เกริ่นกันก่อนว่ากระทู้นี้ยาวหน่อย และไม่ได้เป็นการโอ้อวด อุตริ ใดๆทั้งสิ้น ก็จะแค่มาแชร์ประสบการณ์กับการฝึกฝนเพื่อที่จะวิ่งให้จบเป็น Marathoner เต็มตัวของนักวิ่งหน้าใหม่ เวลาของผมที่จบก็ไม่ได้ดีอะไรเท่าไหร่หรอกครับ Pace 7 ครึ่ง ท่านใดมีของอย่าแกล้งกันนะคร๊าบบบ ต้องการแค่อยากมาแชร์ประสบการณ์เท่านั้นเอง และมาราธอนแรกของผมนี้ไม่แน่ใจว่าอาจจะเป็นมาราธอนสุดท้ายของผมรึเปล่า ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ถ้าอ่านให้จบ จะรู้ครับว่ามันมีเหตุผลในตัวและส่วนตัว ฮ่าๆๆ เหตุผลที่หนักที่สุดคือขี้เกียจซ้อม เดี๋ยวท้ายๆจะบอกครับว่าทำไม
ย้อนไปปี 2017 คงเหมือนกับใครหลายๆคนที่ "อ้วน" และก็อยากจะลดความอ้วน และ รักษาสุขภาพ ด้วยวิธีการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง รองเท้าวิ่งคู่แรก ซื้อจากญี่ปุ่น Mizuno รุ่นไหนไม่รู้ ถูกดี เลยเอามาใส่ก่อน ผลคือ แค่ 300 เมตรรอบคอนโด หอบแหลก ขึ้นคอนโดเลย หยุดไป 3 วัน เอาเว้ยวิ่งใหม่ วิ่งๆเดินๆ ได้ 2 โลเหนื่อยอิ๊บอ๋าย จากนั้นหยุดเลย แล้วมาตั้งคำถามว่า ทำไมคนอื่นวิ่งได้ แล้วทำไมเราถึงวิ่งไม่ได้ ผอมก็ไม่ได้ผอมซักที น้ำหนักตอนนั้น 92 หน้าบวม ท้องยื่น หาเสื้อใส่ลำบาก ช่วงนั้น ผมได้ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการวิ่ง ในหลายๆเพจ หลายๆ YouTube ทั้งไทย หรั่ง อีกทั้งเพื่อนที่ทำงาน เพื่อนที่คอนโด ข้อมูลเต็มหัวไปหมด
... แต่จะตัดตอนสำคัญๆมาให้เพื่อนๆที่กำลังอยากจะเริ่มวิ่งคือ
- การหายใจ
- สมาธิ
- ท่วงท่า จังหวะการวิ่ง....
3 สิ่งนี้ถ้าคุณมีระเบียบวินัยในการฝึก ยังไงๆก็จบ เอาละได้คีย์มาไม่ยากเท่าการฝึกหรอก กระตุ้นตัวเองซะหน่อย ซื้อรองเท้าคู่ใหม่มันซะเลย #คู่ 2 มาล่ะจร้า Asic dynaflyte 2 วิ่งอยู่ซักเดือนได้ ขายทิ้งเพราะมันบีบเท้าเหลือเกิน เราเป็นคนหน้าเท้ากว้าง วิ่งนานพื้นร้อน ผมหยุดไป 1 สัปดาห์เพื่อหารองเท้าที่น่าจะเหมาะกับตัวเอง จนมาได้คู่นี้ครับ Brook Ghost 10 สเตป ท่วงท่าผมพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆฝึก Zone 2 (ไม่ขออธิบายนะครับ ใน Google มีเยอะ) ผมเริ่มหาเพลงมาฟังเพื่อวิ่งให้เข้ากับจังหวะเพลง เริ่มไม่สนคนอื่นจะวิ่งเร็วแค่ไหน สุดท้ายผมก็ค้นพบว่า การวิ่งเราไม่ได้แข่งกับใคร การวิ่งที่มีความสุขที่สุด มันคือการวิ่งอยู่ในใจตัวคุณเอง ท่วงท่าที่ดีที่สุดคือท่วงท่าที่เราวิ่งแล้วสบายที่สุด ร่างกายจะจัดระเบียบตัวคุณเอง ให้วิ่งสบายที่สุด เมื่อคุณได้แล้ว #จำไว้ ฝึกท่านั้นแหละ ฝึกไปเรื่อยๆ สุดท้ายรองเท้าขาด บ้าที่สุด อุตส่าห์ฝึกคู่นี้เพื่อที่จะไป Amazing Thailand Marathon มาขาดก่อนงานจะเริ่มประมาณเดือนนึงได้ เลยเข้าไปดูในเวป runrepeat เจอ Altra escanlante racer มีคนรีวิวแง่บวกเยอะมา ก็จัดไปเลย Altra encanlante Racer Newyork ก็รู้นะว่ามันคือ Drop 0 ก็เลยต้องมาฝึกกันใหม่ ฝึกได้ 2 สัปดาห์ มา long run เข้าไปทีเดียวเท่านั้นแหละ รองช้ำมาเลย แต่ก็มาซ้อมจนชินนะครับ แต่สุดท้ายสำหรับ Marathon แรกที่ผมเลือกคือ Nike Vaporfly 4% เพราะไปเดินเจอที่ฮ่องกง เลยเอามา มี Drama ตอนแข่งนิดหน่อย เดี๋ยวช่วงแข่งเล่าให้ฟังครับ
#รายการแรกที่ขอ license คุณแม่บ้านให้ไปวิ่ง แต่ไม่ได้วิ่ง#
Amazing Thailand Marathon 2019 เป็นงานที่ผมเตรียมพร้อมมากๆ สำหรับ การเปิดตัววิ่งรายการแรก ไม่เคยวิ่งรายการที่ไหนมาก่อนเลย ลงครั้งแรกก็มาราธอนเลย สาเหตุว่าทำไมถึงไม่ลงมินิ ลงฮาฟก่อนเลย เนื่องจากว่า คุณแม่บ้านไม่อินเนอร์กับสิ่งนี้เลย ต้องทำเรื่องขอใบอนุญาติ สมัครเรียบร้อย ซ้อมมาพร้อมมากๆ แต่ในตอนนั้นกรุงเทพมีปัญหาเรื่องฝุ่นพิษ PM 2.5 ผลคือ #โดนยึดใบอนุญาติไปเฉยๆ ฮ่าๆๆ ทั้งๆที่วันวิ่งไม่มีฝุ่น เศร้าใจ เคลียร์กันอยู่คืนกว่าๆ คือเราบอกไปว่า เราตั้งใจ เราอยากจะพิสูจน์ตัวเอง ว่าเราก็ทำได้ เราฝึกวิ่งมาเป็นปี ฝึกเข้าโปรแกรมมาราธอน ที่ผมออกแบบเอง เกือบ 40 สัปดาห์ก็เพื่อสิ่งนี้
*** สรุปคือ ได้ license คืนมาจ้าาาาา... ***
แต่จะรอปีหน้าคงไม่ไหว ก็หาข้อมูลเลย ตั้งแต่ มีนายันปลายปี มีรายการมาราธอนไหนบ้าง โดยที่เลือกต้องเป็นต่างจังหวัดทั้งหมด เพราะเข็ดอีฝุ่นพิษนี่แหละ
ก่อนที่จะได้รายการแรกลงแข่งขัน ขอคั่นด้วยการฝึกแบบกะทัดรัดหน่อยละกันนะครับ ผมซ้อมแบบไหนบ้าง ลองไปดูใน Excel นะครับ ผมแนบลิ้งค์ไว้ให้ด้วย ลองไปโหลดดูครับ ซึ่งการฝึกจะซ้ำๆกันทุกสัปดาห์คือ ภายใน 7 วัน
- แรกๆควรต้องมี Z2 อย่างต่ำ 2 วัน หลายวันไม่ไหว เหนื่อยและเมื่อย
- Tempo 1 วัน
- วิ่งสบายๆอีก 1 วัน
- บางสัปดาห์ แทรก Fartlek 1 วัน แทน Tempo
- Interval ซ้อมน้อยมากๆ คนที่อยากวิ่งเร็วควรซ้อม แต่ผมแค่อยากจบ Full เลยซ้อมน้อยมาก
- Long run อันนี้สำคัญ ต้องซ้อมอย่างน้อยเดือนละครั้ง สำหรับผมคำว่า long run ควรเกิน 25 Km เป็นต้นไป แต่ผมซ้อมสูงสุดแค่ 33 Km ครับ ที่เหลือไปวัดดวงเอา
- หลังๆซ้อมวิ่งขึ้นตึกลานจอดรถคอนโดบ้าง
- อันนี้สำคัญกว่า Long run คือการ "พัก" ผมพัก 2 - 3 วันต่อสัปดาห์ครับ
น่าจะมีแค่นี้ครับ สำหรับการฝึกของผม.....แทรกและออกแบบตารางกันเอาเองนะครับ ผมว่าตารางผมชิลๆนะ มีบางสัปดาห์ไปเที่ยวก็หยุดไปเลยก็มี บางสัปดาห์ก็เข้มข้นอยู่ ลองไปปรับกันดูครับ
https://www.mediafire.com/file/wkucq789rj08pgq/way_to_marathon.xlsx/file ท่านใด Download ไม่ได้ก็ Inbox หรือ Message มาหาที่เพจผมก็ได้ครับ
https://www.facebook.com/ekkaactjourney "Ekka Act Journey"
*** Laguna Phuket Marathon ***
ทำไมผมถึงเลือกที่นี่ เนื่องจากว่า ภูเก็ตเป็นเกาะมีทะเลล้อมรอบเกือบทั้งหมด อากาศน่าจะดี ลมน่าจะมี ถ้าโชคดีฝนคงจะตก โดยส่วนตัวผมเป็นนักวิ่งแพ้แดด ถ้าแดดออกคือ จบ วิ่งไม่ไหวครับ แรงไม่มีเลยจริงๆ แต่วันไหนถ้าฝนตกนะครับ โหย.. หัวใจต่ำมาก วิ่งเท่าไหร่ก็ไม่เหนื่อย เอาล่ะ สมัครเลย...
*** Laguna Phuket Marathon 2019 ***
เอาล่ะ !! ในที่สุดก็มาถึงวันวิ่งเสียที ผมเลือกพักที่ Cassia Phuket ซึ่งเป็นโรงแรมที่ใกล้และถูกที่สุดในระแวกนั้น ออกจากโรงแรมก็เดินไป 200 เมตรก็ถึงงานละครับ เดี๋ยวลงคลิปบรรยากาศ ทั้งเที่ยว ทั้งวิ่ง ทั้งกิน และห้องพักมาให้ชมช่วงท้ายนะครับ
03:15 เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นแล้วจ้า.... เมื่อคืนหลับตอน 22:30 เห็นจะได้
03:45 อาบน้ำ - แต่งตัวเสร็จพอดีจ้า ปลุกเร้าอารมณ์ตัวเองในกระจกนิดหน่อย แต่เสียงดังไม่ได้เดี๋ยวคุณแม่บ้านด่า ฮ่าๆๆ
04:00 เดินจากโรงแรม 200 เมตรก็ถึงบริเวณที่จัดงานครับ และก็ Warm up 20 นาทีครับ แล้วก็เดินเข้า Block เลยครับ Block ของผมคือ Block E ครับ แต่เห็น Block D ว่างๆอยู่ ผมเลยเดินเลาะๆไป Block D ช่วงท้ายๆ กะว่าช่วงแรกจะใส่ Pace 6 ก่อนเลย ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดและท้อแท้มาก ฮ่าๆๆ
04:30 เริ่ม Start ที่จุดปล่อยตัวครับ และฝนก็โปรยปรายมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีครับ ผมคนชอบวิ่งฝ่าฝน เย็นสบายมากๆ
Km 1. ออกตัวกันเร็วทุกคนเลย อิ๊บอ๋าย ไม่เคยวิ่งงานไหนเลย ก็ออกตัวเร็วกันแบบนี้ทุกคนเลยเหรอนี่ เคยแต่ซ้อมอย่างเดียว เลยต้องเข้าขอบซ้ายเลยครับ ให้คนอื่นที่วิ่งเร็วเค้าไปกันก่อน
Km 2 - 5. เอาจริงๆนะ ตอนนั้นคิดว่าคงจะมีใครซักคนผ่อนแรงลงมา และเราก็แซงขึ้นไป ขออ้างถึงตอนซ้อมหน่อยครับ เวลาผมซ้อม ผมจะมองหาคนข้างหน้าที่เดิน หรือวิ่งช้าๆ แล้วกำหนดว่าเราต้องวิ่งไปเรื่อยๆโดยไม่หยุดให้ถึงคนข้างหน้า แต่ตอนนี้เป้าหมายเคลื่อนที่ตลอดเวลา อิ๊บอ๋ายสิ แถมคนข้างหลังก็แซงขึ้นมาเรื่อยๆอีก
Km 5 - 10. จริงๆแล้ววิ่งตามแผนที่ตัวเองซ้อมมาตลอดคือ 10 โลแรก Pace 7 แต่ด้วยความที่ว่าโดนแซงไปเรื่อยๆคนแล้วคนเล่า ขนาดคุณพี่ฝรั่งใส่ชุดไดโนเสาร์ดูวิ่งไม่ค่อยถนัด ก็ยังวิ่งแซง #กำลังใจเริ่มเสีย นี่ตรูตกไปอยู่ท้ายสุดรึยังวะ กลัวมากๆเพราะมันจะส่งผลไปถึง กิโลต่อๆไปเป็นอย่างมาก ตั้งแต่โลที่ 1 ถึง 10 นี้ผมไม่มองข้างหลังเลย กลัวจะมองไปแล้วไม่เหลือใคร ฮ่าๆๆ โดยรวมของทางทั้งหมด ส่วนตัวผมว่าโค้งลาดเอียงเยอะ ทำให้รองเท้าที่ผมใส่ กับ การลงเท้าไม่ค่อยสัมพันธ์กันเลย (ตอนซ้อมไม่มีแบบนี้ ไม่เคยคิดว่าต้องมาวิ่งแบบนี้ด้วย) การลงเท้ารู้สึกได้ว่าผิดปรกติ แต่ก็ยั้งๆฝืนๆเอาไว้ ตรงนี้เป็นส่วนนึงที่ทำให้รู้สึกว่า เท้าขวาเริ่มจะพอง.....แต่ยังไม่ได้คิดอะไร
### อยู่กับตัวเอง เป็นสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจ ถูกต้อง ###
Km 10 - 12. เนินล้วนๆ มองไม่เห็นหรอกว่ามันคือเนิน แต่มันรู้สึกได้ ผมตัดสินใจว่า ผมจะไม่สนใจใครทั้งนั้น ผมจะวิ่งเพื่อตัวเอง วิ่งเพื่อแรงกายแรงใจ ที่ผมฝึกและเตรียมตัวมา ให้เกียรติและมั่นใจตัวเอง ว่าตัวเองก็ทำได้ ช่วงกิโลนี้สมาธิผมเริ่มแน่นขึ้น สายตาที่มองไปข้างหน้า ผมไม่ได้มองคนวิ่งเลย ผมมองเสาไฟฟ้า ป้ายไฟ เป็นตัวกำหนดว่าจะวิ่งไปเรื่อยๆให้ถึงตรงนั้นตรงนี้ บวกกับ ชื่นชมแสงธรรมชาติของพระอาทิตย์ใกล้จะลืมตาขึ้นมา
Km. 12 - 15 นี่คือ Km. ที่ผมเริ่มจะแซงคนอื่นเป็นคนแรก แต่ผมไม่ได้สนอะไรตรงนั้นแล้ว เพราะผมเริ่มมีสมาธิมากขึ้นเรื่อยๆ สนใจทุ่งนาป่าเขา บ้านเรือน มองนู้นนี่นั่น รู้สึกว่ามีความสุขที่ได้มาวิ่งที่นี่มากๆ ช่วงๆโลนี้แหละที่เห็นพวก Elite วิ่งสวนกันมาล่ะครับ รู้สึกช่วงนี้จะวิ่งได้ดีขึ้น เหมือนจะวิ่งไปแตะ Pace 6 หลายกิโลอยู่
Km. 15 - 17 นี่คือกิโลเมตรแห่งความทรงจำ ก่อนจะเข้าหาดอะไรซักอย่าง วิ่งไม่ได้สังเกตุชื่อหาดเลย ถ้าให้เดาอาจจะเป็นหาดบางเทารึเปล่าไม่แน่ใจ แผนที่ก็ไม่ได้ดูจะวิ่งไปไหนบ้าง พี่ตูนวิ่งสวนมาว่ะ เฮ้ย!! คนข้างหน้าเค้าก็แตะมือพี่ตูนกัน วิ่งสวนผมมา ผมก็อยู่วิ่งคนเดียว ผมก็แตะมือพี่ตูนบ้าง เฮ้ยมีพลังว่ะ ช่วงนั้นขามันจะเปลี้ยๆนิดหน่อย มี 3 อย่างที่ผมมาวิเคราะห์ดูภายหลังช่วงกิโลนั้นทำให้ผมมีแรงวิ่งไปเรื่อยๆต่อไปคือ 1. ได้แตะมือพี่ตูน 2. เจลมันดีด 3. วิ่งเข้าหาดมันไปทรายกับรากไม้ฝอยๆ ทำให้วิ่งได้ง่ายขึ้น
Km. 17 - 21.5 Half ละจร้าพอมาถึงจุดกลับตัว รู้สึกตัวช่วงโลที่ 18 - 19 นี่แหละว่าอาการเท้าพองที่สะสมมาตั้งแต่โลที่ 10 กว่ามันเริ่มออกอาการ เพราะคุณ Nike Vaporfly 4% นี่แหละเนื่องจากว่า ใช้คู่นี้ซ้อมน้อยมากๆ เอาจริงๆก็ Long run ครั้งเดียว 33 โลนี่แหละ แล้วเอามาวิ่งลงงานเลย สาเหตุที่ชอบคู่นี้เพราะว่า ผมว่าใส่แล้วมันดีด มันเด้ง และ มัน Support เท้าเราดีแฮะ ชอบสีสดๆด้วย แต่ช่วงกว้างเท้าเรามันใหญ่ รองเท้าช่วงกว้างจะแคบหน่อย การลงเท้าเลยไม่ค่อยถูกจังหวะ เท้าเลยพอง พองโตเลยทีเดียวล่ะ ผมตัดสินใจหยุดตรงจุดให้น้ำที่จุดกลับตัวนั้นแหละ นั่งลงถอดรองเท้าดูอาการ แต่ไม่กล้าถอดถุงเท้าเพราะถ้าถอดแล้วเรารู้สึกเยอะ ใจจะเสีย เอาฟองน้ำเย็นจุ่มน้ำราดเท้าไปเลย จากนั้นก็ราดเท้าที่พองไปเรื่อยๆทุกจุดให้น้ำ
Km. 21.5 - 25 ความทรมานจากเท้าพองก็ยังไม่หาย โรคใหม่ก็ยังเข้ามาแทรก คือ ITB ที่หน้าขาซ้าย ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเนินล้วนๆ เนินไม่เกรงใจตรูเลย หลังจากนี้ผมตั้งใจเลยว่าถ้าเจอเนินต้องเดิน ถ้าฝืนวิ่ง ผมว่าผมคงไม่จบแน่นอน ทำเหมือนเดิม จุดให้น้ำก็เอาน้ำเย็นมาราดตรงหน้าขาที่เจ็บนั่นแหละ
Km. 25 - 27 ITB ขาซ้ายไม่พอ ตรงเข่าซ้ายก็มาอีก ผมตัดสินใจหยุดอีกครั้งเพื่อยืดตามคลิปที่เคยดูหมอเมย์ใน Youtube บอกไว้ ช่วยได้เยอะเลยจริงๆครับ
### อยู่กับเพลง ###
มีต่อ Comment 1 ครับ ..............................................
[CR] รายการวิ่งแรกกับมาราธอนแรกไปพร้อมๆกัน @ ( Laguna Phuket Marathon 2019 ) และ ตารางฝึกซ้อม 38 สัปดาห์
เกริ่นกันก่อนว่ากระทู้นี้ยาวหน่อย และไม่ได้เป็นการโอ้อวด อุตริ ใดๆทั้งสิ้น ก็จะแค่มาแชร์ประสบการณ์กับการฝึกฝนเพื่อที่จะวิ่งให้จบเป็น Marathoner เต็มตัวของนักวิ่งหน้าใหม่ เวลาของผมที่จบก็ไม่ได้ดีอะไรเท่าไหร่หรอกครับ Pace 7 ครึ่ง ท่านใดมีของอย่าแกล้งกันนะคร๊าบบบ ต้องการแค่อยากมาแชร์ประสบการณ์เท่านั้นเอง และมาราธอนแรกของผมนี้ไม่แน่ใจว่าอาจจะเป็นมาราธอนสุดท้ายของผมรึเปล่า ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ถ้าอ่านให้จบ จะรู้ครับว่ามันมีเหตุผลในตัวและส่วนตัว ฮ่าๆๆ เหตุผลที่หนักที่สุดคือขี้เกียจซ้อม เดี๋ยวท้ายๆจะบอกครับว่าทำไม
ย้อนไปปี 2017 คงเหมือนกับใครหลายๆคนที่ "อ้วน" และก็อยากจะลดความอ้วน และ รักษาสุขภาพ ด้วยวิธีการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง รองเท้าวิ่งคู่แรก ซื้อจากญี่ปุ่น Mizuno รุ่นไหนไม่รู้ ถูกดี เลยเอามาใส่ก่อน ผลคือ แค่ 300 เมตรรอบคอนโด หอบแหลก ขึ้นคอนโดเลย หยุดไป 3 วัน เอาเว้ยวิ่งใหม่ วิ่งๆเดินๆ ได้ 2 โลเหนื่อยอิ๊บอ๋าย จากนั้นหยุดเลย แล้วมาตั้งคำถามว่า ทำไมคนอื่นวิ่งได้ แล้วทำไมเราถึงวิ่งไม่ได้ ผอมก็ไม่ได้ผอมซักที น้ำหนักตอนนั้น 92 หน้าบวม ท้องยื่น หาเสื้อใส่ลำบาก ช่วงนั้น ผมได้ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการวิ่ง ในหลายๆเพจ หลายๆ YouTube ทั้งไทย หรั่ง อีกทั้งเพื่อนที่ทำงาน เพื่อนที่คอนโด ข้อมูลเต็มหัวไปหมด
... แต่จะตัดตอนสำคัญๆมาให้เพื่อนๆที่กำลังอยากจะเริ่มวิ่งคือ
- การหายใจ
- สมาธิ
- ท่วงท่า จังหวะการวิ่ง....
3 สิ่งนี้ถ้าคุณมีระเบียบวินัยในการฝึก ยังไงๆก็จบ เอาละได้คีย์มาไม่ยากเท่าการฝึกหรอก กระตุ้นตัวเองซะหน่อย ซื้อรองเท้าคู่ใหม่มันซะเลย #คู่ 2 มาล่ะจร้า Asic dynaflyte 2 วิ่งอยู่ซักเดือนได้ ขายทิ้งเพราะมันบีบเท้าเหลือเกิน เราเป็นคนหน้าเท้ากว้าง วิ่งนานพื้นร้อน ผมหยุดไป 1 สัปดาห์เพื่อหารองเท้าที่น่าจะเหมาะกับตัวเอง จนมาได้คู่นี้ครับ Brook Ghost 10 สเตป ท่วงท่าผมพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆฝึก Zone 2 (ไม่ขออธิบายนะครับ ใน Google มีเยอะ) ผมเริ่มหาเพลงมาฟังเพื่อวิ่งให้เข้ากับจังหวะเพลง เริ่มไม่สนคนอื่นจะวิ่งเร็วแค่ไหน สุดท้ายผมก็ค้นพบว่า การวิ่งเราไม่ได้แข่งกับใคร การวิ่งที่มีความสุขที่สุด มันคือการวิ่งอยู่ในใจตัวคุณเอง ท่วงท่าที่ดีที่สุดคือท่วงท่าที่เราวิ่งแล้วสบายที่สุด ร่างกายจะจัดระเบียบตัวคุณเอง ให้วิ่งสบายที่สุด เมื่อคุณได้แล้ว #จำไว้ ฝึกท่านั้นแหละ ฝึกไปเรื่อยๆ สุดท้ายรองเท้าขาด บ้าที่สุด อุตส่าห์ฝึกคู่นี้เพื่อที่จะไป Amazing Thailand Marathon มาขาดก่อนงานจะเริ่มประมาณเดือนนึงได้ เลยเข้าไปดูในเวป runrepeat เจอ Altra escanlante racer มีคนรีวิวแง่บวกเยอะมา ก็จัดไปเลย Altra encanlante Racer Newyork ก็รู้นะว่ามันคือ Drop 0 ก็เลยต้องมาฝึกกันใหม่ ฝึกได้ 2 สัปดาห์ มา long run เข้าไปทีเดียวเท่านั้นแหละ รองช้ำมาเลย แต่ก็มาซ้อมจนชินนะครับ แต่สุดท้ายสำหรับ Marathon แรกที่ผมเลือกคือ Nike Vaporfly 4% เพราะไปเดินเจอที่ฮ่องกง เลยเอามา มี Drama ตอนแข่งนิดหน่อย เดี๋ยวช่วงแข่งเล่าให้ฟังครับ
#รายการแรกที่ขอ license คุณแม่บ้านให้ไปวิ่ง แต่ไม่ได้วิ่ง#
Amazing Thailand Marathon 2019 เป็นงานที่ผมเตรียมพร้อมมากๆ สำหรับ การเปิดตัววิ่งรายการแรก ไม่เคยวิ่งรายการที่ไหนมาก่อนเลย ลงครั้งแรกก็มาราธอนเลย สาเหตุว่าทำไมถึงไม่ลงมินิ ลงฮาฟก่อนเลย เนื่องจากว่า คุณแม่บ้านไม่อินเนอร์กับสิ่งนี้เลย ต้องทำเรื่องขอใบอนุญาติ สมัครเรียบร้อย ซ้อมมาพร้อมมากๆ แต่ในตอนนั้นกรุงเทพมีปัญหาเรื่องฝุ่นพิษ PM 2.5 ผลคือ #โดนยึดใบอนุญาติไปเฉยๆ ฮ่าๆๆ ทั้งๆที่วันวิ่งไม่มีฝุ่น เศร้าใจ เคลียร์กันอยู่คืนกว่าๆ คือเราบอกไปว่า เราตั้งใจ เราอยากจะพิสูจน์ตัวเอง ว่าเราก็ทำได้ เราฝึกวิ่งมาเป็นปี ฝึกเข้าโปรแกรมมาราธอน ที่ผมออกแบบเอง เกือบ 40 สัปดาห์ก็เพื่อสิ่งนี้
*** สรุปคือ ได้ license คืนมาจ้าาาาา... ***
แต่จะรอปีหน้าคงไม่ไหว ก็หาข้อมูลเลย ตั้งแต่ มีนายันปลายปี มีรายการมาราธอนไหนบ้าง โดยที่เลือกต้องเป็นต่างจังหวัดทั้งหมด เพราะเข็ดอีฝุ่นพิษนี่แหละ
ก่อนที่จะได้รายการแรกลงแข่งขัน ขอคั่นด้วยการฝึกแบบกะทัดรัดหน่อยละกันนะครับ ผมซ้อมแบบไหนบ้าง ลองไปดูใน Excel นะครับ ผมแนบลิ้งค์ไว้ให้ด้วย ลองไปโหลดดูครับ ซึ่งการฝึกจะซ้ำๆกันทุกสัปดาห์คือ ภายใน 7 วัน
- แรกๆควรต้องมี Z2 อย่างต่ำ 2 วัน หลายวันไม่ไหว เหนื่อยและเมื่อย
- Tempo 1 วัน
- วิ่งสบายๆอีก 1 วัน
- บางสัปดาห์ แทรก Fartlek 1 วัน แทน Tempo
- Interval ซ้อมน้อยมากๆ คนที่อยากวิ่งเร็วควรซ้อม แต่ผมแค่อยากจบ Full เลยซ้อมน้อยมาก
- Long run อันนี้สำคัญ ต้องซ้อมอย่างน้อยเดือนละครั้ง สำหรับผมคำว่า long run ควรเกิน 25 Km เป็นต้นไป แต่ผมซ้อมสูงสุดแค่ 33 Km ครับ ที่เหลือไปวัดดวงเอา
- หลังๆซ้อมวิ่งขึ้นตึกลานจอดรถคอนโดบ้าง
- อันนี้สำคัญกว่า Long run คือการ "พัก" ผมพัก 2 - 3 วันต่อสัปดาห์ครับ
น่าจะมีแค่นี้ครับ สำหรับการฝึกของผม.....แทรกและออกแบบตารางกันเอาเองนะครับ ผมว่าตารางผมชิลๆนะ มีบางสัปดาห์ไปเที่ยวก็หยุดไปเลยก็มี บางสัปดาห์ก็เข้มข้นอยู่ ลองไปปรับกันดูครับ
https://www.mediafire.com/file/wkucq789rj08pgq/way_to_marathon.xlsx/file ท่านใด Download ไม่ได้ก็ Inbox หรือ Message มาหาที่เพจผมก็ได้ครับ https://www.facebook.com/ekkaactjourney "Ekka Act Journey"
*** Laguna Phuket Marathon ***
ทำไมผมถึงเลือกที่นี่ เนื่องจากว่า ภูเก็ตเป็นเกาะมีทะเลล้อมรอบเกือบทั้งหมด อากาศน่าจะดี ลมน่าจะมี ถ้าโชคดีฝนคงจะตก โดยส่วนตัวผมเป็นนักวิ่งแพ้แดด ถ้าแดดออกคือ จบ วิ่งไม่ไหวครับ แรงไม่มีเลยจริงๆ แต่วันไหนถ้าฝนตกนะครับ โหย.. หัวใจต่ำมาก วิ่งเท่าไหร่ก็ไม่เหนื่อย เอาล่ะ สมัครเลย...
*** Laguna Phuket Marathon 2019 ***
เอาล่ะ !! ในที่สุดก็มาถึงวันวิ่งเสียที ผมเลือกพักที่ Cassia Phuket ซึ่งเป็นโรงแรมที่ใกล้และถูกที่สุดในระแวกนั้น ออกจากโรงแรมก็เดินไป 200 เมตรก็ถึงงานละครับ เดี๋ยวลงคลิปบรรยากาศ ทั้งเที่ยว ทั้งวิ่ง ทั้งกิน และห้องพักมาให้ชมช่วงท้ายนะครับ
03:15 เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นแล้วจ้า.... เมื่อคืนหลับตอน 22:30 เห็นจะได้
03:45 อาบน้ำ - แต่งตัวเสร็จพอดีจ้า ปลุกเร้าอารมณ์ตัวเองในกระจกนิดหน่อย แต่เสียงดังไม่ได้เดี๋ยวคุณแม่บ้านด่า ฮ่าๆๆ
04:00 เดินจากโรงแรม 200 เมตรก็ถึงบริเวณที่จัดงานครับ และก็ Warm up 20 นาทีครับ แล้วก็เดินเข้า Block เลยครับ Block ของผมคือ Block E ครับ แต่เห็น Block D ว่างๆอยู่ ผมเลยเดินเลาะๆไป Block D ช่วงท้ายๆ กะว่าช่วงแรกจะใส่ Pace 6 ก่อนเลย ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดและท้อแท้มาก ฮ่าๆๆ
04:30 เริ่ม Start ที่จุดปล่อยตัวครับ และฝนก็โปรยปรายมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีครับ ผมคนชอบวิ่งฝ่าฝน เย็นสบายมากๆ
Km 1. ออกตัวกันเร็วทุกคนเลย อิ๊บอ๋าย ไม่เคยวิ่งงานไหนเลย ก็ออกตัวเร็วกันแบบนี้ทุกคนเลยเหรอนี่ เคยแต่ซ้อมอย่างเดียว เลยต้องเข้าขอบซ้ายเลยครับ ให้คนอื่นที่วิ่งเร็วเค้าไปกันก่อน
Km 2 - 5. เอาจริงๆนะ ตอนนั้นคิดว่าคงจะมีใครซักคนผ่อนแรงลงมา และเราก็แซงขึ้นไป ขออ้างถึงตอนซ้อมหน่อยครับ เวลาผมซ้อม ผมจะมองหาคนข้างหน้าที่เดิน หรือวิ่งช้าๆ แล้วกำหนดว่าเราต้องวิ่งไปเรื่อยๆโดยไม่หยุดให้ถึงคนข้างหน้า แต่ตอนนี้เป้าหมายเคลื่อนที่ตลอดเวลา อิ๊บอ๋ายสิ แถมคนข้างหลังก็แซงขึ้นมาเรื่อยๆอีก
Km 5 - 10. จริงๆแล้ววิ่งตามแผนที่ตัวเองซ้อมมาตลอดคือ 10 โลแรก Pace 7 แต่ด้วยความที่ว่าโดนแซงไปเรื่อยๆคนแล้วคนเล่า ขนาดคุณพี่ฝรั่งใส่ชุดไดโนเสาร์ดูวิ่งไม่ค่อยถนัด ก็ยังวิ่งแซง #กำลังใจเริ่มเสีย นี่ตรูตกไปอยู่ท้ายสุดรึยังวะ กลัวมากๆเพราะมันจะส่งผลไปถึง กิโลต่อๆไปเป็นอย่างมาก ตั้งแต่โลที่ 1 ถึง 10 นี้ผมไม่มองข้างหลังเลย กลัวจะมองไปแล้วไม่เหลือใคร ฮ่าๆๆ โดยรวมของทางทั้งหมด ส่วนตัวผมว่าโค้งลาดเอียงเยอะ ทำให้รองเท้าที่ผมใส่ กับ การลงเท้าไม่ค่อยสัมพันธ์กันเลย (ตอนซ้อมไม่มีแบบนี้ ไม่เคยคิดว่าต้องมาวิ่งแบบนี้ด้วย) การลงเท้ารู้สึกได้ว่าผิดปรกติ แต่ก็ยั้งๆฝืนๆเอาไว้ ตรงนี้เป็นส่วนนึงที่ทำให้รู้สึกว่า เท้าขวาเริ่มจะพอง.....แต่ยังไม่ได้คิดอะไร
### อยู่กับตัวเอง เป็นสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจ ถูกต้อง ###
Km 10 - 12. เนินล้วนๆ มองไม่เห็นหรอกว่ามันคือเนิน แต่มันรู้สึกได้ ผมตัดสินใจว่า ผมจะไม่สนใจใครทั้งนั้น ผมจะวิ่งเพื่อตัวเอง วิ่งเพื่อแรงกายแรงใจ ที่ผมฝึกและเตรียมตัวมา ให้เกียรติและมั่นใจตัวเอง ว่าตัวเองก็ทำได้ ช่วงกิโลนี้สมาธิผมเริ่มแน่นขึ้น สายตาที่มองไปข้างหน้า ผมไม่ได้มองคนวิ่งเลย ผมมองเสาไฟฟ้า ป้ายไฟ เป็นตัวกำหนดว่าจะวิ่งไปเรื่อยๆให้ถึงตรงนั้นตรงนี้ บวกกับ ชื่นชมแสงธรรมชาติของพระอาทิตย์ใกล้จะลืมตาขึ้นมา
Km. 12 - 15 นี่คือ Km. ที่ผมเริ่มจะแซงคนอื่นเป็นคนแรก แต่ผมไม่ได้สนอะไรตรงนั้นแล้ว เพราะผมเริ่มมีสมาธิมากขึ้นเรื่อยๆ สนใจทุ่งนาป่าเขา บ้านเรือน มองนู้นนี่นั่น รู้สึกว่ามีความสุขที่ได้มาวิ่งที่นี่มากๆ ช่วงๆโลนี้แหละที่เห็นพวก Elite วิ่งสวนกันมาล่ะครับ รู้สึกช่วงนี้จะวิ่งได้ดีขึ้น เหมือนจะวิ่งไปแตะ Pace 6 หลายกิโลอยู่
Km. 15 - 17 นี่คือกิโลเมตรแห่งความทรงจำ ก่อนจะเข้าหาดอะไรซักอย่าง วิ่งไม่ได้สังเกตุชื่อหาดเลย ถ้าให้เดาอาจจะเป็นหาดบางเทารึเปล่าไม่แน่ใจ แผนที่ก็ไม่ได้ดูจะวิ่งไปไหนบ้าง พี่ตูนวิ่งสวนมาว่ะ เฮ้ย!! คนข้างหน้าเค้าก็แตะมือพี่ตูนกัน วิ่งสวนผมมา ผมก็อยู่วิ่งคนเดียว ผมก็แตะมือพี่ตูนบ้าง เฮ้ยมีพลังว่ะ ช่วงนั้นขามันจะเปลี้ยๆนิดหน่อย มี 3 อย่างที่ผมมาวิเคราะห์ดูภายหลังช่วงกิโลนั้นทำให้ผมมีแรงวิ่งไปเรื่อยๆต่อไปคือ 1. ได้แตะมือพี่ตูน 2. เจลมันดีด 3. วิ่งเข้าหาดมันไปทรายกับรากไม้ฝอยๆ ทำให้วิ่งได้ง่ายขึ้น
Km. 17 - 21.5 Half ละจร้าพอมาถึงจุดกลับตัว รู้สึกตัวช่วงโลที่ 18 - 19 นี่แหละว่าอาการเท้าพองที่สะสมมาตั้งแต่โลที่ 10 กว่ามันเริ่มออกอาการ เพราะคุณ Nike Vaporfly 4% นี่แหละเนื่องจากว่า ใช้คู่นี้ซ้อมน้อยมากๆ เอาจริงๆก็ Long run ครั้งเดียว 33 โลนี่แหละ แล้วเอามาวิ่งลงงานเลย สาเหตุที่ชอบคู่นี้เพราะว่า ผมว่าใส่แล้วมันดีด มันเด้ง และ มัน Support เท้าเราดีแฮะ ชอบสีสดๆด้วย แต่ช่วงกว้างเท้าเรามันใหญ่ รองเท้าช่วงกว้างจะแคบหน่อย การลงเท้าเลยไม่ค่อยถูกจังหวะ เท้าเลยพอง พองโตเลยทีเดียวล่ะ ผมตัดสินใจหยุดตรงจุดให้น้ำที่จุดกลับตัวนั้นแหละ นั่งลงถอดรองเท้าดูอาการ แต่ไม่กล้าถอดถุงเท้าเพราะถ้าถอดแล้วเรารู้สึกเยอะ ใจจะเสีย เอาฟองน้ำเย็นจุ่มน้ำราดเท้าไปเลย จากนั้นก็ราดเท้าที่พองไปเรื่อยๆทุกจุดให้น้ำ
Km. 21.5 - 25 ความทรมานจากเท้าพองก็ยังไม่หาย โรคใหม่ก็ยังเข้ามาแทรก คือ ITB ที่หน้าขาซ้าย ซึ่งตรงนี้ก็เป็นเนินล้วนๆ เนินไม่เกรงใจตรูเลย หลังจากนี้ผมตั้งใจเลยว่าถ้าเจอเนินต้องเดิน ถ้าฝืนวิ่ง ผมว่าผมคงไม่จบแน่นอน ทำเหมือนเดิม จุดให้น้ำก็เอาน้ำเย็นมาราดตรงหน้าขาที่เจ็บนั่นแหละ
Km. 25 - 27 ITB ขาซ้ายไม่พอ ตรงเข่าซ้ายก็มาอีก ผมตัดสินใจหยุดอีกครั้งเพื่อยืดตามคลิปที่เคยดูหมอเมย์ใน Youtube บอกไว้ ช่วยได้เยอะเลยจริงๆครับ
### อยู่กับเพลง ###
มีต่อ Comment 1 ครับ ..............................................
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้