●●เพื่อไทยแห่ให้กำลังใจ 'พานทองแท้' ขึ้นศาลอาญา คดีปล่อยกู้กรุงไทย●●
แกนนำพรรคเพื่อไทย แห่ให้กำลังใจหน้าศาลอาญาฯ "พานทองแท้ ชินวัตร" ขึ้นศาล คดีอัยการเป็นโจทก์
ฟ้อง ฐานร่วมรับเงินทุจริตปล่อยกู้กรุงไทย
ที่ศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดตรวจพยานในคดีที่อัยการ มีความเห็นสั่งฟ้อง
นายพานทองแท้ หรือ โอ๊ค ชินวัตร บุตรชายนายทักษิน ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงิน
การทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย ให้กลุ่มกฤษดามหานคร โดยนายพานทองแท้ พร้อมด้วยน้องสาว 2 คนคือ
แพรทองธาร พิณทองทา และทนายความ รวมถึงบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางมาศาล โดย
นายพานทองแท้ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นภายหลังศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก อดีตกรรมการผู้บริหารธนาคารกรุงไทย อดีตเจ้าหน้าที่
สินเชื่อ และกลุ่มกฤษดามหานคร โดยมีการกล่าวหานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นจำเลยที่ 1 ว่า
เป็นคนสั่งการ ซึ่งเชื่อว่าคือ "บิ๊กบอส" หรือ "ซูเปอร์บอส" ในคำให้การของบอร์ด ให้ผู้บริหารระดับสูงใน
ธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้สินเชื่อดังกล่าว และมีเงินจากเครือข่ายกฤษฎามหานคร โอนเข้าบัญชี ของ
นายพานทองแท้ ชินวัตร
ตามคำฟ้องของอัยการโจทก์ อ้างอิงผลการไต่สวนของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิด
ความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และจากปากคำให้การของพยาน พบว่า มีเครือเอกชน-นักการเมือง ที่เข้าข่าย
รับเช็คจากนายวิชัย อย่างน้อย 4 รายได้แก่
1.นายพานทองแท้ รับเช็คจาก นายวิชัย กฤษดาธานนท์ และ นายรัชฎา กฤษดาธานนท์ (บุตรนายวิชัย)
กรณีชำระค่าหุ้นบริษัท ช.การช่าง จำกัด ที่ระบุว่า จะจ่ายผ่านนายวันชัย หงส์เหิน แต่ไม่ทัน จึงให้จ่ายโดยตรง
ผ่าน นางเกศินี จิปิภพ มารดาของนางกาญจนา หงส์เหิน และนางเกศินี โอนเงินเข้าบัญชี นายพานทองแท้
1.8 ล้านบาท และกรณีร่วมลงทุนกับนายรัชฎา 10 ล้านบาท
2. นายมานพ ทิวารี กรณีรับเช็คจากบริษัทแกรนด์ แซทเทิลไลท์ฯ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกฤษดามหานคร
และเงินที่มีการโอนเข้าบัญชีก่อนหน้านี้ ซึ่งนายมานพ ระบุว่ายืมมาจากนายวิชัย ประมาณ 172 ล้านบาท
เพื่อเข้าซื้อหุ้นบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด
3. บริษัท ฮาวคัม จำกัด
4 . บริษัท มาสเตอร์โฟน จำกัด ที่นายรัชฎา นำเงินที่ได้จากสินเชื่อที่ บริษัท โกลเด้นฯได้รับจาก
ธนาคารกรุงไทยไปซื้อหุ้นจองของบริษัท ท่าอากาศยานไทยฯ 4.2 แสนหุ้น และนำมาเสนอขายแก่พนักงาน
ของบริษัท ฮาวคัมฯและบริษัท มาสเตอร์โฟนฯ ของนายพานทองแท้
ธุรกรรมของนายพานทองแท้ และนายมานพ เป็นการรับผลประโยชน์ตอบแทนจากการที่ บริษัท โกลเด้นฯ
ได้รับอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารกรุงไทย
นายพานทองแท้ เคยชี้แจงต่อ คตส. ว่า ฝากนายวันชัย หงส์เหิน สามี นางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการ
ส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ซื้อหุ้น บริษัท ช.การช่างฯ ผ่านบัญชีของ นางเกศินี จิปิภพ มารดา
ของนางกาญจนา วงเงิน 26 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดชำระใน วันที่ 31 ธ.ค.2546 แต่นายพานทองแท้
เกรงว่าการโอนเงินค่าหุ้นดังกล่าวจะไม่ทัน จึงให้โอนเงินให้ นายวันชัย ผ่านบัญชีของ นางเกศินี ก่อนที่
นางเกศินี จะโอนเงิน 1.8 ล้านบาท ให้นายพานทองแท้
ข้ออ้างนี้มีการแย้งว่า เนื่องจากการฝากนายวันชัย ซื้อหุ้นตามที่อ้างนั้น ย่อมสามารถโอนเงินค่าหุ้นเข้าบัญชี
ของนายวันชัย ได้โดยตรงอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลต้องนำแคชเชียร์เช็คฝากเข้าบัญชี นายพานทองแท้ เพื่อฝาก
ชำระนายวันชัย อีกทอดหนึ่ง
นี่คือเส้นทางการเงินของคดีฟอกเงินของแบงก์กรุงไทย ที่มีการโยงถึง นายพานทองแท้ และพวก
Cr.
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/835884
●●ข่าวที่โดนกลบสนิท...พานทองแท้' ขึ้นศาลอาญา คดีปล่อยกู้กรุงไทย●●
แกนนำพรรคเพื่อไทย แห่ให้กำลังใจหน้าศาลอาญาฯ "พานทองแท้ ชินวัตร" ขึ้นศาล คดีอัยการเป็นโจทก์
ฟ้อง ฐานร่วมรับเงินทุจริตปล่อยกู้กรุงไทย
ที่ศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดตรวจพยานในคดีที่อัยการ มีความเห็นสั่งฟ้อง
นายพานทองแท้ หรือ โอ๊ค ชินวัตร บุตรชายนายทักษิน ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาคดีร่วมกันฟอกเงิน
การทุจริตปล่อยกู้ธนาคารกรุงไทย ให้กลุ่มกฤษดามหานคร โดยนายพานทองแท้ พร้อมด้วยน้องสาว 2 คนคือ
แพรทองธาร พิณทองทา และทนายความ รวมถึงบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางมาศาล โดย
นายพานทองแท้ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นภายหลังศาลฎีกาฯ พิพากษาจำคุก อดีตกรรมการผู้บริหารธนาคารกรุงไทย อดีตเจ้าหน้าที่
สินเชื่อ และกลุ่มกฤษดามหานคร โดยมีการกล่าวหานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นจำเลยที่ 1 ว่า
เป็นคนสั่งการ ซึ่งเชื่อว่าคือ "บิ๊กบอส" หรือ "ซูเปอร์บอส" ในคำให้การของบอร์ด ให้ผู้บริหารระดับสูงใน
ธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้สินเชื่อดังกล่าว และมีเงินจากเครือข่ายกฤษฎามหานคร โอนเข้าบัญชี ของ
นายพานทองแท้ ชินวัตร
ตามคำฟ้องของอัยการโจทก์ อ้างอิงผลการไต่สวนของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิด
ความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และจากปากคำให้การของพยาน พบว่า มีเครือเอกชน-นักการเมือง ที่เข้าข่าย
รับเช็คจากนายวิชัย อย่างน้อย 4 รายได้แก่
1.นายพานทองแท้ รับเช็คจาก นายวิชัย กฤษดาธานนท์ และ นายรัชฎา กฤษดาธานนท์ (บุตรนายวิชัย)
กรณีชำระค่าหุ้นบริษัท ช.การช่าง จำกัด ที่ระบุว่า จะจ่ายผ่านนายวันชัย หงส์เหิน แต่ไม่ทัน จึงให้จ่ายโดยตรง
ผ่าน นางเกศินี จิปิภพ มารดาของนางกาญจนา หงส์เหิน และนางเกศินี โอนเงินเข้าบัญชี นายพานทองแท้
1.8 ล้านบาท และกรณีร่วมลงทุนกับนายรัชฎา 10 ล้านบาท
2. นายมานพ ทิวารี กรณีรับเช็คจากบริษัทแกรนด์ แซทเทิลไลท์ฯ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือกฤษดามหานคร
และเงินที่มีการโอนเข้าบัญชีก่อนหน้านี้ ซึ่งนายมานพ ระบุว่ายืมมาจากนายวิชัย ประมาณ 172 ล้านบาท
เพื่อเข้าซื้อหุ้นบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด
3. บริษัท ฮาวคัม จำกัด
4 . บริษัท มาสเตอร์โฟน จำกัด ที่นายรัชฎา นำเงินที่ได้จากสินเชื่อที่ บริษัท โกลเด้นฯได้รับจาก
ธนาคารกรุงไทยไปซื้อหุ้นจองของบริษัท ท่าอากาศยานไทยฯ 4.2 แสนหุ้น และนำมาเสนอขายแก่พนักงาน
ของบริษัท ฮาวคัมฯและบริษัท มาสเตอร์โฟนฯ ของนายพานทองแท้
ธุรกรรมของนายพานทองแท้ และนายมานพ เป็นการรับผลประโยชน์ตอบแทนจากการที่ บริษัท โกลเด้นฯ
ได้รับอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารกรุงไทย
นายพานทองแท้ เคยชี้แจงต่อ คตส. ว่า ฝากนายวันชัย หงส์เหิน สามี นางกาญจนาภา หงส์เหิน เลขานุการ
ส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ซื้อหุ้น บริษัท ช.การช่างฯ ผ่านบัญชีของ นางเกศินี จิปิภพ มารดา
ของนางกาญจนา วงเงิน 26 ล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดชำระใน วันที่ 31 ธ.ค.2546 แต่นายพานทองแท้
เกรงว่าการโอนเงินค่าหุ้นดังกล่าวจะไม่ทัน จึงให้โอนเงินให้ นายวันชัย ผ่านบัญชีของ นางเกศินี ก่อนที่
นางเกศินี จะโอนเงิน 1.8 ล้านบาท ให้นายพานทองแท้
ข้ออ้างนี้มีการแย้งว่า เนื่องจากการฝากนายวันชัย ซื้อหุ้นตามที่อ้างนั้น ย่อมสามารถโอนเงินค่าหุ้นเข้าบัญชี
ของนายวันชัย ได้โดยตรงอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลต้องนำแคชเชียร์เช็คฝากเข้าบัญชี นายพานทองแท้ เพื่อฝาก
ชำระนายวันชัย อีกทอดหนึ่ง
นี่คือเส้นทางการเงินของคดีฟอกเงินของแบงก์กรุงไทย ที่มีการโยงถึง นายพานทองแท้ และพวก
Cr. http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/835884