Train to เปียงยาง 3 วัน 2 คืน เกาหลีเหนือความงามเรียบง่ายสไตล์คอมมิวนิสต์ งบ 30,000 by พี่วากิว
Part2: จากปักกิ่งไปตานตง
ตอนที่แล้วพี่วากิวได้ระบุเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องเตรียมไปแล้ว 6 ขั้นตอน ตั้งแต่เลือกทัวร์ เลือกเที่ยวบิน เลือกเที่ยวรถไฟ ทำวีซ่า แลกเงิน จัดกระเป๋า และเตรียมใจ
https://ppantip.com/topic/38948150
โดยการเดินทางไปเกาหลีเหนือครั้งนี้พี่วากิวเลือกลงที่ปักกิ่ง สายการบิน Air China Southern Airline เดินทางวันที่ 16-20 พฤษภาคม 19 พี่วากิวได้ราคาโปรโมชั่นอยู่ที่ 5,120 เป็นบริการบินแบบ Full Service ฟรีโหลดกระเป๋า และ อาหารบนเครื่อง แต่ไม่ได้บินตรง ต้องแวะไปเปลี่ยนเครื่องที่กวางโจวขาไป ส่วนขากลับแวะบินกลับที่เซินเจิ่นค่ะ
เที่ยวบินของพี่วากิวไปปักกิ่งเวลา 02.15 ขึ้นจากสนามสุวรรณภูมิพี่วากิวก็จัดหนักด้วยการแวะเล้าจน์ต่างๆ โดยใช้บัตร Priority pass และไปแวะเปลี่ยนเครื่องที่กวางโจว กว่าจะถึงปักกิ่งก้อประมาณ 11.30 ร่างกายเริ่มตึงๆ เมื่อยๆ รีบออกจากเกทไปสูดบรรยากาศปักกิ่ง ซึ่งเป็นเมืองที่พี่วากิวเคยมาเมื่อ 2 ปีที่แล้วประสบการณ์ในการเที่ยวครั้งนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้เราก็คิดว่าเออ! ไม่เป็นไรแค่แวะมานั่งรถไฟไปตานตงชิลๆ 555
แพลนสำหรับวันนี้คือ หลังจากลงเครื่องแล้วออกจากสนามบิน จะไปฝากกระเป๋าที่จุดรับฝากสถานีรถไฟและแลกตั๋วรถไฟที่เราซื้อมาจาก ออนไลน์เที่ยวรถไฟเวลา 17.25 เพราะฉะนั้นพี่วากิวจะมีเวลาเที่ยวปักกิ่งประมาณ 3-4 ชั่วโมง จึงตัดสินใจเลือกเที่ยวที่ Summer Palace พระราชวังฤดูร้อน
ครั้งที่แล้วที่มาปักกิ่งยังไม่เคยมาที่นี่เลย ต้องจัดสักหน่อยแล้ว^^
จากสนามบินปักกิ่งไปสถานีรถไฟปักกิ่งยังไงดี?
เมืองปักกิ่ง คมนาคมของเค้าก้าวล้ำกว่าประเทศไทย สะดวกสบายและราคาไม่แพง พี่วากิวเลือกเดินทางจากสนามบินโดย Metro จุดแรกที่เราต้องทำเมื่อออกจากเกท คือ หาป้ายที่บอกว่าไปรถไฟฟ้า Airport Express
นั่นๆไง เห็นแล้วใช่เปล่า ลงลิฟต์ไปเลย จากนั้นซื้อตั๋วรถไฟ ค่าตั๋วรถไฟอยู่ที่ 25 หยวน ประมาณ 125 บาทค่ะ ซื้อจากตู้หรือจากพนักงานได้เลยค่ะ เส้นทางที่เราจะไปคือโดยสถานีที่เราจะต้องลงคือ Dongzhimen นะคะ เส้นทางเป็นแบบนี้ Airport – Dongzhimen แล้วเปลี่ยนรถไปสาย 2 สายสีน้ำเงิน – Beijing Railway Station (ประมาณ 4 สถานี ถึงสถานีรถไฟเลยค่ะ ค่าตั๋วอยู่ที่ 3 หยวน 15 บาท เท่านั้นนนน กลับมาดู BTS และ MRT แล้วนั้น...........น้ำตาจิไหล
แผนที่ตามนี้ค่ะ
ถึงสถานีรถไฟแล้วสิ่งที่ต้องทำคือ ไปแลกตั๋วรถไฟ ออกจากสถานีมาจะอยู่ขวามือ พี่วากิวเลือกที่จะมาแลกตั๋วรถไฟก่อนเพราะจะได้ทำความเข้าใจและให้มั่นใจว่าเราจะได้ตั๋วรถไฟจริง โดยโชว์การจองจากในมือถือเราให้เจ้าหน้าที่(แอพนี้มีภาษาจีนแสดงให้ดูด้วย) เจ้าหน้าที่ก้อจะปริ้นท์ตั๋วออกมาให้เราค่ะ
จากนั้นเราไปจุดรับฝากกระเป๋าอยู่ไม่ห่างกันมากค่าฝากกระเป๋าอยู่ที่ 30 หยวน 150 บาท) เราจะได้ไม่ต้องแบกกระเป๋าหนักๆ ไปเที่ยวนะ
ตรงนี้คือจุดแลกบัตรค่ะ
ทางเข้าสถานีรถไฟภายในซึ่งเราจะต้องมีบัตรแล้วเท่านั้น
ส่วนนี่คือจุดฝากกระเป๋า 30 หยวน 150 บาท ก็พอรับได้ค่ะ ฝากได้ไม่เกินเที่ยงคืน เรทเดียวเท่ากัน
เสร็จภารกิจแลกตั๋วรถไฟละสบายใจหายห่วง มุ่งหน้าไป Summer Palace กันเลย จะบอกว่าอากาศออกเย็นชิลๆ จะมีฝนตกปรอยๆมาบ้างแต่ไม่หนักมาก อ่ะ! เราไปนั่งรถไฟฟ้าไปที่ Summer Palace เส้นทางตามนี้ค่ะ
Beijing Railway – Xuanwumen เปลี่ยนจากสาย 2 ไปสาย 4 ที่สถานีนี้ นั่งยาวววว – ลงที่ Beigongmen ประมาณ 20 สถานี ก็เกือบชั่วโมงอยู่นะ
ค่าตั๋วอยู่ที่ 6 หยวน 30 บาท น้ำตาพี่วากิวไหลอีกแล้ว ค่ารถไฟฟ้าถูกเหลือเกิน
เส้นทางรถไฟไป summer palace
หลังจากนั่งรถไฟมานานก็มาถึงแล้ว Beigongmen เดินตามป้ายเพื่อไปทางเข้า พระราชวังฤดูร้อน Summer palace จ้า
ค่าเข้าอยู่ที่ 30 หยวน 150 บาท
เดินกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ แต่พี่วากิวมีเวลาน้อย เน้นเดินแบบกว้างๆ ไม่เน้นเดินเจาะเท่าไหร่ อากาศไม่ร้อนก็สบายๆ หน่อย
พระราชวังฤดูร้อนพร้อมด้วยอุทยานอี๋เหอ-ยฺเหวียนได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ "พระราชวังฤดูร้อนและอุทยานในกรุงปักกิ่ง"
อี๋เหอ-ยฺเหวียนมีพื้นที่ประมาณ 2.9 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,812.5 ไร่ ประกอบด้วยเนินเขาสูง 60 เมตร มีพระตำหนักอยู่บนเนิน และทะเลสาบคุนหมิง มีเนื้อที่ประมาณ 2.2 ตารางกิโลเมตร หรือ (1,375 ไร่) คิดเป็น 3 ใน 4 ของพื้นที่ทั้งหมดโดยทะเลสาบนี้เกิดจากการใช้แรงงานคน ขุดดินขึ้นไปถมเป็นเนินเขาสำหรับสร้างพระตำหนัก พี่วากิวก็จะต้องเดินขึ้นเนินป้อมปราการต่างๆ
เดินได้ประมาณ 2 ชั่วโมงเริ่มรู้สึกได้ว่า เดินหนักกว่านี้จะลำบากแน่เพราะอย่าลืมว่าต้องนั่งรถไฟยาวๆ กว่า 14 ชั่วโมงเพื่อไปเมืองตานตงอีก
เลยออกจากพระราชวังเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า ประมาณ 15.30 กลับเส้นทางเดิมทุกอย่างเหมือนเดิมกลับถึงสถานีรถไฟปักกิ่งประมาณ
17.00 โดยประมาณ ไปรับกระเป๋าและเข้าไปที่ตัวสถานี ลืมบรรยายความใหญ่ของสถานีรถไฟบ้านเค้า มีระเบียบเป็นสัดส่วน น่าจะใหญ่กว่าหัวลำโพงบ้านเราประมาณสัก 3-4 เท่าได้ค่ะ จากนั้นก็ไปถามพนักงานว่าจะไปที่ชานชลานี้ยังไง พนักงานก็ให้คำตอบเป็นอย่างดี จากนั้นพี่วากิวรีบเดินดุ่มเข้าไป
เพื่อจะนั่งรถไฟเที่ยว K27 รถไฟจะออกใน 20 นาที
พี่วากิวเลือกแบบนั่งยาวๆ ไป ขอบอกว่าลำบากสุดๆ แต่รถไฟเค้าเป็นแอร์ก็ยังพอไหวอยู่เบาะเป็นผ้า ก็ยังได้อยู่ ถ้าเจอรถไฟบ้านเราก็ระบมคูณสองเข้าไป 555
ภาพผู้ร่วมชะตากรรมในครั้งนี้ ตลอดการเดินทางจะหลับๆตื่นทั้งปวดคอ ปวดหลัง เรียกว่าเหนื่อยมากกกก ถ้าใครเลือกเป็นแบบเตียงนอนได้
เลือกแบบนี้จะดีกว่าพี่วากิวแนะนำ
ถึงแล้วเมืองตานตง เวลา 7.30 โดยประมาณ สัญลักษณ์ของสถานีรถไฟเมืองตานตงคือมีอนุสาวรีย์ท่าน เหมาเจ๋อตุง ยืนตระหง่าน อยู่หน้าสถานีรถไฟ
โดยทัวร์ของพี่วากิวนัดพบทุกคนซึ่งมีลูกทัวร์ร่วมคณะทั้งหมด 24 คน ล้วนเป็นคนต่างชาติ เป็นคนเอเชีย 4 คนรวมพี่วากิว
การสื่อสารจะใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด พี่วากิวเองภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ แต่พอเข้าใจได้ ซึ่งหัวหน้าทัวร์คือ Mr.Rowan รูปร่างสูงใหญ่สูงประมาณ 2 เมตรได้ เมื่อทุกคนเจอกันแล้วก็แจกจ่ายวีซ่าเข้าเกาหลีเหนือที่ทางทัวร์ได้ทำไว้ให้ พี่วากิว สังเกตถึงความตื่นเต้นของแต่ละคน กับวีซ่าเกาหลีเหนือ ที่กำลังจะได้สัมผัสในอีกไม่ช้า
ใกล้เวลารถไฟจะออกเราเข้าแถวเพื่อผ่าน immigration ของจีนเพื่อออกประเทศ กลุ่มเราน่าจะเป็นกลุ่มสุดท้ายและพี่วากิวเองก็เกือบเป็นคนสุดท้ายของขบวนเพราะอาจจะเป็น Passport ไทยโดนเรียกแยกออกมาพร้อมกับเพื่อนที่มาจาก อินโดนีเซียและอิหร่านรอได้สักพักใหญ่เจ้าหน้าที่เอา Passport
มาคืนในที่สุดเราก็ได้ขึ้นรถไฟไปเปียงยางแล้วว
หน้าตาขบวนรถไฟของเกาหลีเหนือ Rowan บอกว่าไม่ว่าเราจะช้าแค่ไหน รถไฟจะรอเราเพราะกระบวนการผ่านด่านค่อนข้างเข้มงวด
จากนั้นผู้รอดชีวิต 4 คนสุดท้ายก็รีบขึ้นขบวนเพื่อจะต้องไปผ่านตม.เกาหลีเหนือเข้าประเทศของเค้านั่นเอง
โมเม้นต์นี้รู้สึกตื่นเต้นมาก คิดกับตัวเองว่า “เราเอาตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้ไง?” “นี่เรากำลังทำอะไรอยู่?” นี่ฝันของเราจะเป็นจริงแล้วหรอ? ประเทศแห่งความลับกำลังจะถูกเราเปิดโปงในแง่มุมของพี่วากิว ผู้หญิงสายกิน เน้นเที่ยวแบคแพค เรื่องราวจะเป็นยังไงติดตาม Part 3: Hello Pyongyang ได้เลยค่ะ จะเป็น Part เกาหลีเหนือล้วน ตั้งแต่เข้ายันออกประเทศกันเลยทีเดียว
เหลืออีก 2 Part เท่านั้น
รวมแต่ละ Part
Part1: ช่วงเตรียมตัว
(การเตรียมตัวก่อนเดินทาง เลือกตั๋ว เลือกทัวร์)
https://ppantip.com/topic/38948150
Part3: Hello! Pyongyang
(เจาะลึกเปียงยาง 3 วัน 2 คืน)
https://ppantip.com/topic/38951236
Part4: ลาก่อนเปียงยาง
(เดินทางกลับไปเสิ่นหยางแบบไม่ตั้งใจ)
https://ppantip.com/topic/38969976
Facebook: Like จุดหมาย
https://www.facebook.com/LikeDestination
[CR] Train to เปียงยาง 3 วัน 2 คืน เกาหลีเหนือความงามเรียบง่ายสไตล์คอมมิวนิสต์ งบ 30,000 by พี่วากิว Part 2: ปักกิ่งไปตานตง
Part2: จากปักกิ่งไปตานตง
ตอนที่แล้วพี่วากิวได้ระบุเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องเตรียมไปแล้ว 6 ขั้นตอน ตั้งแต่เลือกทัวร์ เลือกเที่ยวบิน เลือกเที่ยวรถไฟ ทำวีซ่า แลกเงิน จัดกระเป๋า และเตรียมใจ https://ppantip.com/topic/38948150
โดยการเดินทางไปเกาหลีเหนือครั้งนี้พี่วากิวเลือกลงที่ปักกิ่ง สายการบิน Air China Southern Airline เดินทางวันที่ 16-20 พฤษภาคม 19 พี่วากิวได้ราคาโปรโมชั่นอยู่ที่ 5,120 เป็นบริการบินแบบ Full Service ฟรีโหลดกระเป๋า และ อาหารบนเครื่อง แต่ไม่ได้บินตรง ต้องแวะไปเปลี่ยนเครื่องที่กวางโจวขาไป ส่วนขากลับแวะบินกลับที่เซินเจิ่นค่ะ
เที่ยวบินของพี่วากิวไปปักกิ่งเวลา 02.15 ขึ้นจากสนามสุวรรณภูมิพี่วากิวก็จัดหนักด้วยการแวะเล้าจน์ต่างๆ โดยใช้บัตร Priority pass และไปแวะเปลี่ยนเครื่องที่กวางโจว กว่าจะถึงปักกิ่งก้อประมาณ 11.30 ร่างกายเริ่มตึงๆ เมื่อยๆ รีบออกจากเกทไปสูดบรรยากาศปักกิ่ง ซึ่งเป็นเมืองที่พี่วากิวเคยมาเมื่อ 2 ปีที่แล้วประสบการณ์ในการเที่ยวครั้งนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้เราก็คิดว่าเออ! ไม่เป็นไรแค่แวะมานั่งรถไฟไปตานตงชิลๆ 555
แพลนสำหรับวันนี้คือ หลังจากลงเครื่องแล้วออกจากสนามบิน จะไปฝากกระเป๋าที่จุดรับฝากสถานีรถไฟและแลกตั๋วรถไฟที่เราซื้อมาจาก ออนไลน์เที่ยวรถไฟเวลา 17.25 เพราะฉะนั้นพี่วากิวจะมีเวลาเที่ยวปักกิ่งประมาณ 3-4 ชั่วโมง จึงตัดสินใจเลือกเที่ยวที่ Summer Palace พระราชวังฤดูร้อน
ครั้งที่แล้วที่มาปักกิ่งยังไม่เคยมาที่นี่เลย ต้องจัดสักหน่อยแล้ว^^
จากสนามบินปักกิ่งไปสถานีรถไฟปักกิ่งยังไงดี?
เมืองปักกิ่ง คมนาคมของเค้าก้าวล้ำกว่าประเทศไทย สะดวกสบายและราคาไม่แพง พี่วากิวเลือกเดินทางจากสนามบินโดย Metro จุดแรกที่เราต้องทำเมื่อออกจากเกท คือ หาป้ายที่บอกว่าไปรถไฟฟ้า Airport Express
นั่นๆไง เห็นแล้วใช่เปล่า ลงลิฟต์ไปเลย จากนั้นซื้อตั๋วรถไฟ ค่าตั๋วรถไฟอยู่ที่ 25 หยวน ประมาณ 125 บาทค่ะ ซื้อจากตู้หรือจากพนักงานได้เลยค่ะ เส้นทางที่เราจะไปคือโดยสถานีที่เราจะต้องลงคือ Dongzhimen นะคะ เส้นทางเป็นแบบนี้ Airport – Dongzhimen แล้วเปลี่ยนรถไปสาย 2 สายสีน้ำเงิน – Beijing Railway Station (ประมาณ 4 สถานี ถึงสถานีรถไฟเลยค่ะ ค่าตั๋วอยู่ที่ 3 หยวน 15 บาท เท่านั้นนนน กลับมาดู BTS และ MRT แล้วนั้น...........น้ำตาจิไหล
แผนที่ตามนี้ค่ะ
ถึงสถานีรถไฟแล้วสิ่งที่ต้องทำคือ ไปแลกตั๋วรถไฟ ออกจากสถานีมาจะอยู่ขวามือ พี่วากิวเลือกที่จะมาแลกตั๋วรถไฟก่อนเพราะจะได้ทำความเข้าใจและให้มั่นใจว่าเราจะได้ตั๋วรถไฟจริง โดยโชว์การจองจากในมือถือเราให้เจ้าหน้าที่(แอพนี้มีภาษาจีนแสดงให้ดูด้วย) เจ้าหน้าที่ก้อจะปริ้นท์ตั๋วออกมาให้เราค่ะ
จากนั้นเราไปจุดรับฝากกระเป๋าอยู่ไม่ห่างกันมากค่าฝากกระเป๋าอยู่ที่ 30 หยวน 150 บาท) เราจะได้ไม่ต้องแบกกระเป๋าหนักๆ ไปเที่ยวนะ
ตรงนี้คือจุดแลกบัตรค่ะ
ทางเข้าสถานีรถไฟภายในซึ่งเราจะต้องมีบัตรแล้วเท่านั้น
ส่วนนี่คือจุดฝากกระเป๋า 30 หยวน 150 บาท ก็พอรับได้ค่ะ ฝากได้ไม่เกินเที่ยงคืน เรทเดียวเท่ากัน
เสร็จภารกิจแลกตั๋วรถไฟละสบายใจหายห่วง มุ่งหน้าไป Summer Palace กันเลย จะบอกว่าอากาศออกเย็นชิลๆ จะมีฝนตกปรอยๆมาบ้างแต่ไม่หนักมาก อ่ะ! เราไปนั่งรถไฟฟ้าไปที่ Summer Palace เส้นทางตามนี้ค่ะ
Beijing Railway – Xuanwumen เปลี่ยนจากสาย 2 ไปสาย 4 ที่สถานีนี้ นั่งยาวววว – ลงที่ Beigongmen ประมาณ 20 สถานี ก็เกือบชั่วโมงอยู่นะ
ค่าตั๋วอยู่ที่ 6 หยวน 30 บาท น้ำตาพี่วากิวไหลอีกแล้ว ค่ารถไฟฟ้าถูกเหลือเกิน
เส้นทางรถไฟไป summer palace
หลังจากนั่งรถไฟมานานก็มาถึงแล้ว Beigongmen เดินตามป้ายเพื่อไปทางเข้า พระราชวังฤดูร้อน Summer palace จ้า
ค่าเข้าอยู่ที่ 30 หยวน 150 บาท
เดินกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ แต่พี่วากิวมีเวลาน้อย เน้นเดินแบบกว้างๆ ไม่เน้นเดินเจาะเท่าไหร่ อากาศไม่ร้อนก็สบายๆ หน่อย
พระราชวังฤดูร้อนพร้อมด้วยอุทยานอี๋เหอ-ยฺเหวียนได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ "พระราชวังฤดูร้อนและอุทยานในกรุงปักกิ่ง"
อี๋เหอ-ยฺเหวียนมีพื้นที่ประมาณ 2.9 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,812.5 ไร่ ประกอบด้วยเนินเขาสูง 60 เมตร มีพระตำหนักอยู่บนเนิน และทะเลสาบคุนหมิง มีเนื้อที่ประมาณ 2.2 ตารางกิโลเมตร หรือ (1,375 ไร่) คิดเป็น 3 ใน 4 ของพื้นที่ทั้งหมดโดยทะเลสาบนี้เกิดจากการใช้แรงงานคน ขุดดินขึ้นไปถมเป็นเนินเขาสำหรับสร้างพระตำหนัก พี่วากิวก็จะต้องเดินขึ้นเนินป้อมปราการต่างๆ
เดินได้ประมาณ 2 ชั่วโมงเริ่มรู้สึกได้ว่า เดินหนักกว่านี้จะลำบากแน่เพราะอย่าลืมว่าต้องนั่งรถไฟยาวๆ กว่า 14 ชั่วโมงเพื่อไปเมืองตานตงอีก
เลยออกจากพระราชวังเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า ประมาณ 15.30 กลับเส้นทางเดิมทุกอย่างเหมือนเดิมกลับถึงสถานีรถไฟปักกิ่งประมาณ
17.00 โดยประมาณ ไปรับกระเป๋าและเข้าไปที่ตัวสถานี ลืมบรรยายความใหญ่ของสถานีรถไฟบ้านเค้า มีระเบียบเป็นสัดส่วน น่าจะใหญ่กว่าหัวลำโพงบ้านเราประมาณสัก 3-4 เท่าได้ค่ะ จากนั้นก็ไปถามพนักงานว่าจะไปที่ชานชลานี้ยังไง พนักงานก็ให้คำตอบเป็นอย่างดี จากนั้นพี่วากิวรีบเดินดุ่มเข้าไป
เพื่อจะนั่งรถไฟเที่ยว K27 รถไฟจะออกใน 20 นาที
พี่วากิวเลือกแบบนั่งยาวๆ ไป ขอบอกว่าลำบากสุดๆ แต่รถไฟเค้าเป็นแอร์ก็ยังพอไหวอยู่เบาะเป็นผ้า ก็ยังได้อยู่ ถ้าเจอรถไฟบ้านเราก็ระบมคูณสองเข้าไป 555
ภาพผู้ร่วมชะตากรรมในครั้งนี้ ตลอดการเดินทางจะหลับๆตื่นทั้งปวดคอ ปวดหลัง เรียกว่าเหนื่อยมากกกก ถ้าใครเลือกเป็นแบบเตียงนอนได้
เลือกแบบนี้จะดีกว่าพี่วากิวแนะนำ
ถึงแล้วเมืองตานตง เวลา 7.30 โดยประมาณ สัญลักษณ์ของสถานีรถไฟเมืองตานตงคือมีอนุสาวรีย์ท่าน เหมาเจ๋อตุง ยืนตระหง่าน อยู่หน้าสถานีรถไฟ
โดยทัวร์ของพี่วากิวนัดพบทุกคนซึ่งมีลูกทัวร์ร่วมคณะทั้งหมด 24 คน ล้วนเป็นคนต่างชาติ เป็นคนเอเชีย 4 คนรวมพี่วากิว
การสื่อสารจะใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด พี่วากิวเองภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ แต่พอเข้าใจได้ ซึ่งหัวหน้าทัวร์คือ Mr.Rowan รูปร่างสูงใหญ่สูงประมาณ 2 เมตรได้ เมื่อทุกคนเจอกันแล้วก็แจกจ่ายวีซ่าเข้าเกาหลีเหนือที่ทางทัวร์ได้ทำไว้ให้ พี่วากิว สังเกตถึงความตื่นเต้นของแต่ละคน กับวีซ่าเกาหลีเหนือ ที่กำลังจะได้สัมผัสในอีกไม่ช้า
ใกล้เวลารถไฟจะออกเราเข้าแถวเพื่อผ่าน immigration ของจีนเพื่อออกประเทศ กลุ่มเราน่าจะเป็นกลุ่มสุดท้ายและพี่วากิวเองก็เกือบเป็นคนสุดท้ายของขบวนเพราะอาจจะเป็น Passport ไทยโดนเรียกแยกออกมาพร้อมกับเพื่อนที่มาจาก อินโดนีเซียและอิหร่านรอได้สักพักใหญ่เจ้าหน้าที่เอา Passport
มาคืนในที่สุดเราก็ได้ขึ้นรถไฟไปเปียงยางแล้วว
หน้าตาขบวนรถไฟของเกาหลีเหนือ Rowan บอกว่าไม่ว่าเราจะช้าแค่ไหน รถไฟจะรอเราเพราะกระบวนการผ่านด่านค่อนข้างเข้มงวด
จากนั้นผู้รอดชีวิต 4 คนสุดท้ายก็รีบขึ้นขบวนเพื่อจะต้องไปผ่านตม.เกาหลีเหนือเข้าประเทศของเค้านั่นเอง
โมเม้นต์นี้รู้สึกตื่นเต้นมาก คิดกับตัวเองว่า “เราเอาตัวเองมาอยู่ที่นี่ได้ไง?” “นี่เรากำลังทำอะไรอยู่?” นี่ฝันของเราจะเป็นจริงแล้วหรอ? ประเทศแห่งความลับกำลังจะถูกเราเปิดโปงในแง่มุมของพี่วากิว ผู้หญิงสายกิน เน้นเที่ยวแบคแพค เรื่องราวจะเป็นยังไงติดตาม Part 3: Hello Pyongyang ได้เลยค่ะ จะเป็น Part เกาหลีเหนือล้วน ตั้งแต่เข้ายันออกประเทศกันเลยทีเดียว
เหลืออีก 2 Part เท่านั้น
รวมแต่ละ Part
Part1: ช่วงเตรียมตัว
(การเตรียมตัวก่อนเดินทาง เลือกตั๋ว เลือกทัวร์)
https://ppantip.com/topic/38948150
Part3: Hello! Pyongyang
(เจาะลึกเปียงยาง 3 วัน 2 คืน)
https://ppantip.com/topic/38951236
Part4: ลาก่อนเปียงยาง
(เดินทางกลับไปเสิ่นหยางแบบไม่ตั้งใจ)
https://ppantip.com/topic/38969976
Facebook: Like จุดหมาย
https://www.facebook.com/LikeDestination
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น