Train to เปียงยาง 3 วัน 2 คืน เกาหลีเหนือความงามเรียบง่ายสไตล์คอมมิวนิสต์
ในงบ 30,000 by พี่วากิว Part4: ลาแล้วเปียงยาง ความตื่นเต้นแบบไม่ตั้งใจ
ความเดิมตอนที่แล้ว
Part1: ช่วงเตรียมตัว
(การเตรียมตัวก่อนเดินทาง เลือกตั๋ว เลือกทัวร์)
https://ppantip.com/topic/38948150
Part 2: ปักกิ่งไปตานตง
(เที่ยวปักกิ่ง และการเดินทางด้วยรถไฟไปตานตง)
https://ppantip.com/topic/38949446
Part3: Hello! Pyongyang
(เจาะลึกเปียงยาง 3 วัน 2 คืน)
https://ppantip.com/topic/38951236
Day 3 @ เปียงยาง
เช้านี้ถึงเวลาต้องจากลา ก่อนไปขอมาสูดอากาศที่ระเบียงกับเมืองที่เป็นความลับมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
เช้านี้บรรยากาศเย็นสบายมีฝนตกปรอยๆ สดชื่นมองออกไปรอบๆ เห็นแต่สีเขียวๆ แต่ทุกอย่างดูเคลื่อนไหวช้าไปหมด
ซึมซับบรรยากาศสุดท้าย พี่วากิวพาร่างของตัวเองไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร
เช้านี้ไม่ต่างจากเช้าที่แล้ว อาหารก็จะประมาณนี้
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วก็มาถึงกิจกรรมสุดท้ายในเกาหลีเหนือ นั่นคือ ………………การสระผมที่ร้านเสริมสวย
เป็นกิจกรรมช่วงหลังๆที่พี่วากิวมักจะทำ เพื่อดูวัฒนธรรมการสระผมของแต่ละประเทศ 555 หลังจากติดใจการสระผมที่พม่า
ภายในโรงแรมจะมีร้านสระผมอยู่ พี่วากิวก็เดินดุ่มๆ เข้าไป จากนั้นที่ร้านก็พาขึ้นเตียงสระ ช่างสระผมวันนี้เป็นผู้หญิงสาว
สวยน่าตาจิ้มลิ้ม ค่อยๆ บรรจงสระผม คือมีความอ่อนโยนต่อหัวของเรามาก จากนั้นก็เป่าไดร์ฟผม ตามปกติ แต่ที่นี่แปลกคือ
จะใช้ไดร์ฟเป่าผมอันเล็กอีกอัน สำหรับทำการเป่าให้ผมตรงสรวยสวยเก๋ ค่าเสียหาย 175 บาท 35 หยวน
หลังจากผมพริ้วสรวยสวยเก๋ พี่วากิวก็มาจุดนัดพบที่โรงแรม มีรถตู้คันน้อยมารับเราไปสถานีรถไฟ
โดยมีไกด์เกาหลีเหนือมาส่งที่สถานีรถไฟ ในคณะทัวร์จะมีกลุ่มเราที่กลับก่อนคนอื่น
รวมพี่วากิวด้วยก็ 3 คน อีก 2 คนเป็นคนอังกฤษ และคนบราซิล
บรรยากาศในสถานีรถไฟเปียงยาง
เมื่อเข้ามาในขวนรถไฟเราจะพบคนเกาหลีเหนือที่เดินทางไปกับเราด้วย
ซึ่งอยู่ในโซนที่นอนเดียวกับเรา เป็นผู้ชายเกาหลีเหนือ 3 คน 1 ในนั้นน่าจะเป็นคนที่มีตำแหน่งพอสมควร ขนาดทหารยังให้ความเคารพ
รถไฟล้อหมุนแล้ว เคลื่อนพาเราไปยังจุดหมายมุ่งหน้าไปเมืองตานตง เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ เส้นทางระหว่างทางวันนี้ทั้งวันฝนตกตลอดทาง ประกอบกับอากาศเย็นสบาย ทำให้บรรยากาศช่างฟินอะไรเช่นนี้ ทุกทริปที่เกิดขึ้นความสวยงามในมุมมองของพี่วากิว
ก็คือ ความสวยงามระหว่างทางและความรู้สึกฟินและอินกับเรื่องราวระหว่างนั้น
ชีวิตประจำวันกับการเกษตร สไตล์คอมมิวนิสต์
การฟังเพลง Jason Mraz / Lukas Graham / Ed Sheeran บรรยากาศมันคือที่สุดของที่สุดของความฟิน
ระหว่างที่ฟินๆ ได้สักพัก ก็มีเรื่องเกิดขึ้นจนได้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ของรถไฟ เดินมาถามเพื่อนคนอังกฤษว่า รับข้าวไหม?
ทางเพื่อนก็เข้าใจว่าฟรี! เหมือนที่ตอนมา ก็เลยตกลงเอา 3 กล่อง ถึงแม้จะเป็นเวลาเที่ยงแล้วก็ตาม พี่วากิวก็ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่หรอก
สักพักเจ้าหน้าที่ก็เอาอาหารมาให้ พร้อมขอเก็บตังค์คนละ 61 หยวน หรือ 300 กว่าบาท ทำเอาเพื่อนคนอังกฤษหน้าเสีย
เพราะเข้าใจว่าฟรี! หลังจากเถียงกันสักพักตกลงกันไม่ได้ ต้องยอมจ่ายไป 3 กล่อง พี่วากิวช่วยเพื่อนไป 1 กล่อง
อีก 2 กล่องเพื่อนอังกฤษเหมาไป (สงสารนาง 555 )
หน้าตาอาหารกล่อง รสชาติดีอยู่นะ อาหารมื้อสุดท้ายในเกาหลีเหนือ
ระหว่างนั้นเราก็นอนบ้างนั่งบ้างคุยกับเพื่อนบ้างก็มีคุยกันถึงทริปการเดินทางต่างๆ ที่ไปกันมา เด็ดสุดน่าจะซีนนี้
เพื่อนอังกฤษ : นี่ๆ ยู ตอนฟุตบอลโลก ไอ ไปที่รัสเซียมา
พี่วากิว : โฮ ดีจังเลย น่าสนุกแน่ๆ เลย อังกฤษเข้ารอบลึกนี่ เท่าที่จำได้
เพื่อนอังกฤษ : ใช่ สนุกมาก เจอเพื่อนใหม่ คนเกาหลีใต้ นี่ๆ รูปภาพ
คนเกาหลีเหนือ : ไหนๆ อยากเห็นบ้าง นางก็ชะโงกหน้ามาดูที่มือถือ หน้าตาแลดู ดูเรียบเฉย
เรากับเพื่อนก็รู้สึกแปลกๆละ เพราะท่าทางคนเกาหลีเหนือแลดูตึงๆไป
จนมาพีคสุดคือตอนที่เรามาถึงต.ม. ที่ชายแดนเกาหลีเหนือ เพื่อจะข้ามไป ตานตง ซึ่งในตอนนี้เจ้าหน้าที่ทหาร
และเจ้าหน้าที่ต.ม. ก็มาสุ่มตรวจ และขอ Passport และวีซ่าของเราทุกคน เพื่อเอาไปผ่านพิธีการ
แต่สิ่งที่พี่วากิวกับเพื่อนอังกฤษมีอาการช็อคเล็กน้อยถึงปานกลางคือ
เจ้าหน้าที่ทหารทำความเคารพ คนเกาหลีเหนือคนนั้น คนแรกเดินผ่านไป
คนที่สองมาเช็คจำนวนคนและมาตรวจกระเป๋า ก็มาทำความเคารพอีกละ ในใจพี่วากิวก็คิดเอาละว้า
ซวยแน่คราวนี้กรู พูดอะไรไปบ้างไม่รู้ เม้าท์กันไปเรื่อย 555
ระหว่างรอเอกสารเรียบร้อยมีจุดขายอาหาร สาวๆหน้าตาดี บริการคล้ายแอร์โฮสเตส มาบริการขายอาหารคั่นเวลา
สุดท้ายก็ไม่มีอะไรมาก คิดไปเอง 555 ผ่านพิธีการทุกอย่างเรียบร้อยก็มาถึงสถานีรถไฟตานตง
ตอนนั้นเวลาประมาณ 17.30 ละ ตอนจะเข้าจีนอีกครั้งพี่วากิวก็มีปัญหาอีก ไม่รู้ติดปัญหาอะไร
ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีกว่าจะได้ออก ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะพาสปอร์ตไทยรึเปล่า ถามเจ้าหน้าที่ก็ไม่ตอบอะไร
จากนั้นพี่วากิวก็ร่ำลาเพื่อนและขึ้นแท็กซี่เพื่อไปขึ้นเครื่องที่สนามบินตานตงเพื่อกลับปักกิ่ง
ตอนนั้นฝนตก พี่วากิวขึ้นแท็กซี่และบอกว่าจะไป airport แท็กซี่ก็งงว่าคืออะไร เราก็ผันเสียงไปเรื่อยๆ
ว่า แอร์พอรต แอร์พ๊อร์ต แอร์ป๊อต เออ! สงสัยจะไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเลยหาศัพท์จีนในมือถือ
พร้อมทำภาษามือ Ji-chang บอกแค่นี้แท็กซี่อ้อ ทันที เพราะฉะนั้นจะต้องจำคำนี้ไว้ดีๆ Ji-chang
พร้อมทำภาษามือรอดแน่นอน
ขับมาสักพักเกือบครึ่งชั่วโมงก็มาถึงสนามบิน ตานตงละ แต่ทำไมมันมืดและเงียบอย่างนี้ทางยามก็ทำมือไล่ๆ
ไปแต่เราก็ไม่เข้าใจ พี่วากิวเลยให้แท็กซี่รอก่อน เพราะสนามบินไม่มีแท็กซี่รอสแตนบาย
เดินเข้าไปมีแต่เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์และเจ้าหน้าที่ 2 คนที่ Standby
พร้อมกับคำพูดบีบหัวใจว่า
“ไฟล์ทยกเลิก เพราะอากาศไม่ดี และจะมีเที่ยวบินเที่ยวนี้อีกทีวันอังคาร”
ซึ่งวันนี้คือวันอาทิตย์แล้วจะทำไงละทีนี้ งง! งง! งงแดก
งง! แล้วทำไงอ่ะ ไปรถไฟตอนนี้ก็ไม่ทันอยู่ดี และตั๋วเต็มและจะให้รอวันอังคารเพื่อขึ้นเครื่องก็คงเป็นไปไม่ได้
พี่วากิว: อ้าว! แล้วจะทำยังไงดีที ถามเจ้าหน้าที่สนามบิน
เจ้าหน้าที่ : แล้วคุณจะบินไปไหนบ้าง
พี่วากิว : ฉันต้องนั่งเครื่องจากปักกิ่งไปลงเซินเจิ้นและเปลี่ยนเครื่องไปกรุงเทพฯ
เจ้าหน้าที่ : ระหว่างนั้นก็ช่วยกันหาข้อมูลว่าจะไปเซินเจิ้นด้วยวิธีไหนได้บ้างในช่วงเวลานั้น
ลุงแท็กซี่เองแกก็พยายามช่วยให้ข้อมูลว่าไปไหนได้บ้าง
คุยกันเป็นภาษาจีน ยอมรับว่าตอนนั้นพี่วากิวมึนมาก ไม่เคยเจอเหตุการณ์นี้
เจ้าหน้าที่ : คุณค่ะมีอีกทางคือนั่งรถไฟไปเสิ่นหยางพักที่นั่น 1 คืนแล้วเช้านั่งเครื่องไปเซินเจิ้น
คุณน่าจะต่อเครื่องได้ทัน และรถไฟขบวนจะถี่มากกว่าไปปักกิ่ง
พี่วากิว : โอเคค่ะ น่าจะเป็นไปได้ แต่มีอีกเรื่องที่มีปัญหาคือ ตอนนี้มีเงินหยวนติดตัวน้อยมาก
ค่าแท็กซี่คงไม่มีแล้ว ตอนนี้มีเงินไทย และ ยูโร คุณช่วยคุยกับแท็กซี่ให้หน่อยว่ามีที่ไหนแลกเงินบ้างไหม
เจ้าหน้าที่ : เค้าก็คุยๆ และบอกว่าตอนนี้ไม่มีที่แลกเงินแล้ว แต่ลุงแท็กซี่บอกว่า เอาเงินไทยมาให้แก
เดี๋ยวแกให้แลกเป็นเงินหยวน และเช้าแกจะเอาไปแลกให้เอง คุณให้เค้าไป 2,000 เดี๋ยวเค้าจะเอาเงินหยวนให้ 400 หยวนแล้วคุณก้อเอาติดตัวไว้
พร้อมกับ โน้ตใบน้อยเพื่อระบุเส้นทางการเดินทางของเราว่าจะไปอย่างไรต่อ
พี่วากิวน้ำตาจะไหล รอดตายแล้วกรู จากนั้นเราก็เดินทางไปสถานีรถไฟตานตงที่เดิม ให้ทิปลุงแท็กซี่ค่ารอ
ค่าเสียเวลาอีกนิดหน่อย พี่วากิวรีบไปซื้อตั๋วรถไฟ เพื่อขึ้นรถไฟไปเสิ่นหยาง ค่าตั๋วอยู่ที่
51 หยวน รถไฟ D7638 เวลา 19.49 – 21.12
ทางเข้าสถานีรถไฟมีความอลังการใหญ่โต ตรงเวลา สะอาด ดีงามมาก เมื่อเทียบกับเราแล้วนั้น .........
[CR] Train to เปียงยาง 3 วัน 2 คืน เกาหลีเหนือความงามเรียบง่ายสไตล์คอมมิวนิสต์ งบ 30,000 by พี่วากิว Part 4: ลาแล้วเปียงยาง
ในงบ 30,000 by พี่วากิว Part4: ลาแล้วเปียงยาง ความตื่นเต้นแบบไม่ตั้งใจ
ความเดิมตอนที่แล้ว
Part1: ช่วงเตรียมตัว
(การเตรียมตัวก่อนเดินทาง เลือกตั๋ว เลือกทัวร์) https://ppantip.com/topic/38948150
Part 2: ปักกิ่งไปตานตง
(เที่ยวปักกิ่ง และการเดินทางด้วยรถไฟไปตานตง) https://ppantip.com/topic/38949446
Part3: Hello! Pyongyang
(เจาะลึกเปียงยาง 3 วัน 2 คืน) https://ppantip.com/topic/38951236
Day 3 @ เปียงยาง
เช้านี้ถึงเวลาต้องจากลา ก่อนไปขอมาสูดอากาศที่ระเบียงกับเมืองที่เป็นความลับมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
เช้านี้บรรยากาศเย็นสบายมีฝนตกปรอยๆ สดชื่นมองออกไปรอบๆ เห็นแต่สีเขียวๆ แต่ทุกอย่างดูเคลื่อนไหวช้าไปหมด
ซึมซับบรรยากาศสุดท้าย พี่วากิวพาร่างของตัวเองไปทานอาหารเช้าที่ห้องอาหาร
เช้านี้ไม่ต่างจากเช้าที่แล้ว อาหารก็จะประมาณนี้
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้วก็มาถึงกิจกรรมสุดท้ายในเกาหลีเหนือ นั่นคือ ………………การสระผมที่ร้านเสริมสวย
เป็นกิจกรรมช่วงหลังๆที่พี่วากิวมักจะทำ เพื่อดูวัฒนธรรมการสระผมของแต่ละประเทศ 555 หลังจากติดใจการสระผมที่พม่า
ภายในโรงแรมจะมีร้านสระผมอยู่ พี่วากิวก็เดินดุ่มๆ เข้าไป จากนั้นที่ร้านก็พาขึ้นเตียงสระ ช่างสระผมวันนี้เป็นผู้หญิงสาว
สวยน่าตาจิ้มลิ้ม ค่อยๆ บรรจงสระผม คือมีความอ่อนโยนต่อหัวของเรามาก จากนั้นก็เป่าไดร์ฟผม ตามปกติ แต่ที่นี่แปลกคือ
จะใช้ไดร์ฟเป่าผมอันเล็กอีกอัน สำหรับทำการเป่าให้ผมตรงสรวยสวยเก๋ ค่าเสียหาย 175 บาท 35 หยวน
หลังจากผมพริ้วสรวยสวยเก๋ พี่วากิวก็มาจุดนัดพบที่โรงแรม มีรถตู้คันน้อยมารับเราไปสถานีรถไฟ
โดยมีไกด์เกาหลีเหนือมาส่งที่สถานีรถไฟ ในคณะทัวร์จะมีกลุ่มเราที่กลับก่อนคนอื่น
รวมพี่วากิวด้วยก็ 3 คน อีก 2 คนเป็นคนอังกฤษ และคนบราซิล
บรรยากาศในสถานีรถไฟเปียงยาง
เมื่อเข้ามาในขวนรถไฟเราจะพบคนเกาหลีเหนือที่เดินทางไปกับเราด้วย
ซึ่งอยู่ในโซนที่นอนเดียวกับเรา เป็นผู้ชายเกาหลีเหนือ 3 คน 1 ในนั้นน่าจะเป็นคนที่มีตำแหน่งพอสมควร ขนาดทหารยังให้ความเคารพ
รถไฟล้อหมุนแล้ว เคลื่อนพาเราไปยังจุดหมายมุ่งหน้าไปเมืองตานตง เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ เส้นทางระหว่างทางวันนี้ทั้งวันฝนตกตลอดทาง ประกอบกับอากาศเย็นสบาย ทำให้บรรยากาศช่างฟินอะไรเช่นนี้ ทุกทริปที่เกิดขึ้นความสวยงามในมุมมองของพี่วากิว
ก็คือ ความสวยงามระหว่างทางและความรู้สึกฟินและอินกับเรื่องราวระหว่างนั้น
ชีวิตประจำวันกับการเกษตร สไตล์คอมมิวนิสต์
การฟังเพลง Jason Mraz / Lukas Graham / Ed Sheeran บรรยากาศมันคือที่สุดของที่สุดของความฟิน
ระหว่างที่ฟินๆ ได้สักพัก ก็มีเรื่องเกิดขึ้นจนได้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ของรถไฟ เดินมาถามเพื่อนคนอังกฤษว่า รับข้าวไหม?
ทางเพื่อนก็เข้าใจว่าฟรี! เหมือนที่ตอนมา ก็เลยตกลงเอา 3 กล่อง ถึงแม้จะเป็นเวลาเที่ยงแล้วก็ตาม พี่วากิวก็ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่หรอก
สักพักเจ้าหน้าที่ก็เอาอาหารมาให้ พร้อมขอเก็บตังค์คนละ 61 หยวน หรือ 300 กว่าบาท ทำเอาเพื่อนคนอังกฤษหน้าเสีย
เพราะเข้าใจว่าฟรี! หลังจากเถียงกันสักพักตกลงกันไม่ได้ ต้องยอมจ่ายไป 3 กล่อง พี่วากิวช่วยเพื่อนไป 1 กล่อง
อีก 2 กล่องเพื่อนอังกฤษเหมาไป (สงสารนาง 555 )
หน้าตาอาหารกล่อง รสชาติดีอยู่นะ อาหารมื้อสุดท้ายในเกาหลีเหนือ
ระหว่างนั้นเราก็นอนบ้างนั่งบ้างคุยกับเพื่อนบ้างก็มีคุยกันถึงทริปการเดินทางต่างๆ ที่ไปกันมา เด็ดสุดน่าจะซีนนี้
เพื่อนอังกฤษ : นี่ๆ ยู ตอนฟุตบอลโลก ไอ ไปที่รัสเซียมา
พี่วากิว : โฮ ดีจังเลย น่าสนุกแน่ๆ เลย อังกฤษเข้ารอบลึกนี่ เท่าที่จำได้
เพื่อนอังกฤษ : ใช่ สนุกมาก เจอเพื่อนใหม่ คนเกาหลีใต้ นี่ๆ รูปภาพ
คนเกาหลีเหนือ : ไหนๆ อยากเห็นบ้าง นางก็ชะโงกหน้ามาดูที่มือถือ หน้าตาแลดู ดูเรียบเฉย
เรากับเพื่อนก็รู้สึกแปลกๆละ เพราะท่าทางคนเกาหลีเหนือแลดูตึงๆไป
จนมาพีคสุดคือตอนที่เรามาถึงต.ม. ที่ชายแดนเกาหลีเหนือ เพื่อจะข้ามไป ตานตง ซึ่งในตอนนี้เจ้าหน้าที่ทหาร
และเจ้าหน้าที่ต.ม. ก็มาสุ่มตรวจ และขอ Passport และวีซ่าของเราทุกคน เพื่อเอาไปผ่านพิธีการ
แต่สิ่งที่พี่วากิวกับเพื่อนอังกฤษมีอาการช็อคเล็กน้อยถึงปานกลางคือ
เจ้าหน้าที่ทหารทำความเคารพ คนเกาหลีเหนือคนนั้น คนแรกเดินผ่านไป
คนที่สองมาเช็คจำนวนคนและมาตรวจกระเป๋า ก็มาทำความเคารพอีกละ ในใจพี่วากิวก็คิดเอาละว้า
ซวยแน่คราวนี้กรู พูดอะไรไปบ้างไม่รู้ เม้าท์กันไปเรื่อย 555
ระหว่างรอเอกสารเรียบร้อยมีจุดขายอาหาร สาวๆหน้าตาดี บริการคล้ายแอร์โฮสเตส มาบริการขายอาหารคั่นเวลา
สุดท้ายก็ไม่มีอะไรมาก คิดไปเอง 555 ผ่านพิธีการทุกอย่างเรียบร้อยก็มาถึงสถานีรถไฟตานตง
ตอนนั้นเวลาประมาณ 17.30 ละ ตอนจะเข้าจีนอีกครั้งพี่วากิวก็มีปัญหาอีก ไม่รู้ติดปัญหาอะไร
ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีกว่าจะได้ออก ไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะพาสปอร์ตไทยรึเปล่า ถามเจ้าหน้าที่ก็ไม่ตอบอะไร
จากนั้นพี่วากิวก็ร่ำลาเพื่อนและขึ้นแท็กซี่เพื่อไปขึ้นเครื่องที่สนามบินตานตงเพื่อกลับปักกิ่ง
ตอนนั้นฝนตก พี่วากิวขึ้นแท็กซี่และบอกว่าจะไป airport แท็กซี่ก็งงว่าคืออะไร เราก็ผันเสียงไปเรื่อยๆ
ว่า แอร์พอรต แอร์พ๊อร์ต แอร์ป๊อต เออ! สงสัยจะไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเลยหาศัพท์จีนในมือถือ
พร้อมทำภาษามือ Ji-chang บอกแค่นี้แท็กซี่อ้อ ทันที เพราะฉะนั้นจะต้องจำคำนี้ไว้ดีๆ Ji-chang
พร้อมทำภาษามือรอดแน่นอน
ขับมาสักพักเกือบครึ่งชั่วโมงก็มาถึงสนามบิน ตานตงละ แต่ทำไมมันมืดและเงียบอย่างนี้ทางยามก็ทำมือไล่ๆ
ไปแต่เราก็ไม่เข้าใจ พี่วากิวเลยให้แท็กซี่รอก่อน เพราะสนามบินไม่มีแท็กซี่รอสแตนบาย
เดินเข้าไปมีแต่เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์และเจ้าหน้าที่ 2 คนที่ Standby
พร้อมกับคำพูดบีบหัวใจว่า
“ไฟล์ทยกเลิก เพราะอากาศไม่ดี และจะมีเที่ยวบินเที่ยวนี้อีกทีวันอังคาร”
ซึ่งวันนี้คือวันอาทิตย์แล้วจะทำไงละทีนี้ งง! งง! งงแดก
งง! แล้วทำไงอ่ะ ไปรถไฟตอนนี้ก็ไม่ทันอยู่ดี และตั๋วเต็มและจะให้รอวันอังคารเพื่อขึ้นเครื่องก็คงเป็นไปไม่ได้
พี่วากิว: อ้าว! แล้วจะทำยังไงดีที ถามเจ้าหน้าที่สนามบิน
เจ้าหน้าที่ : แล้วคุณจะบินไปไหนบ้าง
พี่วากิว : ฉันต้องนั่งเครื่องจากปักกิ่งไปลงเซินเจิ้นและเปลี่ยนเครื่องไปกรุงเทพฯ
เจ้าหน้าที่ : ระหว่างนั้นก็ช่วยกันหาข้อมูลว่าจะไปเซินเจิ้นด้วยวิธีไหนได้บ้างในช่วงเวลานั้น
ลุงแท็กซี่เองแกก็พยายามช่วยให้ข้อมูลว่าไปไหนได้บ้าง
คุยกันเป็นภาษาจีน ยอมรับว่าตอนนั้นพี่วากิวมึนมาก ไม่เคยเจอเหตุการณ์นี้
เจ้าหน้าที่ : คุณค่ะมีอีกทางคือนั่งรถไฟไปเสิ่นหยางพักที่นั่น 1 คืนแล้วเช้านั่งเครื่องไปเซินเจิ้น
คุณน่าจะต่อเครื่องได้ทัน และรถไฟขบวนจะถี่มากกว่าไปปักกิ่ง
พี่วากิว : โอเคค่ะ น่าจะเป็นไปได้ แต่มีอีกเรื่องที่มีปัญหาคือ ตอนนี้มีเงินหยวนติดตัวน้อยมาก
ค่าแท็กซี่คงไม่มีแล้ว ตอนนี้มีเงินไทย และ ยูโร คุณช่วยคุยกับแท็กซี่ให้หน่อยว่ามีที่ไหนแลกเงินบ้างไหม
เจ้าหน้าที่ : เค้าก็คุยๆ และบอกว่าตอนนี้ไม่มีที่แลกเงินแล้ว แต่ลุงแท็กซี่บอกว่า เอาเงินไทยมาให้แก
เดี๋ยวแกให้แลกเป็นเงินหยวน และเช้าแกจะเอาไปแลกให้เอง คุณให้เค้าไป 2,000 เดี๋ยวเค้าจะเอาเงินหยวนให้ 400 หยวนแล้วคุณก้อเอาติดตัวไว้
พร้อมกับ โน้ตใบน้อยเพื่อระบุเส้นทางการเดินทางของเราว่าจะไปอย่างไรต่อ
พี่วากิวน้ำตาจะไหล รอดตายแล้วกรู จากนั้นเราก็เดินทางไปสถานีรถไฟตานตงที่เดิม ให้ทิปลุงแท็กซี่ค่ารอ
ค่าเสียเวลาอีกนิดหน่อย พี่วากิวรีบไปซื้อตั๋วรถไฟ เพื่อขึ้นรถไฟไปเสิ่นหยาง ค่าตั๋วอยู่ที่
51 หยวน รถไฟ D7638 เวลา 19.49 – 21.12
ทางเข้าสถานีรถไฟมีความอลังการใหญ่โต ตรงเวลา สะอาด ดีงามมาก เมื่อเทียบกับเราแล้วนั้น .........
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้