First Half Marathon (10 Mini กับ 20 kg ที่หายไป)

สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เกี่ยวกับสุขภาพเลย ตัดสินใจอยู่นานว่าจะเขียนดีมั้ย จริงๆอยากเขียนตั้งแต่ตอนผ่านไป 10 mini แล้ว เพราะตอนนั้นเพื่อนหลายๆคนบอกว่าได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่เราทำ แล้วโคตรแฮปปี้ แต่ก็ผ่านไปแล้ว จนคราวนี้ได้ฤกษ์งามยามดีซะที



   ก่อนอื่นต้องออกตัวไว้ก่อนเลยว่า กระทู้นี้อาจจะไม่ได้มีคำแนะนำในการวิ่งที่ถูกต้องตามหลักการ จุดประสงค์หลักคืออยากจะแบ่งบัน หรือเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนๆที่กำลังอยากเริ่มออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพ หรือลดน้ำหนักก็ตาม เนื่องจากคนขี้เกียจอย่างเราทำได้ เลยคิดว่าใครๆก็ต้องทำได้

เปิดมาด้วยคำถามที่โดนถามบ่อยมาก 😵

'ทำไมถึงวิ่ง?'
ตอบยากมาก เพราะก็ยังงงอยู่ทุกวันนี้ว่าทำไม ฮ่าๆๆ
   จริงๆแล้วสาเหตุเริ่มมาจากป่วยป่อย เข้าโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น หมอก็บอกให้ออกกำลังกาย ก็ไม่รู้จะทำอะไร จนมาเริ่มลองวิ่งดู
ิ   สำหรับเราน่าจะเป็นเพราะถูกจริตพอดี เสน่ห์ของการวิ่งคือ ทำคนเดียวได้ ทำที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องแข่งกับใคร แข่งกับตัวเอง ใจล้วนๆ อาจจะคิดว่าเป็นคนรักสันโดษแน่เลย ก็ไม่ขนาดนั้น จริงๆการวิ่งมันก็ทำให้เราได้ไปเจอคนใหม่ๆที่ชอบอะไรเหมือนกัน บางทีก็ไปเจอคนรู้จัก แถมเหมือนได้ไปเที่ยวด้วย เวลาไปงานวิ่งต่างจังหวัด

  กลับมาที่กระทู้นี้ก็จะเล่าถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาในแต่ละ Mini Marathon จนไปถึง Half Marathon แรกของเรา รวมถึงพัฒนาการในด้านสุขภาพ ร่างกาย ไปด้วยเลย ก็ถือว่าพลีชีพหน่อยๆ

รวบรวมงานที่วิ่ง Mini Marathon และ สารร่างที่ผ่านการ evolve มาแต่ละงาน

  Oct-17 : YAMO Mini-Half Marathon
  Mar-18 : KHAOYAI Half Marathon
  May-18 : UDONTHANI Half Marathon
  Jun-18 : Chanthaburi Scenic Half Marathon
  Aug-18 : KMTNB WALK-RUN
  Sep-18 : Run for Wild Life
  Sep-18 : UTHAI THANI Hospital Mini Marathon
  Sep-18 : BANGKOK Run for Life 3
  Oct-18 : Asic Relay Thailand
  Oct-18 : The Mask Runner


   จุดเริ่มที่เริ่มวิ่งเลยคือพี่ที่ทำงานชวนไป Mini marathon แรก จริงๆแค่อยากไปเที่ยวเขาใหญ่แหละ แต่พอตบปากรับคำแล้วก็ต้องซ้อม เพื่อเตรียมร่างกาย ตอนนั้นก็ยังไม่รู้จักรองเท้าวิ่ง ก็ใส่ sneaker นี่แหละไปลุย งานแรกนี้บอกเลยว่าแฮ่ก รู้สึกเลยว่าร่างกายไม่ไหว ฝืนหน่อยๆ แล้วดูสภาพตอนนี้คือจุดพีคสุดๆ 85 kg

YAMO Mini-Half Marathon : 10.5K, pace 8'24"


   หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้วิ่งซักเท่าไร เริ่มมาฮึดได้ตอนต้อนปี แล้วก็ได้ฤกษ์ถอยรองเท้าวิ่งคู่แรก เริ่มซ้อมจริงจังขึ้น วิ่งมาตลอดสามเดือน เห็นมีงานวิ่งที่เขาใหญ่ เลยชวนเพื่ิอนไปด้วย โดยเอาทริปเขาใหญ่มาล่อ
   รอบนี้ซ้อมมาดีมาก โดยเป้าหมายคือต้อง pace ดีกว่าเดิม ซึ่งผลก็ออกมาดี ไม่ค่อยเหนื่อย แถม pace ลดลงนาทีกว่า

KHAOYAI Half Marathon : 10.5K, pace 7'18"


   ผ่านไปสองเดือน ก็ยังซ้อมวิ่งอยู่เรื่อยๆ เราจะวิ่งครั้งละ 40-60 นาที สัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง ซึ่งก็วิ่งอยู่ในถนนหน้าโรงงานที่ทำงานอยู่นั่นแหละ
   รอบนี้ไปวิ่งอุดรเลยจ้า หลอกเพื่อนไม่ได้ละงานนี้ ก็เลยจัดทริปซะเลย มันไปด้วยนะ แต่ไม่วิ่ง ฮ่าๆๆๆ
   ถ้าดูจากรูป จะเห็นว่ารูปร่างเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว จากงานแรกถึงงานนี้ ก็ลดลงไป ประมาณ 10 kg รู้สึกว่าตัวเบาขึ้น วิ่งก็เหนื่อยช้าลง สบายๆ ที่สำคัญอาการป่วยออดๆแอดๆ ก็ไม่ค่อยเป็นแล้ว

UDONTHANI Half Marathon : 10.7K, pace 6'52"


   หนึ่งเดือนผ่านไป ฤดูทุเรียนมาถึงก็ต้องไปจันทบุรีสิ แต่จะไปเที่ยวเฉยๆได้ไง ขอพ่วงงานวิ่งด้วยละกัน รอบนี้ไปวิ่งกันเยอะหน่อย เพราะเป็นทริปพ่วงเที่ยวจากทั้งแก๊งเรา แก๊งพี่ที่ทำงาน เพื่อนพี่ เพื่ิอนน้อง เกือบ 20 คน สนุกดี
   ส่วนการวิ่ง ผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ งานนี้ก็เป็นงานแรกที่ซื้อรูป เพราะว่ามันดีไง ก่อนหน้านี้คือบับ ฮ่าๆๆ

Chanthaburi Scenic Half Marathon : 10.5K, 6'36"


   มาถึงงานรวมรุ่น ฮ่าๆๆ งานของ KMUTNB ไหนๆก็ไหนๆ กลับมาเยี่ยมเยียนมหาลัยซะหน่อย
   ฮันแน่ รอบนี้ก็ได้ถือโอกาสถอยรองเท้าวิ่งคู่ใหม่อีกแล้ว จัดมาตอนออกมาใหม่ๆ ลองของไปเลย เพื่อจะได้เพิ่มประสิทธิภาพในการวิ่ง เอ๊ะ! หรือคิดไปเอง

KMTNB WALK-RUN : 12.7K, 6'31"


เดือนนี้ก็จะคึกเป็นพิเศษ ล่อไปซะสามงานเลย

งานนี้เป็นงานที่จบ Mini ได้ภายใน 1 ชั่วโมง ภูมิใจมากๆ

Run for Wild Life : 10K, 6'05"


พอวิ่งเกิน 10K ก็อย่างที่เห็น อาการก็จะแผ่วปลาย สองกิโลหลังนี่เดินยาวๆไป รู้ตัวว่าไม่ไหว ก็ห้ามฝืนนะครับ เลยคิดว่าต้องซ้อมให้ดีกว่านี้

UTHAI THANI Hospital Mini Marathon : 13.5K, 7'18"


BANGKOK Run for Life 3 : 10K, 6'36"


   งานวิ่งพลัดงานแรก ได้วิ่งรอบสนามหลวง วิ่งตอนกลางคืนด้วย เนื่องจากเป็นงานวิ่งผลัด x4 ถ้าวิ่ง 4x10K น่าจะจบตอนตีสาม เลยลงแค่ 5K พอ
   พอเข้าวงการนี้มันก็จะเริ่มออกอยากละ รองเท้าใหม่มาอีกคู่ งงมากกกกก ฮ่าๆ

Asic Relay Thailand : 5K, 6'05"


ปิดท้าย Mini สุดท้าย กลับบ้านเลยแวะมาวิ่ง

The Mask Runner : 10K, 6'27"


ระหว่างทาง มี Virtual Run บ้างเล็กน้อย เหยื่อการตลาดสุดๆ




ผ่านไป 10 Mini น้ำหนัก เราหายไป 20 kg
จาก 85 kg เหลือ 65 kg 😙 ถือว่าเป็นผลพลอยได้ละกัน
แต่ที่ได้ขนาดนี้มันไม่ได้มาจาก 10 mini นี่หรอก ช่วงที่ซ้อมนี่แหละตัววัดความสำเร็จเลย!


   หลังจากนั้นเริ่มศึกษาวิธีวิ่งให้ถูกต้องมากขึ้น และตั้งเป้าไว้ที่ Half Marathon
   Smart band อันแรกก็เริ่มมา เพื่อจะได้ซ้อมควบคุม Heart rate
   ระหว่างนี้ซ้อมบ้าง ไม่ซ้อมบ้าง ทิ้งช่วงไปนาน งานเยอะด้วยเที่ยวเยอะอีก จนน้ำหนักมาทรงๆอยู่แถว 68 kg แต่สุดท่ายก็ได้โอกาสดี เนื่องจากเพื่อนชวนไป Half ที่หัวหิน เลยได้ฮึดขึ้นมาอีกครั้ง

จนในที่สุด แล้วก็ได้ก้าวผ่านขีดจำกัดตัวเองไปอีกหนึ่งก้าว 😊

HUAHIN Marathon 2019 วันรับ BIB ก็ตื่นเต้นแล้ว คิดแต่ว่าจะรอดมั้ยๆ

ซ้อมอาทิตย์เดียวก่อนวิ่ง อันนี้ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างนะ
3 km แรก อย่างชิลล์ อากาศดี ลมพัดตลอด
7 km pass เริ่มมีอาการเหนื่อย หายใจไม่ทัน
12 km pass ซัด Energy gel ไป แล้ววิ่งตาม Pacer ช่วยได้เยอะ
15 km pass อยู่ดีๆแรงก็มา แต่ก็รักษาความเร็วตาม pacer
20 km pass วิ่งบนทรายจ้าาาา ขาพลิกไปหนึ่งดอก
21 km pass เข้าเส้นชัยแบบไม่รู้สึกเหนื่อยเฉย
โคตรตื่นเต้น ดีใจ ภูมิใจในตัวเอง

21K FINISHER, 2:38 hr



   หลังจากนี้ก็คงไต่ Half ไปเรื่อยๆจนกว่าจะพร้อมไป Full Marathon

ถือโอกาสตรงนี้แชร์ประสบการณ์การใช้อุปกรณ์เลยละกัน

รองเท้า
NIKE Air Huarache Run Ultra คู่แรกเอา sneaker มาซ้อม จนมาวิ่ง ตอนนั้นไม่ได้ศึกษาอะไร คิดแค่ว่าเบาดี วิ่งน่าจะสบาย แต่ก็ถือว่าโอเคในระดันนึง เพราะระบายอากาศดี กระชับ

NIKE Free Run 2017 รองเท้าวิ่งคู่แรก ช่วงแรกดีเลย แต่พอผ่านไปซักสามเดือนรู้สึกน้องจะไม่ค่อยซัพพอร์ตเท่าไรละ อาจจะด้วยระยะวิ่ง หรือสุขภาพเท้าเราเอง

NIKE Air Zoom Pegasus 35 ออกมาปุ๊บ ตาใหาสีไฮไลท์ แต่ก็อด สุดท้ายตัดใจได้สีดำมา คู่นี้ซัพพอร์ตดีมาก เด้งดีมาก แม้ว่าตัวน้องจะหนักนิดหน่อย

NIKE Zoom Fly SP - Light bone คู่นี้จัดมาเพราะความเก๋ล้วนๆ เนื่องจากน้องโปร่งแสง โชว์สีรองเท้า แต่พอมาใช้จริงคิอเบามาก เด้งส่งดี ซัพพอร์ตกีมาก ที่สำคัญระบายอากาศ เม้าไมาร้อนเวลาวิ่งระยะไกลอีกต่อไป

จะเห็นว่าทำไมมีแต่ NIKE จริงๆไปลองหลายแบรนด์นะ ทั้ง Adidas, Asics, Mizuno แต่เหมือนว่าจะไม่เข้ากับรูปเท้า บวกกับสไตล์ที่ชอบพอดี


กางเกงวิ่งของ UNIQLO AIRism Performance Support Tights สาเหตุหลักคือถูก และดี เริ่มจาก XL จนตอนนี้ S แล้ว


หูฟัง Blutooth ลองมาหลายแบบ ส่วนมากจะเจอปัญหาเปียกจนพังเพราะเหงื่อออกเยอะ สุดท้ายมาจบที่ SONY Walkman รุ่นกันน้ำ จบๆกันไป

ส่วน Smart band เราใช้ HUAWEI Band 3 pro ใช้คู่กับ P20 พอดี สำหรับเราถือว่าดีเลย ด้วยราคาเบาๆ ใช้งานได้จริง


บทส่งท้าย
   การออกกำลังกายจริงๆแล้วทำอะไรก็ได้ แต่เราอาจจะโชคดี พอได้เริ่มวิ่งแล้วรู้สึกว่า 'ทำในสิ่งที่ชอบ😍' มันเลยทำให้อยากทำอยู่เรื่อย
   อีกอย่างที่ยากเลยก็คือการ 'เริ่มต้น😂' ยอมรับว่าเราเองก็ใช้เวลานานมาก กว่าจะเริ่มต้นได้
   นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่สุดในการออกกำลังกายคือ 'วินัย😖' เพราะต้องฝึกซ้อมก่อนทุกครั้ง ไม่เช่นนั้นพอถึงเวลาจริงจะไม่ไหวเอา งานวิ่งก็แค่ส่วนนึง แต่ที่สำคัญคือระหว่างทางที่ซ้อมนี่แหละ
   สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ 'วิธีการที่ถูกต้อง😙' เราอาจจะแนะนำมากไม่ได้ แต่ก็ต้องศึกษาเหมือนกัน warm up, cool down, การวางเท้า สำคัญมาก เพราะจะได้ไม่บาดเจ็บ จะออกกำลังกายยังไงก็ต้องเซฟตัวเองด้วย
   สุดท้ายอาจจะมีคนอยากรู้ว่าเราควบคุมการกินมั้ย บอกเลยว่ากินปกติเลย ไม่ได้ควบคุม งดแป้ง งดน้ำตาล แอบกินเยอะขึ้นด้วย เลยแนะนำใครเรื่องการกินไม่ได้ อาหารเสริม ยาลดน้ำหนักไม่เคยเเตะเลย

หวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนที่กำลังคิดจะออกกำลังกายกันนะครับ มันได้ทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพใจจริงๆ 😊
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่