Shambhala TS
6 มิถุนายน 2562 - 17:35(แก้ไข)
ไม่มีท่าทีจะเสื่อมความนิยมง่ายๆ กับเทรนด์ชาไข่มุกที่มาแรงสุดๆในหมู่วัยรุ่น บางคนถึงขั้นเก็บเงินไม่ยอมกินข้าวเพื่อมาซื้อชาไข่มุกแก้วละร้อยกว่าเลยก็มี เช่นเดียวกับเด็กสาวคนนี้ ที่ไม่กินอะไรเลยนอกจากชาไข่มุก!
เด็กสาววัย 14 ปีจากมณฑลเจ้อเจียงของจีน ถูกนำสชตัวส่งโรงพยาบาลเข้าแผนกฉุกเฉินไปเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังมีปัญหาแวดท้องรุนแรงและขับถ่ายไม่ได้ กระทั่งหมอนำตัวมาทำ CT scan ช่องท้อง ก็ต้องพบคำตอบอย่างรวดเร็วว่า ในช่องท้องของเธอเต็มไปด้วยไข่มุกที่ไม่ย่อย เกาะหนึบตามลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่และทวารหนักอยู่เพียบ!
ด้วยความตกใจ คุณหมอจึงสอบถามความจริงจากปากเด็กสาวว่าเกิดอะไรขึ้น ติดชาไข่มุกจนกินแทนข้าวหรือไม่? ซึ่งเด็กสาวได้ตอบว่าเธอเพิ่งดื่มแก้วสุดท้ายไป 5 วันก่อน แต่ ดร. จาง ผู้รับผิดชอบอาการของเด็กสาวดังกล่าว อธิบายว่าปริมาณไข่มุกที่เกาะตัวอยู่ตามลำไส้นั้น ไม่ใช่ปริมาณที่กินภายใน 1 วันแน่นอน หมายความว่าเด็กสาวอาจกำลังปกปิดความจริง ไม่ให้ใครรู้ถึงนิสัยติดชาไข่มุกของตัวเองเป็นแน่แท้ และต้องแอบดื่มในปริมาณหลายแก้วแน่นอน
สุดท้ายเด็กสาวดังกล่าว เข้ารับการล้างท้องระบายของเสียจนหายดีแล้ว ก่อนจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ ด้าน เหอหยูหลิง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลซูจีอธิบายว่า ไข่มุกที่นำมาใส่ชากันจนได้รับความนิยมนั้น ส่วนใหญ่ทำมาจากแป้งมันสำปะหลังซึ่งมันย่อยยาก และบางร้านค้าก็หัวหมอ ใส่สารเพิ่มเติมเพื่อให้ไข่มุกเด้งและเหนียวหนึบยิ่งขึ้น และส่งผล กระทบต่อระบบย่อยอาหารอย่างหนักหน่วง ยังไงสาวกชาไข่มุกก็ดื่มกันอย่างระมัดระวังด้วยละกัน.
ขอบคุณข้อมูลจาก: World of Buzz, sinchew
หมอตรวจเจอ ไข่มุกนับร้อย ติดหนึบในลำไส้เด็ก 14
6 มิถุนายน 2562 - 17:35(แก้ไข)
ไม่มีท่าทีจะเสื่อมความนิยมง่ายๆ กับเทรนด์ชาไข่มุกที่มาแรงสุดๆในหมู่วัยรุ่น บางคนถึงขั้นเก็บเงินไม่ยอมกินข้าวเพื่อมาซื้อชาไข่มุกแก้วละร้อยกว่าเลยก็มี เช่นเดียวกับเด็กสาวคนนี้ ที่ไม่กินอะไรเลยนอกจากชาไข่มุก!
เด็กสาววัย 14 ปีจากมณฑลเจ้อเจียงของจีน ถูกนำสชตัวส่งโรงพยาบาลเข้าแผนกฉุกเฉินไปเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา หลังมีปัญหาแวดท้องรุนแรงและขับถ่ายไม่ได้ กระทั่งหมอนำตัวมาทำ CT scan ช่องท้อง ก็ต้องพบคำตอบอย่างรวดเร็วว่า ในช่องท้องของเธอเต็มไปด้วยไข่มุกที่ไม่ย่อย เกาะหนึบตามลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่และทวารหนักอยู่เพียบ!
ด้วยความตกใจ คุณหมอจึงสอบถามความจริงจากปากเด็กสาวว่าเกิดอะไรขึ้น ติดชาไข่มุกจนกินแทนข้าวหรือไม่? ซึ่งเด็กสาวได้ตอบว่าเธอเพิ่งดื่มแก้วสุดท้ายไป 5 วันก่อน แต่ ดร. จาง ผู้รับผิดชอบอาการของเด็กสาวดังกล่าว อธิบายว่าปริมาณไข่มุกที่เกาะตัวอยู่ตามลำไส้นั้น ไม่ใช่ปริมาณที่กินภายใน 1 วันแน่นอน หมายความว่าเด็กสาวอาจกำลังปกปิดความจริง ไม่ให้ใครรู้ถึงนิสัยติดชาไข่มุกของตัวเองเป็นแน่แท้ และต้องแอบดื่มในปริมาณหลายแก้วแน่นอน
สุดท้ายเด็กสาวดังกล่าว เข้ารับการล้างท้องระบายของเสียจนหายดีแล้ว ก่อนจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ ด้าน เหอหยูหลิง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลซูจีอธิบายว่า ไข่มุกที่นำมาใส่ชากันจนได้รับความนิยมนั้น ส่วนใหญ่ทำมาจากแป้งมันสำปะหลังซึ่งมันย่อยยาก และบางร้านค้าก็หัวหมอ ใส่สารเพิ่มเติมเพื่อให้ไข่มุกเด้งและเหนียวหนึบยิ่งขึ้น และส่งผล กระทบต่อระบบย่อยอาหารอย่างหนักหน่วง ยังไงสาวกชาไข่มุกก็ดื่มกันอย่างระมัดระวังด้วยละกัน.
ขอบคุณข้อมูลจาก: World of Buzz, sinchew