🎯~มาลาริน~War ยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทักษิณ ติดตามจากข่าวนี้ค่ะ...จุดตาย“โอ๊ค พานทองแท้” คดีฟอกเงินปล่อยกู้กรุงไทย


ตาย“โอ๊ค พานทองแท้” คดีฟอกเงินปล่อยกู้กรุงไทย




คดีฟอกเงินที่โอ๊ค พานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายนายทักษิณ ชินวัตร โดนกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ส่งสำนวนฟ้องให้อัยการฟ้องศาล เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา 

มีมูลเหตุมาจากคดีทุจริตเงินกู้กรุงไทย เพราะการสอบสวนพบมีเงินเข้าไปในบัญชีของพานทองแท้และพวกถึงสองครั้ง คือจำนวน26 ล้านบาท และอีกครั้งหนึ่ง10ล้านบาท

การดำเนินคดีกับนายพานทองแท้ นางกาญจนาภา และนายวันชัย หงษ์เหิน สองผัวเมีย รวม3คน ดีเอสไอฟ้องว่าคนเหล่านี้ทำความผิดสองกรรมต่างวาระ โดยคดีเงิน 26 ล้านบาท เป็นกรรมแรกหมดอายุความ ธ.ค.61 และ กรรมที่สอง 10 ล้านบาท หมดอายุความ พ.ค.62

จะเห็นว่า ดีเอสไอ ส่งสำนวนฟ้องคดีให้อัยการนั้น การทำผิดกรรมแรกคดีใกล้จะหมดอายุความ เหลือเวลาเพียงไม่กี่เดือน เหตุที่คดีล่าช้าเกือบไม่ทันฟ้องก็มีเหตุผลมากมาย 

เช่น ฝ่ายพานทองแท้มีความพยายามที่จะดึงคดีในชั้นสอบสวนโดยมีแท็กติกหลายอย่าง ยื้อทุกกระบวนท่าซึ่งเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน เหตุคดีชักช้าก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า คดีนี้ถูกเอามาเป็นเงื่อนไขต่อรองทางอำนาจกับทักษิณ 

ไม่รู้จริงแค่ไหน ถ้าเป็นจริงเมื่อคดีผ่านมาถึงมืออัยการ และการต่อรองโดยเอาคดีนี้มาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนยังดำเนินต่อไป ก็ยิ่งชวนติดตามผลของคดีมากขึ้น ว่าจะเดินหน้าต่อหรือจะล้ม?

สำหรับจุดสำคัญในคดีที่ทำให้ พานทองแท้ ถูกป.ป.ง.ตั้งแท่นเอาผิดส่งมาให้ดีเอสไอสอบสวน ก็คือเส้นทางการเงิน ที่เป็นหลักฐานสำคัญแห่งคดี มีความเชื่อมโยงความเกี่ยวข้องของตัวจำเลยในคดีทุจริตปล่อยกู้กรุงไทย 

ซึ่งตอนนี้ถูกจำคุกตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งศาลตัดสินจำคุกอดีตผู้บริหารกรุงไทยและอดีตผู้บริหารบริษัทกฤษดามหานคร 

โดยมีการพบ เส้นทางการเงินของผู้บริหารกฤษดามหานคร โยงมาถึงบัญชีของพานทองแท้ –นางกาญจนาภาและนายวันชัย หงส์เหิน คือหลักฐานเส้นทางการเงินที่  วิชัย และรัชฎา กฤษดาธานนท์ สองพ่อลูก ตระกูล กฤษดาธานนท์ 

สองพ่อลูกเป็นเจ้าของกลุ่มกฤษดามหานคร  ที่มีบริษัทในเครือ ชื่อ บริษัทโกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค ได้รับสินเชื่อ  9,900 ล้านบาท จากแบงค์กรุงไทย ในยุคทักษิณเป็นนายกฯ  พบว่ามีการปล่อยกู้โดยมิชอบจนสุดท้ายติดคุกกันทั้งคนของกรุงไทยและผู้บริหารบริษัท ผู้กู้เงิน

พานทองแท้ เข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ก็เพราะปปง.และดีเอสไอพบการโอนเงินจากนายวิชัยและรัชฏา หลังบริษัทในเครือกฤษดามหานคร ได้สินเชื่อจากกรุงไทยฯ โดยมีเงินจากบัญชีนายวิชัยและรัชฏาโอนเข้าบัญชี พานทองแท้ สองครั้ง

 ครั้งแรก เกิดขึ้นเมื่อ 30ธันวาคม2546 โดยพนักงานบริษัทกฤษดามาหนคร ได้ซื้อแคชเชียร์เช็ค จำนวนเงิน 26ล้านบาท จากธนาคารไทยธนาคาร โดยหักจากเงินในบัญชีของนายวิชัย สั่งจ่ายและนำเงินเข้าบัญชี นายพานทองแท้ ที่ธนาคารกรุงเทพฯ 

แต่วันเดียวกันก็มีการยกเลิกรายการ จากนั้นวันรุ่งขึ้น พนักงานคนเดิม ก็ซื้อแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายบริษัทหลักทรัพย์ธนชาติ เพื่อชำระค่าหุ้นในบัญชีซื้อขาย ของนางเกศินี จิปิภพ มารดาของนางกาญจนภา หงส์เหิน

จากนั้น  นางเกศินี ได้สั่งจ่ายเช็คจำนวน หนึ่งล้าน แปดแสนบาท เข้าบัญชีนายพานทองแท้ ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขารัชโยธิน

 หลักฐานการโอนเงินครั้งที่ 2เกิดขึ้นเมื่อ17 พ.ค.2547 นายวิชัย ได้สั่งจ่ายเช็คธนาคารไทยธนาคาร จำนวน 10ล้านบาท เข้าบัญชีเงินฝาก พานทองแท้ ที่เป็นบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาบางพลัด

 นอกจากนี้ยังพบนิติกรรมที่น่าสงสัยอีกรอบ เมื่อบริษัทโกลเด้น เทคโนโลยี่ ที่ได้เงินกู้จากกรุงไทย ได้นำเงินกู้ที่ได้ ไปซื้อหุ้นจองที่เป็นหุ้นต่ำกว่าราคาตลาด ของบริษัทท่าอากาศยานไทย หรือทอท. ก่อนเข้าตลาดหลักทรัพย์ จำนวน4หมื่นกว่าหุ้น 

จากนั้น นายรัชฏา กฤษดาธานนท์ ได้นำหุ้นดังกล่าว  ไปเสนอขายให้กับพนักงานบริษัทฮาวคัม และบริษัทมาสเตอร์โฟน ที่ พานทองแท้ เป็นประธานกรรมการ เสมือนหนึ่งต้องการตอบแทนอะไรหรือไม่

เส้นทางการเงิน หลักฐานการทำธุรกรรมจากนายวิชัยและนายรัชฏา เข้าบัญชีพานทองแท้2ครั้ง รวมเป็นเงิน 36ล้านบาท จึงเป็นจุดตาย ของพานทองแท้ ชินวัตร ในคดีฟอกเงินปล่อยกู้กรุงไทย 

ที่ต้องลุ้นผลคดีกันในวันที่ 5 กันยายนนี้  อัยการจะมีความเห็นอย่างไร?

https://mgronline.com/crime/detail/9610000078990




https://mgronline.com/crime/detail/9610000078990


คงสู้ตายแน่ๆค่ะ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่