●● 'งูเห่า’ กับ ‘เด็กเลี้ยงแกะ’... สุดท้ายก็แค่ ‘ตีกิน’?●●
โหมโรงกันมาเยอะแยะ สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ...
เมื่อวานนี้ สส.พรรคอนาคตใหม่ นำโดย “คุณช่อ” น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ดาหน้าแถลงข่าว
ยืนยันว่า สส.ของพรรคได้รับการติดต่อให้ไปร่วมรัฐบาล หรือ เป็น “งูเห่า”
ประกอบด้วย นายอนาวิน รัตนสถาพร สส. ปทุมธานี นายเท่าพิภพลิ้มจิตรกร สส. กทม. นายฐิตินันท์ แสงนาค
สส. ขอนแก่น และนายทองแดง เบญจปักษ์ สส.สมุทรสาคร
นายอนาวิน ยืนยันว่า ตนได้รับการติดต่อสองครั้ง ครั้งแรกเสนอเงินมาให้ 30 ล้าน ต่อมาเสนอให้ 60 ล้านบาท
และจะเสนอจะส่งมอบที่ห้าง โดยจะให้รับเอง 50 ล้านบาท ส่วนอีก 10 ล้านบาทจะหักไป ตนไม่รับ
นายเท่าพิภพ เล่าว่า ตนได้รับการติดต่อตั้งแต่หลังเลือกตั้ง ครั้งแรกเสนอเงิน 30 ล้านบาท ต่อมาเพิ่มเป็น
50 ล้านบาท 70 ล้านบาท และสูงสุดอยู่ที่ 120 ล้าน ตนก็ปฏิเสธไป
นายฐิตินันท์ อ้างว่า ในเช้าวันที่ 25 มี.ค. มีคนบอกว่ามีผู้ใหญ่มาขอพบเขาบอกว่าผู้ใหญ่จะขอพบเป็น
รองหัวหน้าพรรค มีการเสนอเงินให้ 9 หลัก จากนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ เสนอให้ 5 ล้านก่อนวันโหวต และหลังวันโหวต
ให้อีก 70 ล้าน และเงินเดือนเดือนละ 200,000 บาท
นายทองแดง อ้างว่า ติดต่อมาตลอด เริ่มต้นที่ 25 ล้าน 50 ล้าน ล่าสุดเสนอที่ 75 ล้าน แต่ตนไม่รับ
“คุณช่อ” โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ย้ำในการแถลงข่าวว่า นี่คือ 4 เสียงส่วนหนึ่งที่ถูกทามทาม “ดีลงูเห่า”
จากพรรคอื่นๆ ส่วนตัวอยากตั้งคำถาม นำเงินแบบนี้มาจากไหน พรรคการเมืองเหล่านี้ทำผิดกฎหมายหรือไม่
ทำลายสถาบันหรือไม่ และอ้างว่ามีการดำเนินการหลายพรรค ขอเรียกร้องไปยังพรรคที่ทำเรื่องตรงนี้ ว่า
ควรหยุดทำแบบนี้ หยุดทำงานที่ไม่เป็นประโยชน์ เพราะการกระทำแบบนี้ไม่เป็นผล
“จะไม่ขอเปิดเผยชื่อพรรคที่เสนอมา เพราะเราคำนึงถึงชีวิตของ สส. เรา ยืนยันอีกครั้ง อนาคตใหม่ทุกคน
ไม่มีงูเห่า อยู่ได้เพราะอุดมการณ์แน่นอน และขอสงวนสิทธิในการดำเนินคดีกับทุกฝ่าย”
นับเป็นการแถลงข่าวที่สื่อมวลชนสนใจ เพราะในสถานการณ์การเมืองที่กำลังจะมีการลงมติในที่ประชุม
รัฐสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี โดยที่พรรคคู่แข่งของอนาคตใหม่ขณะนี้รวบรวมเสียง สส. และประเมินว่า
อาจได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว.จนเพียงพอที่จะเลือกพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯได้อยู่แล้ว โดยไม่จำเป็น
จะต้องไปพึ่งเสียง สส.งูเห่าจากพรรคอนาคตใหม่หรือพรรคอื่นใดอีกเลย
จึงไม่มีเหตุจูงใจจะต้องไปเสนอซื้องูเห่าราคาหลายสิบล้านหรือจนถึงร้อยล้านบาทตามที่กล่าวอ้าง....
แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไร?
1. น่าเศร้าใจ โฆษกพรรคอ้างว่า ไม่ขอเปิดเผยชื่อคนที่เสนอสินบนให้ สส. และก็ไม่ยืนยันว่าจะมี
การดำเนินคดีกับผู้เสนอสินบนให้ถึงที่สุด ให้เป็นที่หลาบจำ ตามกฎหมายบ้านเมือง
เท่ากับเป็นการแถลงข่าวลอยๆ พูดลอยๆ กล่าวหาลอยๆ
ชิงจังหวะแถลงในวันที่ 4 มิ.ย. ก่อนการประชุมเลือกนายกฯในวันที่ 5 มิ.ย.
มันต่างอะไรกับพฤติกรรมของ สส.น้ำเน่าที่ช่ำชองวิธี “ตีกิน”ทางการเมืองในอดีต?
น่าผิดหวังอย่างที่สุด สำหรับวิธีเล่นการเมืองแบบนี้ของพรรคอนาคตใหม่
วิธีการสาดโคลน ใส่ร้ายกล่าวหาคู่ต่อสู้ทางการเมือง โดยปราศจากการนำเสนอหลักฐาน และหากไม่มี
การดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเมืองต่อไปให้ถึงที่สุด ก็จะไม่มีการพิสูจน์กันให้แน่ชัดว่า สิ่งที่กล่าวหานั้น
เป็นความจริงหรือไม่? คนเสนอสินบนควรต้องได้รับโทษตามกฎหมาย
2. “คุณช่อ” ตั้งคำถามว่า การทำแบบนี้ผิดกฎหมายหรือไม่?
ตอบได้เลยว่า ถ้ามีใครทำเช่นนั้นจริง ย่อมเป็นการกระทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 144 แน่นอน
ตัวอย่างก็คือ กรณีล่าเสือดำ หัวหน้าวิเชียรยังได้แจ้งความดำเนินคดีฐานเสนอสินบนเอากับนายเปรมชัย
หรืออย่างกรณี พ.ต.อ.ชาญชัย เนติรัฐการ อดีต ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม ถูกดำเนินคดี
ฐานเสนอสินบนตุลาการเพื่อช่วยเหลือพรรคไทยรักไทย เสนอเงิน 30 ล้านบาท แก่ ม.ล.ไกรฤกษ์ เพื่อ
ช่วยเหลือคดียุบพรรคไทยรักไทย(ทรท.) แต่ทางตุลาการท่านไม่รับ แล้วยังนำเรื่องนี้มาดำเนินคดีเอากับ
ผู้เสนอสินบนด้วย จนในที่สุด ศาลฎีกามีคำพิพากษาลงโทษจำคุก พ.ต.อ.ชาญชัย ผู้เสนอสินบน 2 ปี
ไม่รอลงอาญา ระเห็จเข้าไปรับโทษในเรือนจำ
และในกรณีที่ สส.พรรคอนาคตใหม่แถลงข่าวนั้น หากผู้กระทำผิดฐานเสนอสินบนให้ สส.พรรคอนาคตใหม่
ลงมติเลือกคนของพรรคตนเป็นนายกฯ มีตำแหน่งเป็นถึงรองหัวหน้าพรรคจริง พรรคนั้นก็อาจจะต้องถูก
ดำเนินคดีเพื่อยุบพรรคด้วยซ้ำ
ถ้าพรรคอนาคตใหม่ต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ และมีเจตนาดีต่อบ้านเมืองส่วนรวมจริง จะต้องมี
การดำเนินคดีกับผู้ที่เสนอสินบนให้ถึงที่สุด
และต้องพร้อมรับกับผลทางกฎหมาย ทั้งต่อตัวบุคคลและต่อพรรคการเมือง หากถูกดำเนินคดีกลับฐานแจ้งความเท็จ ซึ่งมีโทษจำคุก และเคยมีนักการเมืองถูกพิพากษาไปแล้วเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาด้วย
ตรงกันข้าม ถ้าสักแต่ว่าแถลงลอยๆ ไม่ดำเนินคดีกับผู้เสนอสินบนต่อไปสังคมย่อมมีสิทธิสงสัยว่า
เป็นการนำความเท็จมาแถลง เพื่อหวังผลทางการเมืองในการดิสเครดิตคู่แข่งทางการเมืองของตนเอง
หรือไม่?
หากสักแต่ว่าแถลง ย่อมไม่สมเกียรติและสถานะหน้าที่ของคนเป็นสส. เพราะยืนยันเองว่าตนเองได้รับ
การติดต่อ แล้วเหตุใดยังจะปกป้องผู้กระทำผิดต่อไป
จะต่างอะไรกับขบวนการแบล็คเมล์การเมือง หรือเด็กเลี้ยงแกะ ปั้นน้ำเป็นตัว เสื่อมเสียต่อความคาดหวัง
ที่ประชาชนลงคะแนนให้เป็น สส.คนรุ่นใหม่ หรือไม่?
3. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ผู้ใดให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่
เจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภา จังหวัดหรือสมาชิกสภาเทศบาล เพื่อจูงใจให้
กระทำการไม่กระทำการหรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ต้องระวางโทษจำคุกไม่ เกินห้าปี
หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กฎหมายอาญามาตรานี้ ชัดเจนว่า ครอบคลุมการทำหน้าที่ของ สส.
การลงมติเลือกนายกฯ การลงมติในสภา เป็นการทำหน้าที่โดยตรงของ สส. หากมีการเสนอสินบนเพื่อให้
ตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใด โดย
ให้ - คนให้ก็ผิด
ขอให้ – คนขอให้ก็ผิด
รับว่าจะให้ – คนรับว่าจะให้ก็ผิด
เพราะฉะนั้น
กรณีแบบนี้ หากมีการกระทำดังกล่าวจริง ผู้ถูกเสนอให้ เป็นถึง สส.เองโดยตรง จะละเว้น
ไม่ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด เอาแต่แถลงข่าวกล่าวหาลอยๆ ย่อมเป็นข้อพิรุธถึงเจตนาว่ามุ่งหวังผล
ทางการเมือง มากกว่าจะปกป้องกฎหมายบ้านเมือง
น่าสงสัยว่า ตัว สส.ที่ละเว้น ไม่ดำเนินคดีกับผู้เสนอสินบนนั้น อาจจะมีความผิดตามประมวลจริยธรรมของ
ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่?
ไม่ว่าจะโดยการปกป้องผู้กระทำผิด หรือเอาความเท็จมาอภิปรายหรือแถลงโดยอาศัยสถานการเป็น สส.
ของตนเอง พาดพิงกล่าวหาให้เกิดความเข้าใจผิด ตื่นตระหนก ไม่เชื่อมั่นเชื่อถือต่อการทำหน้าที่ของ สส.
พรรคอื่นๆ ที่อาจได้รับความเสียหายจากการแถลงเช่นนี้
สส.ที่กระทำผิดประมวลจริยธรรม อาจถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
สารส้ม
Cr. https://www.naewna.com/politic/columnist/40276
●● 'งูเห่า’ กับ ‘เด็กเลี้ยงแกะ’... สุดท้ายก็แค่ ‘ตีกิน’?●●
โหมโรงกันมาเยอะแยะ สุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ...
เมื่อวานนี้ สส.พรรคอนาคตใหม่ นำโดย “คุณช่อ” น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค ดาหน้าแถลงข่าว
ยืนยันว่า สส.ของพรรคได้รับการติดต่อให้ไปร่วมรัฐบาล หรือ เป็น “งูเห่า”
ประกอบด้วย นายอนาวิน รัตนสถาพร สส. ปทุมธานี นายเท่าพิภพลิ้มจิตรกร สส. กทม. นายฐิตินันท์ แสงนาค
สส. ขอนแก่น และนายทองแดง เบญจปักษ์ สส.สมุทรสาคร
นายอนาวิน ยืนยันว่า ตนได้รับการติดต่อสองครั้ง ครั้งแรกเสนอเงินมาให้ 30 ล้าน ต่อมาเสนอให้ 60 ล้านบาท
และจะเสนอจะส่งมอบที่ห้าง โดยจะให้รับเอง 50 ล้านบาท ส่วนอีก 10 ล้านบาทจะหักไป ตนไม่รับ
นายเท่าพิภพ เล่าว่า ตนได้รับการติดต่อตั้งแต่หลังเลือกตั้ง ครั้งแรกเสนอเงิน 30 ล้านบาท ต่อมาเพิ่มเป็น
50 ล้านบาท 70 ล้านบาท และสูงสุดอยู่ที่ 120 ล้าน ตนก็ปฏิเสธไป
นายฐิตินันท์ อ้างว่า ในเช้าวันที่ 25 มี.ค. มีคนบอกว่ามีผู้ใหญ่มาขอพบเขาบอกว่าผู้ใหญ่จะขอพบเป็น
รองหัวหน้าพรรค มีการเสนอเงินให้ 9 หลัก จากนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ เสนอให้ 5 ล้านก่อนวันโหวต และหลังวันโหวต
ให้อีก 70 ล้าน และเงินเดือนเดือนละ 200,000 บาท
นายทองแดง อ้างว่า ติดต่อมาตลอด เริ่มต้นที่ 25 ล้าน 50 ล้าน ล่าสุดเสนอที่ 75 ล้าน แต่ตนไม่รับ
“คุณช่อ” โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ย้ำในการแถลงข่าวว่า นี่คือ 4 เสียงส่วนหนึ่งที่ถูกทามทาม “ดีลงูเห่า”
จากพรรคอื่นๆ ส่วนตัวอยากตั้งคำถาม นำเงินแบบนี้มาจากไหน พรรคการเมืองเหล่านี้ทำผิดกฎหมายหรือไม่
ทำลายสถาบันหรือไม่ และอ้างว่ามีการดำเนินการหลายพรรค ขอเรียกร้องไปยังพรรคที่ทำเรื่องตรงนี้ ว่า
ควรหยุดทำแบบนี้ หยุดทำงานที่ไม่เป็นประโยชน์ เพราะการกระทำแบบนี้ไม่เป็นผล
“จะไม่ขอเปิดเผยชื่อพรรคที่เสนอมา เพราะเราคำนึงถึงชีวิตของ สส. เรา ยืนยันอีกครั้ง อนาคตใหม่ทุกคน
ไม่มีงูเห่า อยู่ได้เพราะอุดมการณ์แน่นอน และขอสงวนสิทธิในการดำเนินคดีกับทุกฝ่าย”
นับเป็นการแถลงข่าวที่สื่อมวลชนสนใจ เพราะในสถานการณ์การเมืองที่กำลังจะมีการลงมติในที่ประชุม
รัฐสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี โดยที่พรรคคู่แข่งของอนาคตใหม่ขณะนี้รวบรวมเสียง สส. และประเมินว่า
อาจได้รับเสียงสนับสนุนจาก สว.จนเพียงพอที่จะเลือกพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯได้อยู่แล้ว โดยไม่จำเป็น
จะต้องไปพึ่งเสียง สส.งูเห่าจากพรรคอนาคตใหม่หรือพรรคอื่นใดอีกเลย
จึงไม่มีเหตุจูงใจจะต้องไปเสนอซื้องูเห่าราคาหลายสิบล้านหรือจนถึงร้อยล้านบาทตามที่กล่าวอ้าง....
แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไร?
1. น่าเศร้าใจ โฆษกพรรคอ้างว่า ไม่ขอเปิดเผยชื่อคนที่เสนอสินบนให้ สส. และก็ไม่ยืนยันว่าจะมี
การดำเนินคดีกับผู้เสนอสินบนให้ถึงที่สุด ให้เป็นที่หลาบจำ ตามกฎหมายบ้านเมือง
เท่ากับเป็นการแถลงข่าวลอยๆ พูดลอยๆ กล่าวหาลอยๆ
ชิงจังหวะแถลงในวันที่ 4 มิ.ย. ก่อนการประชุมเลือกนายกฯในวันที่ 5 มิ.ย.
มันต่างอะไรกับพฤติกรรมของ สส.น้ำเน่าที่ช่ำชองวิธี “ตีกิน”ทางการเมืองในอดีต?
น่าผิดหวังอย่างที่สุด สำหรับวิธีเล่นการเมืองแบบนี้ของพรรคอนาคตใหม่
วิธีการสาดโคลน ใส่ร้ายกล่าวหาคู่ต่อสู้ทางการเมือง โดยปราศจากการนำเสนอหลักฐาน และหากไม่มี
การดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเมืองต่อไปให้ถึงที่สุด ก็จะไม่มีการพิสูจน์กันให้แน่ชัดว่า สิ่งที่กล่าวหานั้น
เป็นความจริงหรือไม่? คนเสนอสินบนควรต้องได้รับโทษตามกฎหมาย
2. “คุณช่อ” ตั้งคำถามว่า การทำแบบนี้ผิดกฎหมายหรือไม่?
ตอบได้เลยว่า ถ้ามีใครทำเช่นนั้นจริง ย่อมเป็นการกระทำผิดกฎหมายอาญา มาตรา 144 แน่นอน
ตัวอย่างก็คือ กรณีล่าเสือดำ หัวหน้าวิเชียรยังได้แจ้งความดำเนินคดีฐานเสนอสินบนเอากับนายเปรมชัย
หรืออย่างกรณี พ.ต.อ.ชาญชัย เนติรัฐการ อดีต ผกก.สภ.โพธิ์แก้ว อ.สามพราน จ.นครปฐม ถูกดำเนินคดี
ฐานเสนอสินบนตุลาการเพื่อช่วยเหลือพรรคไทยรักไทย เสนอเงิน 30 ล้านบาท แก่ ม.ล.ไกรฤกษ์ เพื่อ
ช่วยเหลือคดียุบพรรคไทยรักไทย(ทรท.) แต่ทางตุลาการท่านไม่รับ แล้วยังนำเรื่องนี้มาดำเนินคดีเอากับ
ผู้เสนอสินบนด้วย จนในที่สุด ศาลฎีกามีคำพิพากษาลงโทษจำคุก พ.ต.อ.ชาญชัย ผู้เสนอสินบน 2 ปี
ไม่รอลงอาญา ระเห็จเข้าไปรับโทษในเรือนจำ
และในกรณีที่ สส.พรรคอนาคตใหม่แถลงข่าวนั้น หากผู้กระทำผิดฐานเสนอสินบนให้ สส.พรรคอนาคตใหม่
ลงมติเลือกคนของพรรคตนเป็นนายกฯ มีตำแหน่งเป็นถึงรองหัวหน้าพรรคจริง พรรคนั้นก็อาจจะต้องถูก
ดำเนินคดีเพื่อยุบพรรคด้วยซ้ำ
ถ้าพรรคอนาคตใหม่ต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ และมีเจตนาดีต่อบ้านเมืองส่วนรวมจริง จะต้องมี
การดำเนินคดีกับผู้ที่เสนอสินบนให้ถึงที่สุด
และต้องพร้อมรับกับผลทางกฎหมาย ทั้งต่อตัวบุคคลและต่อพรรคการเมือง หากถูกดำเนินคดีกลับฐานแจ้งความเท็จ ซึ่งมีโทษจำคุก และเคยมีนักการเมืองถูกพิพากษาไปแล้วเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาด้วย
ตรงกันข้าม ถ้าสักแต่ว่าแถลงลอยๆ ไม่ดำเนินคดีกับผู้เสนอสินบนต่อไปสังคมย่อมมีสิทธิสงสัยว่า
เป็นการนำความเท็จมาแถลง เพื่อหวังผลทางการเมืองในการดิสเครดิตคู่แข่งทางการเมืองของตนเอง
หรือไม่?
หากสักแต่ว่าแถลง ย่อมไม่สมเกียรติและสถานะหน้าที่ของคนเป็นสส. เพราะยืนยันเองว่าตนเองได้รับ
การติดต่อ แล้วเหตุใดยังจะปกป้องผู้กระทำผิดต่อไป
จะต่างอะไรกับขบวนการแบล็คเมล์การเมือง หรือเด็กเลี้ยงแกะ ปั้นน้ำเป็นตัว เสื่อมเสียต่อความคาดหวัง
ที่ประชาชนลงคะแนนให้เป็น สส.คนรุ่นใหม่ หรือไม่?
3. ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ผู้ใดให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่
เจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภา จังหวัดหรือสมาชิกสภาเทศบาล เพื่อจูงใจให้
กระทำการไม่กระทำการหรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ต้องระวางโทษจำคุกไม่ เกินห้าปี
หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กฎหมายอาญามาตรานี้ ชัดเจนว่า ครอบคลุมการทำหน้าที่ของ สส.
การลงมติเลือกนายกฯ การลงมติในสภา เป็นการทำหน้าที่โดยตรงของ สส. หากมีการเสนอสินบนเพื่อให้
ตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใด โดย
ให้ - คนให้ก็ผิด
ขอให้ – คนขอให้ก็ผิด
รับว่าจะให้ – คนรับว่าจะให้ก็ผิด
เพราะฉะนั้น กรณีแบบนี้ หากมีการกระทำดังกล่าวจริง ผู้ถูกเสนอให้ เป็นถึง สส.เองโดยตรง จะละเว้น
ไม่ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด เอาแต่แถลงข่าวกล่าวหาลอยๆ ย่อมเป็นข้อพิรุธถึงเจตนาว่ามุ่งหวังผล
ทางการเมือง มากกว่าจะปกป้องกฎหมายบ้านเมือง
น่าสงสัยว่า ตัว สส.ที่ละเว้น ไม่ดำเนินคดีกับผู้เสนอสินบนนั้น อาจจะมีความผิดตามประมวลจริยธรรมของ
ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่?
ไม่ว่าจะโดยการปกป้องผู้กระทำผิด หรือเอาความเท็จมาอภิปรายหรือแถลงโดยอาศัยสถานการเป็น สส.
ของตนเอง พาดพิงกล่าวหาให้เกิดความเข้าใจผิด ตื่นตระหนก ไม่เชื่อมั่นเชื่อถือต่อการทำหน้าที่ของ สส.
พรรคอื่นๆ ที่อาจได้รับความเสียหายจากการแถลงเช่นนี้
สส.ที่กระทำผิดประมวลจริยธรรม อาจถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน
สารส้ม
Cr. https://www.naewna.com/politic/columnist/40276