ประสบการณ์ทำงานที่แรกของฉันในช่วงระยะเวลาเกือบสองปี 60~62

ขอเกรินก่อนว่าเป็นคนนิสัยไม่กล้าเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่เด็กๆค่ะ
ทางบ้านเลี้ยงแบบไข่ในหิน ช่วงปิดเทอมก็ไม่ยอมให้หารายได้เสริมหรือออกไปไหน จึงไม่กล้าเปลี่ยนงาน
พอเรียนจบมาระดับปริญญาตรีสาขาบริหาร เกรดก็แสนจะน้อยนิด หางานตรงสายไม่ได้ เพราะส่วนมากขอมีประสบการณ์ทั้งนั้น
เลยมาเป็นพนักงานขาย ให้กับห้างหุ้นส่วนแห่งหนึ่ง ที่ทำงานแห่งนี้เป็นพนักงานเป็นเครือญาติกันสายเลือดเดียวกัน 
แต่ต้องการผู้ช่วย และกำลังขยายสาขาเพิ่ม
ที่ทำงานเป็นงานบริการที่ต้องเจอกับคนหลายๆประเภท กัดดันยอดขาย แต่ก็ปรับตัวได้ เพราะชอบงานที่ต้องแก้ปัญหาทุกๆวัน ฝึกทักษะการพูด สนุกดีค่ะ
ตอนสัมภาษณ์งานค่อนข้างตกใจกับสวัสดิการ ที่ไม่มีสวัสดิการอะไรเลย5555
ก็คือเดือนนึงหยุดได้แค่สามวัน ลาพักร้อนปีละสองวัน
ป่วยไม่มีสวัสดิการให้ ไม่มีวันลาป่วยให้ ถ้าวันไหนคุณป่วย เขาก็หักเงินต่อวัน
ทำงาน 11 ชั่วโมงในห้าง ทำเป้าเดือนละเกือบล้านทุกเดือน 
สาขานี้มีพนักงานอยู่กัน5คน ผจกเป็นน้องเจ้าของบริษัท หัวหน้าเป็นญาติของเมียเจ้าของ และพนักงานคนนอกสายเลือด3คน
ในเรื่องเงินเดือน สตาร์ท 12000~15000แต่ไม่ซีเรียสค่ะ เพราะคิดจะเก็บประสบการณ์ และหวังว่าในปีต่อๆไปคงได้มากกว่านี้
พอทนทำงานให้เขาครบ1ปี ก็มีความผูกพันกับงานที่ทำ ย้ำ**ผูกพันกับงาน ไม่ใช่คนที่ทำงาน***
ถึงแม้จะมีข้อเสีย ไม่ค่อยเป็นระบบเป็นเพราะคนที่ทำงานเป็นญาติพี่น้องกัน ที่จุ่ๆก็สั่งงานกระทันหัน หรือแต่ละคนสั่งงานคนล่ะอย่าง
หัวหน้าเป็นผู้ชายแต่ค่อนข้างนิสัยผู้หญิงขี้งอนขี้อิจฉา ต้องเอาใจแกบ่อยๆ (กัดกับหัวหน้าบ่อยมากค่ะ555 เพราะนิสัยเราเอาใจใครไม่เป็น)
ผจก.เป็นผชที่ค่อนข้างขี้นินทาลับหลัง คือชอบนินทาหัวหน้าและลูกน้องคนอื่นบ่อย นินทาคนอื่นให้ฟังเราฟัง เขาก็ก็นินทาเราให้คนอื่นฟังได้เหมือนกันเนอะ
ทุกๆวันช่วงสองเดือนแรกต้องเครียดเจอลูกค้าบ้าบอกับเครียดคนที่ทำงานปั่นประสาทอีก ใช้เวลาปรับความรู้สึกตัวเองค่อนค้างยาก แต่ผ่านไปได้ค่ะ 
ช่วงระยะเวลาหนึ่งปีที่ทำงานแห่งนี้ เปลี่ยนพนักงานเข้าเข้าออกออกประมาณ 12 คน แต่ละคนอยู่ไม่ถึงครึ่งปี คงพอเดาได้เพราะอะไร
คงเป็นเพราะสวัสดิการไม่ดี และความรู้สึกที่ต้องเจอปัญหาแต่ละวัน คงทนกันไม่ไหว
แต่เราทนได้ค่ะ นิสัยส่วนตัวไม่ค่อยแคร์ใครแล้วมาทำงานที่ที่แบบนี้ กลับบ้านก็ปล่อยความรู้สึกไว้ที่ทำงานไม่เก็บไว้ ถือว่าเป็นข้อดีหรือป่าวนะ555
พอครบปีก็หวังว่าจะพัฒนาขึ้น เงินเยอะขึ้น แต่....เงินเดือนให้เพิ่มปีละ 500 บาท พักร้อน2วัน .... wtf
ไม่มีโบนัสอะไรให้เลย ทั้งๆที่ทำยอดขายให้ปีละเกือบสิบล้าน ตอนนั้นเฟลค่ะ เฟลมากๆ พ่อเริ่มขอดูstatement
ช่วงนั้นรู้สึกว่าเสียเปรียบและได้เครดิตทำงานที่แรกได้1ปี จึงมีความรู้สึกว่าทำไมต้องทนเป็นควาย
จึงแจ้งลาออกเพราะเค้าถามเหตุผลก็ตอบไปว่าอยากได้หนึ่งเดือนสตาร์ท 15000
เขาจึงยอมเพิ่มเงินเดือนให้เฉลี่ยเดือนละ 15000~ 20,000 + servic3,000
พอหัวหน้ารู้เรื่องนี้ก็แซะนุ้นนี้นั้น บ้านมีเงินจะขอเงินเพิ่มทำไม บลาๆๆ( เห็นไหมคะ หัวหน้างี่เง่าแค่ไหน ) แต่เราก็นิ่งเฉยไม่ตอบโต้อะไร
(ถ้าเราไม่ขอเรียกร้อง เค้าคงไม่เพิ่มเงินเดือนให้คงอยู่เป็นเดือนเดือน 12,000 ไปตลอดชีวิตละมั้ง)

และ ณ ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดียอดขายก็ตก บรรยากาศที่ทำงานค่อนข้างแย่
เจ้าของบริษัทมาหาบ่อย ปกติไม่เห็นหน้าเห็นตา มาก็บ่นๆในผจก ผจกบ่นให้หัวหน้า หัวหน้าบ่นให้ลูกน้องสองเท่า
ก็เลยเซ็งค่ะ ทำอะไรก็ผิดไปทุกอย่าง ตลอดเวลา1~2ปีที่ทำงาน ไม่มีการปรับปรุงเรื่องอารมณ์ส่วนตัวกันเลย ทะเลาะกับเมียก็เอามาลงที่งาน
มาระบายๆเฉยๆค่ะ ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่