899

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม จากสถานการณ์ภัยแล้งที่กำลังทวีความรุนแรงและขยายวงกว้างอยู่ในปัจจุบัน ล่าสุดสำนักงานชลประทานที่ 12 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้แจ้งเตือนถึงประชาชนผู้ใช้น้ำ ว่าปัจจุบันน้ำใน 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา หรือพื้นที่ภาคกลางของประเทศ คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณค่อนข้างน้อยต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานการกักเก็บ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับการส่งน้ำเพื่อการเกษตร
จึงขอความร่วมมือจากประชาชนทั่วไปให้ใช้น้ำอย่างประหยัด และในส่วนของเกษตรกรควรหันไปปลูกพืชใช่น้ำน้อยประเภทข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หรือพืชตระกูลถั่ว และในกลุ่มนาลุ่มที่เพาะปลูกข้าวไปแล้วก็ไม่ควรทำนานาต่อเนื่อง ส่วนนาดอนที่ยังไม่ได้เริ่มเพาะปลูกก็ขอให้เลื่อนออกไปก่อน จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงจากจากกรมชลประทาน หรือมีปริมาณฝนสม่ำเสมอ ทั้งนี้เพื่อสงวนน้ำต้นทุนไว้เพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก



เดือดร้อนหนัก! ฝนทิ้งช่วงนานพิมายเหลือน้ำแค่ 1% ชาวนาต้องตัดต้นข้าวทิ้ง
https://www.matichon.co.th/region/news_1587856

วันที่ 19 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงยาวนานหลายเดือนในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า มีประชาชนจำนวนมากได้รับความเดือดร้อนขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และน้ำใช้เพื่อการเกษตร โดยเฉพาะชาวบ้าน บ้านทับควาย หมู่ที่ 5 ตำบลชีวาน อำเภอพิมาย ขาดแคลนแหล่งน้ำใช้ในการอุปโภคบริโภค ทำให้ชาวบ้าน 90 หลังคาเรือน จำนวน 500 คน ได้รับความเดือดร้อนหนัก เนื่องจากแหล่งน้ำที่ใช้ผลิตน้ำประปาหมู่บ้านในปัจจุบัน
มีปริมาณน้ำเหลือเพียงแค่ 1% ของความจุเท่านั้น ทำให้คณะการหมู่บ้าน ซึ่งเป็นผู้ดูแลประปาหมู่บ้าน จำเป็นต้องเปิดปิดน้ำประปาเป็นช่วงเวลา โดยจะเปิดน้ำให้ชาวบ้านได้ใช้ในช่วงเช้าและช่วงเย็นเท่านั้น

นายประหยัด รักษาชาติ อายุ 64 ปี ผู้ดูแลประปาหมู่บ้าน กล่าวว่า ในปีนี้เป็นปีที่ฝนทิ้งช่วงยาวนานที่สุดในรอบ 40 ปี ทำให้สระน้ำขนาดใหญ่ที่ใช้ผลิตน้ำประปาหมู่บ้านแห้งขอดจนหมด เหลือน้ำใช้ผลิตประปาหมู่บ้านเพียงแค่ 10 วัน จึงมีความจำเป็นต้องกำหนดเวลาเปิดปิดน้ำให้ชาวบ้านได้ใช้สอย โดยหากภายใน 10 วันนี้ไม่มีน้ำมาเติมลงสระน้ำแห่งนี้ ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านจะขาดน้ำใช้อย่างแน่นอน จึงวอนให้หน่วยงานภาครัฐลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือชาวบ้านเป็นการเร่งด่วน

นายชัยยง ชัยบุรี อายุ 55 ปี เกษตรกรปลูกข้าวนาปีใน ต.ชีวาน กล่าวว่า ได้นำเครื่องตัดหญ้า มาตัดต้นข้าวทิ้ง จำนวน 50 ไร่ สาเหตุเพราะฝนทิ้งช่วงนานหลายเดือนทำให้ต้นข้าวหยุดการเจริญเติบโต เพราะขาดแคลนน้ำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าว จำเป็นต้องให้เพื่อนบ้านมาช่วยตัดต้นข้าวเพื่อนำไปใช้เลี้ยงโค กระบือแทน ดีกว่าปล่อยให้ต้นข้าวแห้งเหี่ยวตาย ซึ่งต้องสูญเงินลงทุนปลูกข้าวนาปีไปแล้วกว่า 5 หมื่นบาท อย่างไรก็ตาม ตนเตรียมจะลงทุนไถหว่านข้าวนาปีอีกรอบ เสี่ยงรอคอยน้ำฝนที่อาจจะตกลงมาในช่วงระยะนี้ ซึ่งยังมีเกษตรกปลูกข้าวนาปีอีกหลายรายในอำเภอพิมายที่ได้รับความเดือดร้อนหนักเช่นกัน
จำเป็นต้องปล่อยให้ต้นข้าวยืนต้นตายทั้งหมดเพราะขาดน้ำ และคาดว่า จะแล้งยาวนานต่อไปอีก จึงวอนภาครัฐหาแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรเป็นการเร่งด่วนด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่