เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.thaipbs.or.th/news/content/346302
วันนี้ (14 พ.ย.2567) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) แถลงข่าวผลการแก้ไขปัญหาอาชญา กรรมออนไลน์และภาพรวม ของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออน ไลน์ (AOC) ว่า สถิติการแจ้งเหตุโทรเข้า 1441 ทั้งหมด 1,176,512 สาย และระงับบัญชีที่ต้องสงสัย 348,006 เคส แสดงถึงปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ที่รุนแรงและขยายวงกว้างโดยมีมูลค่าความเสียหายรวม 19,000 ล้านบาท
กลุ่มอายุของผู้เสียหาย
กลุ่มอายุต่ำกว่า 20 ปี คิดเป็น 9,800 เคส มูลค่าความเสียหาย 193 ล้านบาท ผู้หญิงมีสัดส่วน 61.44 % ส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกขายสินค้าบริการที่ไม่เป็นขบวนการ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์
กลุ่มอายุ 20-49 ปี มีจำนวนสูงสุด 145,302 เคส มูลค่าความเสียหาย 8,223 ล้านบาท ผู้หญิงเป็นเหยื่อ 64.05% ในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกโอนเงินเพื่อการหารายได้พิเศษ และการหลอกลงทุนออนไลน์
กลุ่มอายุ 50-64 ปี และอายุ 65 ปีขึ้นไป คิดรวมเป็น 41,901 เคส มูลค่าความเสียหาย 7,769 ล้านบาท ส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลงทุนออนไลน์ แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้สูงอายุยังคงมีความเสี่ยงสูงในการถูกหลอกในลักษณะนี้
กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือกลุ่ม 20-49 ปี มีจำนวนสูงถึง 145,302 เคส รองลงมาคือกลุ่ม 50-64 ปี โดยพบว่าคดีที่พบบ่อยที่สุดในกลุ่มนี้คือ คดีหลอกโอนเงินเพื่อหารายได้พิเศษ และคดีหลอกลงทุนออนไลน์ บ่งบอกถึงความสนใจ และความเชื่อมั่นในโอกาสในการหารายได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของกลุ่มในวัยนี้ และทำให้กลายเป็นกลุ่มเป้าหมายของมิจฉาชีพ
สำหรับช่องทางการหลอกลวงที่พบมากที่สุด พบว่าเป็นช่องทางโซเชียลมีเดีย
เฟซบุ๊ก 26,804 เคส มูลค่าความเสียหาย 718 ล้านบาท
คอลเซนเตอร์ มี 22,299 เคส มูลค่าความเสียหาย 945 ล้านบาท
เว็บไซต์ 16,510 เคส 1,148 ล้านบาท
TikTok 994 เคส มูลค่า 65 ล้านบาท
ช่องทางอื่นๆ 20,518 เคส มูลค่าความเสียหาย 1,262 ล้านบาท
อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ลิ้งค์ข้างต้น
https://www.thaipbs.or.th/now/infographic/348
กลุ่มอายุของผู้เสียหายที่ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงมากที่สุด
https://www.thaipbs.or.th/news/content/346302
วันนี้ (14 พ.ย.2567) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) แถลงข่าวผลการแก้ไขปัญหาอาชญา กรรมออนไลน์และภาพรวม ของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออน ไลน์ (AOC) ว่า สถิติการแจ้งเหตุโทรเข้า 1441 ทั้งหมด 1,176,512 สาย และระงับบัญชีที่ต้องสงสัย 348,006 เคส แสดงถึงปัญหาการหลอกลวงทางออนไลน์ที่รุนแรงและขยายวงกว้างโดยมีมูลค่าความเสียหายรวม 19,000 ล้านบาท
กลุ่มอายุของผู้เสียหาย
กลุ่มอายุต่ำกว่า 20 ปี คิดเป็น 9,800 เคส มูลค่าความเสียหาย 193 ล้านบาท ผู้หญิงมีสัดส่วน 61.44 % ส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกขายสินค้าบริการที่ไม่เป็นขบวนการ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์
กลุ่มอายุ 20-49 ปี มีจำนวนสูงสุด 145,302 เคส มูลค่าความเสียหาย 8,223 ล้านบาท ผู้หญิงเป็นเหยื่อ 64.05% ในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกโอนเงินเพื่อการหารายได้พิเศษ และการหลอกลงทุนออนไลน์
กลุ่มอายุ 50-64 ปี และอายุ 65 ปีขึ้นไป คิดรวมเป็น 41,901 เคส มูลค่าความเสียหาย 7,769 ล้านบาท ส่วนใหญ่ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลงทุนออนไลน์ แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้สูงอายุยังคงมีความเสี่ยงสูงในการถูกหลอกในลักษณะนี้
กลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือกลุ่ม 20-49 ปี มีจำนวนสูงถึง 145,302 เคส รองลงมาคือกลุ่ม 50-64 ปี โดยพบว่าคดีที่พบบ่อยที่สุดในกลุ่มนี้คือ คดีหลอกโอนเงินเพื่อหารายได้พิเศษ และคดีหลอกลงทุนออนไลน์ บ่งบอกถึงความสนใจ และความเชื่อมั่นในโอกาสในการหารายได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของกลุ่มในวัยนี้ และทำให้กลายเป็นกลุ่มเป้าหมายของมิจฉาชีพ
สำหรับช่องทางการหลอกลวงที่พบมากที่สุด พบว่าเป็นช่องทางโซเชียลมีเดีย
เฟซบุ๊ก 26,804 เคส มูลค่าความเสียหาย 718 ล้านบาท
คอลเซนเตอร์ มี 22,299 เคส มูลค่าความเสียหาย 945 ล้านบาท
เว็บไซต์ 16,510 เคส 1,148 ล้านบาท
TikTok 994 เคส มูลค่า 65 ล้านบาท
ช่องทางอื่นๆ 20,518 เคส มูลค่าความเสียหาย 1,262 ล้านบาท
อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ที่ลิ้งค์ข้างต้น
https://www.thaipbs.or.th/now/infographic/348