JJNY : โอ๊ครอดแล้ว!ศาลอาญาฯยกฟ้อง/เบื้องต้น”ปารีณา”รุกป่าสงวน-สปก.700ไร่/เทพไทสะท้อนศก.ตกต่ำ/พิษศก.! ตลาดนัดดังสุดเหงา

ด่วน! “โอ๊ค” รอดแล้ว! ศาลอาญาฯยกฟ้อง คดีทุจริตกรุงไทย แจงเหตุผลที่ไม่ผิด
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3086180



เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 พ.ย. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีฟอกเงิน ทุจริตการปล่อยสินเชื่อของธนาคารกรุงไทย ให้ธุรกิจเครือกฤดามหานคร คดีหมายเลขดำ อท.245/2561 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพานทองแท้ หรือโอ๊ค ชินวัตร อายุ 41 ปี ลูกชายคนโตของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสมคบคบกันฟอกเงิน ตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5 , 9 , 60 และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 , 91

คดีนี้อัยการ ยื่นฟ้อง นายพานทองแท้ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2561 จากกรณี นายพานทองแท้ รับโอนเงินเป็นเช็คจำนวน 10 ล้านบาทเข้าบัญชี ซึ่งมีการกล่าวหาว่าเงินนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการกระทำจากการทุจริตปล่อยกู้สินเชื่อระหว่าง ธนาคารกรุงไทย กับเอกชนกลุ่มกฤษดามหานคร ที่มีนายวิชัย กฤษดาธานนท์ ผู้บริหารกฤษดามหานคร กับนายรัชฎา กฤษดาธานนท์ ลูกชายของนายวิชัย และอดีตคณะผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ตกเป็นจำเลยในคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้จำคุก โดยคดีนี้ อัยการ ยื่นฟ้อง นายพานทองแท้ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2561 กับนายวิชัยและนายรัชฎา บริษัทเอกชนในเครือกฤษดา รวม 6 คนนั้น ก็ถูกอัยการยื่นฟ้องความผิดฟอกเงินการทุจริตปล่อยกู้ดังกล่าวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ เช่นกัน

ในชั้นพิจารณาศาลอาญาคดีทุจริตฯ นายพานทองแท้ จำเลย ให้การปฏิเสธสู้คดีว่าไม่ได้กระทำผิดตามฟ้อง ซึ่งเงินดังกล่าวเป็นส่วนที่จะร่วมลงทุนธุรกิจนำเข้ารถซุปเปอร์คาร์ กับนายรัชฎา ขณะที่ นายพานทองแท้ ได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี 1 ล้านบาท พร้อมเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล
 
วันนี้ มีกลุ่มคนสนิทนายพานทองแท้ เดินทางมาให้กำลังใจตั้งแต่ช่วงเช้า ขณะที่นายพานทองแท้ เดินทางมาพร้อมกับคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มารดา น.ส.พินทองทา คุณากรวงศ์ และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร น้องสาว รวมทั้งบุคคลในครอบครัวมาให้กำลังใจ ซึ่งมาถึงศาลในเวลา 09.38 น. นายพานทองแท้ กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเพียงสั้นๆเมื่อถูกถามว่าตื่นเต้นหรือไม่ในการฟังคำพิพากษาวันนี้ว่า “รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย” ทั้งนี้ บริเวณศาลได้มีการประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บก.น.1 ประมาณ 50 นายเพื่อดูแลความเรียบร้อยบริเวณศาลด้วย  โดยเมื่อเวลา 10.50 น. หลังจากอ่านคำฟ้องเสร็จสิ้น ศาลได้อนุญาตให้ทุกฝ่ายออกไปเข้าห้องน้ำสักครู่ ซึ่งมีรายงานว่า เนื่องจากมีเอกสารขัดข้อง จึงสั่งพักชั่วขณะ 

ล่าสุด ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางพิพากษา ยกฟ้องนายพานทองแท้ ไม่ผิดฐานฟอกเงิน เนื่องจากเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ ยังไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่า นายพานทองแท้จำเลยได้รู้ที่มาของเงินจำนวน 10 ล้านบาทที่นายวิชัย กฤษดาธานนท์ โอนเข้าบัญชีว่า นายวิชัยได้มาจากการกระทำผิดทุจริตการปล่อยกู้แบงค์กรุงไทย

ซึ่งขณะที่รับโอนเงินจำเลยมีอายุเพียง 26 ปีและขณะนั้นมีเงินรายได้จากหุ้นในบริษัทอยู่แล้ว ถึง 4,000 ล้านบาทโดยเมื่อเทียบกับเงิน 10 ล้านบาทแล้วคิดเป็น 0.00 25 เปอร์เซ็นต์จากยอดเงินดังกล่าว ขณะที่โจทก์นำสืบได้เพียงว่า ขณะที่รับโอนหุ้นในพานทองแท้เป็นบุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตรและมีความสนิทสนมกับครอบครัวของนายวิชัยเพียงเท่านั้น



ป่าไม้สรุปเบื้องต้น”ปารีณา”รุกป่าสงวน-สปก.700ไร่

https://www.innnews.co.th/politics/news_539976/

อธิบดีกรมป่าไม้ สรุปเบื้องต้น ฟาร์มไก่ "ปารีณา" รุกป่าสงวน และส.ป.ก. รวมกว่า 700 ไร่ ลั่นดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่ง DSI แปลภาพถ่ายทางอากาศ หากพบเข้าครอบครองก่อนดำเนินคดีเพิ่มอีก

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวถึง การตรวจสอบที่ดิน ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้แสดงบัญชีแสดงทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.และบัญชี แสดงการจดทะเบียนครอบครองฟาร์มไก่เนื้อ จากกรมปศุสัตว์พบว่าฟาร์มไก่ “เขาสน 1และเขาสน 2” ตั้งอยู่เลขที่ 109 ม. 6 ต. รางบัว อ. จอมบึง จ. ราชบุรี นั้น คณะทำงานของกรมป่าไม้ ซึ่งมีนายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจราชการกรมป่าไม้เป็นประธาน ได้เข้าตรวจสอบร่วมกับคณะทำงานของ ส.ป.ก. โดยมีศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ราชอาณาจักร (ศปป.4 กอ.รมน.) และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดราชบุรีขอร่วมสังเกตการณ์และติดตามการปฏิบัติงาน
 
ทั้งนี้ จุดที่เข้าตรวจสอบเป็นพื้นที่ครอบครองของฟาร์มไก่ “เขาสน 2” เป็นพื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และตามพ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 อยู่นอกเขตปฏิรูปที่ดิน โดยขณะเข้าตรวจสอบ ไม่พบบุคคลใด ขณะเข้าตรวจไม่พบการเลี้ยงไก่แล้ว ผู้ใหญ่บ้าน ที่ร่วมตรวจสอบให้การว่า ทางฟาร์มเพิ่งจับไก่ออกไปทั้งหมด

เบื้องต้นตรวจสอบพบข้อมูลว่า “เขาสน 1” อยู่ในเขตพื้นที่ ปฏิรูปที่ดินทั้งหมด พื้นที่ตามการอ่านแปลภาพทางอากาศ และการนำชี้ของผู้ใหญ่บ้าน ประมาณ 691 ไร่ ส่วน “เขาสน 2” อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เนื้อที่ 31-0-12 ไร่และอยู่ในพื้นที่ตามพ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 อีก 15-2-36 ไร่ รวม 46-2-48 ไร่ จากการตรวจสอบไม่พบเอกสารที่ทางราชการออกให้เพื่อเข้าทำประโยชน์ในเขตพื้นที่ป่าไม้ตามระเบียบและกฎหมาย อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวอีกว่า คณะทำงานสรุปร่วมกัน พบว่า

เป็นการกระทำผิดตามพ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54 ห้ามมิให้ผู้ใดแผ้วถางหรือเผาป่า หรือกระทำการใดๆ อันเป็นการ ทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเอง หรือผู้อื่นและผิดตามพ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใด ยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้เก็บหาของป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ จากนั้นคณะเจ้าร่วมกัน ทำบันทึกแจ้งความดำเนินคดีต่อ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ผู้ครอบครองฟาร์มไก่ “เขาสน 2” ฐานบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ 46-2-48ไร่ ส่วนพื้นที่ซ้อนทับในเขตปฏิรูปที่ดินนั้น กรมป่าไม้ จะรอข้อมูลรูปแปลง จากการตรวจสอบของสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดราชบุรี เพื่อนำส่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ซึ่งเป็นหน่วยงานกลาง เพื่ออ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศว่า ยึดถือครอบครองที่ดินก่อนที่จะประกาศเป็นเขตปฏิรูปที่ดินหรือไม่ หากมีการครอบครองมาก่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็จะเป็นความรับผิดตามพ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 และพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 คณะทำงานจะดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่