แบคแพค เที่ยวยุโรปครั้งแรก คนเดียว 11 วัน 11 ประเทศ ด้วยรถไฟและรถบัส
สวัสดีจร้า!! หลังจากหายไปนานแสนนาน กับกระทู้เที่ยวเกาหลีเหนือ
ทริปหลังจากนั้นยังมีไปเที่ยวอยู่บ้างนะ เกาหลีใต้ กวางโจว อินเดีย
และทริปสุดท้าย สำหรับการท่องเที่ยวต่างประเทศ คือ ศรีลังกา ในเดือนกุมภาพันธ์ 2020 เรื่องโควิดกำลังกรุ่นๆ
จะปิดไม่ปิดประเทศอยู่รอมร่อ หลังจากนั้นไม่ได้ไปไหนเลย เที่ยวในประเทศแบบยาวๆ
จนถึงวันนี้ วันที่จะได้เดินทางออกนอกประเทศอีกครั้ง ในรอบเกือบ 2 ปี แต่ก็นะ จะไปไหนดีที่มันคุ้มค่ากับการลางานมากที่สุดในชีวิต 6 วัน อเมริกา? ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์? แอฟริกา? หรือว่าคราวนี้ ควรเป็นยุโรป
เมื่อหาข้อมูลต่างๆ แล้วตกลงปลงใจไปยุโรปละกัน แต่ไปคราวนี้ คงเน้นไปให้เยอะที่สุด เพราะในช่วงปีที่ผ่านมา
โควิดทำให้มุมมองชีวิตเปลี่ยนไป อะไรที่เคยแน่นอน ก็ไม่มีอะไรแน่นอน
ทริปนี้เป็นทริปช่วงสิ้นปีใหม่ ที่พี่วากิวใช้เวลาท่องเที่ยว
ลางานยาวที่สุดในชีวิต ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม 2022 - 2 มกราคม 2023
เป้าหมายในชีวิตของพี่วากิว คือการต้องได้ไปเที่ยวยุโรปให้ได้สักครั้ง
เพราะแค่คิดเรื่องทำวีซ่า ก็ปวดหัวจี๊ดๆ เลยผลัดมาเรื่อยๆ เพราะด้วยเวลาต้องลางานนานแน่ๆ
ยังงั้นก็เลยคิดว่า ไหนๆ ก็ไปแล้ว เอาให้ครบไปเลย แล้วถ้าชอบที่ไหนเป็นพิเศษ ค่อยไปซ้ำเอาละกัน
สุดท้ายพี่วากิว ตกผลึก วางแผนการเที่ยว สรุปว่าจะไปทั้งหมด 11 วัน 10 ประเทศ (แต่งอกมาอีก 1) เพราะเหตุสุดวิสัย
1.สวิสเซอร์แลนด์ (Zermatt, Matterhorn)
2.อิตาลี (Milan, Venice)
3.สโลวีเนีย (Ljubljana)
4.ออสเตรีย (Hallstatt, Vienna)
5.สโววะเกีย (Bratislava)
6.ฮังการี (Budapest)
7.เยอรมัน (Berlin)
8.เนเธอร์แลนด์ (Amsterdam)
9.เบลเยี่ยม (Brussel)
10.ลักเซมเบิร์ก (Luxemburg) เพิ่มเติมเพราะปรับแผน
11.ฝรั่งเศส (Paris)
ตารางเที่ยวเป็นแบบนี้จร้า
DAY 1 : 21/12/22
เดินทาง : กรุงเทพ - ซูริค ถึงเช้าประมาณ 7.00
เที่ยว : Zurich - Zermatt - Matterhorn มงกุฏแห่งสวิต หินทรงพีระมิด บนเทือกเขาแอลป์
Day 2 : 22/12/22
เดินทาง: Brig - Milan - Venice - Ljubljana
(Slovenia) by bus
เที่ยว : 1. Milan Duomo di Milano 2.Venice เที่ยวเมือง กับมหาวิหารที่ยิ่งใหญ่ในมิลาน
และเที่ยวเมืองเวนิส สายน้ำโรแมนติก
Day 3: 23/12/22
เดินทาง : Ljubljana - Salzburg by Train
เที่ยว : Slovenia Ljubljana เมือง Slow life แบบชนบท เงียบๆ ชิลๆ ค่าครองชีพสบายๆ กระเป๋า
Day 4: 24/12/22
เดินทาง : Salzburg - Hallstatt - Vienna
เที่ยว : 1.Hallstatt เมืองเล็กๆ ติดทะเลสาบ สวยต้องมนต์ 2.Vienna Christmas market มาไม่ทันตลาดวาย
Day 5: 25/12/22
เดินทาง : Vienna - Bratislava (Slovakia) -
Budapest (Hungary)
เที่ยว : 1.เที่ยวเวียนนาแบบเหงาๆ เพราะร้านปิดหมด 2. บราติสลาวา เมืองเล็กๆ ติดแม่น้ำ
ดานูบ &ประสบการณ์เกือบโดนรูดกระเป๋า
Day 6: 26/12/22
เดินทาง : Budapest,Hungary- Berlin,Germany
เที่ยว : บูดาเปส เดินเล่นชมบนเนินเขา Fisherman และวิวริมแม่น้ำดานูบ
Day 7: 27/12/22
เดินทาง : Berlin (Germany) - Amsterdam
(Netherland)
เที่ยว : 1.เที่ยวเบอร์ลินแบบเรื่อยเปื่อย และช้อปปิ้งให้หน่ำใจ2.Red light district ค้าประเวณีเสรี มันเป็นแบบนี้นี่เอง
Day 8: 28/12/22
เดินทาง : __ วันแรกที่ไม่ต้องย้ายเมือง__
เที่ยว : 1.เมืองกังหันลม กับลมฟ้าลมฝนของเค้า
2.เดินช้อปปิ้ง เรื่อยเปื่อย
3.River Cruise ชมคลองเมืองอัมเตอร์ดัม ลมฝน ลมฟ้าและลมหนาว
4.Red light district ซ้ำอีกรอบ ดูโชว์หยอดเหรียญ
Day 9 : 29/12/22
เดินทาง : Amsterdam (Netherland) - Brussel
(Belgium)
เที่ยว : 1.Atomium คิวยาวแต่เราก็สู้คร้า
2.ว้าวว ยาวๆๆๆๆๆ กับจตุรัสกล็องปรัส กลางเมืองที่สวยที่สุดในโลก
3.Brussel Christmas market งานวัดมันต้องแบบนี้สิ
Day 10: 30/12/22
เดินทาง : Brussel - Luxemburg เมืองผ่านในวันที่ปารีสตั๋วเต็ม - Paris (France)
เที่ยว : 1. Luxembourg city tour ระเบียงแห่งยุโรป และลมฟ้าลมฝน
2. Christmas market แบบเบาๆ เหงาๆ ง่วงๆ
Day 11: 31/12/22
เดินทาง : ปารีส - สนามบินอิหยั่งเนี้ย
เที่ยว : 1.หอไอเฟล Eiffel
2.ย่านมงมาร์ต(Montmartre)
3.พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ Louvre Museum
4.ตลาดคริสมาสต์ Christmas market
5.ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs Elysees)
6.ประตูชัย Arc de triomphe
Day 12: 1-2 /1/23 เดินทางกลับ
เดินทาง : Paris - Rome - Saudi Arabia -
India - Thailand
เดินทางเกือบ 2 วัน กับประสบการณ์ต่อเครื่องแบบช้ำๆ
ส่วนเรื่องการเตรียมตัวและการเตรียมพร้อมในเรื่องต่างๆ ขอแยกไปอีกกระทู้เล่าแบบละเอียดยิบๆ แน่นอน
มา! มา! เริ่มกันเลย
DAY 1 : 21/12/22
เดินทาง : กรุงเทพ - ซูริค ถึงเช้าประมาณ 7.00
เที่ยว : Zurich - Zermatt - Matterhorn มงกุฏแห่งสวิต หินทรงพีระมิด บนเทือกเขาแอลป์ และประสบการณ์ลืมกระเป๋าบนรถไฟสวิตเซอร์แลนด์
เริ่มจากสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพ - ซูริค 21/12/22 เดินทางเวลา 00.30-6.30 ด้วยสายการบิน Thai airways
ใช้เวลา 12 ชั่วโมง ราคา 15,957 บาท เป็นตั๋วขาเดียว ไม่มีอะไรตื่นเต้นมาก ชิลๆ ดริ้งๆ
ก่อนขึ้นเครื่องที่ Coral lounge พี่วากิวชอบมาก Cocktail ดีเลิศ
หลังจากอยู่บนเครื่องอันยาวนานกว่า 12 ชั่วโมง เอาจริงก็แอบเมื่อยนะ พี่วากิว ก็มาถึงสนามบิน ซูริค ผ่าน ตม.อย่างสบายๆ
จากนั้นพี่วากิวก็ไปขึ้นรถไฟ ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับสนามบินแหละ จุดหมายแรกที่เราจะไปคือ เมือง Zermatt ที่ตั้งของภูเขา Matterhorn อันสูงใหญ่
สถานีที่เราต้องไป : Zuerich flughafen - Zurich Hb เปลี่ยนรถไฟ
Zuerich Hb - Visp เปลี่ยนรถไฟ
Visp - Zermatt
จากสนามบิน เราเดินทางมาถึง Zermatt ประมาณเที่ยง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ซึ่งก็ไม่ได้รู้สึกว่านานอะไรมาก เพราะเพลิดเพลินกับเส้นทางระหว่างทาง
เมื่อมาถึง Zermatt สิ่งที่เราต้องทำคือการฝากกระเป๋าที่ Locker ในสถานี โดนไป 12 ฟรังประมาณ 466.51 บาท
จากนั้นเราก้อเดินมุ่งหน้าไปที่ สถานีกระเช้า เพื่อขึ้น Matterhorn Glacier Paradise
ขึ้นไปยังยอด Matterhorn
โดยเราเดินไปตามทางผ่านวงเวียน เลียบริมน้ำไปเรื่อยๆ จะเห็น Matterhorn โดยรอบ
วันนี้โชคไม่ดีเท่าไหร่ เดินไปกี่มุม ก็ยังไม่เห็นยอด Matterhorn ภูเขาของความขี้อาย แต่ก็ไม่เป็นไร เดินเอาบรรยากาศ ก็แล้วกัน
จากนั้นเราก็ไปซื้อตั๋วขึ้น Matterhorn แบบ Round trip ค่ากระเช้าไปกลับอยู่ที่ 2,913.57 บาท ก็แพงน่าดู จะได้ตั๋วเป็นกระดาษการ์ดแข็งๆ
เอาบัตรเสียบ เข้าสถานีเราเริ่มต้นที่ สถานี Furi - Schwarzsee - Trockener steg เปลี่ยนกระเช้า ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วต้องเปลี่ยนรึเปล่า (แต่ก็เปลี่ยนไปแล้ว)
ประมาณ 40 นาทีน่าจะได้ แล้วจะไปถึง Matterhorn glacier ระหว่างทางที่ขึ้นเริ่มรู้สึกว่า มีอาการปวดๆ เบ้าตา และเวียนหัวนิดๆ
เมื่อถึงสถานีบนยอดสุด เราก็ยังไม่เห็น ยอด Matterhorn เลยสักที มีลม มีหมอก ลงเต็มพื้นที่พี่วากิว รู้สึกได้ว่าร่างกายไม่ไหว
เวียนหัว เหมือนจะน๊อค อาจจะเพราะยังปรับตัวในพื้นที่สูงไม่ได้
ซึ่งเราต้องเดินผ่านอุโมงค์ ซึ่งตรงนี้แหละ อาการหนักมาก รู้ว่าไม่ไหว อ้วกแน่ๆ เลยหาที่นั่งพักก่อนให้ตัวเองปรับสภาพได้แล้วค่อยไปต่อ
ด้านบนมีร้านอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งตอนนั้นเวลาก็บ่ายสองละ อาหารหลายอย่างหมด เหลือแต่เมนูเฟรนฟราย พี่วากิวเลยเลือกรส
Truffle โรยชีสมา แทนที่จะดีขึ้น อาการก็เวียนหัวหนักกว่าเดิมไปอีก โอ้ย!! ทรมาน แท้น้อ
สำหรับมื้อนี้พี่วากิวจ่ายไป 829 บาท ได้เฟรนฟรายกับน้ำอัดลม 1 ขวด เรียกได้ว่าเป็นเฟรนฟรายราชนิกูล ที่แพงที่สุด
ตอนนี้พี่วากิวต้องประเมินตัวเองอีกทีว่าไหวไหม ปรากฏว่ายังคงมีอาการ เวียนหัว มุมที่ควรถ่ายรูปก็ไม่ได้ถ่าย ไม่ได้ทำอะไรเลย มากินเฟรนฟรายที่แพงที่สุดในชีวิต
และตัดสินใจว่า กลับดีกว่า เป็นอะไรมา มันจะไม่คุ้มกัน ลาก่อน Matterhorn ช็อตฟีลมาก
ขากลับเจอคู่รัก และกลุ่มนักท่องเที่ยวดูน่าสนุกดี แต่ตอนนี้พี่ไม่หว้ายย ขอลาก่อน ไม่อยากตุยอยู่ที่นี่
จากนั้นก้อรีบลงกระเช้าไปกลับในเมือง มาถึงข้างล่างก้อเกือบ 4 โมงเย็น เดินเล่น ชมนก ชมไม้ ดูเสื้อผ้า
เข้าซุปเปอร์สำรวจราคาอาหาร การกิน แต่ก็ไม่กินละ เพิ่งเวียนหัวกับ เฟรนฟรายซ์ไม่หาย
จากนั้นก็ต้องบอกลาเมือง Zermatt และ Matterhorn แบบเศร้าๆ แต่มากด้วยประสบการณ์
[CR] แบคแพค เที่ยวยุโรปครั้งแรก คนเดียว 11 วัน 11 ประเทศ ด้วยรถไฟและรถบัส by พี่วากิว
เดินทาง : กรุงเทพ - ซูริค ถึงเช้าประมาณ 7.00
เที่ยว : Zurich - Zermatt - Matterhorn มงกุฏแห่งสวิต หินทรงพีระมิด บนเทือกเขาแอลป์
Day 2 : 22/12/22
เดินทาง: Brig - Milan - Venice - Ljubljana
(Slovenia) by bus
เที่ยว : 1. Milan Duomo di Milano 2.Venice เที่ยวเมือง กับมหาวิหารที่ยิ่งใหญ่ในมิลาน
และเที่ยวเมืองเวนิส สายน้ำโรแมนติก
Day 3: 23/12/22
เดินทาง : Ljubljana - Salzburg by Train
เที่ยว : Slovenia Ljubljana เมือง Slow life แบบชนบท เงียบๆ ชิลๆ ค่าครองชีพสบายๆ กระเป๋า
Day 4: 24/12/22
เดินทาง : Salzburg - Hallstatt - Vienna
เที่ยว : 1.Hallstatt เมืองเล็กๆ ติดทะเลสาบ สวยต้องมนต์ 2.Vienna Christmas market มาไม่ทันตลาดวาย
Day 5: 25/12/22
เดินทาง : Vienna - Bratislava (Slovakia) -
Budapest (Hungary)
เที่ยว : 1.เที่ยวเวียนนาแบบเหงาๆ เพราะร้านปิดหมด 2. บราติสลาวา เมืองเล็กๆ ติดแม่น้ำ
ดานูบ &ประสบการณ์เกือบโดนรูดกระเป๋า
Day 6: 26/12/22
เดินทาง : Budapest,Hungary- Berlin,Germany
เที่ยว : บูดาเปส เดินเล่นชมบนเนินเขา Fisherman และวิวริมแม่น้ำดานูบ
Day 7: 27/12/22
เดินทาง : Berlin (Germany) - Amsterdam
(Netherland)
เที่ยว : 1.เที่ยวเบอร์ลินแบบเรื่อยเปื่อย และช้อปปิ้งให้หน่ำใจ2.Red light district ค้าประเวณีเสรี มันเป็นแบบนี้นี่เอง
Day 8: 28/12/22
เดินทาง : __ วันแรกที่ไม่ต้องย้ายเมือง__
เที่ยว : 1.เมืองกังหันลม กับลมฟ้าลมฝนของเค้า
2.เดินช้อปปิ้ง เรื่อยเปื่อย
3.River Cruise ชมคลองเมืองอัมเตอร์ดัม ลมฝน ลมฟ้าและลมหนาว
4.Red light district ซ้ำอีกรอบ ดูโชว์หยอดเหรียญ
Day 9 : 29/12/22
เดินทาง : Amsterdam (Netherland) - Brussel
(Belgium)
เที่ยว : 1.Atomium คิวยาวแต่เราก็สู้คร้า
2.ว้าวว ยาวๆๆๆๆๆ กับจตุรัสกล็องปรัส กลางเมืองที่สวยที่สุดในโลก
3.Brussel Christmas market งานวัดมันต้องแบบนี้สิ
Day 10: 30/12/22
เดินทาง : Brussel - Luxemburg เมืองผ่านในวันที่ปารีสตั๋วเต็ม - Paris (France)
เที่ยว : 1. Luxembourg city tour ระเบียงแห่งยุโรป และลมฟ้าลมฝน
2. Christmas market แบบเบาๆ เหงาๆ ง่วงๆ
Day 11: 31/12/22
เดินทาง : ปารีส - สนามบินอิหยั่งเนี้ย
เที่ยว : 1.หอไอเฟล Eiffel
2.ย่านมงมาร์ต(Montmartre)
3.พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ Louvre Museum
4.ตลาดคริสมาสต์ Christmas market
5.ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs Elysees)
6.ประตูชัย Arc de triomphe
Day 12: 1-2 /1/23 เดินทางกลับ
เดินทาง : Paris - Rome - Saudi Arabia -
India - Thailand
เดินทางเกือบ 2 วัน กับประสบการณ์ต่อเครื่องแบบช้ำๆ
เริ่มจากสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพ - ซูริค 21/12/22 เดินทางเวลา 00.30-6.30 ด้วยสายการบิน Thai airways
ใช้เวลา 12 ชั่วโมง ราคา 15,957 บาท เป็นตั๋วขาเดียว ไม่มีอะไรตื่นเต้นมาก ชิลๆ ดริ้งๆ
ก่อนขึ้นเครื่องที่ Coral lounge พี่วากิวชอบมาก Cocktail ดีเลิศ
หลังจากอยู่บนเครื่องอันยาวนานกว่า 12 ชั่วโมง เอาจริงก็แอบเมื่อยนะ พี่วากิว ก็มาถึงสนามบิน ซูริค ผ่าน ตม.อย่างสบายๆ
จากนั้นพี่วากิวก็ไปขึ้นรถไฟ ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับสนามบินแหละ จุดหมายแรกที่เราจะไปคือ เมือง Zermatt ที่ตั้งของภูเขา Matterhorn อันสูงใหญ่
สถานีที่เราต้องไป : Zuerich flughafen - Zurich Hb เปลี่ยนรถไฟ
Zuerich Hb - Visp เปลี่ยนรถไฟ
Visp - Zermatt
จากสนามบิน เราเดินทางมาถึง Zermatt ประมาณเที่ยง ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ซึ่งก็ไม่ได้รู้สึกว่านานอะไรมาก เพราะเพลิดเพลินกับเส้นทางระหว่างทาง
เมื่อมาถึง Zermatt สิ่งที่เราต้องทำคือการฝากกระเป๋าที่ Locker ในสถานี โดนไป 12 ฟรังประมาณ 466.51 บาท
จากนั้นเราก้อเดินมุ่งหน้าไปที่ สถานีกระเช้า เพื่อขึ้น Matterhorn Glacier Paradise
ขึ้นไปยังยอด Matterhorn
โดยเราเดินไปตามทางผ่านวงเวียน เลียบริมน้ำไปเรื่อยๆ จะเห็น Matterhorn โดยรอบ
วันนี้โชคไม่ดีเท่าไหร่ เดินไปกี่มุม ก็ยังไม่เห็นยอด Matterhorn ภูเขาของความขี้อาย แต่ก็ไม่เป็นไร เดินเอาบรรยากาศ ก็แล้วกัน
จากนั้นเราก็ไปซื้อตั๋วขึ้น Matterhorn แบบ Round trip ค่ากระเช้าไปกลับอยู่ที่ 2,913.57 บาท ก็แพงน่าดู จะได้ตั๋วเป็นกระดาษการ์ดแข็งๆ
เอาบัตรเสียบ เข้าสถานีเราเริ่มต้นที่ สถานี Furi - Schwarzsee - Trockener steg เปลี่ยนกระเช้า ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วต้องเปลี่ยนรึเปล่า (แต่ก็เปลี่ยนไปแล้ว)
ประมาณ 40 นาทีน่าจะได้ แล้วจะไปถึง Matterhorn glacier ระหว่างทางที่ขึ้นเริ่มรู้สึกว่า มีอาการปวดๆ เบ้าตา และเวียนหัวนิดๆ
เมื่อถึงสถานีบนยอดสุด เราก็ยังไม่เห็น ยอด Matterhorn เลยสักที มีลม มีหมอก ลงเต็มพื้นที่พี่วากิว รู้สึกได้ว่าร่างกายไม่ไหว
เวียนหัว เหมือนจะน๊อค อาจจะเพราะยังปรับตัวในพื้นที่สูงไม่ได้
ซึ่งเราต้องเดินผ่านอุโมงค์ ซึ่งตรงนี้แหละ อาการหนักมาก รู้ว่าไม่ไหว อ้วกแน่ๆ เลยหาที่นั่งพักก่อนให้ตัวเองปรับสภาพได้แล้วค่อยไปต่อ
ด้านบนมีร้านอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งตอนนั้นเวลาก็บ่ายสองละ อาหารหลายอย่างหมด เหลือแต่เมนูเฟรนฟราย พี่วากิวเลยเลือกรส
Truffle โรยชีสมา แทนที่จะดีขึ้น อาการก็เวียนหัวหนักกว่าเดิมไปอีก โอ้ย!! ทรมาน แท้น้อ
สำหรับมื้อนี้พี่วากิวจ่ายไป 829 บาท ได้เฟรนฟรายกับน้ำอัดลม 1 ขวด เรียกได้ว่าเป็นเฟรนฟรายราชนิกูล ที่แพงที่สุด
ตอนนี้พี่วากิวต้องประเมินตัวเองอีกทีว่าไหวไหม ปรากฏว่ายังคงมีอาการ เวียนหัว มุมที่ควรถ่ายรูปก็ไม่ได้ถ่าย ไม่ได้ทำอะไรเลย มากินเฟรนฟรายที่แพงที่สุดในชีวิต
และตัดสินใจว่า กลับดีกว่า เป็นอะไรมา มันจะไม่คุ้มกัน ลาก่อน Matterhorn ช็อตฟีลมาก
ขากลับเจอคู่รัก และกลุ่มนักท่องเที่ยวดูน่าสนุกดี แต่ตอนนี้พี่ไม่หว้ายย ขอลาก่อน ไม่อยากตุยอยู่ที่นี่
จากนั้นก้อรีบลงกระเช้าไปกลับในเมือง มาถึงข้างล่างก้อเกือบ 4 โมงเย็น เดินเล่น ชมนก ชมไม้ ดูเสื้อผ้า
เข้าซุปเปอร์สำรวจราคาอาหาร การกิน แต่ก็ไม่กินละ เพิ่งเวียนหัวกับ เฟรนฟรายซ์ไม่หาย
จากนั้นก็ต้องบอกลาเมือง Zermatt และ Matterhorn แบบเศร้าๆ แต่มากด้วยประสบการณ์
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้