[CR] Train to เปียงยาง 3 วัน 2 คืน เกาหลีเหนือความงามเรียบง่ายสไตล์คอมมิวนิสต์ งบ 30,000 by พี่วากิว Part3: Hello! Pyongyang

Train to เปียงยาง 3 วัน 2 คืน เกาหลีเหนือความงามเรียบง่ายสไตล์คอมมิวนิสต์ งบ 30,000 by พี่วากิว

Part3: Hello! Pyongyang หญิงเดี่ยวเที่ยวเกาหลีเหนือ

รวมแต่ละ Part
Part1: ช่วงเตรียมตัว             
(การเตรียมตัวก่อนเดินทาง เลือกตั๋ว เลือกทัวร์)        
https://ppantip.com/topic/38948150

Part 2: ปักกิ่งไปตานตง        
(เที่ยวปักกิ่ง และการเดินทางด้วยรถไฟไปตานตง)    
https://ppantip.com/topic/38949446

Part4: ลาก่อนเปียงยาง   
(เดินทางกลับไปเสิ่นหยางแบบไม่ตั้งใจ)                                
https://ppantip.com/topic/38969976

     เกาหลีเหนือความเรียบง่ายสไตล์คอมมิวนิสต์  มันเป็นความรู้สึกจากเบื้องลึกของเราที่มีต่อประเทศนี้ ซึ่งจะเป็นตัวร้ายในเรื่องเล่าของผู้อื่นเสมอ (บางอันก็ร้ายจริง) จากการฟัง จากการเล่า จากการรีวิวต่างๆ จากข่าวที่เราได้ยิน แต่เมื่อได้มาสัมผัสด้วยตัวเองจะรู้ว่าในทุกแง่มุมของแต่ละชีวิตของคนทุกคนบนโลกนี้ย่อมมีเหตุผลเป็นของตัวเอง ขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละประเทศว่าเหมาะกับอะไร หรือมีแนวคิดหรือวัฒนธรรมการใช้ชีวิตอย่างไร? สำหรับพี่วากิวมองว่าความงามของประเทศต่างๆ มีความงามที่มีอัตลักษณ์แตกต่างกันออกไป พี่วากิวจะพาทุกคนไปดูเมืองแห่งความลับมากที่สุดอีกประเทศหนึ่งของโลก จะพยายามถ่ายทอดเท่าที่พี่วากิวจะทำได้นะคะ 


     จากสอง Part แรก พูดถึงเรื่องการเตรียมตัวเพื่อมาเที่ยวเกาหลีเหนือ และวิธีการเดินทางมายังเมืองตานตงเมืองชายขอบหรือเมืองอีสานของประเทศจีนเพื่อนั่งรถไฟจากตานตงมายังเปียงยางกันไปแล้ว คราวนี้มาถึงช่วงที่ทุกคนรอคอยมากที่สุดคือ การเที่ยวในเปียงยาง ซึ่งก่อนจะถึงเปียงยาง
เราต้องเจอกับอะไรบ้างมาดูกันเลย

Day 1: 17 พฤษภาคม 2019
การผ่านด่าน ต.ม. เกาหลีเหนือสุดเข้มข้น !!
         หลังจากที่เราผ่าน ต.ม.จีนมาได้และได้ขึ้นขบวนรถไฟที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเปียงยาง แต่พอ 10 นาทีหลังจากนั้นทุกคนในขบวนที่เป็นคนต่างชาติต้องออกมาจากขบวนรถไฟเพื่อตรวจสอบอุปกรณ์ทุกอย่างที่เอาติดตัวกันมา ภาพแรกที่พี่วากิวเห็นและมองออกจากหน้าต่างพี่วากิวเห็นทหารและเจ้าหน้าที่ของเกาหลีเหนือประจำการอยู่ที่ด่าน ต.ม.นั้น จำนวนหนึ่งท่าทางขึงขังใส่ชุดทหารสีเขียวขี้ม้าใส่หมวกเหมือนตำรวจบ้านเรา ณ จุดนี้เราไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายภาพใดๆ ทั้งสิ้นรวมถึงการถ่ายภาพทหารถือว่ามีความผิด เพราะฉะนั้นเราก็จะไม่เสี่ยงนะ


      พี่วากิวและคณะทัวร์ของเราเดินออกจากรถไฟด้วยอาการหงุนงงเล็กน้อย แบกสัมภาระของตัวเองออกมา ยืนอยู่หน้าอาคารแห่งหนึ่งคล้ายๆจะเป็นอาคาร ต.ม. แต่จังหวะนี้ทางเจ้าหน้าที่ของเกาหลีเรียกเก็บ Passport ของทุกคนเอาไว้ที่เค้าทั้งหมดรวมถึงวีซ่า คือ เอาจริงๆ ถ้าพี่วากิวแบคแพคมาคงจะทำอะไรไม่ถูกเหมือนกันแต่ดีที่ Rowan หัวหน้าทัวร์ของเราดูสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือพูดคุยสนุกสนานทำให้พวกเราวางใจในระดับนึง ปฏิบัติตามโดยดีไม่(กล้า)ขัดขืน

      หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ให้ทุกคนแจ้งว่า มีมือถือกันมากี่เครื่องและให้เอากล้องถ่ายรูปหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แสดงต่อเจ้าหน้าที่  ซึ่งพวกเราทุกคนก็ต้องแจ้งไปว่ามีมือถือกี่เครื่องกล้องกี่อัน มีโน้ตบุคไหม  ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรพวกเราทุกคนก็แจ้งจำนวนตามจริง
       อีกสักพักมีเจ้าหน้าที่คนนึงหน้าตาขึงขังเหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง และสั่งให้เราโชว์มือถือของเราขึ้นมาทุกคนและจัดแจงนับกันอีกครั้ง เอาชูมือถือขึ้น แล้วเค้าก็นับกันอีกครั้ง อีกสักพักเค้าก็สั่งให้ทุกคนที่เอากล้องถ่ายรูปขึ้นมา เพื่อตรวจสอบว่ากล้องแต่ละตัวมี GPS หรือไม่ เช็คกันแบบรายคน ซึ่งข้อกำหนดข้อห้ามของการใช้กล้องในเกาหลีเหนือคือ ขนาดเลนส์ต้องน้อยกว่า 250 mm และต้องไม่มี GPS

       ผ่านจากจุดนี้ไปก็ดูเหมือนไม่มีอะไรละ  แต่เปล่าเลยจ้า เจ้าหน้าที่สั่งให้เราเข้าไปในอาคาร พี่วากิวก็คิดว่าคงทำพิธีการผ่านด่าน ต.ม. เหมือนประเทศอื่นๆ แต่เปล่าเลยจ้า พอเข้าไปเราก็จะเห็นทัวร์กลุ่มอื่น ซึ่งจะเป็นกลุ่มคนจีนอยู่ในนั้น เสียงดังตามสไตล์คนจีน รวมถึงกลุ่มเราที่เป็นฝรั่งหัวดำ หัวแดงอยู่ในนั้นด้วย Rowan บอกว่าเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจค้นในกระเป๋าของเราอีกครั้ง  พี่วากิวก็ไม่รอช้า เปิดกระเป๋าทั้งหมดให้เค้าดู เปิดหมดทุกอย่างกระเป๋าอะไรที่เค้าสงสัย กระเป๋ากางเกงในเสื้อในเปิดออกหมด ก็เอาที่สบายใจเลยจ้า ขอห้ามนอกจากเรื่องกล้อง,GPS, ก็จะมีหนังสือเกี่ยวกับไบเบิ้ล คัมภีร์ ที่ถูกห้ามเข้าโดยเด็ดขาด ซึ่งพี่วากิวเห็นคนเอาหนังสือมาเล่มนึงแต่เป็นหนังสือท่องเที่ยวประเทศอื่น เจ้าหน้าที่พอเห็นว่าเป็นหนังสือแกก้อเปิดเช็คดูอีกที ว่าเป็นหนังสือต้องห้ามหรือไม่


        เราเสียเวลาในจุดนี้สักพักใหญ่กว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก็นานเลยทีเดียวแต่รถไฟก็ยังจอดรออยู่นะไม่ได้ไปไหนจนกว่าเราจะผ่านพิธีการ ต.ม. เสร็จ
หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็เอา Passport มาคืนเรา และให้เรากลับไปขบวนรถไฟเพื่อเดินทางต่อไปยังเปียงยาง   เมื่อเราได้เข้าขบวนมาอีกครั้ง Rowan ได้แจ้งหมายเลขเตียงของแต่ละคนว่าจะให้นอนที่เตียงไหน  พี่วากิว ตอนแรกนึกว่าจะให้ยืนในซอกเล็กไปถึงเปียงยางซะแล้ว แต่ไม่นะคะ คราวนี้เป็นเตียงขนาด 6 ที่นอนอยู่ในโซนเดียวกัน ฝั่งละ 3 เตียง พี่วากิวได้เตียงตรงกลาง ลำบากขึ้นนิดหน่อยแต่จังหวะนี้ไม่สนใจอะไรละ

*** ทางเดินจะแคบๆ หน่อย ฝรั่งในคณะก็ตัวหย่ายทู้กคน 

** มันก็จะอารมณ์แบบนี้นะ แบบลุยๆ นิดนึง นอนเตียงกลาง  


** เก็บศพพี่วากิวด้วย ร่างแทบสลายกลายเป็นปู๋ยยยย 

       
จัดข้าวจัดของและของีบเอาแรงเล็กน้อย หลับได้สักพักใหญ่ๆ ก็ถึงเวลาเที่ยงทางทัวร์แจกอาหารเที่ยงเป็นข้าวกล่อง เมนูแรกในเกาหลีเหนือ มีกิมจิ หมูสามชั้นผัดซอส ไข่คล้ายพะโล้ ปลาทอดและข้าว รสชาติก็กินได้

       
     ทานเสร็จพี่วากิวก็เลยขอเก็บบรรยากาศดื่มด่ำวิวสองข้างทาง สิ่งที่เราสังเกตได้คือ อาชีพของเค้าคือการทำเกษตรกรรมโดยรัฐบาลจะเป็นคนจัดสรรทุกอย่างให้คนในประเทศไม่ว่าอาหาร ที่อยู่อาศัย มองไปไกลๆ สองข้างทางบรรยากาศจะเขียวๆ ชะอุ่มๆ  เพราะเป็นหน้าฝนมันก็จะดูสดชื่นๆ อากาศเย็นๆ เพราะมีฝนตกมันช่างสดชื่นจริงๆ นะ ระหว่างทางนอกจากจะเห็นชาวบ้านแล้วยังเห็นทหาร ประจำป้อมแต่ละจุดในหมู่บ้านเป็นระยะๆ ด้วยนะ


 

        ในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงสถานีรถไฟเปียงยางใช้เวลาถึงที่นี่ 18.30 เกือบ 8-9 ชั่วโมงที่เราอยู่บนรถไฟ พอก้าวลงจากรถไฟหัวใจก็เต้นระรัว โอ้ยๆนี่เราถึงเกาหลีเหนือแล้วหรอเนี้ย จากนั้น Rowan พาคณะเราไปยังรถบัสที่จอดรอไว้อยู่ทำให้เราได้เห็นภาพแรกของเกาหลีเหนือ ในทุกๆสถานที่จะต้องมีรูปท่านผู้นำสองท่านประดับอยู่

**ขบวนรถไฟที่เรานั่งมากับสัญลักษณ์ของเกาหลีเหนือ 


** มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่ทุกจุด


** โฉมหน้าสถานีรถไฟเปียงยาง และรถบัสของกรุ๊ปเรา


*** Local Guide แนะนำตัว และข้อปฏิบัติต่างๆ 


** บรรยากาศโดยรอบสถานีผู้คนครึกครื้นพอสมควร จะเห็นคนเดินกันเป็นกลุ่มๆ ในสวนสาธารณะและตามท้องถนนรถราค่อนข้างน้อยคนเกาหลีเหนือนิยมเดิน ไม่เดินก็ปั่นจักรยาน แต่ความรู้สึกที่เห็นคนเกาหลีเหนือพวกเค้าไม่ค่อยยิ้ม หน้าตาจะขึงขังกันทั้งประเทศก็ว่าได้




สำหรับมื้อค่ำวันนี้ มื้อที่สองเป็นอาหารเกาหลีผสมจีนเล็กน้อย อาหารการกินมาแบบจัดเต็มรสชาติใช้ได้  มีความเกาหลีเหนือสูง


  ทานเสร็จแล้วเดินย่อยเล็กน้อย เพื่อขึ้นรถบัสไปยังโรงแรมที่พัก ชมบรรยากาศระหว่างยามค่ำคืน  พี่วากิวพูดตรงๆ อยากโดดทริปไป
เดินชิลเองเหลือเกิน แต่มันก็ทำไม่ได้ เดี๋ยวไม่ได้กลับประเทศไทย ยาวเลยทีนี้ 555


         มาถึงแล้ว!! โรงแรมที่พักของเรา Sosan Hotel  ไกลออกจากตัวเมืองหน่อย บริเวณโรงแรมเป็นสนามกอล์ฟด้วย ใกล้ๆมีสนามกีฬา
ใครที่คิดจะหนีไปเที่ยวกลางคืนก็หมดสิทธิ์ไปคงต้องนั่งดริ้งค์ดื่มที่โรงแรม  ส่วนคืนนี้พี่วากิวโชคดี ที่มาคนเดียวและเป็นผู้หญิงที่เป็นเศษ
เลยได้นอนคนเดียว เย้!!!


        ขนาดห้องก็พอดีๆ ไม่ใหญ่ไม่เล็ก เก็บข้าวของเสร็จพี่วากิวก็เดินไปรีแลกซ์ข้างล่างนั่งกินเบียร์เกาหลีเหนือ นั่งคุยกับเพื่อนที่มาในกลุ่มอีกคนเป็นชายชาวเยอรมัน เกาหลีเหนือคือประเทศแรกในเอเชียที่มา อีกคนก็มาจากอินเดีย สายเที่ยวสายลุยเหมือนกับพี่วากิว ค่าเบียร์ไม่แพงเลย แต่บนชั้นนั้นเหลือบเห็นขนมขาไก่ตราโลตัส หันไปถามพนักงานว่าราคาเท่าไหร่ พนักงานบอกว่า 90 บาท 555 ก็เลยต้องหยุดแค่นั้น และร่ำลาคืนแรกที่เกาหลีเหนือด้วยเบียร์ 1 ขวดตื่นมาจะได้มีแรงเดินเที่ยวพรุ่งนี้ ยังมีอีกเยอะ^^

** ในกลุ่มทัวร์ใครใคร่ดื่ม ก็ดื่ม ใครใคร่แทงก็แทง (แทงสนุ๊กเด้อ ตามภาพ 555)




จบวันแรกละ! วันที่ 2 ก็จะเป็นสถานที่สำคัญๆดง เด็ดทั้งนั้นเลยจ้า ติดตามกันด้วยนะ
สนุกแน่นวล
ชื่อสินค้า:   เกาหลีเหนือ
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่